ตอนที่ 76 : ของขวัญอันล้ำค่า
ตอนที่ฉินเหลยและคนอื่นๆกลับไปแล้ว ทุกคนก็พากันคิดว่าทุกอย่างคงจบแล้ว แต่ไม่คาดว่าจะมีกลุ่มคนแบบนี้โผล่ออกมาทีละกลุ่ม ๆ ซึ่งผู้นำทุกกลุ่มจะเหมือนกันอยู่อย่าง ตรงที่หล่อรวยและหยิ่งยโส
คนพวกนี้ต่างก็พากันทึ่งเมื่อเห็นจ้าวเมิ่งซี แต่เมื่อเห็นหวังเย่า พวกเขาก็พากันขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
หวังเย่าได้ประกาศออกมาอย่างกล้าหาญจนคนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าจ้าวเมิ่งซีเป็นแฟนเขาแล้ว แม้ว่าพวกนี้จะไม่พอใจ แต่แล้วยังไง ? เพราะพวกนี้คิดจะสั่งสอนเขาอยู่แล้ว
แต่เมื่อหวังเย่าได้บอกว่ามีนัดกับฉินเหลยในวันประชุมพยับเมฆอยู่แล้ว คนพวกนั้นก็ไม่กล้าจะยื่นข้อเสนออะไรอีก
ยังไงซะ หวังเย่าก็เป็นแค่เด็กใหม่ พวกเขาน่ะเป็นคนที่โดดเด่นอยู่แล้ว ถ้ามีหลายคนท้าสู้กับหวังเย่า มันคงดูเหมือนเป็นการรังแกกันเสียเปล่า ๆ ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขากลายเป็นตัวตลกแทน
“หวังเย่า เราเพิ่งอยู่ด้วยกันเมื่อวานเอง ฉันไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมีปัญหามากมายขนาดนี้” จ้าวเมิ่งซีพูดออกมาด้วยท่าทีเขินอายนิด ๆ
หวังเย่าเองก็พูดอะไรไม่ออก “ฉันรู้ว่าเธอเป็นที่สนใจอย่างมาก….ดังนั้นฉันต้องพยายามให้มากขึ้น เมื่อคิดจะเป็นแฟนเธอก็ต้องรับกับแรงกดดันให้ได้”
จ้าวเมิ่งซียิ้มออกมา “ก็ดี ฉันเชื่อนาย เห็นนายมีความรับผิดชอบแบบนี้ฉันก็สบายใจได้”
หวังเย่าเริ่มหวั่นไหวในคำพูดของจ้าวเมิ่งซีและพูดขึ้น “เมิ่ง ฉันอยากให้ของขวัญกับเธอ”
“โอ้ …นายถึงเตรียมของขวัญให้กับฉันด้วย นายเหมือนเป็นแฟนที่ดีนะ ถ้านายทำได้ดี ระยะดูใจอาจจะสั้นลงก็ได้” จ้าวเมิ่งซีพูดขึ้น
หวังเย่าหวั่นไหวนิด ๆ เขาลูบหัวและพูดขึ้นมา “เรื่องของเรา พ่อของเธอรู้รึเปล่า ? ”
“เขาไว้ใจนาย พ่อน่ะเข้าข้างนาย ตราบใดที่นายดูแลฉันได้ งั้นเขาก็ไม่มีปัญหาอะไร” จ้าวเมิ่งซีหัวเราะออกมา
“เธอรู้มั้ยว่ามันมีแต่จะทำให้ฉันกดดันยิ่งกว่าเดิม” หวังเย่ากุมขมับ “เธอมาซบไหล่ฉันมั๊ย”
“มีคนอยู่ที่นี่ตั้งเยอะ นายอยากให้พวกเขาเห็นรึไง ? ” จ้าวเมิ่งซีเหมือนจะหัวเราะออกมา
“อยากสิ ไม่อย่างนั้น คนพวกนี้จะหาว่าเราหลอกพวกเขาเอานะ” หวังเย่าพูดขึ้น “การกระทำของเธอจะพิสูจน์ทุกอย่าง และสามารถตัดความคิดไร้สาระของพวกนี้ทิ้งได้ เราจะไม่ได้โดนรบกวนอีก”
