เล่มที่ 3 บทที่ 89 อย่าได้แตะต้องคนของข้า

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

“เช่นนั้นก็ดี เจ้าลองไปดูด้วยตนเองเถิดอาเป่ย หากถูกใจสตรีนางไหนก็ขอให้บอกมา”

    ฮ่องเต้หมิงหาได้รู้สึกกังวลไม่ ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นเพียงการแสดงคั่นเวลาแต่เพียงเท่านั้น

    หลินเมิ้งหยาเริ่มสงสัย ความจริงฮ่องเต้หมิงน่าจะรู้เรื่องของหลินเมิ้งหวู่อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว

    แต่เพราะเหตุใด ฮ่องเต้หมิงจึงไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆ เช่นนั้น?

    หรือเขากำลังปิดบังแผนการอะไรบางอย่างอยู่ แม้แต่นางเองก็มองความคิดของเขาไม่ออก

    หากเป็นดั่งที่ตนเองคิดจริงๆ ฮ่องเต้หมิงจะต้องเป็นคนที่ฉลาดเฉลียวมากอย่างแน่นอน

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”

    หูเทียนเป่ยลุกออกจากที่นั่งของตนเอง ในมือถือจอกเหล้า ก่อนจะเดินดิ่งเข้าไปในฝูงชน

    ใบหน้าหล่อเหลา กอปรกับเครื่องแต่งกายหรูหรา ส่งผลให้เขางามสง่าเกินพรรณนา

    แม้จะเป็นองค์ชายรัชทายาท แต่กลับไร้ซึ่งความหยิ่งผยอง ดังนั้นเขาจึงชนะใจของหญิงสาวผู้มาร่วมงานได้ไม่ยาก

    ขณะเดียวกัน หญิงสาวบางคนรวบรวมความกล้า เงยหน้าขึ้นสบตากับเขา

    หลินเมิ้งหยายิ่งรู้สึกมั่นใจ หูเทียนเป่ยหาได้รู้เรื่องแผนการลับระหว่างฮ่องเต้หมิงและฮองเฮาไม่

    อันที่จริงสามารถมองออกได้อย่างง่ายดาย ฮ่องเต้หมิงไม่มีทางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดฮองเฮาจึงพยายามยัดเยียดหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปเป็นสะใภ้ของตนเอง นอกจากการดึงตนเองเข้าไปเป็นพวกแล้ว ก็คงเพื่อจับตามองพวกเขา

    หากวันใดเขาคิดไม่ซื่อขึ้นมา แน่นอนว่าชายาที่ถูกยัดเยียดมาจะต้องรู้เรื่องนั้น

    แต่หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับหลินเมิ้งหวู่ ความรับผิดชอบก็จะถูกโยนมาที่เขา อีกทั้งเขาคงมิได้แต่งงานเอาลูกสะใภ้เข้าบ้าน แต่กลับกลายเป็นพาร่างไร้วิญญาณเข้าบ้านแทน

    ยิ่งไปกว่านั้น เขามองออกถึงเจตนารมณ์ของหลินเมิ้งหวู่

    ทั้งที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ทว่าหญิงสาวที่ยอมพลีกายถวายชีวิตให้ชายอื่น จะเป็นชายาที่ดีได้อย่างไร?

    คาดว่าหากเป็นเช่นนั้น ราชวงศ์แห่งซีฟานจะกลายเป็นตัวตลกของราษฎรเสียมากกว่า

    หลังจากผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่ หูเทียนเป่ยไร้ซึ่งภาพความทรงจำที่ดีกับหญิงสาวแห่งต้าจิ้นโดยสิ้นเชิง

    หลินเมิ้งหยาไม่เคยรู้สึกเห็นด้วยกับการแต่งงานเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เหตุเพราะวันใดทั้งสองประเทศเกิดทำสงครามกันขึ้นมา

    คนที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นชายาคนนั้น

    ทว่า นางหาใช่คนที่จะสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้

    คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่หูเทียนเป่ยเดินวนอยู่หนึ่งรอบ เขามิได้วางจอกเหล้าบนโต๊ะของหญิงสาวคนใดเลย

    ทว่าเขากลับเดินตรงเข้ามายังที่นั่งของเหล่าราชนิกุลแห่งต้าจิ้น

    คิ้วของฮองเฮาขมวดเข้าหากัน หรือเขาจะถูกใจองค์หญิง?

    แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่พวกองค์หญิงมิได้ใช้งานง่ายเหมือนอย่างหลินเมิ้งหวู่

    ทว่าหูเทียนเป่ยมิได้ถูกใจองค์หญิงองค์ใดเลย แต่เขากลับหยุดยืนตรงหน้าหลินเมิ้งหยา

    วางจอกเหล้าของตนเองลงบนโต๊ะของหลินเมิ้งหยา ความตกตะลึงพลันปรากฏขึ้นในดวงตาของทุกคน ปากอ้าค้าง

    “วันนั้น ข้ารู้สึกถูกใจสาวใช้คนหนึ่งที่วัด พอลองไปสอบถามดูจึงได้รู้ว่านางเป็นนางกำนัลประจำตัวของพระชายาอวี้ ไม่ทราบว่าพระชายาอวี้จะยินยอมให้นางอภิเษกสมรสกับข้าได้หรือไม่?”

    ขณะนี้ คำพูดของหูเทียนเป่ยทำให้ทุกคนผงะ

    องค์ชายรัชาทายาทแห่งซีฟานตกหลุมรักสาวใช้คนหนึ่ง

    นี่…มันเรื่องตลกอะไรกัน?

    หลินเมิ้งหยาเองก็อยู่ในอาการตกตะลึงเช่นเดียวกัน สายตาจ้องมองจอกเหล้าจอกนั้น

    นี่มันหมายความว่าอย่างไร? หรือเขาจะหมายถึงป๋ายจื่อ?

    จู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ วันนั้นทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกล่องขนมกัน แต่หากบอกว่าเพียงเพราะเรื่องนี้ทำให้เขาหลงรักนางตั้งแต่แรกพบ มันจะสมเหตุสมผลอย่างนั้นหรือ?

    “ท่าน…ข้าไม่ค่อยเข้าใจความหมายขององค์ชายนัก องค์ชายเข้าใจผิดไปหรือไม่?”

    หลินเมิ้งหยาเอ่ยถามด้วยความระมัดระวัง เหตุเพราะกลัวว่าหูเทียนเป่ยจะพูดเรื่องจริง

    “ไม่ ข้าตัดสินใจแล้ว วันนี้ข้าจะไม่อภิเษกกับใครทั้งสิ้นนอกจากนาง ข้าหวังเหลือเกินว่าพระชายาจะยินยอม”

    สายตาและคำพูดของเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น

    สีหน้าของฮองเฮาและไท่จื่อพลันดำถมึงทึง ทว่าพวกเขาได้ลั่นวาจาไปแล้ว อีกทั้งยังมิอาจคืนคำ

    “องค์ชาย ตำแหน่งชายามีความสำคัญมาก ไม่อาจเลือกกันได้ง่ายๆ หากท่านชอบนางจริงๆ แล้วละก็ สามารถขอให้พระชายาอวี้มอบสาวใช้คนนั้นไปเป็นชื่อเฉี้ย1ก็ได้”

    แววตาของไท่จื่อกระวนกระวาย ส่งเสียงยับยั้งอีกฝ่าย

    หลินเมิ้งหยาเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ ป๋ายจื่อคือสาวใช้ของนาง ไท่จื่อมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทน

    นางครุ่นคิด หยิบจอกเหล้าขึ้นมาพลางเอ่ยด้วยความโกรธ

    “ป๋ายจื่อเป็นสาวใช้ของหม่อมฉัน นางเปรียบเสมือนน้องสาวคนหนึ่ง เรื่องนี้หม่อมฉันขอถามความเห็นจากนางก่อน หากนางยินยอม องค์ชายจะต้องอวยยศนางเป็นชายาเอกนะเพคะ”

    เพียงประโยคเดียว หลินเมิ้งหยาสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตจากฮองเฮาและไท่จื่อ

    ฮึ วางแผนการเอาไว้อย่างแยบยล แต่สุดท้ายถูกสาวใช้ของนางช่วงชิงโอกาสไป

    บางทีตอนนี้ไท่จื่อและฮองเฮาคงเกลียดนางจับใจ

    เกลียดแล้วอย่างไรเล่า? นางหาได้กลัวกลอุบายชั่วร้ายใดๆ ไม่

    ตอนนี้จวนของนางมีองครักษ์และชิงหูคอยคุ้มครองดูแล ต่อให้พวกเขาวางแผนแทงนางข้างหลัง นางก็ไม่กลัว

    ไม่มีใครคาดคิดว่าหูเทียนเป่ยจะตอบตกลง

    ยกจอกเหล้าขึ้น ทั้งสองชนแก้วกัน พันธสัญญาเป็นอันจบลง

    ขั้นตอนเป็นไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่คนนอกยังอดที่จะสงสัยไม่ได้

    หูเทียนเป่ยหลงรักป๋ายจื่อตั้งแต่แรกเห็นจริงหรือ?

