ตอนที่ 94 : โครงกระดูกสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่  94 : โครงกระดูกสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์

“ตามแผนที่เขตลับในอินเตอร์เน็ตที่ได้มาจากทหารรับจ้างแล้ว เกาะที่มีเห็ดเติบโตนั้นคือเกาะที่สามทางเหนือ ดูเหมือน…”

หวังเย่ายังอยู่ที่เกาะแรกอยู่ เขาต้องว่ายน้ำออกไปอีก แต่ก็พบว่าที่เกาะมีเรือที่ทหารรับจ้างทิ้งเอาไว้อยู่

เขาเดินไปมาอยู่หลายรอบแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะขับมันยังไง

เขามั่วอยู่หลายครั้งก่อนที่สุดท้ายจะขับเรือไปยังเกาะที่สามได้และไปถึงที่นั่นในเวลาไม่ถึง 10 นาที

เมื่อจอดที่เกาะนั้น หวังเย่าก็รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ทำไมมันถึงได้เย็นแบบนี้ ? ”  หวังเย่ารู้สึกถึงความหนาวเย็นถึงขั้วกระดูก มันแผ่มาจากเท้าไปทั่วตัวเขา ชัดแล้วว่าอุณหภูมินั้นเปลี่ยนไป แต่รอบ ๆ กลับไม่เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติและได้เปิดใช้สกิลเนตรอัคคีมองไปที่ใจกลางเกาะทันที

เกาะที่ว่าเล็กนี้อันที่จริงนั้นใหญ่มาก แม้ว่าจะเทียบกับเกาะที่อยู่ใจกลางบึงไม่ได้ แต่ก็มีพื้นที่ยาวถึง 30 ไมล์ ไกลออกไปก็มีป่าหนาแน่น ต้นไม้เหล่านี้มีตากว่า 10 แห่ง ตาต้นไม้แต่ละอันมีขนาดใหญ่เท่ากับฝ่ามือ กิ่งไม้กางออกเป็นวงกลม ใบไม้สีแดง มันแดงยิ่งกว่าต้นเมเปิ้ลเสียอีก

หวังเย่าแสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขาต้องเดินหน้าอย่างระมัดระวังและห้ามส่งเสียง ไม่งั้นแล้วมันอาจจะสร้างปัญหาขึ้นมาได้

“ ต้นไม้นี้คือต้นไฟแสง มันมีระดับเหมือนกับสัตว์อสูร แม้ว่ามันจะขยับตัวไม่ได้ แต่ก็มีวิธีการโจมตีของมัน”   หวังเย่ามองไปที่ต้นไม้ใหญ่

****

สายพันธุ์ : ต้นไม้ไฟแสง

ระดับ : เงิน

เลเวล : 38

สกิล : 1. ฝนจรวด ตาต้นไม้สามารถยิงจรวดออกมาได้ ต้นไม้ที่หนาแน่นนี้ทำให้การโจมตีมันถูกเรียว่าฝนจรวด, 2. ใบไม้เลือด ใบไม้ทั้งหมดแยกตัวออกมาเป็นกับดักได้ ถ้าไม่หนีทันก็จะถูกขังไว้ในใบไม้และไม่อาจจะออกมาได้

จุดอ่อน  :ไม่กลัวไฟ ถ้าติดไฟมันจะสูบเข้าไปในตัว แต่มันขี้ขลาด มันกลัวเสียง ถ้าได้ยินเสียงมันจะตัวสั่น

****

หวังเย่าอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก แม้ว่าต้นไม้นี่จะน่ากลัวแต่ไม่คิดเลยว่ามันจะขี้ขลาดแบบนี้ โชคดีที่เขามีระบบอยู่ถึงได้มองจุดอ่อนส่วนนี้ออกทันที

“ไม่ ฉันรู้สึกว่าเกาะนี้ผิดปกติ ต้นไม้ไฟแสงนี้คายความร้อนออกมาได้ แต่พื้นดินกลับเย็น แล้วมันเอาไฟมาจากไหนกัน ? ”  หวังเย่ารู้สึกว่าเกาะนี้แปลกประหลาด ต้นไม้นี้จะกลัวเสียงดังได้ยังไง มันน่าเหลือเชื่อ

แน่นอนว่ายังไม่หมดแค่นั้นแน่

เขาดึงเอาโทรศัพท์ออกมาและโหลดเพลงที่น่ากลัว อยู่ ๆ เสียงเพลงก็ดังขึ้น โชคดีที่มันยังกลางวันอยู่ ไม่งั้นแล้วหวังเย่าคงขนลุกไปด้วย

เขาเดินเข้าไปในป่าและพบว่าต้นไม้นั้นสั่นไหว ตาต้นไม้ทั้งหมดปิดแน่นราวกับเด็กน้อยขี้กลัว

หวังเย่าเริ่มเบาใจและโล่งอก เขาจะสามารถมองหาเห็นหลุมศพได้อย่างสบายใจ

ยังไงซะก็ไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่อยู่รอดในป่านี้

จำนวนเห็ดนั้นน้อย ต้องค้นหามันดี ๆ หวังเย่าไม่อาจจะสำรวจได้เร็วนักเพราะเสียงโทรศัพท์ของเขาไม่ได้ดังนัก มันส่งผลแค่ในระยะ 10 เมตรเท่านั้น

10 นาทีต่อมาเขาก็มองไปที่ ‘หลุมศพ’ ตรงหน้าก่อนจะเอาพลั่วออกมาแล้วค่อย ๆ ขุดดิน แล้วพบกับเห็ดหลุมศพสีม่วงขนาดเท่ากับร่ม

