ตอนที่ 95 : นั่งรอความตาย

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 95 : นั่งรอความตาย

เมื่อเห็นว่าเห็ดอากาศเหลือแค่ไม่กี่อัน หวังเย่าก็ไม่กล้าจะอยู่ต่อและรีบออกจากที่นั่นไป

เขาได้ออกจากป่าและขับเรือออกมาจากเกาะทันที

“ ช่วยด้วย “

อยู่ ๆ กลับมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้น หวังเย่าหันกลับไปมองและพบว่าที่บึงไกลออกไปนั้นมีคนสองคนกำลังว่ายน้ำอยู่ หนึ่งในนั้นบาดเจ็บหนัก และมีคลื่นลูกใหญ่ซึ่งเป็นสัตว์อสูรน้ำตัวใหญ่กำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ คลื่นนั้นถึงกับทำลายเรือหลายลำและย้อมบึงโดยรอบให้กลายเป็นสีแดงฉาน มันมีร่างของคนลอยอยู่ตามน้ำด้วย

“พวกเขาไปหาเรื่องเจ้าถิ่นเข้าแล้ว”  หวังเย่าอึ้ง ด้วยความสามารถที่เขามีแล้ว เขาไม่อาจจะช่วยใครได้ เขาได้แต่มองดูทหารรับจ้าง 2 คนนี้โดนกินเข้าไปอยู่ในท้องของสัตว์อสูร แต่ก็ไม่อาจจะทำใจแข็งได้

“อสูรน้ำนี้เหมือนจะบาดเจ็บมาและตามหลังอยู่เยอะ ถ้าฉันไปช่วยพวกเขาตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะทันรึเปล่า”  หลังจากที่หวังเย่าคิดอยู่สักพัก เขาก็ตัดสินใจที่จะเสี่ยง

เขารีบขับเรือไปรับทั้งสองคนทันที 3 นาทีต่อมาเขาก็ไปถึงจุดที่สองคนนั้นอยู่ เขารีบดึงทั้งสองขึ้นมา ทั้งสองพากันขอบคุณเขาแล้วหันกลับไปมอง ก่อนจะพบว่ากำแพงคลื่นขนาดใหญ่กำลังไล่ตามพวกเขามาอย่างรวดเร็ว

หวังเย่าไม่คิดจะตอบกลับ เขารีบขับเรือด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความเร็วของสัตว์อสูรน้ำนั้นมีแต่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ มันพ่นลูกศรน้ำออกมา หวังเย่าหลบได้และหันกลับไปมองอีกสองคนที่อายุราว ๆ 20 ปี และสวมชุดระดับ C  คนหนึ่งมีจมูกที่คมซึ่งบาดเจ็บที่ท้อง ส่วนคนผมสั้นนั้นไม่เป็นอะไร

“คุณขับเรือนี่เป็นมั้ย ? มันขับง่าย ๆ ”  หวังเย่ามองไปที่ชายผมสั้นและถามขึ้นมา

“ได้”  ชายหนุ่มผมสั้นตอบกลับและรีบไปขับเรือแทนทันที

หวังเย่าไปยืนอยู่ด้านหลังเรือและเอาปืนจรวดออกมาจากกระเป๋ามิติ นี่คือสิ่งที่เขาได้มาจากจ้าวเมิ่งซี มันถือว่าพอทรงพลังอยู่บ้าง

ตอนนั้นสัตว์อสูรโผล่ออกมาที่ผิวน้ำ มันดูคล้ายกับฉลามตัวใหญ่ ตัวของมันเท่ากับตึก 60 ชั้นรึอาจจะใหญ่กว่านั้นก็ว่าได้

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะตรวจสอบมันและพบว่ามันเป็นฉลามเลือดเลเวล 58  มันทำให้เขากังวลอย่างมาก เขาไม่มีทางจะจัดการมันได้เลย

