บทที่ 118 ประตูถูกซ่อมเสร็จแล้ว

ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน

บทที่ 118 ประตูถูกซ่อมเสร็จแล้ว

เวลานี้จางซิ่วเอ๋อรู้แล้วว่าเสียงที่นางได้ยินเมื่อคืนคือเสียงอะไร ที่แท้มีคนมาซ่อมประตูกับกำแพงให้นี่เอง

แต่ใครกันล่ะที่ทำ?

จางซิ่วเอ๋อเหลือบมองกุญแจ ตอนนี้นางแทบจะมั่นใจได้แล้วว่าคนที่มานั้นไม่ได้อยากแย่งบ้านหลังนี้กับนาง เขาแอบเข้ามาซ่อมประตูบ้าน ซ่อมเสร็จแล้วยังทิ้งกุญแจไว้ให้อีก เห็นชัด ๆ ว่าอยากจะช่วยนาง

จางซิ่วเอ๋ออดอุทานไม่ได้ “ใจบุญยิ่งกว่าเหลยเฟิง*เสียอีก”

*เหลยเฟิง(1940-1962) นายทหารคนหนึ่งที่ประธานเหมาเจ๋อตงยกย่องว่าเป็นบุคคลตัวอย่างที่ขึ้นชื่อในด้านความมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น

“ใครกันเหรอเหลยเฟิง?” จางชุนเถาถามอยู่ข้าง ๆ

จางซิ่วเอ๋อ “……”

ดีที่จางชุนเถาเห็นจางซิ่วเอ๋อไม่ตอบแล้วไม่ได้จี้ถามต่อ

“จริงสิ พี่ เมื่อเช้าพี่ปิดห้องไว้แน่นหนาขนาดนั้นทำไมกัน?” จางชุนเถาถามอย่างอดไม่ได้

จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมาและเอ่ยขึ้น “เมื่อคืนข้าได้ยินเสียงบางอย่าง เลยกลัวนิดหน่อย…..คิดไม่ถึงว่ามีคนมาซ่อมประตูหน้าบ้านให้”

จางชุนเถาได้ฟังจึงเอ่ยเสียงต่ำ “พี่ พี่ไม่รู้จริง ๆ เหรอเจ้าคะว่าใครซ่อม?”

จางซิ่วเอ๋อเห็นสายตาอยากรู้อยากเห็นของจางชุนเถาก็รู้ว่าจางชุนเถาต้องคิดมากแน่ ๆ นางจึงเอ่ยขึ้น “ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าใครซ่อม ถ้ารู้แล้วคนผู้นั้นก็ไม่จำเป็นต้องมาตอนกลางคืน มาตอนกลางวันแบบเปิดเผยก็ได้”

จางชุนเถาได้ฟังจึงตอบ “ข้าก็นึกว่าพี่สวี่เป็นคนซ่อม…..”

จางซิ่วเอ๋อเห็นเวลาที่จางชุนเถาพูดถึงสวี่อวิ๋นซานด้วยน้ำเสียงเปี่ยมความคิดถึงก็ทำอะไรไม่ได้ อย่างไรเสียเมื่อก่อนสวี่อวิ๋นซานก็ชอบเจ้าของร่าง จึงดูแลน้องสาวเจ้าของร่างเป็นพิเศษไปด้วย

จางชุนเถาไม่ผิดหรอกที่นึกถึงความดีของสวี่อวิ๋นซาน

และเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ สวี่อวิ๋นซานก็ออกตัวปกป้องนาง ทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองติดหนี้สวี่อวิ๋นซานอีกครั้ง

นางเกลียดแม่หลินมารดาของสวี่อวิ๋นซานก็จริง แต่ไม่ได้เกลียดสวี่อวิ๋นซานไปด้วย

หากสวี่อวิ๋นซานเป็นคนทำจริง ๆ จางซิ่วเอ๋อก็ขอบคุณส่วนขอบคุณ แต่ลึกลงไปในใจยังมีความรู้สึกหนักใจและอึดอัด

