บทที่ 83 ขอความช่วยเหลือ![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 83 ขอความช่วยเหลือ![รีไรท์]

เพียงแค่ชายคนเดียวที่เพิ่งกินเม็ดยาเข้าไปแล้วมันได้ผล ทำให้ทุกคนดูตื่นเต้นและดวงตาของพวกเขาร้อนฉ่า ไข่มุกสีทองนี้ ไม่สิ มันไม่ควรจะเป็นแค่เม็ดยา

มันวิเศษมากที่แม้แต่ ‘อาการนกเขาไม่ขัน’ ก็สามารถรักษาหายได้ทันที คนเหล่านี้อยู่ในร้านค้า ตลาด และวงการบันเทิงมากมาย

หลังเลิกงาน ภายในท้องของพวกเขาก็เหมือนโพรงที่เติมลงไปด้วยเหล้าทุกๆ วัน หนึ่งในคนเหล่านี้มักจะเป็นโรค ‘สามสูง’ หมายถึง น้ำตาลในเลือดสูง คลอเรสเตอรอลสูง และความดันโลหิตสูง หรือไม่ก็เป็นโรคเบาหวาน

ยิ่งกว่านั้น ถ้าเขากินไข่มุกทองคำเข้าไปก็จะไม่มีใครได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคยอดนิยมทั้งสามโรคและหกโรคเรื้อรังอีก

ดังนั้น ในสายตาของพวกเขาไม่มีอะไรมีค่ามากยิ่งไปกว่ายาเม็ดนี้ พวกเขาต่างดีใจมากราวกับพวกเขาได้รับน้ำยาเทวะ และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ลืมที่จะขอบคุณฉู่ชวิ๋นที่แสวงหายารักษาโรคมาให้

แน่นอนว่าทุกคนพูดอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความมุ่งมั่น เช่นมองหาตำแหน่งให้ฉู่ชวิ๋นในเมืองหยุนหยานในอนาคตต่อไป

ฉู่ชวิ๋นพยักหน้าเล็กน้อย

เขาไม่สนใจว่าคนเหล่านี้จะให้อะไรเขาในอนาคต เขาแค่ไม่ต้องการเป็นหนี้บุญคุณใคร หลังจากได้รับความอนุเคราะห์ที่เรียบง่าย พยัคฆ์ซูก็สั่งให้คนของตนส่งชายร่างใหญ่ผู้หลงระเริงหลายสิบคนออกไปจากบ้าน

……

……

“ลูกพี่ ของขวัญของพี่มันมีค่ามากเกินไปหรือเปล่า?” ซูฟานมองดูในมือของฉู่ชวิ๋นที่เต็มไปด้วยไข่มุกทองคำมากกว่า 10 เม็ด

“มันไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่มีวัตถุดิบ ฉันก็สามารถปรุงได้ตลอดเวลา” ฉู่ชวิ๋นพูดอย่างชัดเจน

“ลูกพี่ ความเคารพที่ผมมีต่อพี่มันเหมือนสายน้ำไหลยาวไม่ขาดตอนเลยนะ” ซูฟานเข้ามาและมองดูไข่มุกทองคำในมือของฉู่ชวิ๋นพร้อมน้ำลายไหล “มันอร่อยไหม?”

ปากของฉู่ชวิ๋นตึง เขาพูดด้วยความโกรธ “นายไม่เจ็บป่วยหรือร่างกายเสียหาย จะเอามันไปทำไม?”

