ตอนที่ 153 กั๋วซือปากร้าย (4)
“มีแต่พวกไร้ความสามารถเท่านั้นถึงจะชังน้ำหนักของเจ้า สำหรับข้าแล้ว น้ำหนักของเจ้า…กำลังพอดี”
มุมปากเฟิงหรูชิงกระตุกสองครั้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ทำไมนางรู้สึกว่า…คำพูดของกั๋วซือ จงใจพูดให้หลิวอวี้เฉินฟัง?
“กั๋วซือ เจ้าวางข้าลง” เฟิงหรูชิงเกรงว่าจะทับกั๋วซือแบนจริงๆ นางอดไม่ไหวดิ้นรนจะลงเสียให้ได้
“เด็กดี อย่าขยับ” เสียงชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเอาอกเอาใจและอบอุ่น “ไม่ได้เจอหนึ่งเดือนเจ้าเบาลงมิใช่น้อย เพราะมีคนคอยมาขวางหูขวางตาเจ้าเลยทำให้เจ้าไม่ได้กินอิ่มดีใช่ไหม”
“ทำไมมีคนมาขวางหูขวางตาข้าแล้วข้าจะกินอิ่มดีไม่ได้?”
“เจ้านี่น้า ทำไมข้าจะไม่รู้ หากคนที่เจ้ารังเกียจชอบมาขวางหูขวางตาเจ้าบ่อยๆ วันนั้นเจ้าจะต้องคลื่นไส้จนกินข้าวไม่ลง ต่อไปถ้าเจอคนประเภทนี้เจ้าให้ชิงจู๋จัดการเสียก็สิ้นเรื่อง ห้ามอดอาหารเป็นอันขาด”
“…”
กั๋วซือ ปากเจ้าร้ายเช่นนี้เสี่ยวชิงเอ๋อร์ของเจ้ารู้บ้างหรือไม่
สีหน้าหลิวอวี้เฉินแข็งกระด้างขึ้นไปอีก เขาสูดหายใจลึกก้าวเท้าไปทางหนานเสียนช้าๆ
“กั๋วซือ ที่แท้ท่านกับองค์หญิงสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ เมื่อก่อนองค์หญิงมักพูดถึงความน่ากลัวของท่านให้ข้าฟังบ่อยๆ ข้ายังนึกว่านางเกลียดท่าน…”
หนานเสียนมองหลิวอวี้เฉินอย่างไม่แยแส “มีบางคนชอบข่มขู่ให้ชิงเอ๋อร์กลัว ทำให้นางกลัวข้าเช่นนั้นแต่ก็พอจะให้อภัยได้ ตอนนี้ชิงเอ๋อร์รู้ถึงความดีของข้าแล้วก็ย่อมไม่กลัวข้าเป็นธรรมดา”
“หนานเสียนกั๋วซือ ท่านมีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา แข็งแกร่งทรงพลัง เหตุใดจึงได้ชอบพอองค์หญิงได้”
ความหมายก็คือ ท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้แล้วเหตุใดจึงมาชอบพอองค์หญิงชื่อเสียงฉาวโฉ่ไร้ประโยชน์ได้?
หนานเสียนหลุบตาลงมองหญิงสาวที่ถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขน มุมปากยกขึ้นฉีกยิ้มบางเบา “ก็เพราะว่า ข้ามีดวงตาแห่งปัญญามองเห็นสิ่งดีๆ ที่ผู้อื่นมองไม่เห็น”
เฟิงหรูชิงหน้าแดงก่ำ ถ้านางไม่รู้มาก่อนว่ากั๋วซือกำลังช่วยนางกำจัดคนพวกนี้ล่ะก็ นางเกือบคิดว่าเป็นเรื่องจริงเชียว…
“กั๋วซือ” หมัดของหลิวอวี้เฉินกำแน่น “เช่นนั้นท่านรู้หรือไม่ช่วงเวลาที่ท่านไม่อยู่ องค์หญิงเรียกหาเมี่ยนโส่ว[1]”
เฟิงหรูชิงโมโหจัด!
หลิวอวี้เฉินคนนี้ เจตนาไม่ดีกล้าใส่ร้ายนางต่อหน้ากั๋วซือ!
“กั๋วซือ ฉินเฉินคือน้องชายของข้า! อย่าไปฟังหลิวอวี้เฉินพูดจาเหลวไหล ในใจข้า สายตาข้า ในหัวของข้ามีแต่เจ้ากั๋วซือ หากร่วมหลับนอนก็จะร่วมหลับนอนกับกั๋วซือแต่เพียงผู้เดียว!”
