บทที่ 66 การตัดสินใจที่น่าตกตะลึง

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

บ่ายวันต่อมา

ห้องโถงบ้านหลักตระกูลหลี่

“โอ้ เป็นไงบ้างซานหมิง? ไม่ได้เจอกันซะนานตอนนี้บริษัทเป็นไง?”

“เฮ้อ อย่าพูดถึงเรื่องงานตอนนี้เลยปวดหัว…”

“เอาน่า…เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น…”

“…”

จากนั้น ในทันทีที่อวี้ฮ่าวหรานและหลี่หรงก้าวเข้าไปในห้องโถงทุกสายตาต่างก็จับจ้องมาที่อวี้ฮ่าวหรานเพียงผู้เดียว และต่อมาบรรดาผู้คนตระกูลหลี่ต่างก็พากันมาทักทายด้วยท่าทีประจบประแจง

ไม่เหมือนงานเลี้ยงครั้งที่แล้วที่มีแค่โต๊ะสิบกว่าตัว ครั้งนี้ทั้งห้องโถงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลายร้อย ไม่เพียงแต่อวี้ฮ่าวหรานจะมากับหลี่หรง แต่ครั้งนี้เขาพาถวนถวนมาด้วย

ถวนถวนซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของหลี่หรงมองไปรอบ ๆ ห้องโถงด้วยแววตาเป็นประกาย เธอไม่เคยเห็นงานเลี้ยงที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน

อันที่จริง ก่อนหน้านี้ที่อวี้ฮ่าวหรานและหลี่เม่ยหายไป หลี่หรงไม่เคยพาถวนถวนมาที่บ้านหลักของตระกูลเลยเพราะเธอกลัวว่าถวนถวนจะถูกรังแก

อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ร่มเงาของอวี้ฮ่าวหรานในตอนนี้มันกว้างใหญ่พอทำให้เธอสามารถพา ถวนถวนมาที่นี่ได้อย่างสบายใจ

ในทางกลับกัน อวี้ฮ่าวหรานเมื่อเห็นผู้คนมากมายที่อยู่ในห้องโถงและทุกคนต่างก็พยายามประจบสอพลอเขา เขาก็รู้สึกรำคาญอยู่ในใจ

คนพวกนี้แทบทั้งหมดล้วนแล้วแต่จอมปลอม มาที่นี่ก็เพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่างกันทั้งนั้น การรู้จักคนพวกนี้มันเป็นเรื่องที่ไร้ค่าและเสียเวลาเขาเป็นอย่างมาก

ในเวลาเดียวกัน ตอนนี้อาหารถูกนำมาวางพร้อมหมดแล้วแต่หลี่ชงซานก็ยังไม่ประกาศเริ่มงานเลี้ยงเพราะเขายังคงรอ อวี้ฮ่าวหรานให้เดินมานั่งเคียงข้างเขาก่อน

หลังจากฝ่าฝูงชนมาได้สักพัก ในที่สุดอวี้ฮ่าวหราน ถวนถวนและหลี่หรงก็ได้มานั่งลงข้าง ๆ หลี่ชงซาน

แต่ถึงแม้ว่าอวี้ฮ่าวหรานจะนั่งลงแล้ว หลี่ชงซานก็ยังไม่ประกาศ เริ่มงานเลี้ยงอยู่ดี

“ถวนถวน ลองชิมนี่เร็วเดี๋ยวแม่หรงป้อน นี่คือเสี่ยวหลงเปาสูตรเฉพาะของตระกูลหลี่ของเรา เมื่อก่อนแม่ของหนูชอบกินมันมากเลยเชียวล่ะ!”

ถึงแม้ว่าจะไม่มีคำประกาศเริ่มต้นงานเลี้ยงจากหลี่ชงซานแต่ผู้คนของตระกูลหลี่ก็เริ่มกินอาหารกันแล้ว ซี่งแน่นอนว่าหลี่หรงเข้าใจ ดีว่าตามปกติตระกูลของเธอก็เป็นแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มใช้ตะเกียบคีบอาหารให้ถวนถวน

ในบรรดาคนของตระกูหลี่ หลี่อิงไห่เป็นอีกคนที่ให้ความสนใจอวี้ฮ่าวหรานเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นจังหวะเหมาะเขาจึงเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ฮ่าฮ่า เป็นยังบ้างหลานเขย? เป็นอีกครั้งแล้วที่นายช่วยแก้ปัญหาให้กับตระกูลของเรา ด้วยความสามารถระดับนี้ลุงมั่นใจว่าอนาคตของเธอจะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!”