“ใครบอกว่าอย่างนั้นเล่า ผมเจ็บนะ ดูสิ” ซูฟานเหยียดแขนของเขาไปที่ฉู่ชวิ๋นพลางชี้ไปที่จุดสีแดงเล็กๆ แล้วพูดว่า “ถูกมดกัดเมื่อคืนนี้น่ะ”

“ไสหัวไป!” ฉู่ชวิ๋นตะโกนออกมา พร้อมรอยย่นบนหน้าผากสามเส้น

“ลูกพี่ ขอลองชิมหน่อยนะ เม็ดนึง” ซูฟานไม่ยอมแพ้

ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางเลือกนอกจากโยนให้เขา 2 เม็ด ซูฟานไม่อาจรอที่จะสวาปามมันลงไปได้ เขาย่นจมูกและคิ้ว จากนั้นก็ตะโกนว่า “ทำไมมันขมขนาดนี้ละ?”

อันที่จริงแล้วมันไม่ได้ขมมากนัก แต่ซูฟานกลัวขมมาตั้งแต่เด็ก

“สกัดจากโสมโบราณบริสุทธิ์ ดูดซึมอย่างรวดเร็วมันมีประโยชน์สำหรับการฝึกยุทธ์ของนาย เก็บอีกอันไว้ใช้ในอนาคตด้วย”

หลังจากที่ฉู่ชวิ๋นพูดจบ เขาก็แบ่งไข่มุกทองคำออกเป็น 2 เม็ดและมอบให้กับพยัคฆ์ซู

พยัคฆ์ซูไม่ใช่คนหน้าไหว้หลังหลอกเขายอมรับอย่างไม่เห็นแก่ตัวและใบหน้าเขาดีใจมาก ใบหน้าของเขาดูมีความสุข มันมีค่าเกินไป ต่อให้ฉู่ชวิ๋นจะไม่ให้ เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่อีกฝ่ายกลับให้เขามาถึง 2 เม็ด!

ฉู่ชวิ๋นกำลังตามหาฮวาชิงหวู่ ในขณะเดียวกันก็มีนายทหารวิ่งเหยาะ ๆ มาที่เขา

“คุณฉู่ โทรศัพท์ของคุณครับ”

“ขอบคุณ!” ฉู่ชวิ๋นรับโทรศัพท์มา

เขาอยู่ที่ก้นภูเขาผีเสื้อเป็นเวลา 1 เดือน โทรศัพท์ของเขาแบตหมด เมื่อเขามาที่บ้านของตระกูลซู เขาก็มอบโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายเพื่อชาร์จแบต เขากลัวว่าเฉินฮั่นหลงจะหาเขาไม่เจอ

เมื่อเปิดโทรศัพท์มันก็เสียงดังสนั่นตลอดเวลาทันที สายที่ไม่ได้รับหลาย 10 สาย และข้อความนับร้อย

“พี่ฉู่ชวิ๋น พี่อยู่ที่ไหน? ทำไมฉันติดต่อพี่ไม่ได้?” นี่คือข้อความของถางโร้ว

“นายท่าน กระผมและคุณหญิงถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้วครับ” นี่คือข้อความของผู้อาวุโส

“นายท่านผมซุนหยิง คุณห้ามลืมนะถ้าคุณมีอะไรให้ผมทำบอกมาเลย ต่อให้บุกน้ำลุยไฟผมก็จะทำ!” ข้อความของซุนหยิง

นอกจากนี้ยังมีข้อความจากหลี่เทียน เจิ้งก่วงอี้ ไป๋เหรินเจี๋ย และไป๋เหรินฉง แต่มีหนึ่งในข้อความที่ทำให้ดวงตาของฉู่ชวิ๋นหรี่ลงเล็กน้อยส่งมาจาก เฉินฮั่นหลง กล่าวว่า “มีข่าวที่นายท่านกำลังหาอยู่” ข้อความนี้ถูกส่งมาครึ่งเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีข้อความจากเฉินฮั่นหลงเมื่อวานนี้ หลังจากการเปิดอ่านพบว่า “นายท่านช่วยด้วย…”

ฉู่ชวิ๋นรีบโทรกลับทันที แต่โทรศัพท์มือถือของเฉินฮั่นหลงไม่สามารถติดต่อได้ และฉู่ชวิ๋นก็ไม่สามารถติดต่อเจิ้งก่วงอี้ได้เช่นกัน

เกิดอะไรขึ้น?

