ตอนที่ 56 สิ่งนี้เรียกว่าสุรา ?

นายน้อยเจ้าสำราญ

ตอนที่ 56 สิ่งนี้เรียกว่าสุรา ?

โรงกลั่นสุราชีชื่อ

ก่อนหน้านี้ชีหยวนหมิงมิชอบกลิ่นในโรงกลั่นสุรานี้เป็นอย่างยิ่ง แต่บัดนี้เขากลับรู้สึกว่าช่างหอมหวานยิ่งนัก

อาจารย์ผู้ชำนาญสิบกว่าคนกำลังกลั่นสุรา คนงานกว่าร้อยคนกำลังวุ่นวาย อย่างไรเสียสุราที่ต้องใช้ธัญพืชกว่าสามหมื่นชั่งนั้นไม่ได้น้อยเลยทีเดียว บรรดาคนงานในโรงกลั่นสุรามิเคยได้พบสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน

มีผู้กลั่นสุราบางท่านเอ่ยถาม แต่ชีหยวนหมิงก็ไม่ได้อธิบายใด ๆ เนื่องจากสิ่งนี้เป็นความลับ จะเอ่ยออกไปได้อย่างไร ?

มีอาจารย์บางท่านกล่าวว่าการกระทำเช่นนี้อาจจะส่งผลให้สุราเกิดรสเปรี้ยว อีกทั้งกล่าวว่าการใส่ไข่ลงไปสุรานั้นเป็นเรื่องไร้สาระยิ่ง แต่ชีหยวนหมิงกลับยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

โรงกลั่นสุราเป็นของเขา ธัญพืชใช้เงินเขาซื้อ ไข่ไก่ก็เป็นเงินเขาซื้อ แม้กระทั่งค่าตอบแทนของบรรดาอาจารย์ก็เช่นกัน เหตุนี้ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอันใดขึ้น เขาจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เพียงแต่ ! พวกเขาจักต้องทำตามที่ตนสั่งทุกประการ มิเช่นนั้นหากเกิดปัญหาใดขึ้น พวกเขาจะต้องรับผิดชอบ !

ด้วยเหตุนี้เอง วิธีการกลั่นสุราอย่างแปลกประหลาดนี้จึงได้ดำเนินการต่อไป

บรรดาอาจารย์กลั่นสุราทั้งหลายล้วนมิเข้าใจ หรือว่าคุณชายของพวกเขาจะมีสูตรลับกัน ?

ถ้าเช่นนั้นคงต้องลองกลั่นออกมา คุณชายของพวกเขามิใช่ผู้ไม่มีความรู้ เขาใช้เงินทองมากมายสำหรับการจัดหาวัตถุดิบ อีกทั้งมิได้ลองกลั่นสุราตัวอย่างก็ดำเนินงานเลยเช่นนี้ คาดว่าเขาคงมีความมั่นใจมาก

อีกทั้งป่าวประกาศในเมืองหลินเจียงนั้น คุณชายของพวกเขาเป็นผู้เขียนขึ้นด้วยตนเอง ทั้งยังนำสุราเลื่องชื่ออย่างเซียงเฉวียนและเซียงฉุนมาเปรียบกับสุราใหม่ สิ่งนี้ส่งผลต่อชีชื่อ ดังนั้นคุณชายคงมิกล้านำเรื่องนี้มาล้อเล่น อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายเดินทางมาคุมงาน ณ โรงกลั่นสุราด้วยตนเอง

อาจารย์ผู้มีชื่อเสียง 2 ท่านยังคงมีความสงสัยอยู่ในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนผสมและเวลาในการต้มที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า ! ธัญพืชเหล่านั้นจะถูกนึ่งเสียจนเละ ! ซึ่งแน่นอนว่าสุราที่ได้จากการกระทำเช่นนี้จะมีรสชาติเปรี้ยว !

พวกเขายืนยันความคิดของตน จึงส่งผลให้ถูกชีหยวนหมิงไล่ออกอย่างไม่ลังเล

 “นี่คือการปรับปรุงแนวคิดใหม่ บรรดาแนวปฏิบัติเดิมควรได้รับการปรับเปลี่ยน พวกเจ้าจงทำหน้าที่ของตนให้ดี เพียงแค่สุรานี้วางจำหน่าย ข้าจะไม่เอาเปรียบพวกเจ้าแน่นอน!”