“เอาตามที่นายบอกก็ได้” จ้าวเมิ่งซียิ้ม ก่อนจะเอนหัวไปซบที่ไหล่ของหวังเย่า ส่วนหวังเย่าก็หลับตาลงพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ
คนที่อยู่ไกลออกไปต่างก็พากันกัดฟันแน่น พวกเขาอยากจะเข้าไปอัดหวังเย่าตรงนั้นเลย
ส่วนคนอื่น ๆ พากันแอบถ่ายรูปนี้แล้วเอาไปลงในเว็บของมหาวิทยาลัย มันทำให้คนจำนวนมากเข้ามาสนใจและด่าหวังเย่ากันระนาว
ชัดแล้วว่าเมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว พวกเขาก็รู้ว่าคงไม่มีโอกาส พวกเขาได้แต่กัดฟันแน่นและเก็บความปวดใจเอาไว้
….
เมื่อกลับมาที่โรงแรม ก่อนที่จะนั่งลง จ้าวเมิ่งซีก็แสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
“ นายจะให้อะไรฉัน รีบเอาออกมาได้ไหม ฉันอยากรู้ใจจะขาดแล้ว” เธอแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา
แม้ว่าจะได้ของขวัญมาหลายชิ้นแล้วและของส่วนมากก็เป็นของที่มีค่าราคาแพง แต่ถึงขั้นทำให้จ้าวเมิ่งซีตื่นเต้นแบบนี้ได้นับว่าเป็นครั้งแรก
“เธอหลับตาก่อน” หวังเย่าทำท่าทางลึกลับก่อนจะปิดม่านซึ่งทำให้ห้องสลัวขึ้นมา
จ้าวเมิ่งซีหลังตาอย่างเชื่อฟัง เปลือกตาของเธอกระตุกเล็กน้อย
“ลืมตาได้” หวังเย่ากระซิบที่ข้างหูเธอ
จ้าวเมิ่งซีลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ และพบกับแสงสีขาวขนาดใหญ่ตรงหน้า มันคือดอกบัวที่ส่องแสงไปทั่วทั้งห้อง แสงนี้แผ่ความเย็นออกมาและดูงดงามเป็นอย่างมาก
“นี่อะไร ? ” จ้าวเมิ่งซีอ้าปากค้าง
“นี่คือบัวหิมะน้ำแข็ง อายุ 500 ปีระดับศักดิ์สิทธิ์” หวังเย่าหัวเราะออกมา
“ระดับศักดิ์สิทธิ์งั้นหรือ ? ” จ้าวเมิ่งซีอุทานด้วยความแปลกใจ สายตาเธอเต็มไปด้วยความตะลึง “ฉันฝันอยู่รึเปล่า ? หวังเย่า ที่นายพูดน่ะเป็นเรื่องจริงหรือ ? ”
เธอยังพูดไม่ทันจบก็พุ่งเข้ากอดหวังเย่า กลิ่นตัวของเธอลอยฟุ้งออกมาทั่ว จนทำให้หวังเย่าใจเต้นแรง
“จริง เธอจำเขตลับที่เราไปทดสอบได้รึเปล่า ฉันตามวัวหิมะไปและโชคดีที่พบมันเข้า ถ้าเธอกินมันเข้าไป เธอจะได้ความสามารถในการควบคุมน้ำแข็ง”
“นายนี่โชคดีจริง ๆ ยาจิตวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์อายุ 500 ปีน่ะล้ำค่าอย่างมาก ราคาอย่างน้อยก็ตกอยู่ที่ 20 ล้าน ของขวัญที่แพงแบบนี้ หวังเย่านายจะให้ฉันจริง ๆ หรือ ? ” เสียงของจ้าวเมิ่งซีสั่นไหว
