ตอนที่ 151 กั๋วซือปากร้าย (2)
ถานซวงซวงแข็งแรงขึ้นบ้างแล้ว ถึงร้อยไม้จะทำให้นางทนไม่ไหว แต่…อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต
ถานซวงซวงกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลออกจากดวงตาด้วยความเงียบงัน ใบหน้าของนางขาวราวกระดาษเป็นที่น่าสงสาร นางหัวเราะออกมาด้วยความขมขื่นเวทนา “อวี้เฉิน ข้านึกว่า…ในใจท่าน ข้าคือคนที่สำคัญที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรข้าก็สู้แม่แท้ๆ ผู้ให้กำเนิดท่านไม่ได้”
“ซวงเอ๋อร์!” หลิวอวี้เฉินรีบคว้ามือถานซวงซวงมาจับไว้ “เจ้าวางใจได้ ไม่ว่าอย่างไรข้าจะหายาเลื่องชื่อมาเพื่อเจ้า ให้เจ้าแข็งแรงโดยเร็วที่สุด เจ้าเชื่อข้าได้ไหม”
ถานซวงซวงสะบัดมือของนางออก ร้องไห้สะอึกสะอื่นน่าสงสาร “ท่านให้ข้าเชื่อท่าน แต่ท่านเคยเชื่อข้าบ้างหรือไม่ ข้าถานซวงซวงเป็นผู้หญิงประเภทที่ไม่สนใจความเป็นความตายของแม่คนรักอย่างนั้นหรือ ไม่ว่าเมื่อครู่ท่านจะตัดสินใจอย่างไรข้าก็เตรียมรับหนึ่งร้อยไม้นี้ไว้แล้ว แต่ข้าก็ยังหวัง…ว่าตัวเลือกของท่านจะเป็นข้า”
คำพูดสิ้นหวังแฝงด้วยความขมขื่นของหญิงสาวทำให้ใจหลิวอวี้เฉินเป็นทุกข์และรู้สึกผิด เหมือนมีมีดเล่มหนึ่งปักแทงลงไปที่หัวใจของเขา
“ซวงเอ๋อร์!” หลิวอวี้เฉินยื่นมือออกไปคว้าหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอด หลับตาลงช้าๆ “ข้าขอโทษ เพราะข้าเองที่ไม่ไว้ใจเจ้า ซวงเอ๋อร์ของข้าใจดีเช่นนี้ต้องเข้าใจข้าแน่ จริงหรือไม่”
ใจดี?
ถานซวงซวงหลุบตาต่ำยิ้มเย็นชา ในใจของนางกลับมีแต่ความหนาวเหน็บ
นางคิดเสมอว่าหลิวอวี้เฉินเป็นคนที่รักนางที่สุด แต่สุดท้ายกลับทิ้งนางลงกับมือ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางจะให้เขาต้องรู้สึกผิดต่อนางไปทั้งชีวิต ทุกข์ทรมานไปทั้งชาติ!
“องค์หญิง” หลิวอวี้เฉินคลายหญิงสาวในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมองเฟิงหรูชิง เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว “ตอนนี้ ท่านพอใจแล้วหรือยัง ท่านจงใจให้ข้าเลือกระหว่างแม่กับชิงเอ๋อร์ก็เพราะต้องการเห็นฉากนี้มิใช่หรือ”
เฟิงหรูชิงปรบมือด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ฉากดีๆ เช่นนี้ทำให้ข้าพอใจมากจริงๆ ถานซวงซวง ตอนนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่าชายที่เจ้ารัก เป็นพวกไร้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นชายที่ไม่สามารถปกป้องคนที่ตนเองรักได้ เอาไปจะมีประโยชน์อะไรกัน”
“ท่าน…” หลิวอวี้เฉินโกรธหน้าดำ กำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงข้อนิ้วลั่น “องค์หญิง หากเป็นชายอื่นก็ต้องเลือกแบบข้าเช่นกัน ไม่สู้องค์หญิงจะลองถามผู้อื่นดูก็ได้ ในฐานะลูกชายใครจะยอมปล่อยมือจากแม่ผู้ให้กำเนิด? หลังจากนี้คนที่ท่านจะแต่งงานด้วยจะมิทำอย่างนั้นหรือ”
ทุกคนต่างก็ตกอยู่ในความเงียบ
ภรรยาถ้าไม่มีก็แต่งใหม่ได้ หากแม่ไม่มี…ก็คือไม่มีอีกแล้ว
ฉะนั้น การตัดสินใจเลือกของหลิวอวี้เฉินทุกคนต่างก็เห็นด้วยไม่มีผู้ใดคิดว่าวิธีของเขามีส่วนไหนที่ผิด
“ชิงชิง” ฉินเฉินขมวดคิ้ว “ข้าจะปกป้องท่าน ไม่ว่าใครก็ห้ามทำร้ายท่าน”
ต่อให้เป็นบรรดาญาติพี่น้องของเขา ใครก็ห้ามทำร้ายชิงชิง!
