ตอนที่ 77 : หินห้าสี

บัวหิมะน้ำแข็งนี้มีพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์ แก่นของมันสกัดออกมาได้จนสามารถใส่ในขวด 100 มิลลิลิตรได้เต็มพอดี สีของมันกระจ่างใสราวกับสายน้ำสีเงินที่ไหลไปมาเหมือนมีชีวิต

“หอมดีจริงๆ มันหอมกว่าน้ำหอมเป็น 10 เท่า ฉันไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนี้มาก่อน” จ้าวเมิ่งซีเผยสีหน้าตะลึงออกมา

หวังเย่าจึงได้พูดขึ้น  “ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว เธอคงจะไม่ดูดซับมันแต่จะใช้มันเป็นน้ำหอมแทนใช่ไหม”

“ฉันไม่คิดจะใช้น้ำหอมแพงแบบนี้หรอกน่า”  จ้าวเมิ่งซีกรอกตาใส่และพูดขึ้น  “หวังเย่า ฉันจะกินมัน”

เมื่อได้ยิน หวังเย่าก็แสดงสีหน้าสงสัยออกมา

จ้าวเมิ่งซียิ้มกว้าง ก่อนจะกินแก่นพลังงานนั้นเข้าไป เมื่อกินเสร็จเธอแสดงท่าทีผ่อนคลายราวกับเพิ่งจิบชายามบ่าย

หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็พอใจอย่างมาก

กลิ่นหอมที่รุนแรงกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าได้ปะทุออกมา

ฟันของจ้าวเมิ่งซีราวกับโดนเคลือบไปด้วยน้ำแข็งพร้อมกับแสงที่ส่องประกายออกมา

เธอดื่มแก่นพลังไปแค่เล็กน้อย มันต้องกินอีก 5 ถึง 6 ครั้งกว่าจะหมดขวด

ทุกครั้งที่เธอดื่มนั้นร่างกายของเธอจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา มันจะมีแสงสีขาวราวกับหิมะส่องประกายที่ผิวของเธอ สิ่งนี้มันทำให้ผิวของเธอดูใสกระจ่างขึ้นมาราวกับผิวได้กลายเป็นเกล็ดหิมะจริง ๆ

คลื่นพลังของจ้าวเมิ่งซีเองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ตอนแรกเธอดูราวกับเทพธิดาอยู่แล้วแต่ก็มีจุดบกพร่องอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เธอกลับดูสูงส่งยิ่งกว่าเก่า เธอราวกับเทพธิดาน้ำแข็งที่ยืนอยู่บนบัวหิมะน้ำแข็ง ประหนึ่งนางฟ้าที่สูงส่งและสง่างาม

“ฉันรู้สึกว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษกับตัวฉัน”  จ้าวเมิ่งซียักคิ้ว จู่ ๆ เธอก็ได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยว เมื่อก้มลงไปมองด้านล่างก็พบว่าด้านล่างตัวเธอนั้นมีน้ำสกปรกที่เต็มไปด้วยสิ่งปนเปื้อน

หวังเย่าเองก็แปลกใจและพูดขึ้นมา  “นี่คือการชะล้างสิ่งปนเปื้อนงั้นหรือ ? ”

จ้าวเมิ่งซีคิด ก่อนจะพยักหน้า  “น่าจะเป็นแบบนั้น ฉันรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นกว่าเดิม เหมือนเป็นผีเสื้อในสายลมเลย”

การเปลี่ยนแปลงยังคงดำเนินต่อไป

ตอนนั้นเองร่างของจ้าวเมิ่งซีก็สั่นไหว ตัวของเธอมีน้ำสกปรกไหลออกมา มันทำให้ผิวของเธอดูเปล่งปลั่งและเป็นประกายขึ้น

ขณะที่แสงและน้ำค่อย ๆ จางหายไป ก็มีแสงสว่างรวมตัวกันที่หน้าผากของเธอเป็นรูปบัวหิมะน้ำแข็ง มันเล็กกว่าเหรียญทองแดง มันราวกับว่ามีบัวหิมะน้ำแข็งฝังอยู่ที่หน้าผากของเธอจริง ๆ

“ตราบัวหิมะงั้นหรือ ? ”  หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็แปลกใจ เขารู้สึกว่าจ้าวเมิ่งซีนั้นสวยขึ้นราวกับเทพธิดาน้ำแข็งจริง ๆ

“ทำไมนายถึงมองฉันแบบนั้น ? ”  จ้าวเมิ่งซีถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดขึ้น “หน้าฉันมีดอกไม้ติดรึไง ? ”

หวังเย่าพยักหน้าก่อนจะบอกความจริง  “มันมีดอกไม้จริง ๆ และมันสวยมากด้วย”

เมื่อได้ยินแบบนั้น จ้าวเมิ่งซีก็หันกลับไปมองที่กระจก จากนั้นเธอก็พบการเปลี่ยนแปลงของตัวเองและต้องอึ้งอยู่สักพัก

“ฉันไม่ได้โกหกเธอ”  หวังเย่าพูดขึ้น “ตอนนี้แก่นพลังถูกดูดซับไปหมดแล้ว เธอรู้สึกมั้ยว่ามีการเปลี่ยนแปลงยังไง ? ”

“ลองดูนี่”  จ้าวเมิ่งซียื่นมือออกไป มือของเธอมีแสงสีขาวหม่นส่องประกายออกมา แสงนี้ดูเย็นชา ความชื้นในอากาศรวมตัวกันอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวมันก็กลายเป็นเกล็ดหิมะก่อนจะตกลงมา

