บทที่ 89 เนื้อมากมาย

จางชุนเถาขยับตัว หยางชุ่ยฮวารีบตามไป

จาวซิ่วเอ๋อจูงแม่โจวผ่านประตู นางมองหยางชุ่ยฮวาและกล่าวขึ้น “ป้าสะใภ้ใหญ่ พวกเรากลับมาครั้งหนึ่งไม่ง่ายนัก เข้าไปดื่มน้ำสักหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหมเจ้าคะ?”

ต่อให้หยางชุ่ยฮวาไม่พอใจแค่ไหน แต่ตอนนี้นางถือหัวใจหมูอยู่ก็ไม่อาจไล่คนพวกนี้ไปได้ จึงเอ่ยขึ้น “ดื่มเสร็จแล้วรีบไป บ้านเราช่างคับแคบนัก ให้พวกเจ้ามาอยู่ด้วยไม่ไหวหรอก”

ต่อให้จางซิ่วเอ๋อเตรียมใจมาแต่แรก นางก็ยังโมโหแทบบ้ากับท่าทางของหยางชุ่ยฮวา

แต่ในเมื่อกลับมาแล้ว ก็ต้องทำทุกอย่างให้ออกมาดี

จางซิ่วเอ๋อตามหยางชุ่ยฮวาเข้ามาในห้องเก็บฟืน หมู่บ้านนี้มีห้องเก็บฟืนและห้องครัวอยู่ติดกัน ไม่ได้แยกจากกัน

เวลานี้หยางชุ่ยฮวากำลังใส่ของในอ่างอยู่ พอเห็นจางซิ่วเอ๋อเข้ามาก็ทำท่าระแวงขึ้นมาทันที “ที่บ้านนี้ไม่มีอะไรกินหรอกนะ! ถ้าเจ้าหิวมากจริง ๆ ก็ดื่มน้ำเยอะ ๆ”

จางซิ่วเอ๋อมองหยางชุ่ยฮวาอย่างขบขัน “ข้าแค่มาบอกท่านป้าว่าที่เรากลับมาครั้งนี้ไม่ได้จะมาขอกินเปล่า ๆ ท่านป้าเห็นรถลากไหมเจ้าคะ เราเอาของกินมาด้วยไม่น้อย แต่เมื่อครู่นี้มีคนนอกอยู่ด้วยจึงไม่สะดวกเอาออกมา……”

ถ้าเป็นของเล็กน้อยเอาออกมาอวดบ้างก็ดี แต่ของพวกนี้น่าอิจฉาตาร้อนเกินไป

ไม่รู้ว่าเพื่อนบ้านพวกนี้จะคิดอย่างไร เพราะสิ่งที่ขาดแคลนน้อยที่สุดในโลกนี้ก็คือพวกคนขี้อิจฉาตาร้อน

หยางชุ่ยฮวาได้ฟังก็มองจางซิ่วเอ๋ออย่างพิจารณา เห็นจางซิ่วเอ๋อมีสีหน้าจริงจังไม่เหมือนโกหกแล้ว สุดท้ายนางจึงเบ้ปากและเอ่ย “พวกเจ้าอยากอยู่กินข้าวที่บ้านงั้นหรือ? ข้าจะบอกให้เลยนะ โอ่งเก็บเสบียงที่บ้านน่ะว่างเปล่าหมดแล้ว!”

จางซิ่วเอ๋อกลอกตามองบน “ถ้าท่านป้าไม่เชื่อก็ไปดูกับข้าไหมล่ะเจ้าคะ?”

หยางชุ่ยฮวานึกได้ว่ารถลากนั้นจอดอยู่หน้าบ้าน ออกไปดูสักหน่อยคงไม่เป็นไรกระมัง

นางจึงเดินตามจางซิ่วเอ๋อไปด้านนอก

ป้าหยวนยังคงยืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ข้างนอก อยากเห็นว่าหยางชุ่ยฮวาจะไล่ครอบครัวนี้ที่มาเกาะกินไปอย่างไร

หยางชุ่ยฮวายืนอยู่ใกล้ ๆ รถลากและมองเข้าไปในกองหญ้าเขียวชอุ่มอย่างละเอียด และพบว่าข้างในน่าจะมีของจริง ๆ

นางชำเลืองมองป้าหยวนและเอ่ยปาก “พอได้แล้ว วันนี้บ้านข้าไม่มีเรื่องสนุกอะไรให้ท่านดูหรอก! รีบกลับบ้านไปกินข้าวเถอะ!”

