บทที่ 68 ตระกูลหยุนรับเจ้าสาว![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 68 ตระกูลหยุนรับเจ้าสาว![รีไรท์]

ถนนสายหลักจากตระกูลหยุนไปยังตระกูลฮวา ยังคงอยู่ภายใต้การคุ้มกันแน่นหนาและ รถออฟโรดสีดำหลายร้อยคัน เรียงกันเป็นเส้นยาวค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปอย่างยิ่งใหญ่

รถคันแรกเป็นรถรุ่นยาวของ Bentley การใช้รถคันนี้เป็นรถนำขบวนในฐานะตระกูลหยุนถือว่าค่อนข้างน่าอับอาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าจะมองไปที่รถคันนี้ เพราะเจ้าของรถ คือ หยุนไป่ซาน ผู้นำตระกูลหยุน!

และหยุนหนานเฟิงก็อยู่ในรถคันนั้น ใบหน้าหล่อเหลาแต้มด้วยรอยยิ้มของ หยุนหนานเฟิง ทำให้เขาโดดเด่นพร้อมด้วยชุดสูทของนักดีไซเนอร์จากอิตาเลี่ยนที่ตัดมาแบบพิเศษของเขาเอง

นอกจากเขาแล้วยังมี ชายและหญิงอยู่ในรถด้วย ผู้ชายมีลักษณะผอมแห้งใบหน้าหมองหม่น ดวงตาสีดำเหมือนทั่วไป หากแต่ใบหน้าของเขารมไปด้วยควันบุหรี่ และรูปร่างที่ให้ความรู้สึกในแง่ความร้ายกาจ

ผู้หญิงคนนี้ดูงดงามและใบหน้าซีดขาว แต่ริมฝีปากของเธอแดงก่ำคล้ายเลือด ดูคล้ายกับเธอเพิ่งสูบเลือดมา แต่การแต่งกายนั้นร้ายยิ่งกว่า ชุดเป็นแหวกอกที่ดูอย่างไรก็ไม่สามารถปกปิดหน้าอกได้มิด กระโปรงสั้นสีแดงและไม่ได้สวมกางเกงชั้นในสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่ด้านล่างของกระโปรงได้ด้วยเพียงการยกขาเล็กน้อย การแต่งตัวแบบนี้ช่างเหมือนสาวค้าประเวณีซะไม่มี

“น้องชาย เอาแต่จ้องเค้าทำไมกัน? หัวใจของเค้าเหมือนถูกจั๊กจี้!” น้ำเสียงเย้ายวนใจ พูดพร้อมกับอ้าขาเล็กน้อย สัมผัสกับชุดสีดำแพรวพราว

รอยยิ้มของหยุนหนานเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง พร้อมจิบไวน์เล็กๆ

เมื่อเห็นว่าหยุนหนานเฟิงไม่สนใจเธอที่นั่งเบียดอยู่ข้างเขา ก่อนจึงคว้ามือของหยุนหนานเฟิงไปวางตรงหน้าอกด้วยสายตาเย้ายวน “น้องชาย อย่าทำเป็นไม่รู้สิ ดูสิเค้าทรมานไปหมดแล้ว ช่วยเค้าทีนะ” หลังจากพูดก็ดึงมืออีกข้างของหยุนหนานเฟิงเข้าไปในกระโปรง

ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามกำลังดูรูปถ่าย มองหยุนหนานเฟิงและผู้หญิงคนนั้น ด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่างยิ่ง มือของหญิงสาวที่กำลังแก้ชายเสื้อของหยุนหนานเฟิง ลูบไล้กล้าม และหน้าอกของเขาแล้วค่อยๆ เลื่อนลงไปเรื่อย ๆ จนถึงหัวเข็มขัด ผู้หญิงคนนั้นก็ปลดเข็มขัดของเขาและเอื้อมมือเข้าไปข้างในทันที

หยุนหนานเฟิงยังคงจิบไวน์ช้า ๆ โดยสีหน้าไม่เปลี่ยน

“น่าเบื่อที่สุด หากคุณไม่มีสิ่งนี้ ฉันคงสงสัยว่าคุณใช่ผู้ชายหรือเปล่า?”

