จางเยว่หานกัดริมฝีปาก เขายกระดับอีกแล้ว!

ทำไม ทำไม แค่เขาจากฉันไป ถึงเปลี่ยนไปจนเก่งขนาดนี้

ลู่เฮ่าหรานกับลู่หาวก็ยังตกอยู่ในความตกใจ จากนั้น ลู่เฮ่าหรานหัวเราะออกมาเสียงดัง “ตระกูลลู่ของฉัน มีนักบู๊แดนปราณในอีกคนแล้ว ดีมาก ดีมากเลย!”

ลู่หมิงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

เขารู้ว่าตอนนี้ลู่ฝานแข็งแกร่งกว่าเขา แต่ลู่หมิงคิดมาตลอดว่า แค่ขยันฝึก เขาจะเหนือกว่าลู่ฝานได้ ช่วงระยะเวลานี้ ลู่หมิงก็ทำเช่นนี้ เขาฝึกอย่างหนักหนาสาหัสมาก

แต่ตอนนี้ ความจริงตรงหน้า เขาไม่เพียงแต่ไล่ตามลู่ฝานไม่ทัน แถมยังโดนลู่ฝานสลัดทิ้งไว้ด้านหลัง

พลังปราณ ลู่ฝานฝึกพลังปราณได้ก่อนเขา

ลู่หมิงรู้สึกได้ระบาย ที่เรียกว่าก้าวไปก่อนหนึ่งก้าว ก้าวหน้าไปก่อนทุกครั้ง ลู่ฝานฝึกพลังปราณได้ก่อนเข้าสถาบันสอนวิชาบู๊ งั้นหลังจากเข้าสถาบันสอนวิชาบู๊ ความเร็วในการฝึกจะเร็วยิ่งขึ้น ลู่หมิงอยากไล่ตามเขา คงยากมาก

ลู่หมิงถอนหายใจอยู่ในใจ

ลู่ฝานยืนหน้าหินศิลาดำ เก็บหมัดกลับมาอย่างนิ่งๆ

หมัดเมื่อกี้ อันที่จริง เขาไม่ได้ใช้แรงเท่าไร เพราะเขาฝึกแดนปราณในสำเร็จ เป็นระยะเวลานานแล้ว

น่าหลานรั่วหางตากระตุก รู้สึกกระวนกระวายใจ

เพราะการทดสอบของสถาบันสอนวิชาบู๊ มีกฎชัดเจนข้อหนึ่ง นักบู๊อายุต่ำกว่า 18 ปีที่สามารถฝึกพลังปราณได้ ไม่จำเป็นต้องทดสอบ สามารถเข้าสถาบันสอนวิชาบู๊ได้ทันที

ถ้าแค่แดนฝึกร่างชั้นเก้า ยังง่ายหน่อย แม้จะปฏิเสธ อย่างมากสถาบันแค่ถามสองสามคำ ไม่มีเรื่องใหญ่อะไร

แต่ถ้าพัวพันถึงอัจฉริยะ ที่สามารถฝึกพลังปราณออกมาได้ แต่ยังไม่ได้เข้าสถาบัน งั้นก็ลำบากแล้ว

ครูที่เหลือสองคน ต่างมองมาที่น่าหลานรั่ว พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำอย่างไร

น่าหลานรั่วจับยาเม็ดที่อยู่ในอก และเงยหน้ามองโม่เทียน สุดท้ายตัดสินใจขวางลู่ฝานไว้ครั้งหนึ่ง

ให้ตายเถอะ ถึงขั้นนี้แล้ว ต้องให้ตระกูลโม่มอบของมาอีกสักหน่อย

น่าหลานรั่วพูดอย่างเกลียดชังในใจ ตอนนี้เขาลุกขึ้น พูดด้วยเสียงก้อง “ช้าก่อน”

ลู่ฝานรู้ว่าน่าหลานรั่ว ไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่นอน จึงยืนอยู่หน้าหินศิลาดำ อย่างเงียบๆ

“ผู้ทดสอบคนนี้ ชื่อลู่ฝานงั้นเหรอ”

น่าหลานรั่วเอ่ยถาม แล้วเดินเข้ามา

ลู่ฝานตอบอย่างนิ่งๆ ว่า “ถูกต้อง ฉันชื่อลู่ฝาน”