คำพูดสุดท้ายของเฉินฮั่นหลง เรื่องขอความช่วยเหลือ เขาจะต้องรีบไปช่วย มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดแน่ ๆ

“มีอะไรที่ผมพอจะช่วยคุณได้บ้างไหม?” พยัคฆ์ซูสังเกตและท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา จึงถามขึ้น

“ผมต้องกลับไปกู่เจียง”

เมืองกู่เจียงเป็นฐานที่มั่นของเขา เขาใส่ใจคนของเขาและเขารู้ว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหน

“ลูกพี่ ผมจะไปกับพี่ด้วย” ซูฟานผู้ดูดซับน้ำยาเทวะเสร็จแล้วก็กระโดดขึ้นแล้วทำท่าทางร้องห่มร้องไห้

ฉู่ชวิ๋นลังเล ปากของซูฟานอาจทำให้เกิดปัญหาได้ ซูฟานเป็นคนฉลาดมาก เขารู้ว่าสิ่งที่ฉู่ชวิ๋นกังวลคืออะไร เขาจึงมุ่งมั่นที่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

ถึงแม้ว่าฉู่ชวิ๋นจะสงสัยในตัวเขามาก แต่ในที่สุดก็ตอบตกลง เพราะถึงฉู่ชวิ๋นจะไม่พาเขาไป แต่ซูฟานก็ไปเองได้ แน่นอนพยัคฆ์ซูไม่มีปัญหา ซูฟานติดตามฉู่ชวิ๋นไปอย่างกระตือรือร้น

……

นักพนันสาวเพิ่งจะพาฮวาชิงหวู่กลับมาจากการชมวิวทิวทัศน์ ฉู่ชวิ๋นจึงอธิบายสถานการณ์ให้เธอฟังอย่างคร่าว ๆ ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าฉู่ชวิ๋นจะกลับไปก่อน ส่วนฮวาชิงหวู่จะจัดการธุระที่นี่ให้เสร็จก่อน

นักพนันหญิงยังคงอยู่ปกป้องฮวาชิงหวู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปร่วมสนุกด้วย ซึ่งทำให้ซูฟานมีความสุขจนแหกปากดังสนั่นทำให้คนอื่น ๆ แก้วหูแทบแตก

มีพยัคฆ์ซูและชายร่างใหญ่คนอื่น ๆ อยู่ในหยุนหยาน ฉู่ชวิ๋นก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฮวาชิงหวู่มากนัก

ซูฟานทำงานรวดเร็วมาก สามารถจัดการหาตั๋วเครื่องบินได้เรียบร้อย

เวลาออกเดินทางคือ 1 ชั่วโมงต่อมา รถจิ๊ปทหารกำลังเร่งเครื่องไปตามท้องถนน 1 ชั่วโมงต่อมาฉู่ชวิ๋นและซูฟานก็ขึ้นเครื่องบินไปยังเมืองกู่เจียงเรียบร้อยแล้ว

……

……

เมืองกู่เจียง สำนักงานใหญ่เหยี่ยวมังกร!

คฤหาสน์ที่ซึ่งครอบคลุมพื้นที่หลายพันตารางเมตร ขณะนี้เต็มไปด้วยในซากปรักหักพัง ร่างทั้งสี่กำลังเหาะไปในทิศทางที่สลับสับเปลี่ยนและต่อสู้ไปด้วย

สนามหญ้าบนพื้นยกขึ้นด้วยความรุนแรง และพื้นกระเบื้องก็ระเบิด

ตู้ม! เสียงการปะทะดังขึ้น ทั้งสี่คนกระจัดกระจายออกไป

มีหนึ่งคนสะดุดเล็กน้อยหลังจากลงมาที่พื้น และกระโดดไปข้าง ๆ คฤหาสน์ที่แตกหักเสียหาย

“หยุด!”

