ตอนที่ 77 ชายหนุ่มที่มีพิษ / ตอนที่ 78 ไม่รับคำปฏิเสธของคุณ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 77 ชายหนุ่มที่มีพิษ

 

 

“แล้วรู้รึเปล่าว่าผู้หญิงของถูเฝ่ยได้มายังไง”

 

 

ป๋อจิ่งชวนยกมือข้างหนึ่งขึ้นค้ำลงไปยังตู้ที่อยู่ข้างหลังของเธอพร้อมออกแรงโอบเข้าที่เอวของเธอด้วยมืออีกข้าง

 

 

โดยเลี่ยงบริเวณที่เธอเจ็บ แต่ก็กักขังเข้ามาในอาณาเขตของเขาอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากที่สุด

 

 

“ผู้หญิงของถูเฝ่ยส่วนใหญ่ได้มาจากการฉุด พวกเธอล้วนถูกขนานนามว่า…ยาจ้ายฟูเหริน [1] ”

 

 

เฉินฝานซิงเกร็งไปทั้งตัว

 

 

เธอคิดมาตลอดว่าผู้ชายที่อบอุ่นและสงบนิ่งนั้นเป็นคนฉลาดหลักแหลม

 

 

และสิ่งที่คนประเภทนี้ถนัดมากที่สุดนั่นก็คือการต้มกบในน้ำอุ่น [2]

 

 

ป๋อจิ่งชวนเป็นเช่นนั้นไม่มีผิด!

 

 

แต่เธอก็สัมผัสได้ชัดเจนตั้งแต่ต้น ว่าการรุกและการบีบบังคับนั้นล้วนเป็นเรื่องที่ง่ายดายสำหรับผู้ชายที่ชื่อป๋อจิ่งชวนคนนี้

 

 

และผู้ชายแบบนี้ หากบ้าอำนาจขึ้นมาคงจะไม่มีใครรับมือได้ไหว

 

 

สำหรับเธอแล้ว เขามีพลังทำลายล้างสูงที่มาก

 

 

ไม่มีหนทางที่จะตั้งรับได้

 

 

ในตอนนี้เธอทำได้เพียงสมน้ำหน้าตัวเอง

 

 

คนที่ตกลงมาในหลุมที่ตัวเองเป็นคนขุดเอาไว้!

 

 

คนที่ยกหินขึ้นทุบเท้าตัวเอง!

 

 

เป็นเธอเองทั้งนั้น!

 

 

เธอไม่ได้คิดไปไกลเกินว่านั้น

 

 

“นี่…สรุปว่าคุณจะเอาคำว่า ‘ถูเฝ่ย’ สองคำนี้มาทับถมกันใช่ไหม” สิ่งที่เธอเหลืออยู่มีเพียงความจนใจ

 

 

เขาเลิกคิ้วขึ้น “คุณเองก็จองจำผมด้วยคำว่า ‘สุภาพบุรุษ’ สามคำนี้มาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

 

 

“…”

 

 

เมื่อเห็นเฉินฝานซิงน้ำท่วมปากสีหน้าแค้นเคือง เขาก็ได้แอบแย้มขึ้นตรงมุมปาก

 

 

โน้มหน้าลงเล็กน้อยจนปลายจมูกของเขาชนกับเส้นไหมที่แผ่กระจายความหอมบนศีรษะของเธอ เขาสูดมันเข้าปอดอย่างเงียบๆ

 

 

“อย่าเอาคำว่า ‘สุภาพบุรุษ’ มาบีบกันจนตาย ต่อให้ผมจะมีความอดทนแต่มันก็มีขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นคุณไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับแรงดึงดูดของผม”

 

 

หลังจากนั้นเขาจึงเคลื่อนลงมาที่ข้างใบหูของเธอเสียงแหบทุ้มยังคงปลุกปั่นเธอด้วยเจตนาร้ายต่อไป

 

 

“ผมคงเป็นสุภาพบุรุษไปไม่ได้ตลอดชีวิตหรอกนะ”

 

 

“เป็นอะไร”

 

 

ตัวตนที่แท้จริงของผู้ชายคนนี้ร้ายกาจขนาดนี้จริงๆ นะเหรอ

 

 

“จั๊กจี้!”