ป้าหยวนเสียหน้ายามโดนเปิดโปง เวลานี้จึงไม่กล้าอยู่ต่อ ได้แต่กลับเข้าบ้านไป

หยางชุ่ยฮวาหยิบหญ้าด้านบนออก แล้วนางก็เห็นของข้างใน

ที่สะดุดตาที่สุดคือเนื้อหมู ดูก็รู้ว่าเพิ่งชำแหละออกมาจากหมูที่เพิ่งเชือดวันนี้

นางชะงักไป อาจจะคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าแม่โจวจะเอาของกลับมาเยอะขนาดนี้ ทำให้สติหลุดไป

จางซิ่วเอ๋อจึงดึงปลายเสื้อหยางชุ่ยฮวา “ยังไม่รีบขนเข้าไปในบ้านอีก เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าแล้วมีคนมาขอกินด้วยจะทำอย่างไรเจ้าคะ?”

คำพูดของจางซิ่วเอ๋อเตือนสติหยางชุ่ยฮวา นางจึงรีบพูดขึ้นมาอย่างลนลาน “ใช่ ๆๆ รีบขนของเข้าไปข้างในเร็ว อย่าให้ใครเห็นนะ”

หยางชุ่ยฮวาพูดพลางหิ้วเนื้อหมูมือหนึ่ง หิ้วกระดูกหมูมือหนึ่งวิ่งไปทางห้องเก็บฟืน

จางซิ่วเอ๋อเบ้ปาก มองชุนเถาและซานหยาที่ยืนอยู่ในบ้านแล้วบอก “ช่วยข้าขนของเข้าไปในบ้านหน่อย”

หยางชุ่ยฮวาเก็บเนื้อเรียบร้อย พอเห็นว่าหน้าบ้านไม่มีคนจึงคิดได้ว่าคงเข้าไปในบ้านกันแล้ว รถลากก็หายไปด้วย คงจะได้รับเงินและขับจากไปแล้ว

นางรีบเดินเข้าไปในบ้าน พูดพลางเบ้ปาก “พวกเจ้าจะกลับกันตอนไหน?”

เวลานี้หยางชุ่ยฮวาไม่ไล่แล้ว แค่จะถามว่าพวกนางจะกลับไปตอนไหน

ดูท่าเนื้อหมูนั่นคงมีประโยชน์อยู่

จางชุนเถาหิ้วตะกร้าไผ่ที่ใส่หมั่นโถวไว้และยื่นให้หยางชุ่ยฮวา ก่อนจะกล่าวอย่างองอาจ “หลังกินของพวกนี้หมดแล้วเราค่อยไป!”

“ป้าสะใภ้ใหญ่ ครั้งนี้พวกเราไม่ได้มากินเปล่า ๆ ของพวกนี้เราเอากลับมากินมาใช้” จางชุนเถาเสริม

ตามหลักแล้วถ้าคนทั่ว ๆ ไปโดนถากถางแบบนี้ต้องมีหน้าเสียแน่

แต่หยางชุ่ยฮวาเห็นหมั่นโถวมากมายขนาดนั้นก็หน้าบานเป็นกระด้ง

นางกลับพูดขึ้นมาอย่างเหนือความคาดหมาย “เดี๋ยวข้าจะตุ๋นกระดูกหมูให้พวกเจ้ากิน คืนนี้เรากินเจ้านี่แหละ!”

ในขณะที่คุยกันนั้นก็มีคนผลักประตูเข้ามา

จางซิ่วเอ๋อมองคนที่ถาโถมกันเข้ามา ก็พอรู้แล้วว่าคนเหล่านี้คือคนตระกูลโจว

คนผิวคล้ำผอมแห้งน่าจะเป็นโจวอู่

ส่วนคนชราที่หลังค่อมเล็กน้อย ผมหงอกขาวน่าจะเป็นโจวชางซุ่นบิดาของแม่โจว หญิงชราข้าง ๆ เขาที่ดวงตารื้นหยาดน้ำตาน่าจะเป็นแม่เฒ่าโจวมารดาของแม่โจว

