บทที่ 81

เสือไม่อาจต่อกรกับฝูงหมาป่าได้ฉันใด สองหมัดย่อมไม่อาจสู้สี่มือได้ฉันนั้น ไม่ว่าหยวนอู่จะเก่งแค่ไหน แต่ถ้าถูกรุมกันแบบนี้ยังไงก็เสียเปรียบ ยิ่งไปกว่านั้นพลังของทุกคนที่เข้ามาร่วมก็ไม่ใช่น้อย ๆ เลย

ทั้ง 7 คนล้อมหยวนอู่เอาไว้ พวกเขาสู้กันมากกว่า 30 กระบวนท่าจนกระทั่งหยวนอู่เริ่มรับมือไม่ไหว

เมื่อเห็นแบบนี้ถังหยินก็รีบเข้ามาร่วมวงโจมตีอีกคน ทำให้หยวนอู่ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งจังหวะนั้นชายหนุ่มก็ได้ใช้วิชาแยกร่างออกมาเพื่อเตะตัดขาอีกฝ่าย

หยวนอู่ที่ถูกเตะแถมยังถูกอาวุธไล่จี้ ทำให้เขาจนมุมและล้มลงไป ก่อนที่จะโดยถังหยินเอาเท้าเหยียบหัวเข่าเอาไว้ ทำให้หนีไม่ได้และได้แต่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

ตึง ! หยวนอู่ที่ตัวใหญ่ในชุดเกราะปราณ เขาล้มลงจนเกิดเสียงดังสนั่น

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายลุกขึ้น อาวุธของทุกคนก็ชี้มาที่เขา

“อย่าขยับ! ถ้าเจ้าขยับอีกหัวเจ้าหลุดแน่ ! ” ถังหยินก้มหน้าลงมาแล้วตะโกน

หยวนอู่จะยอมรับหรือ ? เขาพยายามจะลุกขึ้น หากแต่ดาบในมือของถังหยินก็จี้ลงมาที่หน้าอกของเขาจนเกราะแตกกระจาย ทำให้ต้องกรีดร้องออกมาอีกครั้ง

โดยไม่รอให้อีกฝ่ายพักหายใจ ถังหยินส่ายหัวและตะโกน “จับเขาไว้ ! ”

หลีเว่ย และ เฉินฟางเอาโซ่เหล็กมาจับตัวหยวนอู่เอาไว้

สองพี่น้องฉางกวงที่เคยเก่งกาจเมื่อครู่ มาตอนนี้กลายเป็นเชลยของถังหยิน สีหน้าของเขาบิดเบี้ยว จ้องชายหนุ่มพลางกัดฟันแน่น ดวงตาของเขากรีดแทงทุกคนในที่นี้ราวกับมีดนับพันเล่ม

พี่น้องฉางกวงถูกจับไม่ต่างอะไรกับลูกแกะที่รอถูกเชือด พวกเขาถูกพาตัวไปโดยไป่หยง กู่เยว่กับคนอื่นที่อยู่บนม้า ทำให้ทุกคนที่เดินออกจากที่นี่ไปด้วยขวัญและกำลังใจที่เต็มเปี่ยม

ไป่หยงเดินมาหัวเราะข้าง ๆ ถังหยิน “ถ้าไม่ใช่เพราะการโจมตีของท่านถัง เกรงว่าพวกเราคงจัดการพวกมันไม่ได้แน่ ! ”

เขาพูดความจริงออกมา เพราะว่าหยวนเปียวนั้นไม่ได้ต่างจากหยวนอู่เท่าไหร่ ถ้าเกิดทั้งสองสู้พร้อมกัน ยังไงพวกเขาก็เสียเปรียบ ต่อให้เป็นถังหยินก็ตาม

ชายหนุ่มหัวเราะออกมา แต่หยวนอู่ที่อยู่ข้างหลังม้าก็ตะโกน “พวกเจ้าจะภูมิใจอะไรกัน ? ถ้าพวกเราไม่เผลอละก็ ป่านนี้พวกเจ้าก็ยังจับข้าไม่ได้หรอก”

เมื่อตะโกนไปได้ครึ่งทาง หลีเว่ยก็ฉีกผ้าตัวเองออกมาอุดปากของหยวนอู่เอาไว้

ครั้งนี้พวกเขาเงียบปากแน่นอน

ระหว่างที่เดินกลับกันอย่างภาคภูมิใจ จางโจวเองก็ทำหน้าที่ได้ราบรื่นเช่นกัน

เขานำกองทหารกว่า 3 พันนายเข้าโจมตีรังโจร โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะมีจำนวนมากแค่ไหน ในเมื่อพวกโจรไม่มีผู้นำ มันก็เทียบกับพวกทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีไม่ได้แม้แต่น้อย พวกมันแตกพ่ายอย่างรวดเร็วและพากันหนีหายไป ส่วนใครที่หนีไม่ทันก็กลายเป็นเชลย