 

 

เธอหงุดหงิดกับความไม่เอาอ่าวของตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าเขาจงใจแต่เธอดันไม่เอาไหนจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้

 

 

ป๋อจิ่งชวนปล่อยเธอออก แล้วประคองมือขวาที่ถูกเธอตีขึ้นมาแบบลวกๆ พลางคลี่ยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า

 

 

“เหมือนโดนแมวตะปบ”

 

 

นอกจากอารมณ์หงุดหงิดแล้วเฉินฝานซิงยังมองเขาอย่างงงงวย ราวกับได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างไรอย่างนั้น

 

 

เขาค่อยๆ ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงแล้วสอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

 

 

สูททำมือพอดีตัวตัดแต่งอย่างพิถีพิถันราคาสูงลิ่วถูกรีดจนเนี้ยบ รับกับร่างกายอันสูงสง่าของเขา สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบและความสูงส่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น

 

 

เฉินฝานซิงมองเขาที่เป็นเช่นนั้นอย่างเคลิบเคลิ้มราวกับว่าสิ่งที่ยั่วยวนเธออยู่เมื่อครู่เป็นภาพในความฝัน

 

 

“เดี๋ยวก็ได้เวลาอาหารแล้ว ฉันจะลงไปก่อน”

 

 

เธอรีบดึงสติกลับมาก่อนจะทิ้งประโยคสุดท้ายเอาแล้วเดินออกห้องของป๋อจิ่งชวนมาอย่างรวดเร็ว

 

 

ผู้ชายคนนั้นมีพิษ!

 

 

อย่าได้เข้าไปใกล้!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 78 ไม่รับคำปฏิเสธของคุณ

 

 

ในขณะที่เฉินฝานซิงเดินลงมา หญิงชราและแม่บ้านไหลหรงก็ได้มายืนรออยู่ที่ด้านล่างของบันไดพร้อมทั้งมองไปยังด้านบนด้วยท่าทีร้อนรน

 

 

ด้วยความกลัวว่าด้านบนจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

 

 

“หนูฝานซิง พวกหนู…คุยกันเสร็จแล้ว? เจ้าหมอนั่นไม่ได้รังแกอะไรหนูใช่ไหม”

 

 

เธอรู้สึกว่าเลือดตรงหน้ายังไม่ทันได้หายร้อนดีจึงทำให้เธอรู้สึกทำตัวไม่ถูก

 

 

“เปล่าค่ะคุณย่า”

 

 

เธอก้มหน้าแล้วยกมือเกี่ยวผมที่อยู่ข้างใบหูขึ้นมาทัดหูเพื่อใช้การกระทำนั้นกลบเกลื่อนความเหนียมอาย

 

 

หญิงชรายื่นตัวออกมาหรี่ตามองเธอในทุกๆ อิริยาบถ ก่อนที่รอยยิ้มกริ่มจะค่อยๆ ปรากฏให้เห็น

 

 

แต่เมื่อเห็นร่างอันสูงสง่าของชายหนุ่มที่ปรากฏอยู่ด้านหลังของเฉินฝานซิง รอยยิ้มบนใบหน้านั้นก็ค่อยๆ หุบลงก่อนเธอแขวะขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

 

 

“ยุ่งมากไม่ใช่เหรอ กลับมาทำไมมิทราบ!”

 

 

“ย่าไม่ได้อยากให้ผมกลับมาหรอกหรือครับ” เขายิ้มจางๆ พลางส่งสายตาให้ล่องลอยเฉียดผ่านไหล่ของเฉินฝานซิงไปยังหญิงชรา

 

 

“เจ้านี่นี่!”

 

 

หญิงชราขบฟันแน่นแล้วพูดออกมาหนึ่งประโยค “กินข้าวกันได้แล้ว!”

 

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงร่างข้างหลังที่กำลังใกล้เข้ามาเธอจึงรีบตบเท้าลงบันไดไปอย่างร้อนรน

 

 

เห็นอีกฝ่ายที่พยายามหลบหน้าเขาอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วเดินตามเธอลงไป

 

 

 

 

เสร็จจากมื้อค่ำเวลาก็ดึกมากแล้ว

 

 

เฉินฝานซิงจึงเป็นฝ่ายเอ่ยขอกลับก่อนแต่ทว่าหญิงชรากลับมีสีหน้าไม่เห็นด้วย

 

 

“เอางี้ดีไหม…ฝานซิงคืนนี้ก็ค้างเสียที่นี่แหละ บ้านย่าน่ะมีห้องเยอะแยะเลยนะ…ชั้นสองห้องด้านในสุดนั่นน่ะ เตียงทั้งกว้างทั้งนอนสบาย…”

 

 

เฉินฝานซิงหลุดยิ้ม “คุณย่าคะ ไม่ต้องหรอกค่ะ”

 

 

ทำไมผู้ใหญ่คนนี้ถึงได้น่ารักนัก

 

 

ขณะก้าวเท้าออกจากคฤหาสน์เมื่อก้าวสุดท้ายได้หยุดลงป๋อจิ่งชวนก็ได้เดินตามเธอออกมา

 

 

เธอหยุดลงตรงทางเข้าก่อนจะหันไปมองเขาแล้วพูดว่า

 

 

