ตอนที่ 79 : การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะทั้ง 5
3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็วและแล้วก็มาถึงวันสัมภาษณ์
หลังจากที่จ้าวเมิ่งซีและหวังเย่าแยกย้ายกันแล้ว พวกเขาก็ได้ไปยังสาขาของตัวเอง หวังเย่าได้ไปยังตึกผู้ตรวจสอบ ส่วนจ้าวเมิ่งซีได้ไปยังตึกการเมืองและกฎหมาย
ตอนที่หวังเย่ารีบไปสัมภาษณ์นั้น เขาก็พบว่ามีเด็กใหม่ที่มาสัมภาษณ์ค่อนข้างเยอะ มันมีหลายสิบคน บางคนยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ บางคนแสดงท่าทีกังวลออกมา
แต่ละคนต่างก็ได้หมายเลขของตัวเอง
หวังเย่าเองก็ได้บัตรคิวมา เขารออย่างอดทน หลังจากที่เล่นโทรศัพท์รอกว่า 3 ชั่วโมงสุดท้ายก็ถึงคิวที่เขาจะสัมภาษณ์สักที
เขาผลักประตูเข้าไปด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจปรากฏบนใบหน้า
“สวัสดีครับ ผม หวังเย่า จากโรงเรียนศิลาศักดิ์สิทธิ์ของเมืองอรุณ”
อาจารย์ทั้งสามคนพยักหน้า ชายคล้ายเหยี่ยวที่นั่งอยู่ตรงกลาง มีป้ายชื่อเขียนไว้ว่าจี้กวงเฮ่อได้พูดขึ้นมา “นั่งลงก่อนสิ”
“หวังเย่า อันดับหนึ่งในการแข่งขันของเมืองอรุณ”
อาจารย์ทั้งสามท่านมองไปที่จอด้านหลังหวังเย่า ซึ่งได้บอกข้อมูลส่วนตัวของหวังเย่าทั้งหมด เมื่อพวกเขาได้เห็นก็พากันแปลกใจ
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเมืองอรุณนั้นจะไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่ในการแข่งขันนี้การที่ได้อันดับ 1 มานั้นก็ไม่อาจจะประมาทได้
อาจารย์ทั้งสามพากันยิ้มออกมา นักเรียนส่วนมากที่สัมภาษณ์ผ่านมานั้นพวกเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ พวกเขาต้องการคนที่โดดเด่นกว่านั้น
ซึ่งหวังเย่านั้นประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม มันน่าจะมีกองกำลังใหญ่มายื่นข้อเสนอให้กับเขา นี่ไม่ต้องพูดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนเลย คนอย่างหวังเย่าจะต้องมีอนาคตที่สดใสเป็นแน่
“หวังเย่า นายบอกฉันได้มั้ยว่าทำไมนายถึงอยากเข้าสาขาผู้ตรวจสอบ ? ” ครั้งนี้พวกเขาถามออกมาเพราะความสงสัยจริง ๆ
หวังเย่ายิ้มออกมา “ก่อนการแข่งขัน โรงเรียนของผมได้พานักเรียนไปยังเขตลับ หลังจากได้เห็นสถานการณ์ที่นั่นแล้ว ผมก็ต้องการจะยึดครองเขตลับพวกนั้นบ้าง ผมอยากได้มิติภายนอกมาเป็นของตัวเอง การจะทำแบบนั้นได้ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพและสะดวกที่สุดคือต้องเป็นผู้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ”
อาจารย์ทั้งสามมองหน้ากันด้วยสีหน้าชื่นชม จี้กวงเฮ่อได้พูดขึ้น “ฉันต้องบอกว่านี่คือคำตอบที่น่าพอใจที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา แม้ว่าเป้าหมายนี้จะดูเกินตัว และยากจะสำเร็จได้ แต่เราสามคนก็ขออวยพรให้นายทำได้ตามที่หวัง เพราะมันคือแผนการที่ทุกคนต้องการ เพื่อต้านทานกับยุคสัตว์อสูร”
“ขอบคุณครับ” หวังเย่าพอใจอย่างมาก ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่ล้อเลียนเขาแต่กลับให้กำลังใจเขาด้วย มันทำให้เขาตื้นตันจนอยากจะเข้าสาขานี้มากกว่าเดิม
จี้กวงเฮ่อพยักหน้าและถามคำถามที่สองซึ่งแทงใจดำหวังเย่าไม่น้อย
“แล้วนายจะทำแบบนั้นสำเร็จได้ยังไง ? ”
หวังเย่าไม่ได้ลนลาน เขาคิดสักพักก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “ก่อนอื่นต้องเป็นผู้ตรวจสอบที่เก่งที่สุด อย่างที่สองคือเพื่อความปลอดภัยของชีวิตแล้ว ต้องมีความแข็งแกร่งของตัวเองด้วย ตราบใดที่สองเงื่อนไขนี้ผ่าน งั้นมันก็ไม่มีปัญหาอะไร”
จี้กวงเฮ่อพอใจกับคำตอบนี้ เขาจึงได้ถามคำถามสุดท้ายออกมา “แล้วนายคิดยังไงกับโลกในตอนนี้ ? ”
นี่คือคำถามสำคัญ มันตอบได้หลายทาง คำตอบของทุกคนจึงแตกต่างกันไป
