ตอนที่ 91 : ค้นพ้นเขตลับใหม่
ในสุสานนั้นหวังเย่าไม่ได้เจออะไรมากนัก เขาเดินผ่านประตูเข้าไปก็พบว่าพื้นที่ด้านในนั้นมีขนาดใหญ่ และมีสกังค์อยู่หลายสิบตัว มันถึงกับมีฐานของมัน นอกจากตัวที่บาดเจ็บแล้วก็ยังมีสกังค์ที่ท้อง, สกังค์ตัวน้อยและสกังค์แก่อยู่อีก
แน่นอนการปรากฏตัวของหวังเย่านั้น ทำให้สกังค์ที่อยู่ใกล้กับประตูพากันพุ่งเข้ามาหา พวกมันแสดงท่าทีดุร้ายออกมา เหมือนกับมองว่าเขาเป็นอาหาร
หวังเย่าถอยกลับทันที เขาดึงปืนออกมาเพื่อจะยิง แต่เมื่อพบว่าหากยิงไปแล้วเสียงคงก้อง และอาจจะทำให้ที่นี่ถล่มลงมา ดังนั้นเขาจึงเก็บปืนลง ก่อนจะดึงเอาธนูออกมายิงแทน
แม้ว่าที่นี่จะอยู่ใต้ดินแต่ก็ลึกลงมาไม่มาก เขายังพอจะมองเห็นเงาได้บ้าง
ธนูของหวังเย่าถูกยิงออกมา 2-3 ดอกแต่มีแค่ดอกเดียวที่พลาดไป เขาไม่ได้หงุดหงิดแม้แต่น้อย เขาแค่ถอยกลับมา ที่นี่มีสกังค์หลายสิบตัว เขาไม่อาจจะจัดการพวกมันได้ในทีเดียว
“ฉันไม่อยากดมตดของพวกแก” หวังเย่าถอยออกมานอกประตูและมองไปยังซากประตูที่พัง ก่อนจะขมวดคิ้ว
เขากัดฟันแน่นและตัดสินใจที่จะเสี่ยง เขาหยิบระเบิดควันออกมาสองสามลูก ก่อนจะถอยกลับไปที่ทางเดินและปักหลักอยู่ที่นั่น ราวกับหนึ่งคนเฝ้าด่าน ทหารหมื่นนายมิอาจย่างกรายผ่าน หวังเย่าใช้ระเบิดควันจัดการฝูงสกังค์ฝูงนี้
ระเบิดปล่อยควันหนาออกมา จนแทบจะสำลัก พริบตาเดียวมันก็กระจายไปทั่วสุสาน และลอยเข้าไปในห้องฝังศพที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่กี่อึดใจ เสียงกรีดร้องก็ดังออกมาจากด้านใน
หวังเย่ามองไปข้างหน้าด้วยคิ้วที่ขมวด ไม่นานก็มีร่างหลายร่างพุ่งออกมาจากควัน
หวังเย่าอึ้ง เขาคำนวณผิดไป เขาไม่อาจจะรับมือกับฝูงสกังค์พวกนี้ทั้งหมดได้ และเขาไม่อยากจมอยู่ในตดของพวกมัน
ดังนั้นเขาจึงได้แต่ถอย เขาถอยกลับมาพร้อมกับเรียกหงอคงออกมาโจมตี
ผ่านไป 5 นาทีหลังจากที่โยนระเบิดควันเข้าไป เสียงจากด้านในก็ค่อย ๆ เบาลงเรื่อย ๆ จากนั้นก็มีเสียงล้มลงกับพื้นทยอยดังขึ้นทีละครั้งสองครั้ง
หวังเย่ารู้สึกยินดี เขารออยู่สักพักแล้วเดินเข้าไปในหมอก ก่อนจะพบว่าที่พื้นนั้นมีสกังค์นอนเกลื่อนกลาดกันอยู่จนแทบจะปิดทางเดินเอาไว้
หวังเย่าไม่ได้คิดอะไรมาก เขาหยิบมีดขึ้นมาก่อนจะฟันเข้าใส่สกังค์ที่เหลือไม่ให้รอดแม้แต่ตัวเดียว
เขาได้กลับไปที่ห้องฝังศพอีกครั้ง สำหรับพวกสกังค์ที่แก่และบาดเจ็บรวมถึงพวกที่ตั้งท้อง เขาก็จะฆ่าพวกมันทิ้งหมด
ตอนนี้พวกสกังค์ในรังได้ตายไปหมดแล้วหรืออาจจะบอกได้ว่าในภูเขาแห่งนี้คงเหลือแค่สกังค์ที่ไม่อยู่ในรังตอนนี้เท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด
แต่เมื่อคิดดูแล้ว ภูเขาลูกนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก การที่จะสร้างรังได้ใหญ่แบบนี้ได้ก็ถือว่าพวกมันทำได้ดีแล้ว
“ไม่รู้ว่าใครกันที่ถูกฝังไว้ที่นี่ ? ” หลังจากที่จัดการกับพวกสกังค์ไปหมดแล้ว หวังเย่าก็ไม่ได้รีบออกมาจากที่นั่น เขาทำการตรวจสอบสุสานและพบว่าสุสานแห่งนี้ไม่ใช่เล็ก ๆ แร่ที่นี่มีอยู่มาก มันมีทั้งอาวุธ, เกราะและเครื่องเงินอยู่ด้วย
ไม่นานเขาก็พบเจ้าของสุสาน แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ที่นี่จะเต็มไปด้วยโครงกระดูกและโลงศพอยู่ด้านใน และตรงกลางนั้นเป็นโลงศพทองแดงขนาดใหญ่ที่ส่องแสงสีเขียวออกมา