“แกหนีไม่พ้นหรอก!” ทั้งสามตะโกนและไล่ล่าไปในเวลาเดียวกัน

ที่มุมห้องโถงของคฤหาสน์มีรูอยู่ที่พื้น สามารถเห็นได้ว่ามีบันไดหินที่นำลงไปสู่ห้องใต้ดินที่เป็นฐานลับ ก่อนที่จะรีบพุ่งเข้าไปในฐานลับ อีก 3 คนตามหลังไปในไม่ช้า แต่หยุดที่ปากทางเข้า ใบหน้าของพวกเขาเศร้าหมอง

“ให้ตายเถอะ ปล่อยให้มันหนีรอดไปอีกแล้ว” หนึ่งในนั้นพูดด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราด

“เป็นเพราะค่ายกลบ้านั่น” ใครบางคนกัดฟัน และมองอย่างระมัดระวัง มีโล่แสงปกคลุมอยู่ในรู ตราบใดที่ผู้คนอยู่ใกล้มันแสงก็จะสะท้อนออกมา

พวกเขาบาดเจ็บและแพ้เป็นครั้งแรกก็เพราะค่ายกลนี้

“ไม่รู้ว่าไอ้พวกลัทธิเต๋าเห่ย ๆ จะสามารถแก้ค่ายกลนี้ได้เมื่อไหร่” เสียงของผู้ชายแหบห้าวและเต็มไปด้วยความไม่พอใจดังขึ้น “เมื่อไหร่ที่สามารถทำให้ค่ายกลเสียหายได้ ฉันจะตามไปบีบคอมัน!”

อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาถูกแกล้งอย่างอนาถในสองวันที่ผ่านมา พลังของผู้ชายคนนั้นเหมือนกับพวกเขาขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 แต่ท่าทางของเขาดูไม่ค่อยเชี่ยวชาญ เขาแอบมาที่นี่เป็นครั้งคราว

หากเขาได้รับบาดเจ็บก็จะซ่อนตัวอยู่ในค่ายกล อาศัยดื่มน้ำยาเทวะที่มีพลังเหนือธรรมชาติและก็หนีไปตอนที่บาดเจ็บ มันทำให้พวกเขาโกรธมาก แต่พวกเขาก็ยังคงจับไม่ได้ ซึ่งมันทำให้พวกเขาแทบคลั่ง ร่างก่อนหน้านั้นวิ่งเข้าไปในถ้ำและเข้าไปในห้องใต้ดินตามขั้นบันไดหิน

……

“ผู้อาวุโสโม่!”

เฉินฮั่นหลงคือคนที่มาช่วยเขา และคนที่บาดเจ็บคือ โม่ซิงเหอ

นอกจากนี้ยังมีพ่อและลูกชายของเจิ้งก่วงอี้ ซุนหยิงและไท้ถานอยู่ที่ชั้นใต้ดิน เฉินฮั่นหลงหยิบขวดบางอย่างออกมา ซึ่งเป็นน้ำยาเทวะสำหรับใช้รักษาอาการบาดเจ็บส่งให้โม่ซิงเหอ

ปากของโม่ซิงเหอนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด สีหน้าของเขาเหี่ยวแห้ง เขาเงยหน้าขึ้นมองและดื่มน้ำยาเทวะลงไป เห็นได้ชัดว่าบาดแผลร่างกายเขากำลังสมานตัวเองอย่างรวดเร็ว

“ฉันมันไม่ได้เรื่อง ไม่มีความสามารถทำให้นายท่านวางใจได้เลย!” โม่ซิงเหอละอายใจ เมื่อฉู่ชวิ๋นจากไป เขาเป็นคนคอยดูแลความปลอดภัยให้กับคนเหล่านี้ แต่ตอนนี้กลับถูกขับไล่ให้มาหลบอยู่ในชั้นใต้ดิน