“เด็กดี” เฟิงหรูชิงเขย่งเท้าลูบหัวฉินเฉินแย้มยิ้มก่อนจะเบนสายตาไปที่หลิวอวี้เฉิน
นางเลิกคิ้วขึ้นอย่างเป็นต่อ
“แต่ทว่า…หากเป็นผู้ชายของข้าเฟิงหรูชิง หากแม้แต่ข้ากับแม่แท้ๆ เขายังปกป้องในเวลาเดียวกันไม่ได้ เช่นนั้นแล้วเขายังคู่ควรที่ข้าจะไปชอบพออีกหรือ ผู้ชายของข้าไม่จำเป็นต้องเลือก เพราะเขาต้องเลือกทั้งคู่!”
“แล้วยิ่ง…” เฟิงหรูชิงก้าวเท้าออกไปข้างหน้าสองก้าว ฉีกยิ้มบางๆ “เป็นข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดใช้ข้าบีบบังคับเขาเด็ดขาด! เพราะฉะนั้นเรื่องเช่นนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นกับข้าและเขา”
ใจหลิวอวี้เฉินหยุดเต้นไปชั่วขณะ ไฟโทสะของเขาลุกโชนมากขึ้นไปอีก
………………………………….
ตอนที่ 152 กั๋วซือปากร้าย (3)
แต่พอเห็นสายตาฉินเฉินที่มองมาเขาก็ต้องเก็บเอาโทสะทั้งหมดไว้ แย้มยิ้มเย็นชากล่าว “เช่นนั้นข้าขอให้องค์หญิงหาคนเยี่ยงนั้นเจอจริงๆ …”
“ไม่ต้องอวยพร” ไม่ทันคาดคิด เสียงเรียบเย็นเสียงหนึ่งดังมากจากด้านนอกร้านยาวิเศษ
เสียงนี้เป็นเสียงที่น่าฟังยิ่งนักราวกับเสียงของธรรมชาติ แต่ก็เหมือนเสียงพิณในหุบเขาลึก
“เพราะว่านาง…หาเจอแล้ว…”
หลิ่วอวี้เฉินชะงักไปก่อนจะมองตามเสียงไปที่หน้าประตู ในตอนนั้นเองรูม่านตาของเขาต้องหดตัวกระทันหัน นัยน์ตามีแต่ความเหลือเชื่อ
หนานเสียน…กั๋วซือ? ทำไมเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้
ภายใต้แสงแดดยามเช้า ชายในชุดฉางเผาสีจันทร์เสี้ยวดูสูงส่งราวกับเซียนก็ไม่ปาน
หน้าตาสง่างามเหมือนเทพบนสวรรค์ ในความเยือกเย็นแอบแฝงด้วยความเย่อหยิ่งราวกับเทพตกสวรรค์ผู้สูงส่ง
หลิวอวี้เฉินได้รับการขนานนามว่าเป็นบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นหลิวอวิ๋น แต่เมื่อเทียบกับชายตรงหน้าแล้วต่างกันเหมือนเมฆกับโคลน
ทุกคนยังไม่ทันได้คลายความประหลาดใจก็ได้เห็นว่าแววตาของเฟิงหรูชิงส่องประกายขึ้นในทันใด กระโจนใส่ชายหนุ่มรูปงามหาใครเปรียบเหมือนกับหมาป่าหิวโซที่กระโจนใส่อาหาร ร่างอ้วนถ้วนทั้งร่างแขวนห้อยอยู่บนตัวของเขา
หลิ่วอวี้เฉินและเฟิงหรูซวงนิ่งค้างไป
คนอื่นไม่รู้ฐานะของหนานเสียน พวกเขาเข้าออกวังบ่อยครั้งย่อมรู้ดีว่า…ชายผู้นี้อยู่ในสถานะใดของแคว้นหลิวอวิ๋น
แม้แต่องค์หญิงสองเฟิงหรูซวงยังมิสามารถเข้าใกล้เขาได้แม้แต่น้อย เหตุใดเฟิงหรูชิงจึงได้ทำเยี่ยงนั้นกับเขา คิดไม่ถึงว่าเขาจะ…ไม่โยนเธอทิ้ง?