    หลินเมิ้งหยาจ้องมองหูเทียนเป่ยเพื่อจับสังเกต ทว่ากลับเห็นเขากะพริบตาใส่ตนเองถี่ๆ

    เข้าใจความหมายของเขาในทันที หลินเมิ้งหยาแอบพยักหน้า

    ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่แอง

    ช่างเป็นองค์ชายที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบ นี่จึงจะเรียกว่าละเอียดรอบคอบของจริง

    หูเทียนเป่ยกลับไปยังตำแหน่งของตนเอง เมินสายตาผู้อื่น แต่ถึงกระนั้นเขาแอบชำเลืองเห็นหลินเมิ้งหยาที่กำลังพยักหน้าให้กับเขา

    แม้ฮองเฮาและไท่จื่อจะเห็นแต่กลับไม่อาจห้ามได้ เกรงว่าตอนนี้คงกระอักเลือดแล้วกระมัง

    “ฮ่องเต้หมิง เรื่องนี้จะเป็นการตัดสินใจเร็วเกินไปหรือไม่?”

    ไท่จื่อหยักยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก เขาอยากไถ่ถามความเห็นจากฮ่องเต้หมิง

    “คือว่า…”

    ฮ่องเต้หมิงเองก็อยากยุติการแต่งงานอันแสนวุ่นวายนี้เต็มที แต่เขากลับได้เห็นหูเทียนเป่ยลุกขึ้นยืนแล้วคุกเข่าลงบนพื้น

    “เสด็จพ่อ สิ่งที่พวกเราชาวซีฟานยึดถือมากที่สุดคือคำสัญญา เมื่อครู่เอ๋อร์เฉินได้ทำสัญญากับชายาอวี้เอาไว้แล้ว หากกระหม่อมผิดคำสัญญา เกรงว่าจะขัดต่อจริยธรรมคำสั่งสอนของชาวซีฟาน ยิ่งไปกว่านั้นหาได้มีข้อกำหนดว่าชายาเอกแห่งซีฟานจะต้องมาจากสกุลใหญ่โตไม่ ท่านเองก็มักจะบอกว่าความรักและสมานฉันท์ของสามีภรรยานั้นสำคัญที่สุดมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

    คำพูดของหูเทียนเป่ยสกัดกั้นคำคัดค้านจากฮ่องเต้หมิง

    ไม่อาจผิดคำพูดได้ ไท่จื่อและฮองเฮาล้วนเอ่ยโน้มน้าวให้ตอบตกลงคำขอร้องของหูเทียนเป่ย

    ตอนนี้เพียงแค่เลือกผิดคนเท่านั้น ใช่ว่าความรุ่งโรจน์จะจากไป

    แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดของหูเทียนเป่ยจะได้ผล

    ทัศนคติของฮ่องเต้หมิงเปลี่ยนไปทันที มือยกขึ้นตบบ่าของหูเทียนเป่ย

    “ดี บุตรแห่งซีฟานจะต้องรักษาคำมั่นสัญญา เจ้าลุกขึ้นเถิด ข้าอนุญาตการอภิเษกสมรสของเจ้าในครั้งนี้แล้ว”

    ฮ่องเต้หมิงลั่นวาจาแล้ว เป็นอันว่ากระดานของเขาถูกตอกตะปูจนมั่นคง

    ไท่จื่ออ้าปาก แต่กลับไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา

    “ดี ในเมื่อหัวใจขององค์ชายมีเจ้าของแล้ว เช่นนั้นพวกเราคงมิอาจเอื้อมเข้าไปทำลายความรู้สึกของพระองค์ได้”

    ฮองเฮายังคงเจ้าเล่ห์อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทัศนคติของนางเปลี่ยนไป อีกทั้งยังเอ่ยวาจาให้การสนับสนุนกับความรักของหูเทียนเป่ย

    “ขอบพระทัยฮองเฮา”

    หูเทียนเป่ยและฮ่องเต้หมิงรีบแสดงความขอบคุณ แม้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงจะอึดอัด ทว่าฮองเฮากลับยิ้มออกมาได้อย่างดงาม

    งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป หลินเมิ้งหยาและหลงเทียนอวี้สบตากัน เกรงว่าอีกไม่นานพายุจะต้องเข้าอย่างแน่นอน

    “เสด็จพ่อ ฮองเฮา พอข้าได้เห็นท่านพี่ได้เลือกสาวงามแล้ว ข้ารู้สึกอิจฉาเหลือเกิน ไม่ทราบว่าข้าเองก็สามารถเลือกชายากลับซีฟานได้หรือไม่?”

    คำพูดของหูลู่หนานทำให้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงแปลกไปอีกครั้ง

    หูเทียนเป่ยมองน้องชายตนเองอย่างไม่เห็นด้วย เหตุเพราะท่านพ่อหาได้รู้สึกยินดีกับการเลือกลูกสะใภ้ในคราวนี้ไม่

    เหตุใดอยู่ๆ ลู่หนานจึงร้องขอเรื่องนี้ขึ้นมา?

