เล่มที่ 3 บทที่ 77 โจรตะโกนเรียกจับโจร

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เมื่อหลัวซื่อเห็นว่า แม้ตัวเองจะยกหัวหน้าหมู่บ้านขึ้นมาขู่ แต่เซี่ยยวี่หลัวยังคร้านจะสนใจนาง เพลิงโทสะก็โหมไหม้อย่างหนัก “ต้าจ้วง ไปหาหัวหน้าหมู่บ้าน บอกว่ามีคนบุกเข้าบ้านเรามาก่อความวุ่นวาย ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าที่บุกมาก่อความวุ่นวายถึงบ้านข้า ข้าจะทำได้แค่ฝืนทนกล้ำกลืนความโมโหอยู่เพียงเท่านี้!”

เซียวต้าจ้วงขานรับก่อนวิ่งออกไป วิ่งไปพลางตะโกนไปพลาง “ช่วยด้วย เซียวจื่อเซวียนมาก่อความวุ่นวายที่บ้านข้า ช่วยด้วย…”

เขาวิ่งอย่างรวดเร็วและรีบร้อน เหมือนคนที่เมื่อครู่ยังร้องโอดโอยที่ไหนกัน

เมื่อชาวบ้านที่อยู่ในบ้านได้ยิน ต่างก็ทยอยกันวิ่งมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

เซียวต้าจ้วงร้องไห้พลางกล่าว “ท่านลุงท่านอา เซียวจื่อเซวียนบุกมาบ้านข้าแล้วปาก้อนหินใส่ข้า พี่สะใภ้ใหญ่ของเขาก็บุกมาที่บ้านข้า ไม่ยอมออกไป…”

เถียนเอ๋อเดิมทีก็เคยพลาดท่าให้เซี่ยยวี่หลัวมาหนึ่งครั้ง เมื่อได้ยินว่าเซี่ยยวี่หลัวและเซียวจื่อเซวียนก่อเรื่องอีกแล้ว จึงตบต้นขาพร้อมกล่าว “ข้าบอกแล้วว่าเซี่ยยวี่หลัวนั่นไม่ใช่คนดี ตอนนี้ก็ยังกล้าบุกไปก่อเรื่องถึงบ้านคนอื่น ไปกัน พวกเราไปช่วยแม่ต้าจ้วงทวงคืนความยุติธรรม! มันน่านัก”

คนกลุ่มหนึ่งมุ่งหน้าไปทางบ้านของต้าจ้วง เมื่อต้าจ้วงเห็นว่ามีคนมากขนาดนี้ช่วยสนับสนุนมารดาของตนเอง จึงวิ่งไปหาหัวหน้าหมู่บ้านด้วยท่าทางได้ใจ

เซี่ยยวี่หลัวยังนั่งกอดเซียวจื่อเซวียนอยู่ภายในลานบ้านของหลัวซื่อ ไม่ว่าหลัวซื่อจะก่นด่าอย่างไร เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่สนใจ

ไม่ห่างนักมีเสียงชาวบ้านพูดคุยกันดังแว่วมา หลัวซื่อจึงไม่ด่าอีก นางคิดแผนการบางอย่างได้จึงรีบกอดเสี่ยวฮวานั่งลงบนพื้น ร่ำไห้เสียงดังทันที “ฮือฮือ ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว คนอื่นมาหาเรื่องถึงหน้าบ้านข้าแล้ว ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว…”

เถียนเอ๋อพุ่งพรวดเข้ามาเป็นคนแรก เห็นหลัวซื่อกำลังกอดเสี่ยวฮวาร้องไห้อยู่ ก็ร้องโวยวายขึ้นมา “แม่เสี่ยวฮวา เจ้ากับเสี่ยวฮวาเป็นอะไรไป? ไม่บาดเจ็บใช่หรือไม่? กลางวันแสกๆ ทำไมถึงมีคนบุกมาก่อความวุ่นวายถึงในบ้านกัน?”

เมื่อหลัวซื่อเห็นว่ามีคนมาแล้ว ก็คว้าตัวเถียนเอ๋อพลางร่ำไห้อย่างหนัก “เซียวจื่อเซวียนนั่น บุกมาบ้านข้า ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ปาหินใส่ต้าจ้วงของข้า ต้าจ้วงของข้าถูกปาหินใส่จนร้องไห้ เจ้าคิดดูสิว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เซียวจื่อเซวียนชี้ไปที่หลัวซื่อพร้อมโต้แย้ง “แม่ของเสี่ยวฮวาเป็นคนตีข้า!”