อวี้ฮ่าวหรานเข้าใจได้ว่าฝั่งตรงข้ามต้องการผูกมิตรกับเขาก็เพราะเห็นว่าเขามีความสามารถ อย่างไรก็ตามเมื่ออวี้ฮ่าวหรานนึกไปถึงเรื่องก่อนหน้านี้ ที่คนผู้นี้ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพ่อตาของเขาอย่างโจ่งแจ้ง แถมเมื่อก่อนยังเคยดูถูกเขาเอาไว้มาก เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ไว้หน้าฝั่งตรงข้าม

“มาถวนถวน เดี๋ยวพ่อป้อนเสี่ยวหลงเป่าให้ลูกอีกนะ เมื่อก่อนแม่ของลูกชอบมันมากเลยเชียวล่ะ”

อวี้ฮ่าวหรานป้อนเสี่ยวหลงเปาใส่ปากถวนถวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่สนใจที่จะทักทายหลี่อิงไห่กลับแม้แต่น้อย

เมื่อครั้งที่เขาอยู่ที่ดินแดนแห่งเทพ เขาเจอคนแบบนี้มามากมาย คนที่ชอบดูถูกคนอื่นเมื่อเห็นว่าตัวเองอยู่สูงกว่า และพร้อมที่จะ กระดิกหางไปประจบประแจงคนที่อยู่สูงกว่าตนถึงแม้ว่าฝั่งตรงข้ามจะเคยเป็นคนที่ตัวเองเคยดูถูกมาก่อนหน้านี้ก็ตาม

คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ไม่มีค่าพอให้คบค้าสมาคมด้วย

ในตอนที่คุณรุ่งโรจน์คนพวกนี้จะเชิดชูแต่เมื่อไหร่ที่คุณพลาดพลั้งคนพวกนี้พร้อมที่จะเหยียบซ้ำได้ทุกเมื่อ!

หลี่อิงไห่หน้าเสียทันทีเมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจที่จะทักเขาตอบเลย เขายืนกระอักกระอ่วนอยู่สักพักจากนั้นก็ค่อย ๆ ถอยกลับไปด้วยสีหน้าน่าเกลียด

“พ่อจ๋า อาหารที่นี่อร่อยจังเลย! อันที่พ่อกับแม่หรงเพิ่งป้อนหนูเมื่อกี้อร่อยสุด ๆ ไปเล้ย ในอนาคตพ่อพาหนูมากินข้าวที่นี่อีกได้ไหม?” ถวนถวนในตอนนี้ได้กินไปหลายอย่างนอกเหนือจากเสี่ยวหลงเปา เด็กน้อยมีความสุขกับอาหารที่นี่เป็นอย่างมาก เธอหัวเราะร่าไม่หยุดในขณะที่เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยไปด้วย

“ดูเหมือนว่าถวนถวนจะมีลิ้นไม่ต่างอะไรกับฉันนะเนี่ย!”

หลี่หรงยิ้มอย่างมีความสุข เธอไม่คิดเหมือนกันว่าถวนถวนจะชอบอาหารที่เธอชอบเหมือนกัน

“ได้เลยวันหลังพ่อจะพาลูกมากินอาหารที่นี่บ่อย ๆ ก็แล้วกันนะ!”

เมื่อเห็นถวนถวนมีความสุข อวี้ฮ่าวหรานก็เริ่มคิดว่าการมางานเลี้ยงที่บ้านหลักตระกูลหลี่นั้นไม่ใช่การเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อไป

ในเมื่อลูกสาวของเขาชอบ ถ้างั้นในอนาคตเขาจะพาเธอมาที่นี่อีก

อย่างไรก็ตามในบรรดาผู้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงมีอยู่คนหนึ่งที่มีสีหน้าไม่มีความสุขเอาซะเลย

คนคนนั้นก็คือหลี่จิงเทียน ซึ่งกำลังมองไปที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยแววตาเกลียดชัง

ตั้งแต่ที่แผนการขายบริษัทชงซานล่มไป หลี่ชงซานก็ได้สั่งห้ามหลี่จิงเทียนไม่ให้ออกจากบ้านแม้แต่ก้าวเดียว

แต่ถึงแม้ว่าจะถูกทำโทษและถูกต่อว่าสารพัด จวบจนวันนี้หลี่จิงเทียนก็ยังไม่เคยคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด ในทางกลับกันเขาโทษอวี้ฮ่าวหรานที่มาขัดขวางแผนการช่วยตระกูลหลี่ในแบบฉบับของเขาอีกต่างหาก

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหราน เขาเองก็สังเกตเห็นสายตาของหลี่จิงเทียนเช่นกัน แต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เขารู้สึกปลงกับสันดานของหลี่จิงเทียน และคิดว่าชาตินี้ไอ้คนโง่พรรค์นี้มันคงเปลี่ยนตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหลี่ชงซานก็ลุกขึ้นและประกาศเริ่มงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ

“ฉันขอประกาศเริ่มต้นงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการ! ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่างานเลี้ยงนี้จัดขึ้นเพื่อขอบคุณลูกเขยของฉัน ฉันขอเชิญทุกคนมาร่วมกันดื่มให้กับฮ่าวหราน ผู้ที่ช่วยให้บริษัทชงซานของฉันผ่านวิกฤติมาได้ถึง 2 รอบ!”

