ตอนที่ 98 ข้าไม่ได้สนิทกับเขา

แม่สาวเข็มเงิน

ตอนที่ 98 ข้าไม่ได้สนิทกับเขา

เจียงป่าวชิงตกตะลึง นางไม่คิดว่ากงจี้จะพูดอะไรเช่นนี้กับนาง นางเดินไปข้างกงจี้อย่างเงียบ ๆ  ผ่านไปสักครู่ถึงจะพูดขึ้นยิ้ม ๆ “คุณชายกง ครั้งนี้ข้าต้องขอบคุณที่เจ้าช่วยกู้หน้าให้ข้า”

กงจี้หัวเราะเย้ยหยัน “ข้าก็แค่ผ่านมาเท่านั้น อย่าได้เข้าข้างตัวเอง”

“ใช่ ก็แค่ผ่านมา” เจียงป่าวชิงขานรับยิ้ม ๆ นางมองสีหน้าด้านข้างของกงจี้ที่มีความเย็นชาและมีความเหน็บแนมอยู่เล็กน้อย ไม่รู้เพราะอะไรถึงมีความรู้สึกปลอดภัยอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในใจนาง

“ใช่แล้ว” เจียงป่าวชิงเดินไปด้วยและพูดคุยไปด้วย “ตอนที่พวกข้าพูดคุยกันอยู่ในบ้าน เหตุใดเจ้าถึงได้ยินทั้ง ๆ ที่เจ้าอยู่นอกบ้าน ? มันห่างกันไกลอยู่พอสมควรเลยมิใช่รึ ?”

กงจี้มองเจียงป่าวชิง “คนที่มีศิลปะการต่อสู้มักจะหูไว ตาไว”

เจียงป่าวชิงชะงักไปทันที จู่ ๆ นางก็นึกอะไรได้ สีหน้าของนางจึงแปลกไปเล็กน้อย จากนั้นนางก็แอบมองกงจี้และกระแอมไอสองครั้ง “ละ… แล้ว… แล้วที่ข้าพูดคุยอยู่ที่บ้านข้า เจ้าได้ยินจากที่บ้านเจ้าด้วยหรือไม่ ?”

กงจี้พูดอย่างเย็นชา “ได้ยินสิ อ้อ และยังได้ยินเจ้าด่าข้าด้วยนะ”

เจียงป่าวชิงตัวแข็งทื่อไปทันที

เมื่อกงจี้เห็นท่าทางเช่นนี้ของเจียงป่าวชิง หางตางอนก็หรี่ลงอย่างอันตรายทันที “ใช้ได้หนิเจียงป่าวชิง เจ้าด่าข้าจริง ๆ อย่างนั้นรึ ?”

ตอนนี้เจียงป่าวชิงถึงจะตระหนักได้ว่าเมื่อสักครู่กงจี้แค่หลอกนางเท่านั้น นางจึงรีบรับประกันครั้งแล้วครั้งเล่าว่านางไม่เคยพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับเขาที่บ้าน

แต่กงจี้กลับไม่เต็มใจที่จะสนใจนางเสียแล้ว

เมื่อเดินมาถึงทางแยกในหมู่บ้าน เจียงป่าวชิงก็ตบศีรษะตัวเองเบา ๆ “ใช่แล้ว พวกเจ้ารีบไปทำธุระของพวกเจ้าต่อเถอะ ข้าขอตัวไปซื้อซี่โครงที่บ้านของคนขายเนื้อเพื่อนำไปบำรุงร่างกายให้พี่ชายก่อน”

หลังจากนั้นกงจี้ ไป๋จี ฝูฉู ทั้งสามคนก็มองเจียงป่าวชิงที่โบกมือให้พวกเขาและหมุนตัววิ่งจากไป

ฝูฉูรู้สึกยากที่จะเข้าใจ “แม่นางเจียงไม่รู้จริง ๆ หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้กันแน่ว่าท่านชายตั้งใจออกมาเพื่อนาง” ฝูฉูรู้สึกน้อยใจอยู่นิดหน่อย “แม้ว่าท่านชายจะออกมาดูสถานการณ์สำหรับการรักษาในช่วงบ่าย แต่นี่ก็เป็นการให้หน้านาง เหตุใดนางถึงชิงกลับไปก่อน ช่างเสียมารยาทจริง ๆ”

“กลับ” กงจี้ไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา ซึ่งเย็นชามาก แต่ไป๋จีที่คุ้นเคยกับอารมณ์ของนายท่านเป็นอย่างดีกลับรู้ว่าดูเหมือนนายท่านของเขาจะไม่พอใจมากจริง ๆ

ฝูฉูเองก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก จากนั้นทั้งสามคนก็กลับไปอย่างเงียบ ๆ

……

เจียงป่าวชิงซื้อซี่โครงมาจากครอบครัวขายเนื้อจำนวนมาก

ในขณะนี้ มีสาวใหญ่และสาวน้อยสองสามคนเข้ามาใกล้ชิดนางด้วยความบังเอิญ แต่ส่วนใหญ่ล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันนั่นก็คือ คุณชายที่นั่งอยู่บนรถเข็นเมื่อสักครู่เป็นใคร ?