    “หากองค์ชายรองมีพระประสงค์เช่นนั้น เสด็จแม่เองก็คงยินดีไม่น้อย”

    แม้แผนเลือกชายาให้องค์ชายรัชทายาทจะไม่สำเร็จ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะเลือกชายาให้องค์ชายรองไม่สำเร็จนี่

    เหตุเพราะยังไม่แน่ชัดเลยว่าตำแหน่งฮ่องเต้จะเป็นของผู้ใด

    ครุ่นคิด หูลู่หนานเองก็คิดเห็นเช่นนั้นเช่นเดียวกัน กระตุกยิ้มสง่างาม ก่อนที่นิ้วจะชี้ไปยังหญิงสาวที่อยู่ในมุมมุมหนึ่ง

    “ข้าคิดว่าหญิงสาวท่านนั้นจิตใจดีมีคุณธรรมยิ่งนัก เช่นนั้นข้าเลือกนางแล้วกัน”

    หัวใจของหลินเมิ้งหยากระตุกระรัว สายตาทุกคนหันไปมองทางหญิงสาวคนดังกล่าว ผลปรากฏว่านางคือเยว่ถิง

    เยว่ถิงหันมาสบตานาง ใบหน้ากระวนกระวาย

    บังอาจนัก กล้ามาเลือกคนที่สกุลหลินหมายปองอย่างนั้นหรือ

    เรื่องนี้กลับมาเกี่ยวข้องกับหลินเมิ้งหยาอีกครั้ง

    ตอนนั้นทุกคนต่างรู้เรื่องการหมั้นหมายระหว่างคุณชายใหญ่แห่งสกุลหลินและคุณหนูใหญ่แห่งสกุลเยว่

    ทว่าตอนนี้เยว่ถิงกลับถูกองค์ชายแห่งซีฟานเลือกเป็นชายา ดังนั้นจึงเริ่มมีคนถกเถียงกันเกี่ยวกับสกุลหลิน

    “เกรงว่าคราวนี้คุณชายใหญ่สกุลหลินจะถูกสวมเขาเสียแล้ว”

    “มิใช่หรืออย่างไรเล่า? เขากำลังออกรบด้วยความกล้าหาญ ทว่าว่าที่ภรรยาของตนเองกลับถูกองค์ชายรองแห่งซีฟานเลือก ช่าง…”

    เสียงซุบซิบนินทาดังเข้ามาในโสตประสาทของหลินเมิ้งหยา ความโกรธของนางจึงปะทุขึ้น

    องค์ชายรองตัวดี ลักพาตัวนางไม่พอ ยังคิดจะมายุ่งกับพี่สะใภ้ของนางอีก

    ดังนั้นหลินเมิ้งหยาจึงเลิกสนใจปัจจัยอื่นใด แค่นหัวเราะเสียงเย็น ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

    “ช่างเป็นราชวงศ์ที่รักคุณธรรมเสียนี่กระไร แม้แต่ภรรยาของผู้อื่นก็ยังคิดจะช่วงชิงได้”

    เสียงของหลินเมิ้งหยาแม้จะเบา แต่กลับได้ยินกันอย่างถ้วนทั่ว ดังนั้นผู้คนในตำหนักหยวนซานจึงพากันสูดกลืนน้ำลาย

    พระชายาอวี้ใจกล้าบ้าบิ่นเหลือเกิน

    สายตาอำมหิตของไท่จื่อตกลงบนร่างบางของหลินเมิ้งหยา เขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะทำลายแผนการอภิเษกสมรสอีกครั้ง

    ดังนั้นความโกรธจึงปะทุขึ้นมา

    “น้องสาม จงไปดูแลชายาของเจ้าบัดเดี๋ยวนี้!”

    แม้อ๋องอวี้จะเฉยชา ทว่าดวงตาของเขากลับเผยให้เห็นถึงความขบขัน

    หากเป็นแต่ก่อน หลงเทียนอวี้คงเข้าไปห้ามปรามชายาของตนเองโดยไม่พูดกระไร

    ทว่าวันนนี้หลงเทียนอวี้กลับลุกขึ้นแล้วจ้องชายาของตนเองนิ่ง

    “หย๋าเอ๋อร์พูดถูกแล้ว ข้าเองก็เห็นด้วยกับนาง”

    “เฮือก…” ทุกคนเกือบจะล้มลงเพราะความตกตะลึง

    พวกเขามิได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่?

    ชายผู้มีใบหน้าเย็นชา แม้จะมีหญิงสาวล้มลงตรงหน้าก็ไม่คิดยื่นมือเข้าไปช่วยผู้นี้กำลังเข้าข้างชายาของตนเอง

    สวรรค์โปรด งานเลี้ยงในวันนี้บ้าคลั่งเหลือเกิน!

************************

1 ชื่อเฉี้ย หมายถึงสนมที่มีฐานันดรเป็นเพียงสามัญชน ยศต่ำกว่าชายารอง