“อ้อแล้วอีกอย่าง ฉันขอพูดความในใจสักเรื่องหนึ่งก่อนที่ทุกคนจะดื่ม ก่อนหน้านี้ฉัน หลี่ชงซาน คิดว่าตัวเองเป็นคนที่มองคนออกได้ดีเหนือกว่าใคร แต่มันกลายเป็นว่าตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าสายตาของฉันมันย่ำแย่ยิ่งกว่าลูกสาวของฉัน หลี่เม่ย ซะอีก!”

เมื่อพูดถึงจุดนี้ หลี่ชงซานถือแก้วไวน์หันมาทางอวี้ฮ่าวหราน

“ฮ่าวหราน ที่ผ่านมาพ่อต้องขอโทษจริง ๆ ที่มองลูกผิดไปโปรดรับการดื่มขอโทษของพ่อด้วย!”

เมื่อพูดจบ หลี่ชงซานดื่มหมดแก้วให้กับอวี้ฮ่าวหรานทันที

หลี่หรง เมื่อเห็นภาพนี้เธอตกตะลึงจนอ้าปากค้าง เธอไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอจะขอโทษพี่เขยต่อหน้าทุกคนขนาดนี้!

หากเป็นในอดีต อย่าว่าแต่ขอโทษเลยแค่มองหน้าพ่อเธอก็ไม่มองหน้าอวี้ฮ่าวหรานด้วยซ้ำ

“เอาล่ะ ต่อไปนี้ฉันจะประกาศเรื่องสำคัญที่มีผลต่ออนาคตของตระกูลเราอีกเรื่อง นับจากนี้เป็นต้นไปฉันจะขอมอบบริษัทชงซานให้ฮ่าวหรานดูแลทั้งหมด ส่วนหลี่จิงเทียน ฉันจะปลดเขาออกจาก ทุกตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่และแต่งตั้งให้เขาไปอยู่ตำแหน่งรองที่ปรึกษาแทน!”

ในทันทีที่หลี่ชงซานประกาศจบ บรรดาสมาชิกตระกูลหลี่ตกตะลึงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ที่ได้ยินว่าผู้นำตระกูลขอโทษลูกเขยของตัวเองเสียอีก

พวกเขาตกตะลึงจนพูดไม่ออกไปพักใหญ่!

แต่แล้วหลังจากนั้นทั้งห้องโถงก็เต็มไปด้วยเสียงโต้แย้งดังลั่น

“นี่ฉันหูไม่ฝาดใช่ไหม? ผู้นำตระกูลยกบริษัทของตัวเองให้กับคนนอกดูแลงั้นเหรอ แบบนี้มันไม่ถูกต้อง!”

“พ่อที่ไหนกันถอดลูกตัวเองออกจากตำแหน่งสำคัญแล้วให้คนนอกดูแลบริษัทแทน?”

“นี่ชงซานบ้าไปแล้วรึไง? ไม่ว่าจะยังไงจิงเทียนก็เป็นลูกแท้ ๆ ของเขานะ!”

“…”

หลังจากที่ผู้คนพยายามแย้งไปด้วยได้สักพัก ในที่สุดหลี่อิงไห่ก็ลุกขึ้นยืน

“ชงซาน แกตัดสินใจแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยงั้นเหรอ? มอบบริษัทของตระกูลให้กับคนนอกเนี่ยนะ?”

แน่นอนว่าสาเหตุที่หลี่อิงไห่ลุกขึ้นพูดเป็นคนแรกแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่าเขาสนใจอะไรบริษัทของหลี่ชงซานนักหนา แต่มันเป็นเพราะเขาแค้นเคืองอวี้ฮ่าวหรานที่ทำให้เขาเสียหน้าเมื่อครู่

จากนั้นเมื่อมีคนนำแล้ว คนอื่น ๆ ก็ลุกขึ้นตามมาเรื่อย ๆ

หลี่ชงซานขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าทุกคนในตระกูลต่อต้านการตัดสินใจของเขาหนักหน่วงกันขนาดนี้ เมื่อผ่านไปสักพักเขาจึงโบกมือให้ทุกคนเงียบลงและพูดขึ้นว่า

“ทุกคนโปรดเงียบลงก่อน! การตัดสินใจของฉันในวันนี้ฉันคิดมาดีแล้ว ทุกคนก็คงรู้กันอยู่แล้วเรื่องที่ลูกชายของฉันเพิ่งทำตัวน่าผิดหวังเมื่อไม่นานมานี้ ความผิดของเขานั้นมันยากเกินจะให้อภัยและไว้ใจอีกต่อไป! ฉะนั้นการตัดสินใจของฉันเช่นนี้จึงนับว่าสมเหตุสมผลที่สุด!”

หลี่ชงซานเผยเหตุผลหลักที่เขาตัดสินใจเช่นนี้ออกมาอย่างหมดเปลือกว่ามันเป็นเพราะลูกชายของเขามันหวังพึ่งไม่ได้อีกต่อไป!