“เหมยจื่อ! เจ้าจริง ๆ เหรอ? เจ้ากลับมาแล้ว!” แม่เฒ่าโจวเดินออกมาข้างหน้าพลางตาแดงก่ำ กอดแม่โจวไว้

“ท่านแม่ อย่าร้องไห้เลยเจ้าค่ะ พอท่านร้องไห้น้องรองก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย นางท้องอยู่นะเจ้าคะ” หยางชุ่ยฮวาเตือน

แม่เฒ่าโจวได้สติกลับมา มองหยางชุ่ยฮวาอย่างตะลึง

พวกเขารีบกลับมาก็เพราะได้ยินว่าแม่โจวกลับมาแล้ว กลัวว่าหยางชุ่ยฮวาจะหาเรื่องแม่โจว

แต่นอกจากเรื่องที่พวกเขากังวลจะไม่เกิด ตอนนี้หยางชุ่ยฮวากลับพูดหวังดีแบบนี้ได้ นี่มันหายากจริง ๆ

แม่เฒ่าโจวกวาดตามอง ก็เห็นหมั่นโถวตะกร้าหนึ่งในมือหยางชุ่ยฮวา

นางเข้าใจทันทีว่าทำไมหยางชุ่ยฮวาถึงเปลี่ยนท่าทาง แต่ก็ยังถามอย่างสงสัย “เหมยจื่อ นี่เจ้าซื้อมาเหรอ?” นางจำได้ว่าบ้านเหมยจื่อไม่ได้ร่ำรวยอะไร เมื่อก่อนไม่มีให้เหมยจื่อสักแดงเดียว แล้วเหมยจื่อจะซื้อหมั่นโถวมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?

แม่โจวเอ่ย “ข้าซื้อมาเองเจ้าค่ะ แล้วก็ซื้อเนื้อมาด้วย พี่สะใภ้บอกว่าคืนนี้จะให้ข้ากินข้าวที่นี่ และจะตุ๋นเนื้อให้ข้ากินด้วย”

แม่โจวพูดแล้วก็หันไปมองหยางชุ่ยฮวา

เวลานี้นางจะพูดว่ากินของหมดแล้วกลับไม่ได้ นางหวังว่าหยางชุ่ยฮวาจะไว้หน้ากันและกัน อย่างน้อยก็แกล้งทำเป็นญาติดีกันระหว่างพี่สะใภ้และน้องสามีสักหน่อย

หยางชุ่ยฮวาเป็นคนใจคอคับแคบ แต่เวลานี้เปลี่ยนนิสัยเพราะเห็นแก่ของกินจริง ๆ นางพยักหน้ายิ้ม ๆ ถือเป็นการรับรองว่าที่แม่โจวพูดเป็นเรื่องจริง

แม่เฒ่าโจวอุ่นใจขึ้นมา มีแต่ฟ้าที่รู้ว่านางกลัวว่าหยางชุ่ยฮวาและแม่โจวจะตีกันขนาดไหนระหว่างทางที่รีบกลับมา

แม่โจวสู้หยางชุ่ยฮวาไม่ได้แน่ นางไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองมาไกลขนาดนี้แล้วยังต้องมาโดนรังแกอีก

ตอนนี้ก็พลบค่ำแล้ว เสียงหยอกล้อกันดังเข้ามา ก่อนที่เด็กสาวหน้าคล้ำอายุสิบแปดสิบเก้า พาเด็กสองคนที่อายุเท่า ๆ กันเข้ามา

แม่นางผู้นี้ก็คือหนีจื่อน้องสาวคนเล็กของตระกูลโจว ส่วนเด็กสองคนปีนี้ 6 ขวบ คนนึงชื่อไหลฝู อีกคนชื่อไหลเป่า

คนโตเป็นผู้ชาย คนเล็กเป็นผู้หญิง

เด็กสองคนล้วนมีท่าทางผอมแห้งแรงน้อย

จางซิ่วเอ๋อจึงรู้ว่าตระกูลโจวนั้นยากจนจริง ๆ ไม่อย่างนั้นตามนิสัยหยางชุ่ยฮวาแล้ว จะไม่เลี้ยงลูกตัวเองให้มีเนื้อมีหนังได้อย่างไร?

…………………………………