หวังเย่าตะลึง เจ้าของสุสานนี้จะต้องมีภูมิหลังที่ยิ่งใหญ่แน่ มันถึงกับมีหลายคนประกอบพิธีฝังศพเพื่อเขา ส่วนโลงศพหินพวกนั้นน่าจะเป็นพวกคนใกล้ชิดของเขา
เขายื่นมือไปปัดฝุ่นก่อนจะเปิดฝาโลงออกแล้วมองไปด้านในก่อนจะต้องแปลกใจ
เขาคิดว่าโครงกระดูกที่กระจายอยู่โดยรอบคงเป็นโครงกระดูกของทาสหรือคนงาน และในโลงหินนั้น คงจะเป็นคนใกล้ชิดอย่างภรรยาหรือสนม แต่สิ่งที่โลงศพนี้บรรจุไว้ก็คือ ศพของสกังค์ตัวหนึ่ง ศพเน่ามานานแล้ว และที่คอของพวกมันก็ยังมีลูกแก้วติดไว้อยู่
หวังเย่าอึ้ง เขาลองเปิดโลงศพอื่น ๆ ออกและพบว่ามีซากสกังค์อยู่ด้านใน มันมีลูกแก้วสีทองและเงินอยู่ด้านในด้วย
เขาได้ตรวจสอบโลงศพทั้ง 33 อันก่อนจะพบว่าด้านในมีซากสกังค์อยู่ทั้งหมด
หวังเย่าไม่กล้าจะจินตนาการ เขารู้สึกว่าเจ้าของสุสานแห่งนี้จะต้องจิตผิดปรกติแน่ ๆ ถึงเคารพบูชาสกังค์ขนาดนี้ เขาทำเหมือนกับว่ากำลังเคารพเซียนอย่างไรอย่างนั้น
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะกังวล สุสานแห่งนี้ดูลึกลับและแปลกประหลาด เขาถึงกับใจสั่น ที่นี่มันต้องมีบางอย่างที่เขาคาดไม่ถึง
เขารู้ว่าสาเหตุที่เขากังวลก็เพราะจิตใจของเขาคิดถึงแต่เรื่องผี
“ไม่ต้องกลัวไป มันแค่สุสาน” หวังเย่าปลอบใจตัวเอง เขาได้ใช้สกิลเพิ่มพลังของหงอคง จนทำให้เขารู้สึกว่าเลือดในตัวสูบฉีดได้ดีขึ้น มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างมาก
เขาเดินไปที่โลงศพทองแดงก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ สายตาของเขาสะท้อนแสงสีทองออกมา เขายืนรออยู่ข้าง ๆ และสั่งให้หงอคงเปิดโลงศพออก
ฝาโลงส่งเสียงแปลก ๆ ดังขึ้นมาตอนที่มันถูกเปิดออก ตอนที่เปิดฝาโลงออกนั้นก็มีแสงสว่างเจิดจ้าออกมา
หวังเย่ามองตามและรับรู้ได้ถึงคลื่นพลังที่แปลกประหลาด มันเหมือนเป็นคลื่นพลังของต่างโลก
ตอนที่เปิดฝาโลงต่อไปนั้น แสงด้านในก็ส่องออกมาสว่างกว่าเดิมจนทำให้สุสานนั้นสว่างขึ้นไปด้วย
“นี่คงไม่ใช่เซียนจริง ๆ หรอกนะ ? ” หวังเย่ากลืนน้ำลายและอดไม่ได้ที่จะถอยกลับ
ตอนที่ฝาโลงเปิดออกได้ครึ่งหนึ่ง ตัวตนด้านในก็ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร หวังเย่ารู้สึกว่าเขาคงคิดมากเกินไป เขาเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยท่าทีระวัง
“นี่….นี่มันเขตลับไม่ใช่รึไง ? ”
ใช่ ทางเข้าเขตลับอยู่ในโลงศพทองแดงนี้
“นี่มันจริงหรือ ? ฉันไม่เคยได้ยินมาว่าจะมีเขตลับในที่แบบนี้เลย”
หวังเย่าอึ้ง เพราะมันราวกับฝัน เขาลองดมกลิ่นดูแต่ก็ไม่ได้กลิ่นอะไร จากนั้นเขาก็ใช้สกิลเนตรอัคคีมองผ่านแสงนั้น แต่ก็มองไม่เห็นอะไรด้านใน
“ไม่ ลองโยนปิ่นทองลงไปดู” หวังเย่าเห็นว่าปิ่นทองตกลงไปด้านในก็เข้าใจทันที
สิ่งที่อยู่ในโลงศพทองแดงนั้น น่าจะถูกสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในเขตลับนำกลับไป เนื่องจากโลงศพทองแดงถูกปิด ดังนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านในจึงออกมาไม่ได้ เมื่อไม่พบทางออก ก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย
“ฉันกลับพบทางเข้าเขตลับแห่งใหม่” หวังเย่าตื่นเต้นอยู่นานก่อนที่สุดท้ายจะใจเย็นลงแล้วคิ้วขมวดขึ้นมา
เหตผลหลักก็เพราะเขาลังเลและไม่รู้ว่าควรเข้าไปดีรึไม่
อย่างแรกเลยเขายังอ่อนแออยู่และตัวคนเดียวด้วย
อย่างที่สองคือตำแหน่งทางเข้านี้แปลกเกินไป