ภายในห้องหนังสือเงียบสงบมาก ด้านนอกก็เงียบสงบมากเช่นกัน เหลือเพียงเสียงกระดิ่งฟังไพเราะเสนาะหู
เถ้าแก่ห้องหนังสือเคยส่งลูกค้าถึงหน้าประตูใหญ่ เซี่ยยวี่หลัวมองดู คนผู้นั้นอายุยังไม่มาก ท่าทางเหมือนบัณฑิต ใบหน้าสะอาดสะอ้าน ดวงหน้าอ่อนโยน เทียบกับเยี่ยซิงหลงที่มีประสบการณ์ด้านค้าขายมานานหลายสิบปี คนผู้นี้ดูเป็นกันเองและจริงใจกว่า
หากให้เซี่ยยวี่หลัวเลือก นางจะเลือกคนผู้นี้
เซียวจื่อเซวียนเงยหน้าถามเซี่ยยวี่หลัว “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านจะซื้อตำรางั้นหรือขอรับ? ”
เขาได้ยินจากฮวาเหนียงว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะซื้อหนังสือให้พี่ใหญ่!
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพร้อมกล่าวกับเซียวจื่อเซวียน “เจ้าเข้าไปซื้อ ซื้อตำรารวมบทกวีให้พี่ใหญ่ของเจ้าหนึ่งเล่ม”
เซียวจื่อเซวียน “พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านไม่เข้าไปหรือขอรับ? ”
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า “ข้าไม่เข้าไป ข้ากับน้องสาวจะรอเจ้าอยู่ตรงนี้ แต่ถึงเวลาเจ้าต้องบอกเขาตามนี้…”
นางกระซิบข้างหูเซียวจื่อเซวียนอยู่หลายประโยค เซียวจื่อเซวียนขานตอบ หยิบเงินแล้วจึงเข้าไปในห้องหนังสือ
กระดิ่งถูกลมพัดจนสั่นไหว ส่งเสียงกระดิ่งไพเราะเสนาะหู
เสียงอ่อนโยนดังขึ้นจากด้านใน “ยินดีต้อนรับ…”
เซียวจื่อเซวียนบีบเงินไว้ หลังจากเดินเข้าไป จึงกล่าวเสียงเบา “เถ้าแก่ ข้าอยากซื้อตำรามอบให้พี่ใหญ่ของข้าขอรับ! ”
เมื่อหลิ่วสวินเหมี่ยวเห็นว่าคนที่เข้ามาเป็นเด็ก จึงยิ้มพร้อมเอ่ยถาม “เจ้าอยากได้ตำราประเภทใด? ”
เซียวจื่อเซวียนส่ายหน้าด้วยท่าทางหวั่นๆ “ข้า… ข้าอยากซื้อตำรารวมบทกวีเล่มหนึ่ง! ข้า… ข้าไม่รู้ว่าต้องซื้อประเภทไหนขอรับ! ”
หลิ่วสวินเหมี่ยวเห็นว่าเด็กคนนี้น่าจะไม่รู้หนังสือ จึงพาเขามาหน้าชั้นหนังสือพร้อมกล่าว “ตรงนี้เป็นตำรารวมบทกวีทั้งหมด เจ้าอยากได้เล่มใด? ”
เซียวจื่อเซวียนดูอยู่นาน จากนั้นจึงชี้หนึ่งในตำราเหล่านั้นพร้อมกล่าว “ข้าอยากได้เล่มนี้ ได้หรือไม่ขอรับ? ”
หลิ่วสวินเหมี่ยวรีบหยิบตำราลงมา ปัดฝุ่นผงที่ไม่มีอยู่จริง ยื่นส่งให้เซียวจื่อเซวียน “นี่ ให้เจ้า”
“เล่มนี้ เท่าไรงั้นหรือขอรับ? ” เซียวจื่อเซวียนมองดูตำราเล่มใหม่ เอ่ยถามด้วยท่าทีลังเล
“สามสิบอิแปะ” หลิ่วสวินเหมี่ยวบอกราคา
เซียวจื่อเซวียนได้ยินดังนั้น รีบผลักตำราคืน “แพง แพง แพง แพงเกินไปแล้ว! ”
เขามองตำราเล่มนั้น รู้สึกเสียดายยิ่งนัก หันกลับไปมองเป็นครั้งคราว ยังคงรู้สึกตัดใจไม่ได้
หลิ่วสวินเหมี่ยวเห็นว่าเด็กคนนี้ชอบตำราเล่มนี้มาก แม้จะบอกว่าแพงอยู่ตลอด แต่กลับจ้องมองตำราเล่มนั้นไม่ละสายตา
เขายังอยากได้ตำราเล่มนี้อยู่!