แท้จริงแล้วสิ่งนี้คือวิธีการกลั่นแบบใหม่ บรรดาอาจารย์และคนงานทั้งหลายที่ได้ฟังก็รู้สึกโล่งใจยิ่ง

วันที่สิบสี่เดือนแปด เวลาเที่ยงตรง

จางเพ่ยเอ๋อได้รับข่าวเกี่ยวกับฟู่เสี่ยวกวนเรื่องที่เขากลับมายังจวนฟู่

นางกำลังแต่งหน้าอย่างสบายอารมณ์ ด้วยสีหน้ามีความสุข

สุราของชีหยวนหมิงคาดว่าคงใกล้จะสำเร็จแล้ว

ในวันรุ่งขึ้นจะได้วางขายอย่างเป็นทางการ

ในที่สุดฟู่เสี่ยวกวนก็กลับมาเสียที เขาเป็นถึงตัวละครหลักในเนื้อเรื่องนี้ หากขาดเขาไปคงไม่สนุกเท่าไรนัก

 “เดินทางไปจวนฟู่ เข้าเยี่ยมฉีชื่อเสียหน่อย”

……

……

สุราของชีหยวนหมิงนั้นสำเร็จแล้วไม่ผิดเพี้ยน

เพียงแต่……

ชีหยวนหมิงได้กลิ่นเหม็นโชยมาทางจมูก เป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ ? เขาตกใจยิ่งนัก จึงรีบไปเปิดดูอีกหม้อหนึ่ง สูตรผสมเดียวกัน รสชาติเดียวกัน

 “ใครบอกกับข้าได้บ้างว่าเกิดอันใดขึ้น ? ”

ชีหยวนหมิงโมโหเสียจนตาแดงก่ำ

กลิ่นที่ได้รับจากสุรานี้มิใช่กลิ่นหอมของสุรา แต่กลับเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่สุดแสนจะทนได้

 “เจ้า เจ้าจงบอกแก่ข้ามา เจ้าใส่ไข่เกินขนาดใช่หรือไม่ ? ” ชีหยวนหมิงกระชากคอเสื้อของคนงานผู้หนึ่งแล้วบังคับถามเขา

 “มิ มิได้……คุณชายขอรับ ธัญพืช 100 ชั่งต่อไข่ไก่ 100 ฟอง ข้าจำได้มิมีผิดเพี้ยน”

ชีหยวนหมิงหันไปตะคอกกับอีกคนหนึ่งว่า “เชื้อหมัก ถูกต้องแล้ว เชื้อหมัก! ใส่เชื้อหมักในปริมาณที่ผิดไปใช่หรือไม่ ? หรือเชื้อหมักจะเกิดปัญหา ? ไปนำมาให้ข้าดูเดี๋ยวนี้ ! ”

คนงานจำนวนกว่าร้อยคนในโรงกลั่นสุรายืนด้วยความงงงวย มองไปยังชีหยวนหมิงด้วยความไม่สบายใจนัก

 “พวกเจ้าดู ! ข้าว่าแล้วเชียวปัญหาต้องอยู่ที่เชื้อหมัก สิ่งนี้ไม่เหมือนเชื้อหมักแต่อย่างใด พวกเจ้าอยากให้ข้าตายงั้นหรือ ! ”

อาจารย์ผู้นั้นยืนตะลึงชั่วครู่แล้วเอ่ยว่า “คุณ คุณชายขอรับ……นี่คือเชื้อหมักของพวกท่านเอง ข้าน้อยเพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อวันก่อน”

“เจ้าเป็นสายลับ ! เจ้าเป็นสายลับอย่างแน่นอน ! ฟู่เสี่ยวกวนส่งเจ้ามาใช่หรือไม่ ? ” ชีหยวนหมิงชี้มาทางคนผู้นั้นด้วยมือที่สั่นเทา

“ข้าน้อยถูกใส่ความ ข้าน้อยหาได้รู้จักฟู่เสี่ยวกวนไม่” อาจารย์กลั่นสุราผู้นั้นช่างโชคร้ายเสียจริง “ข้าเป็นคนกลั่นสุราของลู่จี้ ท่านเป็นคนซื้อตัวข้ามาเอง มิได้เกี่ยวกับข้าเลยแม้แต่น้อย ? ”

ชีหยวนหมิงเดินไปมาหลายรอบในโรงกลั่นสุรานี้ เขาเตะเสียจนหม้อต้มสุราล้มคว่ำ จากนั้นก็ใช้มือต่อยสุราอีกหม้อหนึ่ง “ต้องมีขั้นตอนใดที่ผิดพลาดเป็นแน่ ! ”

ผู้ที่รับผิดชอบกลั่นสุรานี้ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถามว่า “คุณชายขอรับ ไม่ทราบว่าสูตรนี้ท่านได้แต่ใดมา ? ”