เจียงป่าวชิงถือซี่โครงและชี้แจงอย่างจนปัญญา “ข้าไม่สนิทกับเขาจริง ๆ”

“เหลวไหล ข้าเห็นเจ้าคุยกับเขา” สาวใหญ่ต่อว่าด้วยความโมโห “เขายังยิ้มให้เจ้าอีกด้วย”

“ใช่! เจียงป่าวชิง หรือว่าเจ้าอยากครอบครองคุณชายผู้นั้นไว้คนเดียว”

“หน้าด้านจริง ๆ เจียงป่าวชิง เป็นมนุษย์ต้องหัดใจกว้างหน่อย”

……

เจียงป่าวชิงแทบจะคุกเข่าให้สาวเล็กสาวใหญ่พวกนี้อยู่แล้ว นางต้องเปลืองแรงจำนวนมากถึงจะสามารถหนีออกมาจากพวกสาวเล็กสาวใหญ่ที่บ้าคลั่งเหล่านี้ได้

นางถือซี่โครงเดินไปบนถนนเล็ก ๆ ในภูเขา เจียงป่าวชิงถอนหายใจยาว ๆ อย่างโล่งอก แต่สิ่งที่นางไม่เคยคาดคิดก็คือมีใครบางคนตามนางมาที่บ้านอย่างไม่ลดละ

เจียงป่าวชิงหันไปมองอย่างโมโห แต่ใครจะไปคิดว่าจะเป็นเจียงเอ้อยา

เจียงเอ้อยามีสีหน้าดีใจ นางเขย่งเท้าเพื่อจะมองเข้าไปในบ้านข้าง ๆ จากในลานบ้านของเจียงป่าวชิง แต่ในบ้านข้าง ๆ กลับไม่มีอะไร

เจียงหยุนชานรู้สึกงุนงง “พี่เอ้อยา พี่มาทำไม ?”

เจียงเอ้อยากวาดตามองเจียงหยุนชาน “หยุนชาน เจ้าแขนหักรึ ?” นางถามไปโดยไม่ต้องคิด จากนั้นนางก็ไม่สนใจว่าเจียงหยุนชานจะตอบอย่างไร ทำเพียงพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “เจียงป่าวชิง ข้าได้ยินจากตอนหลบซ่อนว่าเจ้าบอกว่าคุณชายคนนั้นเป็นเพื่อนบ้านของเจ้า” นางชี้ไปที่บ้านข้าง ๆ อย่างตื่นเต้น “เขาคงจะอยู่ที่นั่นล่ะสิ ?! คิดดูแล้วก็น่าจะใช่ เพราะในหมู่บ้าน บ้านที่สามารถพักฟื้นและอาศัยได้ก็มีเพียงบ้านที่อยู่ติดกับบ้านของเจ้าเท่านั้น! เร็ว รีบพาข้าไปคุยกับเพื่อนบ้านของเจ้าเร็วสิ”

เจียงป่าวชิงทนไม่ไหวอีกต่อไป “เจียงเอ้อยา! พี่พอได้แล้ว”

“ทำไม เจียงป่าวชิง หรือว่าคนปัญญาอ่อนอย่างเจ้าคิดจะปีนขึ้นไปหาคุณชายอย่างนั้นรึ ?” ท่าทางของเจียงเอ้อยาเหมือนให้ความช่วยเหลือทำนองนั้น “เจ้าแนะนำข้าให้คุณชายคนนั้น แล้วข้าจะให้อภัยเจ้า เราสองคนก็จะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”

ถุย! ใครสนล่ะ ?

เจียงป่าวชิงรู้สึกขำกับท่าทางมั่นใจที่ไม่เห็นผู้อื่นอยู่ในสายตาของเจียงเอ้อยา

นางออกแรงผลักเจียงเอ้อยาออกไปนอกประตู จากนั้นก็ปิดลงกลอนประตูบ้านอย่างว่องไวและพูดขึ้นเสียงดัง “เจียงเอ้อยา ข้าจะบอกความจริงให้เจ้ารู้ ข้าไม่ได้สนิทกับคุณชายคนนั้น ไม่สนิทเลยสักนิด! ถ้าเจ้ามาทำให้ข้าหงุดหงิดอีก ก็อย่าโทษว่าข้าปล่อยมาให้ไปกัดเจ้า”

หมาทั้งสองตัวเห่าอยู่ในกรงขณะนั้น จากนั้นเจียงป่าวชิงก็หมุนตัวเดินไปที่ห้องครัว และจัดการกับซี่โครงอย่างตั้งใจ

เจียงหยุนชานไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขามองน้องสาวสลับกับมองเจียงเอ้อยาที่ร้องตะโกนและถีบประตูอยู่นอกบ้าน สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับไปอ่านหนังสือที่ในห้องเหมือนเดิม

เจียงเอ้อยาอยากฟันเจียงป่าวชิงทิ้งจริง ๆ แต่ไม่ว่านางจะตะโกนอย่างไร ภายในบ้าน นอกจากหมาแล้วก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ อีก

เจียงเอ้อยาไม่กล้าดัดจริตไปตรงหน้าบ้านของกงจี้ สุดท้ายนางจึงต้องกลับไปด้วยความแค้นใจ

……

กงจี้อยู่ในบ้าน เขาได้ยินเสียงตะโกนของเจียงป่าวชิงที่ดังมาจากด้านนอก “ข้าไม่ได้สนิทกับคุณชายคนนั้น ไม่สนิทเลยสักนิด!”

ทำให้ไป๋จีไม่กล้ามองสีหน้าของกงจี้เลยทีเดียว

กงจี้หัวเราะอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาไม่ค่อยเป็นมิตรนัก “ไปปิดหน้าต่างซะ หนวกหูจะตายอยู่แล้ว!”

ไป๋จีไปปิดหน้าต่างอย่างว่าง่าย

……

ตอนเที่ยง เจียงป่าวชิงตุ๋นซี่โครงใส่ฟักเขียวหม้อใหญ่ นางครุ่นคิดอยู่สักครู่ จากนั้นก็ตักใส่ถ้วยใหญ่สองใบก่อน จากนั้นก็ถือไปที่บ้านข้าง ๆ และเคาะประตู

คนที่มาเปิดประตูให้ก็ยังคงเป็นฝูฉูคนเดิม เมื่อนางเห็นเจียงป่าวชิงถือถ้วยตุ๋นซี่โครงใส่ฟักเขียวถ้วยใหญ่มาที่นี่ นอกจากความประหลาดใจแล้ว ดูเหมือนจะยังมีการมองอย่างสังเกตอีกด้วย

เจียงป่าวชิงพูดยิ้ม ๆ “พี่ฝูฉู ท่านชายของพี่อยู่ไหม ?”

ผ่านไปสักครู่ฝูฉูถึงจะพูดขึ้น “อยู่จ้ะแม่นางเจียง นี่คืออะไรหรือ ?”

เจียงป่าวชิงยกถ้วยต้มซี่โครงใส่ฟักเขียวในมือขึ้นเล็กน้อย “ข้าตุ๋นซี่โครงมาให้ เพื่อตั้งใจมาขอบคุณคุณชายกงเจ้าค่ะ”

ฝูฉูอยากพูดว่าท่านชายของนางไม่ขาดแคลนเรื่องอาหารการกิน แต่นางก็ไม่ได้พูดคำนี้ออกไป ฝูฉูเม้มริมฝีปากเล็กน้อย จากนั้นนางก็พาเจียงป่าวชิงไปที่ห้องหลัก

เมื่อกงจี้เห็นเจียงป่าวชิง สีหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้นมาทันที “นั่นอะไร ?”

เจียงป่าวชิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดทั้งฝูฉูและกงจี้ต้องถามว่านี่คืออะไร หรือว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ชัด มันก็คือต้มซี่โครงใส่ฟักเขียวอย่างไรเล่า!

เจียงป่าวชิงจึงต้องพูดขึ้น “นี่คือต้มซี่โครงที่ข้าตุ๋นด้วยตัวเอง ข้าคิดว่าถึงแม้เจ้าจะไม่ขาดแคลนเรื่องอาหารการกิน แต่อย่างน้อยนี่ก็คือน้ำใจจากข้า”

กงจี้พูดขึ้นเสียงเย็น “ไม่ใช่ว่าเจ้าบอกว่าไม่ได้สนิทกับข้าแม้แต่นิดเดียวหรอกรึ ?”

ตอนนี้เอง เจียงป่าวชิงถึงจะตระหนักขึ้นมาได้ว่าคำพูดถกเถียงกับเจียงเอ้อยาก่อนหน้านี้คงจะส่งผ่านเข้าไปในหูของกงจี้แล้วแน่ ๆ เขาอุตส่าห์ช่วยนางไว้เมื่อตอนบ่าย แต่นางกลับตะโกนว่าไม่สนิทกับเขาอยู่ตรงนั้น…

ที่สำคัญคือยังทำให้เจ้าตัวได้ยินอีกต่างหาก

เจียงป่าวชิงครุ่นคิดด้วยสีหน้านิ่ง ๆ ว่าหูของคนที่มีศิลปะการต่อสู้นี่ช่างดีจนน่ารำคาญจริง ๆ

.