หลิ่วสวินเหมี่ยวเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เจ้าจะซื้อไปมอบให้พี่ใหญ่ของเจ้า? ”
“ขอรับ ใกล้ถึงวันเกิดพี่ใหญ่ของข้าแล้ว ข้าอยากซื้อตำราให้เขาเล่มหนึ่งให้เขาประหลาดใจ! แต่ข้า… ข้ามีเงินเพียงแค่นี้… นี่เป็นเงิน… เป็นเงินที่ข้าเก็บสะสมอยู่นานถึงรวบรวมได้! ” เขายื่นมือออกมา แบมือแล้วมีเงินเหรียญอิแปะอยู่สิบเหรียญ
หลิ่วสวินเหมี่ยวมองตำรา ก่อนมองเด็กคนนี้ แล้วจึงกล่าว “เงินในมือเจ้า เพียงพอแล้ว”
กล่าวจบ จึงห่อตำราให้เขา
เซียวจื่อเซวียนผงะไป “เถ้าแก่ แต่ข้ามีเงินเพียงสิบอิแปะ ตำราของท่านสามสิบอิแปะ ข้ายังขาดอีกยี่สิบอิแปะ! ข้า… ข้าซื้อไม่ไหวขอรับ! ”
พี่สะใภ้ใหญ่ให้เงินเขามาแค่นี้!
“ไม่เป็นอะไร เจ้าเอาไปเถอะ! ” หลิ่วสวินเหมี่ยวห่อตำราเสร็จ ก็ยื่นส่งให้เซียวจื่อเซวียน “วันเกิดพี่ใหญ่ของเจ้า เขาต้องชอบตำราเล่มนี้แน่ เจ้าเอาไปเถอะ ทำให้พี่ใหญ่ของเจ้าประหลาดใจ! ”
เซียวจื่อเซวียนมองตำรา ก่อนมองเงินในมือตัวเอง “แต่ว่า… แต่ว่า… ข้าจะรับของของท่านโดยไม่จ่ายเงินไม่ได้ ข้ายังติดค้างท่านยี่สิบอิแปะ ต่อไปหากข้ามีเงินแล้ว จะมาคืนท่านแน่ ได้หรือไม่ขอรับ? ”
หลิ่วสวินเหมี่ยวเห็นเด็กคนนี้มีอุปนิสัยซื่อตรง ไม่คิดเอาเปรียบผู้อื่น จึงไม่ได้ปฏิเสธ “ได้ รอให้เจ้ามีเงินเมื่อไร จะมาคืนเมื่อไรก็ได้ ไม่รีบ! ”
เซียวจื่อเซวียนหยิบตำรา โค้งคำนับหลิ่วสวินเหมี่ยว “ขอบคุณขอรับเถ้าแก่! ท่านช่างเป็นคนดีจริงๆ ! ”
หลิ่วสวินเหมี่ยวยิ้ม “รีบกลับไปได้แล้ว ทำให้พี่ใหญ่ของเจ้าประหลาดใจ! ”
เซียวจื่อเซวียนกล่าวอำลาเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแล้วจึงออกจากร้าน
กระดิ่งตรงประตูโดนลมพัดจนส่งเสียงกระดิ่งไพเราะ
เซี่ยยวี่หลัวและจื่อเมิ่งยืนอยู่ตรงหัวมุมรอเขาอยู่ เห็นเซียวจื่อเซวียนหอบตำรากระโดดโลดเต้นมา ยื่นส่งให้เซี่ยยวี่หลัว “พี่สะใภ้ใหญ่ นี่ขอรับ! ”
บนตำราเขียนไว้ว่าสามสิบอิแปะ แต่เซี่ยยวี่หลัวให้แค่สิบอิแปะ
นางรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย “เขาให้เจ้าจริงงั้นหรือ? ”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า บอกเล่าบทสนทนาระหว่างเขาและหลิ่วสวินเหมี่ยวให้เซี่ยยวี่หลัวฟัง เพียงแต่เขารู้สึกประหลาดใจ เหตุใดพี่สะใภ้ใหญ่ต้องทำเช่นนี้!