จ้าวเมิ่งซีควบคุมเกล็ดหิมะเหล่านั้นและรวมตัวกันเป็นก้อนหิมะ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดาบหิมะแล้วอัดแน่นกันต่อเป็นดาบน้ำแข็ง

เห็นอย่างนั้นหวังเย่าพอใจอย่างมาก ความสามารถนี้ใช้ง่ายราวกับปลอกกล้วย เธอดูเหมือนว่าจะใช้มันอย่างเชี่ยวชาญ อย่างน้อยมันก็น่าชื่นชม

“นี่แค่การเปลี่ยนแปลงพื้นฐาน ฉันรู้สึกว่ายังมีการเปลี่ยนแปลงอื่นอยู่อีก แต่ฉันยังควบคุมมันไม่ได้ เช่น ควบแน่นให้กลายเป็นน้ำแข็ง หรือเปลี่ยนหิมะให้กลายเป็นโล่ป้องกัน”

“ความสามารถพวกนั้นคล้ายกับวัวหิมะบนภูเขา ดูเหมือนว่าบัวระดับศักดิ์สิทธิ์นี่จะให้ความสามารถเดียวกับสัตว์อสูรระดับทอง”

หวังเย่าพยักหน้า เขาหวังว่าจะมีความสามารถปรากฏขึ้นมามากกว่านี้ แต่แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว ยังไงซะเขาก็ดีใจแทนจ้าวเมิ่งซี

บางครั้งเขาก็สงสัยว่าทำไมตัวเอกในนิยายต่าง ๆ นั้นจะต้องมีผู้หญิงล้อมรอบ อีกทั้งพวกเธอมักจะหาของดีมาให้กับตัวเอก หรือทำประโยชน์บางอย่างให้กับเขา หวังเย่านั้นมีมุมมองที่ต่างจากคนอื่น ๆ เขารู้สึกว่าแบบนั้นมันดูไม่แมนเท่าไหร่

หลังจากหวังเย่าครุ่นคิดอยู่สักครู่ เขาก็เริ่มเข้าใจนิสัยของตัวเองมากขึ้น แม้ว่าเขาจะมีระบบเขาอยู่กับตัว แต่พื้นฐานจิตใจของเขานั้นยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ ความคิดความอ่านยังคงคับแคบ แต่ถึงจะมีวิสัยทัศน์คับแคบ แต่สิ่งนี้ก็ทำให้เขาดูเหมือนมนุษย์จริง ๆ

“ดีจริง ๆ มันดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลย นี่คือของขวัญชิ้นที่สองที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของฉัน”  จ้าวเมิ่งซีน้ำตาไหลออกมา

หวังเย่าพยักหน้า เขารู้ว่าของขวัญที่มีค่าที่สุดอันดับแรกที่จ้าวเมิ่งซีพูดถึงคือของขวัญที่เธอได้มาตอนเรียนจบ นั้นก็คือเทอร์โรซอร์ไฟ

“จริง ๆ แล้ว…”  หวังเย่าพูดขึ้น  “เทอร์โรซอร์ไฟของเธอน่ะ เธอรู้มั้ยว่าทำไมมันถึงสนิทกับฉันนัก…เพราะว่าฉันเป็นคนฟักมันขึ้นมา มันได้กินเลือดของฉันเข้าไป …”

“หือ จริงหรือ ? ”  จ้าวเมิ่งซีอุทานออกมาด้วยความตะลึง  “ดูเหมือนว่าฉันกับนายจะมีชะตาร่วมกัน ขอบคุณพระเจ้าที่พานายเข้ามาในชีวิตฉัน “

“ฮ่าฮ่า…จริง ๆ แล้วฉันก็แค่หาเงิน ไม่งั้นแล้วเธอคิดว่าฉันจะได้ชุดระดับ B มาได้ยังไง มันมีหลายวิธีในการหาเงิน การฟักไข่ก็เป็นภารกิจอย่างหนึ่งเหมือนกัน”

“งั้นหรือ”  จ้าวเมิ่งซียิ้มหวานออกมา  “เราคงมีชะตาร่วมกันจริง ๆ ”

“แน่นอนว่าฉันคาดหวังว่าเธอจะมีผมที่ยาวและเอวที่คอดกว่านี้”

“นี่…”  จ้าวเมิ่งซีจำคำพูดนี้จากเน็ตได้ ประโยคเต็ม ๆ ของมันก็คือ รอเธอผมยาวและมีเอวที่คอดก่อนแล้วฉันจะแต่งงานกับเธอ  เมื่อคิดแบบนั้นเธอก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงขึ้นมา

“ใช่สิ ฉันเองก็มีของขวัญอยากให้นายเหมือนกัน”  จ้าวเมิ่งซีแสดงท่าทีหวั่นไหว จากนั้นเธอก็ล้วงเอาหินห้าสีออกมา หินนี้มีขนาดเท่ากับกำปั้น ด้านในมันเปล่งแสงสีแดง, เหลือง , เขียว, ขาว  ชั้นสุดท้ายนั้นเป็นสีดำ

หวังเย่าชะงักไป เขาถึงกับรู้สึกเหลือเชื่อ  “เมิ่งเอ๋อร์ นี่มันหินห้าสีนิ มันมีค่ากว่าของขวัญที่ฉันให้เธอไปอีก มันมีค่ามากกว่ามาก”

“ไม่เป็นไร เราเป็นคู่รักกันนี่ ฉันยินดีให้มันกับนาย มันมีประโยชน์กับนายมากกว่า”  จ้าวเมิ่งซียิ้มออกมา

หวังเย่าเงียบไปชั่วครู่ เขาลังเล แต่จ้าวเมิ่งซีพูดถูก หินห้าสีนี่มีประโยชน์กับเขามากกว่าจริง ๆ