หนานเสียนเบนสายตาขึ้นมองฉินเฉิน เขาแย้มยิ้มบาง ๆ “ข้าเชื่อชิงเอ๋อร์ ชิงเอ๋อร์พูดอะไรข้าก็เชื่อ”
หลิวอวี้เฉินนิ่งชะงัก
โดยหลักแล้ว หลังจากกั๋วซือได้ยิน ควรจะโกรธเกรี้ยวไม่ใช่หรือ ทำไมกลับนิ่งเฉยเช่นนี้
เขาเชื่อเฟิงหรูชิงขนาดนี้จริงหรือ
ที่ทำให้หลิวอวี้เฉินไม่เข้าใจที่สุดก็คือ กั๋วซือกับเฟิงหรูชิง ราวกับอยู่คนละโลก ทำไมสองคนนี้ถึงมาบรรจบกันได้
ในใจของเขามันไม่ยอมรับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ในตอนที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างออกมาเสียงเฟิงหรูชิงก็ดังขึ้นเสียก่อน
“หลิวอวี้เฉินสงสัยหมิ่นประมาทข้า อีกเดี๋ยวเพิ่มให้เขาอีกร้อยไม้! วันนี้หากข้าไม่จัดการเล่นงานเขาถึงชีวิตข้าก็ไม่ใช่เฟิงหรูชิง!” เฟิงหรูชิงออกคำสั่งออกไปด้วยความเกรี้ยวกราด
ปกติหลิวอวี้เฉินกล่าวหาความสัมพันธ์ของนางกับฉินเฉิน นางจะไม่ใส่ใจนัก แต่นางไม่อนุญาตให้เจ้าคนชั่วนี้มาพูดจาเหลวไหลต่อหน้ากั๋วซือ!
ใบหน้าหล่อเหลาของหลิวอวี้เฉินซีดเผือดลงในทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังเฟิงหรูชิง นัยน์ตาแสดงอาการเสียขวัญ
“องค์หญิง!”
ถานซวงซวงนั่งไม่ติด พุ่งไปตรงหน้าเฟิงหรูชิง ดั่งดอกแพร์ต้องหยาดฝน[2] น่าเวทนาสงสาร “ก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็เห็นท่านตีเด็กคนนี้สลบแล้วพากลับไปจวนองค์หญิง จึงกลายเป็นข่าวลือแพร่สะพัด ไม่เกี่ยวอะไรกับหลิวอวี้เฉิน ขอท่านโปรดละเว้นเขาสักครั้ง หากท่านทรงกริ้ว ข้ายินดีรับโทษแทนเขา”
เฟิงหรูชิงเบิกตาโตอย่างไม่เชื่อสายตา
เมื่อครู่หลิวอวี้เฉินทำแบบนั้นกับถานซวงซวง นางยังเห็นความผิดหวังและความโกรธแค้นจากนัยน์ตาของถานซวงซวงอยู่เลย ทำไมตอนนี้…นางถึงยังเสแสร้งพูดถ้อยคำเหล่านั้นออกมาอีก?
ตอนที่ 154 องค์หญิงคลุ้มคลั่ง (1)
“ชิงเอ๋อร์ นี่เป็นความผิดของเจ้า”
หนานเสียนกั๋วซือหลุบตาลงมองถานซวงซวงที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น สายตาของเขาเย็นชาเรียบเฉย น้ำตาถานซวงซวงพรั่งพรูออกมา นางจงใจปิดบังใบหน้าเอาไว้ ใบหน้าที่ดูโศกเสร้าเสียใจ น่าสงสาร ทำให้คนหลงรัก “กั๋วซือ เรื่องนี้มิอาจโทษองค์หญิง อย่างไร…”
“นี่เป็นความผิดของชิงเอ๋อร์จริง ๆ” มุมปากของหนานเสียนกั๋วซือเหมือนจะยกก็ไม่ยก นิ้วเรียวยาวของเขาบีบที่ปลายคางเฟิงหรูชิง น้ำเสียงอ่อนโยนดุจสายลม “นางต้องการเช่นนั้น เหตุใดเจ้าไม่ให้นางสมหวังเล่า ให้นางรับโทษสองร้อยไม้แทนหลิ่วอวี้เฉิน ชวงเอ๋อร์ของข้าใจดีมาแต่ไหนแต่ไรไม่มีทางจะปฏิเสธคำขอเยี่ยงนี้อยู่แล้ว”
คำพูดของเขา นิ่งเรียบไม่มีเปลี่ยนแต่กลับทำให้ถานซวงซวงหน้านิ่งค้างไปทันที หัวใจถานซวงซวงเต้นไม่เป็นจังหวะ ตาคู่งามแฝงความแตกตื่น
สามร้อยไม้! แบบนั้นตายได้เลยนะ! ต่อให้ไม่ตาย ชาตินี้นางคงไม่มีหวังจะได้ลุกขึ้นจากเตียงได้อีกเป็นแน่
“องค์หญิง” หลิ่วอวี้เฉินมองใบหน้าขาวซีดของถานซวงซวงแล้วกัดฟันกล่าว
“ข้าไม่ต้องการให้ซวงซวงมารับแทนข้า ขอองค์หญิงโปรดปล่อยนางไป”
เฟิงหรูชิงหรี่ตาลงแย้มยิ้ม “ในเมื่อถานซวงซวงมีรักต่อเจ้าลึกซึ้งเช่นนี้ ข้ายิ่งชอบความงามแบบผู้ใหญ่อยู่ด้วย จะไม่ให้ดวงใจที่ปวดร้าวของนางไร้ความหมายแน่นอน แต่ทว่า ถ้าโบยสามร้อยไม้ ถานซวงซวงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างนี้แล้วกัน ลากไปโบยร้อยห้าสิบไม้ก่อนรอนางรักษาแผลสักสี่ห้าวันค่อยโบยอีกร้อยห้าสิบไม้ที่เหลือให้ครบ”
สีหน้าของถานซวงซวงซีดขาวราวหิมะ ริมฝีปากสั่นสายตาฉายแววหวาดกลัว
ร้อยห้าสิบไม้ก็เพียงพอให้นางได้นอนติดเตียงไปหลายเดือน แค่องค์หญิงกลับให้นางพักเพียงไม่กี่วันแล้วโบยให้ครบอีกร้อยห้าสิบไม้?