แต่เขาก็ไม่ได้ถาม
พี่สะใภ้ใหญ่ทำเช่นนี้ ย่อมมีเหตุผลของนาง!
เซี่ยยวี่หลัวพลิกเปิดตำรา ภายในใจประเมินเถ้าแก่ห้องหนังสือซานเว่ย เป็นคนจริงใจและอบอุ่น
ช่างเป็นคนที่ต่างกับเยี่ยซิงหลง เซี่ยยวี่หลัวไม่คิดจะร่วมงานกับห้องหนังสือซานเว่ยเร็วนัก เรื่องตำราจะกระทำการผลีผลามไม่ได้ นางต้องเบิกตากว้างดูให้ชัดเจน
นางพาเด็กสองคนกลับบ้าน
กลับถึงบ้าน ได้ยินว่าเซียวยิงยังไม่ไป จะอยู่ต่ออีกสองวัน เซี่ยยวี่หลัวนำเงินออกมาสามตำลึงเศษให้เซียวจื่อเซวียน “พวกเรายังติดเงินพี่เซียวยิงสามตำลึงเศษ เจ้าคืนกลับไป! ”
เซียวจื่อเซวียนกล่าว “หากพี่เซียวยิงถามว่าเงินนี่ได้มาจากไหนล่ะขอรับ? ”
นี่เป็นเงินที่ครั้งก่อนฮวาเหนียงจ่ายให้ล่วงหน้า
เซี่ยยวี่หลัวกล่าว “บอกไม่ได้ ให้บอกว่าเป็นเงินที่พี่ใหญ่เจ้าให้ไว้ก่อนไป! เข้าใจหรือไม่? ”
เซียวจื่อเซวียนพยักหน้า “ขอรับ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้าเข้าใจแล้ว! ”
เซียวจื่อเซวียนนำเงินไปบ้านเซียวยิง
เซียวยิงไม่อยู่บ้าน ฟ่านซื่อเลี้ยงบุตรอยู่บ้าน
เมื่อเห็นเซียวจื่อเซวียนมา ฟ่านซื่อรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นน้องชายของสหายสามี จึงรีบนำขนมออกมาสองชิ้น “มา จื่อเซวียน ชิมขนมสองชิ้น”
เซียวจื่อเซวียนรีบปฏิเสธ “ไม่ต้องแล้วขอรับ ขอบคุณมากขอรับ พี่สะใภ้ฟ่าน”
ฟ่านซื่อรู้สึกตกใจเล็กน้อย เด็กในหมู่บ้านเห็นขนมต่างก็ตาลุกวาวไม่ใช่หรือ? เหตุใดเด็กคนนี้เห็นขนมแล้วยังนิ่งได้ขนาดนี้
“ทำไมถึงไม่กิน? ไม่ชอบกินงั้นหรือ? ” ฟ่านซื่อเอ่ยถาม หลังจากถาม จึงได้ตระหนักว่าตัวเองถามเปล่า เด็กในหมู่บ้านจะไม่ชอบกินขนมได้อย่างไร!
ทว่า จู่ๆ ฟ่านซื่อก็นึกถึงช่วงเวลาที่ไปกวาดสุสานวันนี้ หน้าหลุมศพบิดามารดาเซียวยวี่มีหมั่นโถวสีขาวลูกใหญ่วางอยู่สองลูก
สามารถเซ่นไหว้บรรพชนด้วยหมั่นโถวลูกใหญ่ ดูท่าจะไม่ขาดแคลนของอย่างขนม!
เซียวจื่อเซวียนส่ายหน้า “ไม่ใช่ขอรับ ข้าชอบกินมาก เพียงแต่พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าบอกไว้ ว่าจะกินของของคนอื่นโดยง่ายไม่ได้ ดังนั้น ข้าจึงกินไม่ได้ขอรับ! ”
เขาไม่สนิทสนมกับฟ่านซื่อ
ฟ่านซื่อรู้สึกตกใจเล็กน้อย “พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า… กล่าวกับเจ้าเช่นนั้นงั้นหรือ? ”
เซี่ยยวี่หลัวสอนเด็กเช่นนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยัน ว่านางสอนสั่งเด็กทั้งสองคนอย่างใส่ใจ!