หวังเย่าเริ่มขุดมันออกมาทันที เขารู้สึกถึงความเย็นที่ลามไปทั่วตัว ก่อนจะเก็บเห็ดนี่เข้าไปในกระเป๋ามิติแล้วทำการค้นหาต่อ

2 ชั่วโมงต่อมา หวังเย่าก็พบเห็ดหลุมศพกว่า 10 อัน เขากำลังจะค้นหาต่อแต่ก็พบว่าเห็ดที่เขากำลังจะเก็บนี้ดูผิดปกติ เมื่อมองดูใกล้ ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

มันมีกระดูกอยู่ด้านใน  มันเหมือนกับกระดูกซี่โครง

หวังเย่าสงสัยและใช้พลั่วขุดลงไป ไม่นานก็พบกระดูกส่วนอื่นๆ

หวังเย่ายังคงขุดต่ออีกกว่าครึ่งชั่วโมง

“นี่มัน…”  เขาเห็นโครงกระดูกขนาดใหญ่โผล่มาจากพื้น  หวังเย่าอึ้งและคิดอะไรไม่ออก  “ไม่นึกเลยว่ากระดูกของสัตว์อสูรขนาดใหญ่จะถูกฝังเอาไว้ใต้เกาะนี้”

ที่เขาเห็นแค่ส่วนหนึ่งของมัน เขาไม่รู้ว่าโครงกระดูกนี้จะใหญ่แค่ไหน และไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่เมื่อเห็นมันก็ทำให้เขาตะลึงได้

ดูจากขนาดที่ใหญ่แบบนี้ เกรงว่าโครงกระดูกน่าจะยาวหลายสิบไมล์ ไม่น่าจะใช่สัตว์อสูรทั่วไป

เขาอดไม่ได้ที่จะใช้ระบบตรวจสอบ

****

แจ้งเตือน— พบโครงกระดูกสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์

****

“สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์หรือ ? ”  หวังเย่าแปลกใจ

แม้ว่ามันจะไม่ใช่สัตว์อสูรระดับพระเจ้า แต่ก็แกร่งไม่ใช่น้อย ยังไงซะมันก็เป็นสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์

“ไม่แปลกเลยที่มันจะเย็นแบบนี้ มันน่าจะเป็นพลังงานความเย็นจากโครงกระดูกระดับศักดิ์สิทธิ์ ต้นไม้ไฟได้สูบพลังงานของโครงกระดูกนี้เข้าไป ยังไงซะสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์นี่คงแข็งแกร่งอย่างมาก ถึงจะตายไปแล้ว แต่พลังของมันก็ยังไม่จางหายไป”

ส่วนเห็ดหลุมศพนั้นเห็นได้ชัดว่าดูดซับพลังงานจากโครงกระดูกนี้ไป มันอาจจะหยั่งรากฝังลงในกระดูก

หวังเย่านึกถึงบางอย่าง  “ไม่แปลกเลยที่เห็ดนี่จะดูพิเศษ หรือมันมีอะไรอย่างอื่นอยู่อีกรึเปล่า ? ”

“ตือโป๊ยก่าย แกลงไปดูด้านล่างที”

เขาเรียกตือโป๊ยก่ายออกมาและให้มันใช้สกิลขโมยเงา ก่อนจะขโมยเงาของเขาดำดิ่งลงไปใต้ดิน

พื้นดินนั้นแข็งและมีแค่น้ำที่ซึมลงไปได้ แต่เมื่อตือโป๊ยก่ายได้เปลี่ยนเป็นเงาแล้ว มันก็สามารถดำลงไปได้เช่นกัน ไม่รู้ว่าแม้แต่เหล็กกล้าและของอื่น ๆ มันจะทะลุไปได้รึไม่

หวังเย่าคิดว่าพื้นดินนั้นมีช่องว่างจึงผ่านไปได้ แต่เหล็กนั้นอาจจะไม่มีช่องว่าง

หลังจากที่ดำลงไปได้ไม่นาน  หวังเย่าก็เดินหาเห็ดหลุมศพต่อ แม้จะหวั่นใจอยู่บ้างแต่ตราบใดที่ที่นั่นไม่มีอันตรายหรือโครงกระดูกอยู่ เขาก็เก็บเห็ดได้อย่างสบายใจ

ผ่านไป 30 นาที ตือโป๊ยก่ายก็ส่งข้อความกลับมาว่าพบไข่ขนาดใหญ่

หวังเย่าลนลานขึ้นมาทันที เขารีบกลับไปยังตำแหน่งเดิมก่อนจะเรียกการ์ฟิลด์และหงอคงออกมาช่วยกันขุดดินลงไป

สักพักดินก็ถูกขุดจนกลายเป็นหลุมลึก

ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง พวกเขาก็ขุดกันได้ว่า 100 เมตร  ตือโป๊ยก่ายวนเวียนอยู่รอบไข่นั้นเพื่อตรวจสอบพลังชีวิตของไข่นั้น

หวังเย่าเดินเข้าไปและพบว่าไข่นั้นมีขนาดเท่ากับรถยนต์ เขาใช้มือลูบมันแต่ก็ไม่รับรู้ถึงพลังชีวิตแม้แต่น้อย

“ ยังอยู่ในช่วงสร้างตัวหรือ ? ”  หวังเย่าผิดหวังนิดๆแต่เขาก็ยังให้ระบบตรวจสอบไข่นี้ ไม่นานก็มีข้อมูลโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา

แจ้งเตือน : ไข่ของสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ แก่เกินไปที่จะฟักได้แต่มันยังเหลือแก่นอยู่ สัตว์อสูรสามารถกินมันได้

“ไข่ของสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังงานที่สูง”  หวังเย่าคิดก่อนจะเก็บมันเข้าไปในกระเป๋ามิติ หลังจากออกจากที่นี่เขาค่อยทำการศึกษามันต่อ