“แน่นอน” หวังเย่าไม่ลังเล “ถ้าฉันไม่ให้เธอแล้วจะให้ใครได้ ? ”
“นายขายมันก็ได้ นายจะได้กลายเป็นคนร่ำรวย จากนั้นนายก็จะเอาผู้หญิงคนไหนมาเป็นแฟนก็ได้ไม่ใช่หรือ ? ” จ้าวเมิ่งซียิ้ม
“เห็นฉันเป็นคนหื่นกามแบบนั้นรึไง ? ยิ่งกว่านั้นฉันเองก็รู้สึกว่าคนอื่นไม่คู่ควรกับฉัน ในสายตาของฉันแล้ว เธอน่ะคือไข่มุกที่โดดเด่นที่สุดไม่มีใครมาเทียบได้” หวังเย่าพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง “แต่ฉันสับสน เพราะฉันรู้สึกว่าฉันยังไม่คู่ควรกับเธอ”
สายตาของจ้าวเมิ่งซีสั่นไหวไปตาม เธอหัวเราะออกมา “พี่เย่า นายนี่โง่จริง ๆ ”
“ฉันไม่อยากได้ยินเธอบอกแบบนี้จริง ๆ ” หวังเย่าพูดขึ้น “ฉันสงสัยว่าเธอจะกินมันยังไง มันใหญ่แบบนี้คงกินได้เป็นเดือน” เขาพยายามเปลี่ยนหัวข้อ
จ้าวเมิ่งซีฮึดฮัดออกมา “นายคิดว่าฉันเป็นหมูรึไง เดือนหนึ่งก็กินไม่หมดหรอก ยิ่งกว่านั้นยาจิตวิญญาณใครเขากินกัน เขาให้ดูดซับเอาต่างหาก”
“ดูดซับหรือ ? ” หวังเย่านึกถึงนิยายที่เขาเคยอ่านมา ตัวละครหลักมักจะใช้ลมปราณดูดซับสมบัติสวรรค์
ตอนนั้นจ้าวเมิ่งซีก็พลิกฝ่ามือ ก่อนจะเอาเข็มสีทองออกมาแล้วอธิบายว่า “นี่คือเข็มสูบ มันคือสิ่งประดิษฐ์ระดับสูงที่สุดของทางหัวเซี่ย เข็มกับยาจิตวิญญาณนั้นเหมือนเหล็กกับแม่เหล็ก”
เมื่อพูดจบเธอก็ได้ใช้เข็มจิ้มไปที่ดอกบัวน้ำแข็ง จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ สูบน้ำที่ใสบริสุทธิ์ของมันออกมา
บัวหิมะน้ำแข็งที่โดนสูบแก่นไปนั้นค่อย ๆ แห้งเหี่ยวไป พร้อมกับแสงที่หม่นลง สุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่เศษน้ำแข็ง แล้วตกลงไปที่พื้นก่อนจะละลายเป็นน้ำ
“อย่างนี้นี่เอง” หวังเย่ากระจ่างทันที
จ้าวเมิ่งซียิ้ม ก่อนจะเอาขวดหยกออกมา “การจะเก็บพลังวิญญาณได้ดีต้องเก็บในขวดหยกเท่านั้น”
หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายอย่างเงียบ ๆ
จ้าวเมิ่งซีค่อย ๆ ฉีดแก่นวิญญาณลงในขวดก่อนจะปิดขวดทันที เพื่อไม่ให้พลังของมันรั่วไหลออกมา
ด้วยการที่แก่นพลังของมันโดนสูบไปแล้ว บัวหิมะน้ำแข็งจึงละลายกลายเป็นน้ำและไม่นานก็แห้งไปเพราะไดร์เป่าผม
“เรียบร้อย” จ้าวเมิ่งซีปาดเหงื่อที่หน้าผากก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