“ตาคนป่าเถื่อนคิดจะทำอะไรน่ะ หืม?” เสี่ยวเชี่ยนยกหัวขึ้นมาเล็กน้อย ปากของเขาก็รีบตามขึ้นไปดื่มด่ำกับความขาวนวลทันที
“เดาดูสิ…” เขาคิดแบบไหนก็ทำแบบนั้น
หนวดที่เพิ่งงอกออกมาทิ่มเข้าที่ผิวบอบบางของเธอ รู้สึกเจ็บนิดๆกำลังดี
เสี่ยวเชี่ยนหลับตาดื่มด่ำกับช่วงเวลาใกล้ชิดกับคนรัก นี่ก็คือความรู้สึกที่เธอกำลังโหยหา ความพอใจที่ทำให้ประสาทชาได้ทั้งตัวยิ่งกว่าฤทธิ์เหล้า ความรู้สึกเหมือนได้ที่พักพิง ดึงเธอออกมาจากความรู้สึกแย่ๆที่มาจากการรักษาผู้ป่วย
เธอต้องการที่พักพิง ต้องการสลัดความทุกข์อันเจ็บปวดที่ผู้ป่วยนำมาให้เธอ
หูเหม่ยจิ้งถูกเธอฉุดขึ้นมาจากความสิ้นหวัง แต่หัวใจเธอกลับยังอยู่ในวังวนแห่งนั้น การปรากฏตัวของอวี๋หมิงหลางสามารถทำให้เธอสลัดความไม่สบายใจเหล่านั้นได้พอดี
เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนก็จะมีอารมณ์จิตตกหลังจากการทำงานบ้างเป็นครั้งคราว เธอจะใช้เหล้ามาทำให้ตัวเองชินชา แต่ตอนนี้เธอเจอวิธีดับความเครียดที่ดีกว่าสุราแล้ว
นับตั้งแต่วินาทีที่เขาปรากฏตัว หัวใจเธอก็มั่นคง
อวี๋หมิงหลางไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงทำให้วันนี้เสี่ยวเชี่ยนเหมือนดูปีศาจสาว ถึงแม้เธอจะไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลย แต่สายตาเธอนั้นดูยั่วยวน มองเขาเสียจนเขาไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น นอกจากอยากหลอมรวมกับเธอเป็นร่างเดียว ไม่ต้องแยกจากกันอีก
บรรยากาศร้อนแรงขึ้นจากการที่ทั้งสองคนมีท่าทีหยอกล้อคล้ายทะเลาะกัน จากนั้นสายตาของเขาที่มองอย่างลึกซึ้งก็ค่อยๆเปลี่ยนไป คราวที่แล้วสายตาแบบนี้ของเขาปรากฏขึ้นตอนที่ทั้งสองคนเล่นผีผ้าห่มกันในโรงแรม ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยเสี่ยวเชี่ยนออก จากที่อยู่ด้านบนเธอกลับกลายมาอยู่ด้านล่าง เขาจับเธอกดลงบนโซฟาแล้วเริ่มดึงเสื้อผ้าเธอออก
“มารบกวนหน่อย โอ๊ะ ฉันมาขัดจังหวะหรือเปล่า?”