“จางเพ่ยเอ๋อนำมาให้ข้า ต้องไม่มีผิดเพี้ยนเป็นแน่ ! ”

“เหตุใดท่านจึงได้เชื่อมั่นเพียงนี้ ? ”

“จางเพ่ยเอ๋อซื้อสูตรมาจากอาจารย์กลั่นสุราท่านหนึ่งของฟู่เสี่ยวกวน สูตรนี้เขาลงมือเขียนด้วยตนเอง เจ้าจงบอกข้ามาว่าจะมีสิ่งใดผิดพลาดได้กัน ? ”

นี่คือสูตรของสุราเซียงเฉวียนและเทียนฉุนงั้นหรือ ?

บรรดาอาจารย์ขมวดคิ้ว หากวิธีการกลั่นไม่มีผิดพลาด ถ้าเช่นนั้นคงเป็นกระบวนการกลั่นที่เกิดปัญหา

“หรือพวกเราควร……ทดลองอีกทีหนึ่ง ? ”

หัวหน้าผู้กลั่นสุราแววตาเป็นประกาย สูตรลับสุราของร้านหยู๋ฝูจี้ ! อยู่ข้างหน้าเช่นนี้ เขาจะต้องทำมันให้สำเร็จ

 “ใช่แล้ว ! ใช่ ! จงลองดูอีกสักครั้งหนึ่ง มีธัญพืชและไข่ไก่เพียงพอ หากไม่เพียงพอข้าจะไปซื้อหามาเพิ่มเติม จงเทของเดิมทิ้งให้หมดแล้วล้างให้สะอาด หากใครยังกล้าขัดขืนคำสั่ง ข้าไม่ไว้ชีวิตแน่ ! “

ชีหยวนหมิงตะโกนออกไป แต่ภายในใจกลับเอ่ยกับตัวเองว่า ยังมีเวลา จงอย่ารีบร้อน ในครั้งนี้ต้องไม่มีอุปสรรคใด ๆ !

……

……

ในขณะที่ชีหยวนหมิงกำลังกังวล ขณะเดียวกัน ณ จวนฟู่ จางเพ่ยเอ๋อและฉีชื่อกำลังพูดคุยกันอย่างถูกคอ

 “เขามิได้กลับมาเป็นเวลานานแล้ว หากแต่ไม่กลับมาก็ดี ข้าไม่อยากพบเขาเท่าไรนัก”

“ความปรารถนานี้จะเป็นจริงอีกไม่นาน”

“เช่นนั้นหรือ ? หากเจ้าเอ่ยเช่นนี้หมายถึงสุราทั้งสองชนิดใกล้จะสำเร็จแล้วอย่างนั้นหรือ ? ”

จางเพ่ยเอ๋อยิ้มแล้วพยักหน้า “ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันไหว้พระจันทร์ และเป็นวันวางขายสุราทั้งสองนั้น คาดว่าต่อจากนี้หยู๋ฝูจี้คงต้องปิดกิจการเสียแล้ว”

ฉีชื่อพยุงร่างกายของนางลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง “หากเป็นเยี่ยงนี้เขาจะไม่มีกิจการใดในเมืองหลินเจียง แต่ในเรือนซีซานนั้นได้ยินมาว่ากำลังทำการบางอย่างอยู่ สิ่งนั้นเรียกว่าปูน ข้าเองก็หารู้ไม่ว่าคืออันใด ไม่ทราบว่าแม่นางสนใจหรือไม่”

“แน่นอน หากท่านช่วยเหลือข้าได้ เพ่ยเอ๋อจะมิลืมบุญคุณอย่างแน่นอน”

ยามอาทิตย์ตกดิน จางเพ่ยเอ๋อเดินทางออกจากเรือนฟู่ไป เนื่องจากสุราของชีหยวนหมิงคงใกล้ออกจากเตาแล้ว

ชีหยวนหมิงกลั่นสุราครั้งที่สอง ผลที่แท้จริงก็ปรากฏ

ทุกขั้นตอนและอัตราส่วน เขาได้เห็นกับตาตัวเอง

บัดนี้ เขานำมือปิดจมูกแล้วดื่มสุรานั้น เนื่องจากกลิ่นไม่พึงประสงค์อันรุนแรงนั่น

เขาดื่มเข้าไปอึกหนึ่ง แล้วรีบบ้วนออกมา “สิ่งนี้เรียกว่าสุรางั้นหรือ ? จางเพ่ยเอ๋อ ข้าจะฆ่าเจ้าคนโกหก ! ”