ผู้หญิงคนนั้นบีบเคล้นมันอย่างหนัก จากนั้นเธอก็เอามือของเธอออกมาด้วยความโกรธและเอามันเข้าไปในปากและเริ่มดูดเลีย พร้อมส่งเสียงที่เร้าอารมณ์ออกมา

หยุนหนานเฟิงขมวดคิ้วแล้วกล่าว “ฉันเป็นผู้ชายแต่ว่ากลัวตายมากกว่า”

เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอสรพิษ มีผู้ชายมากมายที่นอนกับเธอ แต่ทุกคนก็พบกับจุดจบอันเลวร้าย พวกเขาทั้งหมดถูกดูดพลังหยางไปหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น

ประโยคนั้นทำให้ผู้หญิงคนนี้หัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือออกไปและจับใบหน้าของหยุนหนานเฟิง

“น้องชายตัวน้อยของฉันเป็นคนรอบคอบจริง ๆ ฉันไม่อยากให้คนหล่อๆอย่างน้องตายหรอกนะ”

“แล้วพวกผู้ชายหล่อ ๆ มันตายเพราะน้ำมือเธอมากี่รายแล้วล่ะ?”

ผู้หญิงผงะไปแล้วหัวเราะคิกคัก จากนั้นก็เดินไปนั่งถัดจากผู้ชายที่อยู่ตรงข้าม

ชายคนนั้นเอามือข้างหนึ่งคล้องคอของเธอ มืออีกข้างหยิบรูปถ่ายแล้ววางเบื้องหน้าสายตาของเขาและพูดน้ำเสียงที่เต็มด้วยความหลงใหลอย่างแรงกล้า “ช่างงดงามแต่งงานกับฉันเถอะ หลังจากนี้ฉันอยากให้เธออยู่ใกล้ ๆ พวกเราจะได้มีช่วงเวลาดี ๆ ด้วยกัน” จากนั้นเขาก็สะบัดมือออกไป รูปถ่ายปลิวไปยังที่หยุนหนานเฟิงอยู่

หยุนหนานเฟิงหันกลับมามอง ผู้หญิงในรูปน่าทึ่งมาก หญิงสาวตระกูลฮวา

“เฮอะ!” หยุนหนานเฟิงหันหน้าไปทางอื่นทันที

เขาเห็นว่ากระโปรงสั้นของผู้หญิงคนนั้นถูกเลิกขึ้นสูงขึ้นโดยชายคนนั้น ขาเรียวเกาะเกี่ยวเอวของเขาไว้ ชุดชั้นในถูกถอดออกและถูกโยนทิ้งไป จากนั้นชายคนดังกล่าวก็กระซิบและคำราม ทั้งสองก็ลุกขึ้นยืนต่อหน้าหยุนหนานเฟิง

ประหนึ่งว่าที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น

กลิ่นคาวโลกีย์ อบอวลเต็มรถ หยุนหนานเฟิงเขย่าแก้วไวน์เบา ๆ ในมือ เขาไม่ได้หลบเลี่ยง นั่งมองดูคนสองคนร่วมรักกัน แต่ไม่บังเกิดความปรารถนาในดวงตา เขารู้สึกเหมือนดูสัตว์เดรัจฉานสมสู่กัน ไม่ใช่มนุษย์

“ไปต่อกันที่รถด้านหลังเถอะ ใกล้จะถึงบ้านตระกูลฮวาแล้ว” ผ่านไปครึ่งชั่วโมง หยุนหนานเฟิงก็พูดขึ้นนิ่ง ๆ

ทั้งสองคนหยุดพัวพันกัน แต่ร่างกายยังไม่ได้ผละออกจากกัน ฝ่ายชายดวงตาขุ่นมัว จ้องไปยังหยุนหนานเฟิง

“หมายความว่าไง? คงไม่ได้คิดจะกันฉันออกและระหว่างทางกลับ แกก็กินอาหารจานหลักจนสะอาดสะอ้านหรอกนะ”

พูดจบเขาก็ค่อย ๆ ผละออกจากผู้หญิง หยิบเสื้อผ้าของเธอมาเช็ดตรงนั้น จากนั้นก็โยนไปที่ผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นหยิบมาใส่กลับเข้าไปอย่างเดิม โดยไม่ได้คำนึงอยู่ความสกปรกที่ติดอยู่ ใบหน้าของหยุนหนานเฟิงยังคงเหมือนเดิมและไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