เจิ้งซวี่ถือเหล้าสองขวดเดินผลักประตูเข้ามา เอาตัวพิงประตูยืนมองอวี๋หมิงหลางที่ต้องหยุดชะงักการทำภารกิจ ใบหน้าแสดงความยิ้มเยาะ
“แม่ง”
อวี๋หมิงหลางสบถ เอาเสื้อนอกที่เพิ่งถอดรีบคลุมให้เสี่ยวเชี่ยน เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เหนือความคาดหมายอะไร เธอเดาไว้ว่าเจิ้งซวี่มาที่ร้านก่อนตั้งนานแล้ว จากนั้นค่อยออกมารบกวนตอนที่เสี่ยวเฉียงอารมณ์กำลังได้ที่
ยิ้มสมน้ำหน้าแบบนั้นเป็นหลักฐานอย่างดี
“คิดถึงแม่ก็กลับไปหาสิ ร้านฉันเป็นร้านคาราโอเกะ ไม่มีแม่แกหรอก” เจิ้งซวี่วางเหล้าลงบนโต๊ะพลางมองเสี่ยวเชี่ยนที่นั่งคลุมเสื้อของอวี๋หมิงหลางอยู่ รู้สึกเสียดแทงใจเบาๆ
“ผมเปลี่ยนเอาที่ราคาถูกลงหน่อยมาให้พวกคุณ ร้านผมเพิ่งเอาราคาขวดละเจ็ดหยวนมาลง เอามาเลี้ยงคนที่เก็บอารมณ์กันไม่อยู่แล้วอย่างพวกคุณกำลังดี กินเสร็จพรุ่งนี้ปวดหัวตายแน่”
อวี๋หมิงหลางกดขวดเหล้าไว้ไม่ให้เจิ้งซวี่ปล่อย “ของแบบนี้แกเก็บไว้กินหลังกินตับสาวเสร็จเหอะ พวกเราสองคนเป็นคนปกติ ไม่เหมือนคนป่าเถื่อนกินไม่เลือกอย่างแก”
“ขี้เกียจเสวนากับคนอย่างแก” เจิ้งซวี่ก็แค่ล้อเล่น เขาข้ามตัวอวี๋หมิงหลางไปนั่งกับเสี่ยวเชี่ยน
“วันนี้นึกไงมาที่ร้านผมได้?”
“ไม่ต้อนรับเหรอ?”
“จะเป็นไปได้ไง แต่ครั้งหน้ามาคนเดียวนะ ผมยังมีเหล้าดีๆเก็บไว้เยอะ ไว้เรามาดื่มกันสองคน ตัวนี้ไม่ต้องพามาเดี๋ยวไปกัดคนเข้า”เจิ้งซวี่ชี้ไปที่อวี๋หมิงหลางที่กำลังทำหน้าเหมือนกินรังแตนเข้าไป
อวี๋หมิงหลางตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยวตอนเทเหล้าจะฉวยโอกาสตอนที่ไอ้แตงกวาดำไม่สนใจแอบถ่มน้ำลายใส่ลงไป
“ไอ้เจิ้งเบอร์สอง ไม่มีงานทำเหรอ? ไม่ไปสัมภาษณ์สาวๆอกอึ๋มหรือไง? ได้ยินว่าที่นี่สาวเยอะนี่ เถ้าแก่เจิ้งปกติงานยุ่งตลอด”
“นายรู้ได้ไงว่าที่นี่สาวเยอะ?” เสี่ยวเชี่ยนถามด้วยความสงสัย
เจิ้งซวี่ทำหน้า ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ออกมาทันที แล้วตบบ่าอวี๋หมิงหลางพลางพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ
“นึกไม่ถึงว่าไอ้เล็กก็มีมุมเจ้าชู้กับเขาด้วย มีเมียสวยขนาดนี้อยู่แล้วทั้งคนยังจะคิดถึงสีสันนอกบ้านอีก จึ๊ๆๆ คนกันเองโตมาด้วยกัน ต่อไปถ้าแกมา ชอบสาวอึ๋มคนไหนก็เอาไปเลย ฟรี”
“ของแบบนั้นแกเก็บไว้เองเหอะ โลกต่อให้มีสีสันกว่านี้ก็สู้ลูกเชี่ยนของฉันไม่ได้แม้แต่ปลายผม ใช่ไหมลูกเชี่ยน?” อวี๋หมิงหลางประกาศอำนาจถือความครอบครองแล้วโอบเธอเข้ามา
จากนั้นก็ส่งสายตาเตือนสาวแสบที่กำลังสนุกทำเป็นเข้ากันได้ดีกับไอ้แตงกวาดำ เดี๋ยวกลับไปจะสั่งสอนทั้งคืนในหัวข้อความสำคัญของครอบครัว เขากับเธอต่างหากที่เป็นครอบครัวเดียวกัน
“ฉันว่าฉันโอเคนะ แต่ถ้าเมื่อไรที่นายเบื่อๆอยากออกไปส่องสาวๆบ้างฉันก็ไม่ห้าม”
“ฮ่าๆๆ” เจิ้งซวี่หัวเราะชอบใจใหญ่ อวี๋หมิงหลางหน้าบึ้งใหญ่แล้ว
“นี่คุณเป็นเมียผมเปล่าเนี่ย?” จิตใจของอวี๋หมิงหลางถูกทำร้ายอย่างรุนแรง นี่เขาไม่มีตัวตนในครอบครัวเลยเหรอ ไอ้แตงกวาดำถึงได้มาหัวเราะเยาะต่อหน้าเขาได้?