เมื่อถังหยินกับทุกคนมาถึง การต่อสู้ก็เกือบจบลงแล้ว จางโจวกำลังนำกองทหารเข้าบุกตียอดเขา

โดยไม่รีรอ ชิวเจิ้นเองก็รีบวิ่งมาจากสนามรบ เมื่อเห็นว่าพวกฉางกวงถูกจับมาได้ เด็กหนุ่มก็รีบวิ่งเข้ามาหาถังหยินในทันที

ถังหยินถาม “สถานการณ์เป็นไงบ้าง ?”

“พวกโจรไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้และถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว พวกที่เหลือเองก็ไม่เป็นภัยมากนัก” ชิวเจิ้นส่ายหัว

ผลออกมาเป็นที่น่าประทับใจ และเมื่อพี่น้องฉางกวงรู้ตัวว่าถูกหลอกล่อออกมาจากภูเขาเพื่อให้กองทัพเข้ามาจัดการพวกเขาโดยง่าย ทั้งสองก็โกรธและโศกเศร้าในเวลาเดียวกัน ทว่าตอนนี้พวกเขาถูกจับมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีเวลาให้มานั่งเสียใจอีก พวกเขาพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง

เมื่อเห็นแบบนี้ไป่หยงก็เดินมาด้านหน้าและมองทั้งสองคนด้วยใบหน้าผิดหวัง “เป็นยังไงล่ะ ? ทีนี้พวกเจ้ารู้หรือยังว่าท่านถังเก่งกาจแค่ไหน ถ้าพวกเจ้ายอมแพ้และใช้พลังของเจ้ารับใช้กองทัพ ท่านอาจจะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้นะ”

หยวนเปียวเงยหน้าขึ้นและมองไป่หยง

เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะพูดอะไร ไป่หยงก็เอาผ้าที่อุดปากออก

ทันใดนั้นหยวนเปียวก็สบถด่า “บ้านเจ้าสิ ! ถ้าข้าหลุดไปได้เมื่อไหร่ข้าจะ…”

ไป่หยงส่ายหัวและเอาเศษผ้าอุดปากเขาตามเดิม “พูดได้ดีนี่นา มันคงยากน่าดูที่จะเปลี่ยนแปลงพวกโจรได้ เจ้าคิดว่าจะหนีได้หรือ ? ถ้ากลับไปที่เมืองเฮิงได้เมื่อไหร่พวกเจ้าตายแน่ ! ”

หยวนเปียวเบิกตากว้างและส่งเสียงดิ้นรนออกมา แต่น่าเสียดายที่พูดอะไรออกมาไม่ได้เลย

หลังจากรออยู่ที่ตีนเขานานพอสมควร จางโจวก็พาทหารลงมาจากยอดเขา

ทหาร 8 นายแบกกล่องใหญ่มา 4 กล่อง เมื่อสังเกตดูก็บอกได้เลยว่าต้องมีอะไรที่ดี ๆ ใส่อยู่ข้างในแน่ ชิวเจิ้นเบิกตากว้าง และบอกให้พวกทหารหยุดเพื่อเปิดหีบที่เต็มไปด้วยเพชรนิลจินดานี้ออก

“ท่านถัง ข้าว่าพวกเรารวยแล้ว ! ” ชิวเจิ้นตะโกนออกมา

ถังหยินควบม้าเดินมาและก้มหัวมองหน้า หัวใจของเขาเต้นระรัวแล้วมองไปยังพวกฉางกวง “สิ่งที่พวกเจ้าก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้ถูกสำแดงออกมาแล้ว ตอนนี้ข้าเริ่มสงสัยแล้วล่ะว่าหยวนจี้สนับสนุนกองทัพได้เพราะมีพวกเจ้าส่งเงินให้หรือเปล่า ? ”

ถ้าถังหยินยืนยันคำนี้ ก็บอกได้เลยว่าชะตากรรมของพี่ชายเขาคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ ประเด็นหลักคือทั้งสองไม่เคยมอบเงินให้หยวนจี้เลยสักแดงเดียว ในทางกลับกันหยวนจี้เองก็ไม่เคยขอร้องให้พวกเขาหยุดด้วยเช่นกัน