“คุณก็รู้ว่าผมไม่มีทางทำแบบนั้น แล้วก็ไม่กล้าด้วย รอจนกว่างานแต่งงานจบ ผมจะเอาเธอไปส่งให้คุณที่ห้องด้วยตัวเองถึงตอนนั้นจะเล่นยังไงก็แล้วแต่คุณ ที่สำคัญคือ ตอนนี้ห้ามมีอะไรผิดพลาด ถ้ามันเกิดผิดพลาดขึ้นมา ผมรับผิดชอบไม่ไหว และคุณเองก็คงรับความเสียหายไม่ไหวเหมือนกัน”

ชายคนนั้นจ้องมองที่หยุนหนานเฟิงก่อนยิ้มอ่อน ๆ เขาเดินไปตบไหล่หยุนหนานเฟิงก่อนลูบสิ่งสกปรกลงในชุดสูทหรูราคาแพงของหยุนหนานเฟิงพร้อมรอยยิ้ม “แกรู้ไหมว่าฉันชอบแกตรงไหน? ฉันชอบที่แกเชื่อฟังคำสั่ง แบบสุนัขที่ทำตามคำสั่ง…ฮ่าๆ”

ชายคนนั้นเหยียดหยาม แต่หยุนหนานเฟิงไม่ได้โกรธเคือง ซ้ำกับให้ความร่วมมือ หัวเราะกับตัวเองเบาๆ

“แกเป็นคนฉลาด แกรู้ว่าจะเป็นสุนัขที่ดีได้ยังไง ไม่ต้องกังวล แกจะได้สิ่งที่ต้องการหลังจากทำเรื่องนี้เสร็จแล้ว”

เขาลูบหัวหยุนหนานเฟิงเหมือนการลูบหัวสุนัข แล้วเดินไปเปิดประตูรถ เพื่อบอกให้คนขับรถหยุดและหัวเราะก่อนลงจากรถ

เมื่อมองคนสองคนที่กำลังขึ้นไปบนด้านหลังของรถ หยุนหนานเฟิงก็แบมือของเขาที่เต็มไปด้วยรอยเล็บมือจิกหลายรอยที่ฝ่ามือ เลือดสด ๆ ไหลออกมา แต่เขาไม่รู้สึกรู้สา เขายืนขึ้นแล้วจัดชุดสูทของเขา จากนั้นเปิดหน้าต่างและลมก็พัดเข้ามาเพื่อกระจายกลิ่นสกปรกภายในรถออกไป

……

……

เมื่อตระกูลหยุนมาถึง ก็มีคนออกมาต้อนรับที่ประตู เป็นคุณชายในตระกูลฮวา ฮวาเซิ่งออกมายืนด้านหน้า

หยุนหนานเฟิง ตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนลงมาจากรถเมื่อเขาแน่ใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ

“คุณชายหยุน” ฮวาเซิ่งและหยุนหนานเฟิง มีลักษณะที่คล้ายกันทั้งคู่เป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่หายาก รอยยิ้มของพวกเขาอ่อนโยนและกลมกล่อม ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนอาบน้ำในสายลมฤดูใบไม้ผลิ

“คุณชายฮวา” หยุนหนานเฟิงและฮวาเซิ่งจับมือกัน แม้ว่าตระกูลฮวาจะไม่ได้ทรงอำนาจเทียบเท่ากับตระกูลหยุน แต่ชื่อเสียงของฮวาเซิ่งก็ไม่น้อยไปกว่าของเขาเลย มีคนหนุ่มสาวไม่มากนักในเมืองหยุนหยานที่สามารถทำให้เขาเห็นถึงความสามารถได้ ฮวาเซิ่งเป็นหนึ่งในนั้น

“การเรียกแบบนี้ควรจะเปลี่ยนได้แล้วมั้ง?” ฮวาเซิ่งหัวเราะขบขัน

หยุนหนานเฟิงยิ้มและกล่าวว่า “นี่นายอยากให้ฉันเรียกว่าท่านลุงเหรอ?”

“พอเถอะ นายเรียกคุณชายฮวาเหมือนเดิมเถอะ ฟังแล้วรื่นหูกว่า”

ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มสบตากัน ในเวลาเดียวกันนอกจากหยุนหนานเฟิงแล้วยังมีพี่น้องคุณชายคนอื่น ๆ มารับเจ้าสาวพร้อมกับหยุนหนานเฟิง

ฮวาเซิ่งกล่าวทักทายทีละคนไม่ตกหล่นใคร

“คุณชายหยุน เชิญครับ!”