หลัวซื่อครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว จู่ๆ ก็กล่าว “เซียวจื่อเซวียน เจ้าอย่ามาปรักปรำข้า พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าเป็นคนตีเอง เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย! “

แบบนี้เหมือนโจรตะโกนเรียกจับโจรชัด ๆ !

“เจ้าบุกมาบ้านข้า ปาหินใส่ลูกชายข้า ข้าจะหยุดเจ้า พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าก็ตามมา ได้ยินว่าเจ้าทำเรื่องไม่ดี พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าจึงลงมือสั่งสอนเจ้า เกี่ยวอะไรกับข้า! ” ด้วยฝีปากของหลัวซื่อ สีดำนางยังพูดให้เป็นสีขาวได้

เซียวจื่อเซวียนเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ถูกขังไว้ “ท่านเป็นคนตีข้าชัด ๆ ! “

เซียวจื่อเมิ่งก็ร้องไห้พร้อมกล่าว “พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ตีพี่รอง แม่เสี่ยวฮวาเป็นคนตี! ฮือฮือ…”

เสี่ยวฮวาที่อยู่ข้างๆ ก็ตะโกน “พี่สะใภ้ใหญ่ของเขาเป็นคนตี ไม่เกี่ยวอะไรกับท่านแม่ของข้า! “

เวลานี้ คนที่ลงมือตียืนกรานว่าไม่ได้ตี คนที่ไม่ได้ตีกลับถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนตี

ตอนนี้ต้าจ้วงกับหัวหน้าหมู่บ้านก็มาถึงแล้ว

หัวหน้าหมู่บ้านของหมู่บ้านนี้ก็แซ่เซียวเหมือนกัน ชื่อว่าเซียวจิ้งยี่ อายุห้าสิบกว่าปี เส้นผมมีสีขาวแซม แววตาหนักแน่น เวลานี้เขายืนอยู่ในลานบ้านของหลัวซื่อ

ทั้งสองฝ่ายต่างนั่งอยู่ ระหว่างทางที่มา ต้าจ้วงก็บอกเขาว่าเซียวจื่อเซวียนบุกมาที่บ้าน มาตีเขา แล้วเซี่ยยวี่หลัวก็ตามมา จากนั้นก็อยู่ที่บ้านเขาไม่ยอมออกไป

“หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านมาเสียที ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเราสามแม่ลูกด้วย เซียวจื่อเซวียนนั่น บุกมาบ้านข้าปาหินใส่ต้าจ้วง หลังจากข้าขัดขวาง เซี่ยยวี่หลัวก็ตามมา จึงสั่งสอนเซียวจื่อเซวียน ตอนนี้ถูกตีจนมีสภาพแบบนี้ แล้วก็มาบอกว่าข้าเป็นต้นเหตุ อยู่บ้านข้าไม่ยอมไป ฮือฮือ… หัวหน้าหมู่บ้าน!” หลัวซื่อสะอื้นไห้พลางกล่าว

เซียวจิ้งยี่มองดูต้าจ้วง วิ่งได้กระโดดโลดเต้นได้ เหมือนคนบาดเจ็บที่ไหนกัน และบนตัวหลัวซื่อกับเสี่ยวฮวาก็ไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย กลับเป็นเซี่ยยวี่หลัวและเซียวจื่อเซวียนที่อยู่ตรงข้าม…

แก้มของเด็กสองคนถูกตีจนบวม

“ลองบอกมา ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?” เซียวจิ้งยี่กล่าวด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขาม “คนที่กระทำผิด ข้าจะลงโทษแน่นอน แต่หากพูดปดใส่ร้ายผู้อื่น ข้าก็จะไม่ละเว้นเช่นกัน! “

วาจาของเขาทำให้หลัวซื่อตัวสั่นทีหนึ่ง แต่นางพูดออกมาเช่นนั้นแล้ว ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงคำพูด

“หัวหน้าหมู่บ้าน เซียวจื่อเซวียนเป็นคนตีลูกชายข้า เซี่ยยวี่หลัวจึงตีเซียวจื่อเซวียนอย่างหนัก ตอนนี้กลับบอกว่าตีหนักเกินไป จึงอยู่ที่บ้านข้าไม่ยอมไป! ” หลัวซื่อกล่าว

เซียวจื่อเมิ่งร้องไห้พร้อมกล่าว “ท่านโกหก ไม่ใช่แบบนั้นเสียหน่อย! พี่รองถูกท่านตีต่างหาก!”