เฟิงหรูซวงกัดริมฝีปากแน่น เธอมองดูชายหนุ่มรูปงามดั่งทวยเทพแล้วเหลียวมองหลิวอวี้เฉินที่หม่นหมองไร้ราศีข้างกายพลันรู้สึกอัปยศเหลือทน
“กั๋วซือ เจ้าบอกว่าจะไปแค่หนึ่งเดือนแท้ๆ เหตุใดจึงไปนานเช่นนี้”
แววตาของสาวน้อยส่องประกายกว่าปกติราวกับเพิ่งโดนล้างด้วยน้ำมาอย่างไรอย่างนั้น แต่ดวงตาระยิบระยับคู่นี้ของนางในเวลานี้ไม่สามารถมองเห็นบุคคลอื่นแม้แต่เงา ทั้งหมดนี้มีแค่คนคนเดียวเท่านั้น
หลิ่วอวี้เฉินมองเฟิงหรูชิงแน่นิ่ง
แม้แต่ตอนที่เฟิงหรูชิงตามเกี้ยวพาราสีเขา เขายังไม่เคยเห็น…สายตาแบบนี้ของนาง สะอาดและบริสุทธิ์ ประหนึ่งว่าใต้ผืนฟ้าสามารถมีเงาของคนคนเดียวอยู่ในนั้น
“ข้ามีธุระล่าช้าไปหลายวัน” หนานเสียนกั๋วซือหลุบตาลง นิ้วเรียวยาวของเขาลูบผมสลวยให้นางเบาๆ น้ำเสียงอ่อนโยน ตามใจ “ก็เลยกลับมาช้าไปเล็กน้อย ชิงเอ๋อร์จะโทษข้าอยู่หรือ”
เฟิงหรูชิงกะพริบตาปริบๆ ทำไมนางรู้สึกว่ากั๋วซือวันนี้อ่อนโยนผิดปกติ?
ในตอนที่นางกำลังสงสัยอยู่นี้เองกั๋วซื้อก็ยกมือขึ้นดึงนางเข้าไปในอ้อมกอดอีกครั้ง ริมฝีปากบางของเขาชะโงกเข้าใกล้หูนาง ใช้เสียงที่สามารถได้ยินเพียงสองคนเอ่ยขึ้น
“ข้าช่วยเจ้ากำจัดเขาให้จบสิ้น คิดซะว่าเป็น…รางวัลที่เจ้าผ่านระดับตี้อู่แล้วกัน”
ระยะห่างของทั้งสองใกล้กันมาก มองจากด้านหลังเหมือนกับว่าริมฝีปากของเขาประทับอยู่บนแก้มของนาง พ่วงด้วยบรรยากาศคลุมเครือ
ใจหลิวอวี้เฉินกระตุกวูบ ทั้งที่เขารังเกียจเฟิงหรูชิงมากแต่พอวันนี้ได้เห็นนางใกล้ชิดสนิทสนมกับชายอื่น ใจของเขาเหมือนถูกต่อย อึดอัดไม่สบายใจ
“ได้”
เฟิงหรูชิงไม่สนใจท่าทีของคนด้านหลัง นางแย้มยิ้มบาง ๆ “เจ้าจะช่วยข้าจัดการพวกเขาให้หมดสิ้นอย่างไรกัน?”
ดวงตาหนานเสียนกั๋วซือฉายแววเยือกเย็น เขาโอบเอวเฟิงหรูชิงแล้วอุ้มนางขึ้นทันอย่างนั้น
เฟิงหรูชิงตกใจกำปกเสื้อหนานเสียนไว้แน่น “กั๋วซือ เจ้ารีบวางข้าลง ข้าหนักขนาดนี้ได้ทับเจ้าแบนได้แน่”
…………………….