“อย่าโทษตัวเองเลย” เจิ้งก่วงอี้อยากจะปลอบใจ แต่ก็พูดได้เพียงเท่านั้น

“ถ้านายท่านกลับมาเมื่อไหร่ ไอ้พวกนี้ต้องตาย!” ซุนหยิงต่อยกำแพงด้วยความโกรธ

สำนักเหยี่ยวมังกรของเขาพ่ายแพ้ สมาชิกทั้งหลายถูกจับและหลบหนี ตอนนี้เขากับไท้ถานเป็นพวกเดียวที่ยังเหลืออยู่ เฉินฮั่นหลงถอนหายใจและยิ้มอย่างขมขื่น

“เราคงอยู่รอดได้ไม่กี่วัน น้ำยาเทวะเหลือเพียง 3 ขวดเอง ถ้าเรายังอยู่แบบนี้ต่อไปแม้ว่าพวกนั้นจะไม่ฆ่าเรา เราก็คงตายด้วยการอดน้ำอดอาหารเพราะเสบียงเราไม่เพียงพอ”

“ไอ้พวกนี้มันเป็นใครกันแน่” เจิ้งก่วงอี้รู้สึกสงสัย

ผู้คนต่างก็รู้สึกสับสน คนเหล่านี้จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น แล้วพบเฉินฮั่นหลงคนแรก

พวกมันขอสูตรของน้ำยาเทวะ พวกมันมาเพื่อน้ำยาเทวะ!

“ฉันจะลองดูว่าจะแอบออกไปนำอาหารกลับมาได้ไหม”

โม่ซิงเหอโกรธมาก เขาเหมือนหนูที่ติดกับ ทั้งที่เป็นขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 เขาต้องการออกไปหาฉู่ชวิ๋น แต่กลับถูกขัดขวางหลายครั้ง

“ถ้าเราสามารถชาร์จแบตมือถือได้ก็คงดี” เจิ้งกังพึมพำ

เกือบ 1 สัปดาห์แล้วที่พวกเขาถูกขังไว้ที่นี่ เมื่อวานนี้ เฉินฮั่นหลงส่งข้อความสุดท้ายของเขาออกไปและโทรศัพท์ของเขาก็หมดแบตลงทันที

“เฉินฮั่นหลง มอบสูตรของน้ำยาเทวะมา แล้วเราจะถอนตัวทันทีโดยไม่ฆ่าพวกแก”

เสียงดังมาจากพื้นดินผสมกับกำลังภายใน หากเป็นเสียงของคนธรรมดาคงไม่สามารถทะลุเข้ามาข้างล่างได้

เฉินฮั่นหลงยืนขึ้น เขามองขึ้นไปเห็นชายร่างผอมมีหนวดเล็กๆ สองข้างและฟันขนาดใหญ่สองซี่คล้ายกับหนูมองลงมาที่เขา

“หลังจากก่อตั้งประเทศขึ้นมาแล้ว ห้ามไม่ให้สัตว์ฝึกฝนเป็นปีศาจแล้วไม่ใช่หรือไง? ไอ้ปีศาจหนูนี่มันมาจากไหนวะ?”

เฉินฮั่นหลงพูดประชด

“ส่งน้ำยาเทวะมา แล้วพวกแกก็จะรอด” เสียงของชายผู้นั้นแหลมจนทำให้เขาดูเหมือนหนู

“ทำตัวอย่างกับแม่หนู ฉันจะสอนให้แกคุกเข่า และถ้าต้องการน้ำยาเทวะก็คุกเข่าแล้วเรียกคุณปู่สิ บางทีฉันอาจให้รางวัลกับหลานชายอย่างแกสัก 2 ขวด”

เฉินฮั่นหลงรู้ว่ามันเข้ามาไม่ได้ จึงกล้าตะโกนด่ามัน

“แกกำลังรนหาที่ตาย”