เมื่อเห็นทั้งสองตะลึงแบบนี้ ถังหยินเดาได้เลยว่ามันไม่เป็นอย่างที่เขาพูดแน่ และแอบขำในใจ หากทว่าชายหนุ่มกลับไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ ออกมา เขายังคงตีหน้านิ่งและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเดิม “รอกลับไปยังเมืองเฮิงก่อนเถอะ พวกเจ้าโดนแน่ ! ”

ทั้งสองพี่น้องพากันตะโกนเหมือนต้องการจะอธิบายอะไรบางอย่าง

จางโจวและไป่หยงมองหน้ากันด้วยปากที่อ้าค้าง พวกเขาพูดอะไรไม่ออก

การต่อสู้นั้นดำเนินโดยง่าย ไม่เพียงแค่จับพวกฉางกวงได้ พวกเขายังทำลายรังโจรได้อีก ยิ่งไปกว่านั้นยังได้เงินทองมามากมายด้วย

ถังหยินพาเหล่าทหารเดินกลับไป และด้วยความกลัวว่าจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นระหว่างทาง พวกเขาจึงเดินทางตอนกลางคืนและเข้าเมืองเฮิงไปในตอนเช้า

เมื่อพวกขุนนางเห็นถังหยินกลับมา ก็รีบเข้ามาหยุดตรงหน้าเขาและก้มหัวให้พร้อมชื่นชม “ท่านถังช่างสุดยอดจริง ๆ โจรพวกนั้นถูกปราบเสียจนหมดจด ในอนาคตท่านจะต้องพาพวกเราไปสู่จุดสูงสุดแน่ ๆ !”

“ท่านถังสุดยอด !”

แม้ว่ารอยยิ้มพวกนี้จะทำให้เขารู้สึกขัดใจ ทว่าชายหนุ่มก็เลือกที่จะยอมรับคำชื่นชมเหล่านี้แต่โดยดี

เขานั่งอยู่บนม้าและมุมปากเผยอขึ้น ดวงตาของชายหนุ่มกลายเป็นรอยยิ้มและประกบมือไปข้างหน้า “พวกเจ้าเองก็ทำหน้าที่ได้ดีเช่นกัน” แม้จะพูดแบบนั้น แต่ในใจก็คำนวณผลได้ผลเสียมาเป็นอย่างดีแล้ว

“ท่านถังก็กล่าวกันเกินไป !” พวกขุนนางถึงกับตัวลอยที่ได้รับคำชมแบบนี้เข้าไป

การปราบโจรถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุด หากแต่เมืองเฮิงเองก็ยังคงไร้ชีวิตชีวาอยู่ดี นอกจากเหล่าขุนนางที่มาต้อนรับแล้ว มันก็ไม่มีใครมาอีกเลย พวกชาวบ้านที่มาดูเองก็มีน้อยมาก

ฉากนี้ทำเอาถังหยินขมวดคิ้วแน่น ความรู้สึกดีใจหดหายหมดสิ้น นี่เขายังทำดีไม่พอหรือ ?

ชายหนุ่มเรียกจางโจวให้เข้ามาใกล้และกระซิบ “แม่ทัพจาง ข้าคิดไปเองหรือว่าคนในเมืองไม่สนใจเรื่องการปราบโจรกัน ? ”

จางโจวหัวเราะอย่างขมขื่นและพูดอย่างตรงไปตรงมา “แม้ว่าพวกโจรฉางกวงจะออกปล้นก็จริง แต่พวกเขาก็ไม่ทำอะไรชาวบ้านแม้แต่น้อย พวกเขาปล้นแค่พ่อค้าเท่านั้น ทำให้ไม่มีความแค้นอะไรมากนัก”

จริง ๆ แล้วหากให้พูดตามตรง มันก็เป็นเพราะในใจของพวกเขานั้น คิดว่าในเมื่อแม่ทัพถังหยินที่เป็นผู้ว่าคนใหม่นี่ เก่งกาจเสียจนทลายรังโจรได้ แล้วทำไมเขาถึงไม่ใช่มันในการรบกับพวกมอร์ฟีสกัน ?

พวกชาวเมืองนั้นเกลียดคนรวย ดังนั้นพวกฉางกวงที่ปล้นคนรวยจึงเข้ากันได้กับพวกเขาเป็นอย่างดี แท้จริงแล้วนั้นพวกเขาไม่ได้เกลียดโจร หากแต่เกลียดทหารที่ไม่ให้การปกป้องพวกเขาจากภัยอันตรายต่างหาก !