“ฉันขับรถมาเอง คุณไม่จำเป็นต้องไปส่ง”

 

 

“เป็นห่วง เดี๋ยวผมขับไปส่งคุณเองส่วนรถคุณให้อวี๋ซงขับไปให้”

 

 

“ฉันขอปฏิเสธได้ไหม”

 

 

“ผมไม่รับคำปฏิเสธของคุณส่งกุญแจรถให้อวี๋ซงไปซะ”

 

 

เขาว่าพลางดึงเธอเดินไปยังเบนท์ลีย์ที่จอดรออยู่หน้าประตู

 

 

น้ำเสียงแม้จะราบเรียบแต่ก็ไม่มีช่องว่างให้เธอได้ปฏิเสธเขาได้

 

 

ผู้ชายจอมเผด็จการ

 

 

แม้ว่าผ่ามือของเขาจะประคองเอวของเธออยู่แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งใดเคลือบแฝง

 

 

เฉินฝานซิงเข้าใจในธรรมเนียมเหล่านี้ดี แต่สัมผัสบนเอวของเธอนั้นไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตามมันก็ทำให้หัวใจของเธอไม่สงบอยู่ดี

 

 

ในตอนนี้เอง ทั้งคู่ได้เดินมาถึงรถแล้ว ป๋อจิ่งชวนยื่นมือออกไปเปิดประตูรถฝั่งของเฉินฝานซิงให้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

 

ฝ่ามือบนเอวของเธอออกแรงเล็กน้อย เขาชำเลืองมองเธอหนึ่งครั้งเป็นสัญญาณให้เธอขึ้นไปบนรถ

 

 

อวี๋ซงได้วิ่งมาหยุดที่ข้างตัวรถ เขายืนด้วยความเคารพอยู่อีกทาง เฉินฝานซิงลังเลอยู่เล็กน้อย ก่อนจะยอมส่งกุญแจรถให้กับเขาไป

 

 

“รบกวนหน่อยนะ”

 

 

“เกรงเกินใจไปแล้วครับ คุณผู้…คุณหนูเฉิน”

 

 

อาจเป็นเพราะวันนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย ความคิดที่ว่าคุณหนูเฉินเป็นว่าที่คุณผู้หญิงจึงได้ฝังรากลึกลงไปในจิตใจของเขาเรียบร้อยแล้ว

 

 

เกือบจะหลุดปากไปแล้วเชียว

 

 

เฉินฝานซิงไม่ได้ใส่ใจ แหงนหน้าขึ้นไปมองป๋อจิ่งชวนที่กำลังรอเธออยู่แล้วก้มตัวลงไปในรถ

 

 

ป๋อจิ่งชวนปิดประตูลงแล้วอ้อมไปทางข้างหน้าเพื่อมาขึ้นรถ

 

 

อวี๋ซงก้าวยาวๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าพาสสาทซีซี เปิดล็อกประตูแล้วก้าวขึ้นรถไปจากนั้นเขาจึงขับนำออกไปก่อน

 

 

ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ออกรถตามหลังอวี๋ซงไป

 

 

ระหว่างทางทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรต่อกัน ที่จริงแล้วเธอยังลืมเรื่องก่อนทานอาหารที่เกิดขึ้นในห้องนอนของเขาก่อนหน้านี้ไม่ได้

 

 

ลางสังหรณ์ของผู้ชายข้างๆ ยิ่งแม่นยำจนน่าตกใจอยู่ด้วย เธอเผลอหันไปมองเขาแล้วพบว่าเป็นจริงอย่างใครเขาว่าคนเราหากดูดีแล้วทำอะไรก็น่ามองไปหมด

 

 

นั่งอยู่ตรงนั้นเช่นเดียวกัน สองมือวางบนพวงมาลัยเหมือนกัน แต่ท่าทีสบายๆ และสุขุมแบบนั้น คิ้วสวยพร้อมกับสายตาที่มองตรงไปข้างหน้ากลับดูดีว่าใครอื่นเป็นไหนๆ

 

 

 

 

——

 

 

[1] ยาจ้ายฟูเหริน มาจากตัวอักษรจีนที่เขียนว่า “压寨夫人” เป็นคำที่ใช้เรียกภรรยาของหัวหน้าแก๊ง

 

 

[2] การต้มกบในน้ำอุ่น ว่ากันว่าหากโยนกบลงไปในน้ำเดือดจัดกบจะรู้สึกร้อนและกระโดดขึ้นมา แต่หากต้มกบในน้ำอุ่นกบตัวนั้นจะไม่รับรู้ถึงอุณหภูมิของน้ำที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนมันถูกต้มและกลายเป็นอาหารในที่สุด สำนวนนี้จึงอุปมาถึงการการทำให้เหยื่อตายใจ