เสียงร้องของหนูนั่นแหลมและอำมหิต ดวงตาใหญ่คล้ายถั่วเขียวก็เต็มไปด้วยไอสังหาร

แม้ว่าจะมีค่ายกลกั้นไว้ แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาของมัน เฉินฮั่นหลงก็ขนลุกขึ้นมา อย่างไรก็ตามเฉินฮั่นหลงไม่ได้หัวเราะเมื่อเขาแพ้การต่อสู้เมื่อครั้งที่แล้ว

“หลานชาย ฉันกำลังรนหาที่ตาย มาฆ่าฉันทีสิ ฉันจะยื่นสมองให้แกเลย“

เมื่อเฉินฮั่นหลงตะโกน โม่ซิงเหอก็ยืนขึ้นติดกับผนังซ่อนตัวในที่มืดอย่างเงียบๆ

ในเวลานี้ ชายอ้วนที่มีลำตัวกว้างใบหน้าอวบอูม กำลังเดินกลิ้งเหมือนลูกบอล ปรากฏตัวที่ด้านข้างของหนูและมองลงมา ฝ่ามือของเฉินฮั่นหลงกดลงอย่างไม่รู้สึกตัว และโม่ซิงเหอก็หยุดนิ่งทันที

“เวรเอ๊ย ตอนแรกก็มีปีศาจหนูเฒ่ามา ตอนนี้มีปีศาจหมูโผล่ออกมาอีก เดี๋ยวนี้ปีศาจมันกร่างขนาดนี้เลยเหรอวะ? กล้าออกล่ากันเป็นกลุ่มด้วย?” เฉินฮั่นหลงพูดด้วยน้ำเสียงประชด

ปีศาจหมู ไม่ใช่สิ ต้องไอ้อ้วน มันเริ่มหอบเพราะก้มหัวนาน แล้วพูดกับเฉินฮั่นหลงว่า

“อย่างแกจะไปรู้อะไร พวกเราเป็น-”

“หุบปาก!” ปีศาจหนูขู่ไปที่ไอ้อ้วน

“ไอ้หนูเวร แกกล้ามาขึ้นเสียงกับฉันได้ยังไง!?” ไอ้อ้วนจ้องกลับไปที่ปีศาจหนู

“ตอนนี้แหละ!”

เฉินฮั่นหลงคำรามอย่างกะทันหัน

โม่ซิงเหอที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดใกล้กับทางเข้าถ้ำ เมื่อได้ยินเสียงพื้นดินก็ยุบตัว เหมือนใยแมงมุมและก็ยิงออกไปที่ผู้คนเหมือนกระสุน

“ระวัง!”

ปีศาจหนูตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ในเวลาเดียวกันเขาก็โอบแขนเพื่อปกป้องใบหน้าตนเอง

เท้าของโม่ซิงเหอเตะไปที่พื้นรวดเร็วราวสายฟ้า พลังยุทธ์ขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 ของโม่ซิงเหอ ระเบิดออกมา

ตู้ม!

ปีศาจหนูเพียงแค่ตกใจแล้วถอยหลัง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าพลังยุทธ์ของเขานั้นไม่อ่อนด้อยเลย โม่ซิงเหอไม่กล้าที่จะประมาท เขาหันหลังกลับและจับคอไอ้อ้วนที่ตอบสนองช้า แล้วลากเข้าไปในห้องใต้ดินด้วยกัน

เฉินฮั่นหลงรีบนำป้ายหยกของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว ตามธรรมชาติของปีศาจหนู มันจะต้องไล่ตามไป แล้วค่ายกลจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง

ไอ้อ้วนมันอ้วนมากจริงๆ ตอนที่ถูกโม่ซิงเหอลากมา มันกลิ้งลงไปจนสุดทาง เหมือนลูกบอลคลุกฝุ่นในห้องใต้ดิน ถ้าไม่ได้รับการปกป้องโดยค่ายกล ห้องใต้ดินคงจะพังลงมาแล้วล่ะ!