แม้จะไม่รู้ว่าจรวดนี่จะสร้างความเสียหายให้กับฉลามเลือดได้มากแค่ไหน แต่หวังเย่าก็ไม่มีทางเลือกอื่น เขายิงจรวดออกไปก่อนที่จรวดจะระเบิดที่ผิวน้ำ แรงระเบิดนั้นทำให้ฉลามกระเด็นออกไปพร้อมกับรูที่ตัวของมัน

มันทำให้ฉลามเลือดหงุดหงิดขึ้นไปอีก มันเผยร่างทั้งหมดออกมาบนผิวน้ำ ตัวมันใหญ่ยิ่งกว่าเกาะเสียอีก ตอนนั้นเองรูจมูกของมันก็พ่นน้ำสีดำออกมา

สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไปทันที เสาน้ำพวกนี้คือพิษจากร่างกายฉลามเลือด มันถูกใช้เป็นอาวุธลับ พิษของมันรุนแรงพอที่จะกร่อนหินและเหล็กได้

“หนี นั่นมันพิษ”  หวังเย่ารีบเรียกการ์ฟิลด์ออกมาทันที เขาได้ให้มันใช้ใบมีดลม ตอนนั้นเองก็มีใบมีดลมขนาดเท่ากับจานถูกยิงออกไปใส่เสาน้ำเพื่อที่จะหยุดมัน

คลื่นใบมีดลมกว่าร้อยอันในที่สุดก็จัดการกับเสาน้ำที่พุ่งมาได้ ฉลาดเลือดไม่คิดจะหยุด มันฮึดฮัดอออกมาก่อนที่จะกรีดร้องแต่นี่ไม่ใช่การโจมตี มันคือการเรียกพวก

เสียงในน้ำส่งต่อได้เร็ว ไม่นานในบึงโดยรอบก็มีคลื่นน้ำก่อตัวขึ้นมาและล้อมรอบหวังเย่าเอาไว้

หวังเย่าหน้าซีด แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะถามทหารทั้งสองคนว่า “จะทำยังไงกันดี ? ”

ทั้งสองคนหน้าซีดเผือด ในหัวพวกเขามีแต่ความว่างเปล่า

“เราคงได้แต่ขึ้นเกาะ”

พวกเขาต้องไปที่เกาะแรกทางเหนือ พวกเขาเพิ่งจะออกมาจากเกาะที่สามซึ่งมีต้นไม้ไฟแสงอยู่ แต่ถ้าพวกเขาไม่ขึ้นเกาะ พวกเขาคงได้ตายในท้องฝูงฉลามเลือดพวกนี้

ทั้งสามคนได้ทิ้งเรือเพื่อขึ้นไปบนเกาะ โชคดีที่เกาะนี้ไม่ได้เล็ก มันยาวประมาณ 10 ไมล์ แต่หวังเย่าก็ไม่อาจจะสบายใจได้เพราะฉลามเลือดพวกนี้ตัวยาวกว่า 0.5 ไมล์

พวกเขาไม่อาจจะคิดอะไรได้อีก พวกเขาได้แต่มุ่งหน้าไปใจกลางเกาะ ระหว่างทางพวกเขาจะพบกับสัตว์อสูรแต่ดีที่พวกมันไม่สนใจพวกเขา โชคดีที่สัตว์อสูรบนเกาะนี้ถูกกำจัดไปเกือบหมดแล้ว มันเหลืออยู่แค่ไม่กี่ตัว

ในตอนที่พวกเขาเดินทางขึ้นเกาะไปได้ พวกฉลามเลือดก็ได้แต่หยุดและมองมาที่เกาะด้วยท่าทีไม่พอใจ

พวกฉลามเลือดพุ่งชนเกาะ มันต้องการใช้แรงเพื่อทำลายเกาะนี้ให้จมลงไป

เกาะนั้นสั่นไหวราวกับเกิดแผ่นดินไหว 6.7 ริคเตอร์

“พวกมันคิดว่าเกาะเป็นเรือแต่มันไม่มีทางจะจมเกาะสำเร็จได้”  หวังเย่าฮึดฮัดออกมา  เรือนั้นถึงจะลำใหญ่แต่ก็ยังลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่เกาะน่ะฝังรากลงไปด้านล่าง มันมีรากฐานที่แข็งแกร่ง มันไม่อาจจะจมได้