หวังเย่าคิ้วขมวด เขาครุ่นคิดอยู่สักพัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงได้ถามคำถามแบบนี้ออกมา แต่ก็ยังตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “มุมมองของผมน่ะเรียบง่าย มันคือการคัดสรรของธรรมชาติ ผู้ที่อ่อนแอก็ได้กลายเป็นอาหารให้ผู้ที่แข็งแกร่ง สถานการณ์ของมนุษย์ไม่สู้ดีนัก แต่แม้ว่าเราจะเสียเปรียบและโดนขังไว้ในเมือง แต่ตราบใดที่สถานการณ์ยังไปไม่ถึงจุดที่แก้ไขไม่ได้ งั้นเราก็มีเวลาที่จะพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมาได้”
“ พวกที่แข็งแกร่งมีเป้าหมายคือการอยู่รอด และในด้านนี้มนุษย์น่ะฉลาดกว่า พวกเรารู้ว่าควรจะต้องทำยังไง”
“นายตอบได้ดีและเรียบเรียงเหตุผลได้ถูกต้อง นายผ่านการสัมภาษณ์ ด้วยความแข็งแกร่งและความสามารถของนายแล้ว ฉันจะให้นายอยู่ในห้อง A ห้องที่ฉันสอน” หลังจากที่อาจารย์ทั้งสองคนตกลง จี้กวงเฮ่อก็พูดขึ้นต่อ “ยินดีต้อนรับ”
หวังเย่าลุกขึ้นยืนและโค้งให้ทันที
“ชีวิตใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” หวังเย่าแสดงสีหน้าคาดหวังออกมา
…
สาขาตรวจสอบนั้นมีหลายชั้นเรียน ตามความแข็งแกร่งของชั้นเรียนแล้ว ชั้น A คือชั้นเรียนที่ดีที่สุด คุณภาพของอาจารย์และนักเรียนนั้นยอดเยี่ยมที่สุด
หวังเย่ามีเรียน 4 คาบในช่วงเช้าก่อนจะไปหมกตัวอยู่ในห้องสมุด สุดท้ายก็มาออกกำลังกายในตอนเย็น
ในพริบตาก็ผ่านไปกว่า 2 เดือน
ในวันที่ 11 ของเดือนพฤศจิกายน มันเป็นวันพิเศษ ซึ่งมันก็คือวันของคนโสด
ในอดีตนั้นหวังเย่าตัวคนเดียว ในวันนี้ของทุก ๆ ปีเขาต้องเจ็บปวดใจและโดนล้อเลียนต่าง ๆ นานา แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ไม่ใช่แค่เขามีแฟนแล้ว แต่แฟนของเขายังได้รับการยอมรับว่าเป็นคนที่สวยที่สุดของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ตั้งแต่ที่กินบัวหิมะเข้าไป ความสูงส่งและความสง่างามของจ้าวเมิ่งซีก็ดูมากขึ้นกว่าเก่า ตอนนี้ผู้หญิงคนอื่น ๆ ไม่อาจจะเทียบเธอได้เลย
ดังนั้นหวังเย่าจึงมีคนมาหาเรื่องเขาไม่เว้นแต่ละวัน เพราะมีหลายคนคิดว่าเขาไม่คู่ควรกับจ้าวเมิ่งซี และถึงกับขอให้เขาพาไปทำความรู้จักกับจ้าวเมิ่งซี ซึ่งตอนนี้สถานการณ์มันแย่ลงไปเรื่อย ๆ
ต่อหน้าคำขู่และการทำร้ายต่าง ๆ แล้ว หวังเย่ายังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ เขาไม่ได้หวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้เขากดดันอย่างมาก ชีวิตที่สงบสุขในมหาวิทยาลัยนั้นกลับเต็มไปด้วยคนที่อาฆาตเขา ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทว่าผลลัพธ์นี้กลับดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้ซะอีก
หลังจากปัญหาที่ไม่รู้ว่ามีมากมายเท่าไหร่ได้ถาโถมเข้ามา ตอนนี้หวังเย่าก็ปรับตัวกับมันได้แล้ว ร่างกายของเขาในตอนนี้ถือว่าเติบโตได้ถึงขีดสุด
ในวันนั้นเขาได้ใช้มีดกรีดที่อกของตัวเอง เมื่อเลือดไหลออกมา เขาก็ใช้หินห้าสีกดลงไปที่แผล
ตอนนั้นหินกลับส่องแสงออกมา ทั้งห้องจมไปกับแสงนี้ ลำแสงห้าสีได้ไหลออกมาและเข้าไปในร่างของหวังเย่า ก่อนจะกระจายตัวออกไปตามอวัยวะต่าง ๆ และชำระล้างสิ่งปนเปื้อน
สักพัก หวังเย่าก็รู้สึกว่าอวัยวะทั้งห้านั้นสั่นไหวราวกับมีไฟช็อตไปทั่วตัวเขา พลังทั้งห้านั้นมีพลังที่แปลกประหลาดและน่าเหลือเชื่อ มันได้ขับของเสียทั้งหมดออกมา จนตอนนี้ความแข็งแกร่งของอวัยวะทั้งห้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาขึ้นไปต่อ…
จากนั้นหวังเย่าก็พบว่าสายตาของเขาดีขึ้น การทำงานของตับเองก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่ต้องใช้พลังธรรมชาติของหงอคงก็สามารถใช้แรงมหาศาลออกมาได้
เพราะไตที่ดีขึ้นมาจึงทำให้ฮอร์โมนเพศชายนั้นเพิ่มมากขึ้นไปด้วย มันทำให้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาอย่างมาก
เมื่อความแข็งแกร่งของปอดเพิ่มขึ้นจึงทำให้เขาหายใจช้าลง เขาถึงกับรู้สึกว่าเขาสามารถกลั้นหายใจในน้ำได้นานเป็น 10 นาที