ในเมื่อนางไม่คิดจะตอบแทนความรู้สีกของสวี่อวิ๋นซาน การทำดีของสวี่อวิ๋นซานรังแต่จะทำให้นางรู้สึกมีภาระ

แต่คำพูดของจางชุนเถาเตือนจางซิ่วเอ๋อขึ้นมาได้ จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่าสวี่อวิ๋นซานเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง

จางซิ่วเอ๋อคิดไปคิดมา รู้สึกว่าตัวเองควรหาโอกาสหยั่งเชิงสวี่อวิ๋นซาน ถ้าเขาเป็นคนทำจริง นางต้องให้เงินเขา นางไม่ยอมเป็นหนี้สวี่อวิ๋นซานเพราะเรื่องนี้หรอก

ไม่อย่างนั้นหากใครรู้เข้า คงอธิบายยากแน่

สวี่อวิ๋นซานลงเงินกับนาง ลงแรงซ่อมบ้านให้นาง เช่นนี้ในสายตาคนนอกแล้วนางก็กลายเป็นภรรยาลับที่สวี่อวิ๋นซานเลี้ยงไว้ข้างนอกน่ะสิ

ถึงแม้ตอนนี้สวี่อวิ๋นซานยังไม่มีภรรยา แต่ตำแหน่งนั้นก็ถูกกำหนดไว้นานแล้ว

ตามนิสัยแม่หลิน จะยอมให้สวี่อวิ๋นซานแต่งงานกับคนอื่นได้อย่างไร? ช้าเร็วหลีฮวาก็ต้องแต่งงานกับสวี่อวิ๋นซาน!

จางซิ่วเอ๋อไม่อยากไปมีเรื่องกับตัวยุ่งอย่างแม่หลินและหลีฮวา

ขณะนั้น ภายในโรงเตี๊ยมหนึ่งที่ตัวเมือง

บุรุษสองคนกำลังนอนอยู่บนเตียง

“เจ้านาย…..” ชายหนุ่มที่นอนฝั่งข้างนอกดึงเสื้อผ้าชายที่นอนข้างในอย่างระวัง

ชายหนุ่มข้างในสวมชุดสีเทา เสื้อผ้าธรรมดา แต่ดูจากใบหน้าก็รู้ว่าคนผู้นี้เกิดมาในตระกูลชั้นสูง

“มีอะไร” คนข้างในถามโดยไม่ลืมตา

“ข้าว่าเจ้านาย……” สุดท้ายชายหนุ่มข้างนอกก็ทนไม่ไหว พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย ชุดสีดำของเขาถ้าดูจากคุณภาพดีกว่าชุดของคนข้างในเยอะ แต่กลับเรียกคนข้างในว่าเจ้านาย

เขาพูดต่อ “เจ้านาย เราสองคนตกอับถึงขั้นที่เจ้านายและบ่าวต้องนอนเบียดกันในห้องเดียวกันแล้วนะขอรับ ท่านยังจะไปช่วยนังบ้านจนนั่นอีก!”

“ตอบแทนบุญคุณน่ะ” ชายหนุ่มข้างในบอกเรียบ ๆ

“ข้ารู้ว่าแม่นางคนนั้นเคยช่วยเจ้านาย เจ้านายอยากจะตอบแทนบุญคุณก็เป็นเรื่องปกติ แต่เราก็ต้องทำตามกำลังสิ ข้าว่าพรุ่งนี้เราสองคนคงไม่มีเงินแม้จะนอนห้องเดียวกันแล้วนะขอรับ” คนข้างนอกยังบ่นอุบอิบ

ชายชุดเทาเอ่ยเสียงเย็น “ไม่อยากนอนก็ไสหัวไป”

ชายชุดดำลูบจมูก สุดท้ายก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เขารู้ดีว่าหากตัวเองบ่นต่อไป ครึ่งเตียงนี้ก็คงไม่ได้นอนแล้ว

เขาน่าจะเป็นลูกน้องคนแรกที่นอนเตียงเดียวกับเจ้านายตัวเองได้อย่างสง่าผ่าเผย

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เขาก็หันไปมองชายหนุ่มข้างใน ทำไมบุรุษสองคนนอนด้วยกันถึงอึดอัดยิ่งกว่าเวลาบุรุษนอนกับสตรีล่ะ?