ผ่านไป 10 นาทีการสั่นไหวก็หายไป พวกฉลามเลือดเหมือนจะเหนื่อยและหยุดไปเอง

หวังเย่าถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกแต่เขาก็ยังไม่คิดจะหนีออกจากที่นี่ เขารู้มาจากหงอคงที่อยู่บนท้องฟ้าว่าพวกฉลามยังอยู่รอบ ๆ เกาะเฝ้าพวกเขาอยู่

“พวกมันยังอยู่รอบ ๆ ”  หวังเย่ามองไปยังอีกสองคนและพูดขึ้น  “ ฉันชื่อหวังเย่า พวกนายล่ะ ? ”

ชายผมสั้นพูดขึ้นมา  “พวกเราคือคนของกองกำลังจันทรา ครั้งนี้เราส่งคนมาทั้งหมด 11 คน พวกเราเข้ามาในตอนเช้า แม้ว่าจะทำภารกิจเสร็จสิ้นแล้วแต่อยู่ ๆ สัตว์อสูรนั่นกลับโผล่มาและจมเรือของเรา เดาว่าคนอื่น ๆ คงตายกันไปแล้ว ต้องขอบคุณนายที่ช่วยเราสองคนเอาไว้ ฉันชื่อหลี่ม่อทง ส่วนเขาชื่อเกาเสี่ยวขวง”

หวังเย่าพยักหน้า คงได้แต่บอกว่าพวกนี้โชคร้าย

“นายทายาที่แผลรึยัง ? ”  เขามองไปที่ชายอีกคนซึ่งบาดเจ็บที่ท้อง

เกาเสี่ยวขวงพูดขึ้น  “ฉันยังทนไหวแต่เห็ดอากาศของเราน่ะหมดแล้ว น้องชาย นายเหลือเห็ดอากาศบ้างรึเปล่า ? ”

หวังเย่าสีหน้าหม่นลง เขานำเห็ดอากาศชิ้นสุดท้ายออกมาจากปากและพูดขึ้น  “นี่คืออันสุดท้าย ฉันกำลังจะออกจากที่นี่ ไม่คิดว่าจะมาเจอพวกนาย ฉันไม่อาจจะปล่อยให้พวกนายตายได้…”

เขาไม่ได้พูดเกินจริง เขาพูดในสิ่งที่เขาทำได้ ตอนนี้ทุกคนโดนขังไว้ในเกาะนี้ หากพวกเขาไม่รีบออกจากที่นี่ ถึงพวกเขาจะไม่ตายเพราะฉลามเลือดพวกนั้น แต่พวกเขาก็อาจจะตายเพราะขาดอากาศหายใจ

ยิ่งไปกว่านั้นถึงจะมีเห็ดอากาศอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่อาจจะอยู่ด้านในได้นานนัก ยังไงซะในอากาศนี้ก็มีสารพิษอยู่ ถ้าอยู่นานกว่า 1 วัน อวัยวะภายในก็จะเริ่มติดเชื้อ จากนั้นพวกเขาก็จะตาย

“น้องชาย เราทำให้นายลำบากแท้ ๆ เราต้องขอโทษด้วย”  หลี่ม่อทงพูดขึ้นด้วยสีหน้าละอายใจ

หวังเย่าหันกลับไปมองทางออกเขตลับที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรก่อนจะครุ่นคิด

พวกเขาเหลือเวลาไม่มาก พวกเขาต้องหาทางออกไปจากที่นี่ไม่งั้นแล้วก็คงต้องตาย

“มันยังมีอีกทาง” เขาคิดอยู่สักพักก่อนจะตาเป็นประกายขึ้นมา