“ฉันยังพูดไม่จบ เมื่อไรที่นายอยากออกไปเที่ยวพบปะสีสันโลกภายนอกฉันก็ไม่ห้าม อย่างมากก็แค่—” เสี่ยวเชี่ยนหยิบแตงกวาในจานผลไม้ขึ้นมาหักอย่างดุเดือด
เจิ้งซวี่กลืนน้ำลาย แล้วเหล่มองน้องชายของตัวเองโดยอัตโนมัติ
อวี๋หมิงหลางบาดแผลหายสนิท แล้ว หึ ออกมาอย่างได้ใจ
“ต้องแบบนี้สิ”
เขาเหล่มองเจิ้งซวี่อย่างคนได้รับชัยชนะ เห็นยัง ว่าที่ภรรยาข้าแคร์ข้าโว้ย
เจิ้งซวี่แอบมองบนในใจ ถ้ามีแฟนฉลาดขนาดนี้เขายอมโสดดีกว่า ดูอย่างไอ้เล็ก เมื่อก่อนนักเลงเป็นบุคคลระดับตำนาน ตอนนี้ไหงมาถึงขั้นที่ต้องยอมหงอให้ผู้หญิง?
ถูกหักแตงกวาเอ็งมีความสุขเหรอวะ?
ความรักนี่ทำให้คนสมองเพี้ยนจริงๆด้วยสินะ
เดิมแผนของเสี่ยวเชี่ยนก็คือมาร้องเพลงกับอวี๋หมิงหลางสักพัก ดื่มเหล้านิดหน่อยพอกรึ่มๆ จากนั้นก็ทำเรื่องอย่างว่า
พูดตามตรงก็คืออยากกลับมาหาความรู้สึกมีเซ็กซ์หลังเมาแบบเมื่อชาติก่อน เพื่อระบายความเครียดที่อยู่ในใจ
แต่หลังจากที่เจิ้งซวี่ถือเหล้าเข้ามา ก็เริ่มจะควบคุมบรรยากาศไม่ได้
เสียงร้องของเจิ้งซวี่ค่อนข้างทุ้มต่ำ น้ำเสียงแหบนิดๆ พอร้องดูได้อารมณ์ไปอีกแบบ เขาเลือกเพลงเก่าในอดีต ร้องไปก็ส่งสายตาให้เสี่ยวเชี่ยน เล่นเอาอวี๋หมิงหลางรู้สึกหงุดหงิด
“หลงรักคนที่ไม่กลับบ้าน รอคอยประตูที่ไม่เปิดออก สายตาที่เฝ้าคอย ริมฝีปากที่เม้มสนิท ใยเล่าจะต้องวิงวอนอย่างทรมาน เฝ้าถามอย่างปวดใจ~”
อวี๋หมิงหลางดื่มเหล้า หมั่นไส้เจิ้งซวี่สุดๆ
ฟังๆๆๆ ร้องอะไรของมันวะ
น้ำเสียงก็ไม่ได้เรื่อง เนื้อเพลงก็น้ำเน่า นี่มันร้องให้ลูกเชี่ยนเพื่อแกล้งเขาชัดๆ
นี่ไม่ใช่เป็นการสื่อบอกลูกเชี่ยนเหรอว่า อวี๋หมิงหลางไปทำงานไม่ค่อยกลับบ้านบ่อยๆ ถ้าลูกเชี่ยนแต่งกับเขาก็ต้องเฝ้าบ้านอย่างโดดเดี่ยว?
อวี๋หมิงหลางเหลือบมองเสี่ยวเชี่ยน ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ดูลูกเชี่ยนสิ ฟังเคลิ้มเชียว เพลงน้ำเน่าแบบนั้นเพราะตรงไหน?
ไม่ได้ คนอย่างพี่หลางไม่มีทางปล่อยให้คนมารังแกแล้วไม่ตอบโต้ ถึงเวลาที่ต้องทำให้ไอ้แตงกว่าดำรู้ฤทธิ์เดชของเขาเสียบ้าง