ชายที่ชื่อเถี่ยเสวียนอดนึกถึงคำว่า ‘ชายกระต่าย*’ ไม่ได้ จึงกระเถิบออกห่างอย่างระแวงและอดตัวสั่นไม่ได้ เจ้านายของตนคงไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้นใช่ไหม?

*ชายที่นิยมชมชอบในเพศเดียวกัน ชายรักชาย

เขาตั้งใจใช้ตำลึงเงินที่เหลือไม่มากนักของพวกเขาจนหมด เพื่อนอนกับเขา

เถี่ยเสวียนกระเถิบไปด้านข้างอีก แทบจะเหินอากาศไปครึ่งตัว เขาถึงรู้สึกสบายใจขึ้น

และโชคดีที่ชายชุดเทาไม่รู้ว่าสมุนของตนคิดกับเขาแบบนี้ ไม่อย่างนั้นคงต้องเตะเถี่ยเสวียนลงเตียงแน่

ถ้าจางซิ่วเอ๋ออยู่ที่นี่และเห็นชายชุดเทา ก็จะเข้าใจทุกอย่าง

ชายชุดเทาคนนี้ก็คือคนที่นางเคยช่วยไว้สองครั้ง

แต่ที่ชายชุดเทารับรู้คงมีเพียงครั้งเดียว ถึงอย่างไรในครั้งแรกชายชุดเทาไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่

หากจางซิ่วเอ๋อรู้ว่าชายชุดเทาตอบแทนบุญคุณแบบนี้ คงไม่รู้สึกโมโหเรื่องที่ชายชุดเทากินข้าวต้มนางไปครึ่งหม้ออีก

แถมยังคิดว่าข้าวต้มครึ่งหม้อของตัวเองแลกกับการซ่อมบ้าน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

คนอย่างนางต่อให้ซื้อบานหน้าต่างมา ก็ไม่น่าจะติดเองได้

ตอนนี้นางใช้งานตัวเองเยี่ยงบุรุษก็จริง แต่สุดท้ายก็ยังเป็นสตรี เรื่องทำกับข้าวนั้นนางทำได้ แต่ให้ซ่อมบ้าน….นางยังไม่ได้เรียนรู้ความสามารถรายการนี้

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกไม่สบายใจเพราะไม่รู้ว่าใครกันที่ซ่อมบ้านให้ตัวเอง นางกังวลว่าตัวเองจะติดหนี้บุญคุณใคร

แต่ถ้าจางซิ่วเอ๋อรู้ความจริงคงไม่คิดแบบนี้

ถึงอย่างไรนางก็ช่วยชายคนนี้ไว้ถึงสองครั้ง ชายคนนี้รู้สำนึกทดแทนคุณไม่ใช่เรื่องแย่ ขอแค่ไม่ไปรบกวนชีวิตของนาง ไม่นำเรื่องยุ่งมาให้นาง บ้านที่เขาซ่อมก็เป็นที่พึงพอใจของนาง

หลังตรากตรำมาทั้งคืน เจ้านายและบ่าวที่ซ่อมกำแพงเคลื่อนอิฐก็เหนื่อยแทบแย่ โดยเฉพาะชายชุดเทา ร่างกายอ่อนแอมีแผลเก่าที่ยังไม่หายดี เวลานี้จึงหลับใหลไปเสียสนิท

ส่วนเถี่ยเสวียนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร ใครใช้ให้เขาสงสารเจ้านายตัวเองกันล่ะ? ตอนทำงานจึงออกแรงเป็นพิเศษ เวลานี้จึงเหนื่อยเหมือนสุกรตาย

เถี่ยเสวียนไม่เข้าใจเจ้านายตัวเองเลยสักนิด ไปทดแทนคุณทำไมต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ด้วย ไปอย่างสง่าผ่าเผยไม่ได้หรือ?

มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าการทำงานตอนกลางคืน ต่อให้บนฟ้ามีพระจันทร์ก็ยังลำบากกว่าตอนกลางวันมากนัก

…………………………………………