“เชิญครับ!”

เมื่อทั้งคู่เดินเคียงข้างกัน ความหล่อเหลาของพวกเขาเป็นที่สะดุดตามาก

“คุณชายหยุนเตรียมอั่งเปามาพอไหมครับ?” ฮวาเซิ่งหัวเราะแล้วถามขึ้น

หยุนหนานเฟิงตบกระเป๋าเสื้อยิ้มแล้วพูดว่า “ขาดไม่ได้!”

หยุนหนานเฟิงเอาอั่งเปาออกมาแล้วยื่นให้ฮวาเซิ่งหนึ่งซอง

ฮวาเซิ่งเปิดดู มีเช็คอยู่ในนั้นจำนวนเงินคือ 100,000 หยวน

“มีน้องเขยเป็นเศรษฐีนี่ดีจริง ๆ เลย ยังไงอนาคตข้างหน้าก็ไม่ต้องกินข้าวต้มแล้ว”

หยุนหนานเฟิงยิ้มและกำลังจะก้าวไป แล้วก็มีมือยื่นมาหาเขามากมาย

“ทั้งหมดเป็นความผิดของนาย” หยุนหนานเฟิงอดไม่ได้ที่จะบ่น แล้วหยิบอั่งเปาออกมาแจกประมาณ 10 ซอง

แน่นอนมันเป็นแค่เรื่องตลก เพียงแค่ทำเป็นพิธี สิ่งที่คนที่นี่ไม่ขาดแคลนเลยคือเงิน กลุ่มคนพูดคุยและหัวเราะไปที่ห้องโถงใหญ่ของตระกูลฮวา

“หนานเฟิงยินดีที่ได้พบท่านปู่ฮวาและท่านลุงทั้งหลายครับ!” หยุนหนานเฟิงคารวะ

“เด็กดีลุกขึ้นเถิด!” ฮวาชิงซานมองไปที่หยุนหนานเฟิงและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เขาพูดกับฮวาโม่เซี่ยว่า “ช่างเป็นคนที่เหมาะสมกับเสี่ยวหวู่ของเราจริงๆ ”

“ท่านพ่อพูดถูก ชายเก่งหญิงงาม เหมาะสมกันจริงๆ” ฮวาโม่เซี่ยยิ้มจนตาหยี

“สวัสดีท่านลุงเซี่ย แล้วเสี่ยวหวู่ล่ะ?” หยุนหนานเฟิงถามขึ้น

“ฉันอยู่นี่!” ฮวาโม่เซี่ยยังไม่ทันได้เปิดปากพูด ก็เห็น ฮวาชิงหวู่ที่เดินออกมาจากด้านหลัง

ในขณะนี้ทุกคนรู้สึกว่าทั้งห้องโถงสว่างไสวและงดงามทันที งดงามมาก จนน่าหลงใหล มันทำให้กลุ่มคนหนุ่มสาวเหมือนถูกตะขอเกี่ยวหัวใจไปหรือแม้แต่หยุนหนานเฟิงก็ไม่มีข้อยกเว้น ใบหน้าปรากฏสีหน้าอื่นนอกจากรอยยิ้มเป็นครั้งแรก มันคือความรู้สึกจิตใจล่องลอย!

“ดูเด็กคนนี้สิ พอรู้ว่าหยุนหนานเฟิงจะมาก็ลืมพวกเราไปเลย” ฮวาโม่เซี่ยพูดขึ้นอย่างภูมิใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน

หยุนนานเฟิงได้สติก็พูดพร้อมรอยยิ้ม “เสี่ยวหวู่ ผมมารับคุณแล้ว!”

เธอยิ้มเบาๆ “ฉันเห็นแล้ว ไปกันเถอะ!”

หยุนหนานเฟิงตกใจเล็กน้อย เขาประหลาดใจกับท่าทีการแสดงออกของเธอ! นี่เธอรอไม่ไหวแล้วที่จะเข้าพิธีกับตนเหรอ? จากนั้นหัวใจของเขาก็ยิ้มอย่างอมทุกข์ เขาจะมีโอกาสนั้นเหรอ? แม้ว่าฮวาชิงหวู่จะกล้าแต่ง แต่เขาก็ไม่กล้าแต่งด้วยแน่