หลัวซื่อโต้กลับ “เจ้าเห็นข้าตีพี่รองของเจ้าหรือ? เจ้าอย่ามาพูดจาเหลวไหล! “

“จื่อเซวียน เจ้าลองบอกข้าว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เซียวจิ้งยี่หันมองเซียวจื่อเซวียน

วาจาของหลัวซื่อ เขาย่อมไม่เชื่อ

เสี่ยวฮวาและต้าจ้วง เด็กสองคนถูกนางอบรมสั่งสอนจนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา เซียวจื่อเซวียนจะตีต้าจ้วง? ถ้าให้พูดกลับกันเขาคงเชื่อ

“ท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้าน เรื่องเป็นเช่นนี้ขอรับ! ” เซียวจื่อเซวียนฝืนทนความเจ็บที่มุมปาก บอกเล่าต้นสายปลายเหตุทั้งหมดโดยละเอียด

เซียวจิ้งยี่ฟังจนจบแล้วจึงหันมองหลัวซื่อ “ที่เขากล่าวมาเป็นความจริงหรือไม่? เพราะต้าจ้วงผลักจื่อเมิ่งแย่งหมวกมา เขามาเพื่อทวงคืน อีกทั้งเจ้ายังบอกว่าเด็กสองคนนี้มีพ่อแม่ให้กำเนิดแต่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอน?”

เซียวจิ้งยี่ถลึงตาโต จ้องมองหลัวซื่อด้วยอารมณ์โมโหเกรี้ยวกราด

หลัวซื่อยังฝืนกล่าวต่อ “หัวหน้าหมู่บ้าน เขาโกหก เซียวจื่อเซวียนถูกเซี่ยยวี่หลัวตี ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”

เซียวจิ้งยี่ยังไม่ทันกล่าวอะไรอีก ก็ได้ยินหลัวซื่อร่ำไห้โวยวาย “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านจะเชื่อแต่พวกเขา ไม่เชื่อคำพูดของข้าไม่ได้ พวกเขาบอกว่าข้าตีพวกเขา แต่พวกเราไม่ได้ตีพวกเขา หากท่านไม่มีหลักฐาน ก็เข้าข้างพวกเขาฝ่ายเดียวไม่ได้! “

เถียนเอ๋อก็ช่วยพูดอีกแรง “จริงด้วย จริงด้วย หัวหน้าหมู่บ้าน ผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กสองคน ต่างฝ่ายต่างมีกันสามคน ต่างก็บอกว่าตัวเองมีเหตุผล เมื่อไม่มีหลักฐาน ไม่ว่าคำพูดของใครก็อาจเป็นเรื่องจริงได้ทั้งนั้น! “

ชาวบ้านที่มุงดูต่างพยักหน้า

ก็จริงไม่ใช่หรือ?

“ไม่แน่ว่าเซียวจื่อเซวียนอาจโดนพี่สะใภ้ใหญ่ของเขาตีจริงก็ได้ เมื่อก่อนพี่สะใภ้ใหญ่ของเขาก็ตีเขาอยู่บ่อยครั้งไม่ใช่หรือ? แบบนี้อาจจะตีหนักเกินไป จึงเอาแต่อยู่ที่บ้านหลัวซื่อไม่ยอมไปก็เป็นได้! ” มีคนกล่าวขึ้นมา

“จุ๊จุ๊ พวกเจ้าลองคิดดู ทำไมถึงมีคนเช่นนี้ หน้าตาออกจะดูดี แต่ทำไมจิตใจถึงร้ายยิ่งนัก? เมื่อก่อนตีก็แค่ตี ตอนนี้ยังรู้จักใส่ร้ายคนอื่น ช่างร้ายเหลือทนจริงๆ! “

เซียวจื่อเมิ่งและเซียวจื่อเซวียนเห็นคนอื่นปรักปรำพี่สะใภ้ใหญ่ รีบตะโกนพร้อมกัน “ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้ตี แม่เสี่ยวฮวาเป็นคนตี! “

แต่ไม่มีคนเชื่อ

อย่างไรเสียเซี่ยยวี่หลัวในอดีต…