เช่นนี้ แม้นางจะไม่ถูกโบยจนตายแต่ความเจ็บปวดนั้นก็มากเกินพอให้แบกรับ
ทว่านางเป็นคนพูดเองจากปาก ต่อให้ขมขื่นมากเพียงใดนางก็ทำได้แค่เพียงกลืนมันลงไป
“นิ่งอยู่ทำไม ยังไม่รีบไปอีก?” เฟิงหรูชิงชายตามองจั่งกุ้ยของร้านยาวิเศษแล้วกล่าวขึ้น
จั่งกุ้ยรีบดึงสติกลับมากระแอมไอสองครั้ง “องค์หญิงโปรดรอสักครู่ หม่อมฉันจะให้คนนำตัวแม่นางถานไปห้องทรมานรับโทษเดี๋ยวนี้ รับรองว่าองค์หญิงจะต้องพอพระทัยอย่างแน่นอน พ่ะย่ะค่ะ”
พูดจบจั่งกุ้ยก็ส่งสายตาให้คนข้างกาย คนคนนั้นรีบดึงสติกลับมาเข้าไปดึงตัวถานซวงซวงพาเดินไปในร้าน
ถานซวงซวงตื่นตะหนกสุดขีด
นางรีบยื่นมือออกไปต้องการจะคว้ามือหลิ่วอวี้เฉินไว้ ใบหน้าเรียวเล็กขาวซีดน่าเวทนา ส่งเสียงร้องน่าสงสาร “หลิ่วอวี้เฉิน ช่วยข้าด้วย หลิ่วอวี้เฉิน ท่านรีบช่วยข้าเร็วเข้า!”
“ซวงเอ๋อร์!” ดวงตาหลิ่วอวี้เฉินแดงก่ำ มือนั้นกำลังยื่นไปเพื่อกุมมือถานซวงซวง ทันใดนั้น เงาร่างของฉินเฉินก็มาปรากฏตรงหน้ายึดมือของเขาเอาไว้
“ไม่ ท่านทำเช่นนี้กับซวงเอ๋อร์ไม่ได้ นางไม่ผิดความผิดทั้งหมดข้าเป็นคนก่อทั้งสิ้น องค์หญิง ท่านปล่อยซวงเอ๋อร์ไป ข้าขอร้องท่าน ปล่อยนางไป!”
หลิ่วอวี้เฉินหันกลับมาคุกเข่าลงตรงหน้าเฟิงหรูชิง เสียงของเขาสั่นสะท้าน ดวงตาคู่นั้นมีความเจ็บปวดและความโกรธแค้นอย่างล้นพ้น
ความรู้สึกที่ต้องเห็นหญิงอันเป็นที่รักถูกลากออกไปทำให้ใจเขามันหมดสิ้นเรี่ยวแรง
เฟิงหรูชิงหลุบตามองหลิ่วอวี้เฉิน “เจ้าอยากจะปกป้องถานซวงซวงก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ งั้นก็เอาหนึ่งร้อยไม้นั่นคืนหลิ่วฮูหยินไป ว่าอย่างไร?”
“หลิ่นอวี้เฉิน!” หลิ่วฮูหยินสีหน้าเปลี่ยนฉับพลัน ดึงแขนเสื้อหลิ่วอวี้เฉินด้วยความแตกตื่น นัยน์ตานางมีแต่ความเศร้าโศกเสียใจ “เจ้าจะยอมถูกโบยแทนแม่หรือไม่”
หลิ่วอวี้เฉินตัวแข็งทื่อ หลับตาลงช้าๆ
——
[1] เมี่ยนโส่ว เป็นคำเรียกนายบำเรอ สนมชาย
[2] ดอกแพร์ต้องหยาดฝน เปรียบเปรยถึงใบหน้าเปื้อนน้ำตาของสาวงาม