น่าหลานรั่วเดินมาหน้าลู่ฝาน แล้วถามต่อ “ฉันได้ยินคนพูดกัน ผลการทดสอบของนายเมื่อปีก่อน แค่แดนฝึกร่างชั้นสามเท่านั้น แค่ปีเดียว จากแดนฝึกร่างชั้นสามจนมาถึงขั้นที่หินศิลาดำไม่สามารถประเมินได้ การพัฒนาอย่างนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน”

ลู่ฝานยิ้มแล้วตอบว่า “ครูน่าหลานรู้เรื่องฉันไม่น้อยเลยนะ”

แววตาน่าหลานรั่ว ฉายแววเย็นชา แม้คำพูดของลู่ฝานจะราบเรียบ แต่เมื่อเขาได้ยิน เป็นการประชดชัดๆ เรื่องพวกนี้เขาฟังโม่หยุนเฟยเล่า จริงหรือเท็จ ตอนนี้น่าหลานรั่วยังสงสัย

แต่พูดถึงขั้นนี้แล้ว ไม่มีทางให้หนีแล้ว น่าหลานรั่วพูดต่อ “ลู่ฝาน ฉันเห็นพลังสกปรกล้อมรอบตัวนายอยู่ นายคงไม่ได้ใช้วิชานอกรีด อย่างวิชากลั่นเลือดขจัดปราณ มายกระดับพละกำลังใช่ไหม สถาบันสอนวิชาบู๊ของเรา ไม่รับนักเรียนแบบนี้หรอกนะ”

เมื่อพูดออกมา คนในลานกว้าง พากันถกเถียงขึ้นมา

“ลู่ฝานคงไม่ได้ใช่วิชานอกรีดใช่ไหม” ชายคนหนึ่งถามอย่างตกใจ

“ฉันว่าใช่นะ ไม่งั้นจะยกระดับได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร ฉันพูดตั้งแต่แรกแล้ว สวะคนหนึ่งพลิกตัวได้เร็วขนาดนี้ ต้องมีอะไรลึกลับแน่นอน”

ผู้ชายอีกคน พูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ความริษยาในแววตาเขา มองแวบเดียวก็รู้แล้ว

“น่าขำ ผลการฝึกตนที่ยกระดับจากวิชานอกรีด ทำให้ลู่ฝานเอาชนะข้ามขั้น คนอย่างจางเยว่หานได้เหรอ สามารถทำให้ลู่ฝานฝึกวิชาของตระกูลอย่างวิชากายทองไฟอาบได้เหรอ พวกมีตาหามีแววไม่”

คนที่แสร้งทำเป็นนักบู๊คนหนึ่ง หัวเราะแล้วพูดออกมา กลับเป็นลูกหลานของตระกูลลู่

ทุกคนพากันถกเถียงกัน พวกมีความรู้มีไม่น้อย แต่คนไม่รู้เยอะกว่า ทันใดนั้น สีหน้าคนส่วนใหญ่ที่มองลู่ฝาน มีความดูหมิ่นและสงสัย

น่าเสียดาย ที่ลู่ฝานไม่มีความสนใจ จะมองพวกเขาสักนิด ทำเพียงยิ้มมองน่าหลานรั่ว แล้วพูดว่า “พลังสกปรกงั้นเหรอ วิชานอกรีดงั้นเหรอ เหตุผลแบบนี้ ฉันเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก ครูน่าหลาน ไม่ใช่แค่พูดว่าฉันใช้วิชานอกรีดในการฝึกฝน ก็จะยืนยันว่าเป็นจริงใช่ไหม มีหลักฐานหรือเปล่า”

น่าหลานรั่วพูดอย่างเย็นชา “หลักฐานง่ายดายมาก นายฝึกพลังปราณได้แล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าฝึกด้วยวิชาเที่ยงตรง พลังปราณจะแข็งแกร่ง พื้นฐานมั่นคง แค่หานักบู๊แดนปราณในแท้จริง มาทดสอบนายก็รู้แล้ว ทุกคนจะได้เห็นผลการฝึกตนของนายกับตา เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันให้ครูหร่วนฉีประลองกับนาย สามกระบวนท่า ถ้านายรับสามกระบวนท่าของเขาอย่างไม่แพ้ได้ ฉันจะเชื่อว่านายเป็นผู้มีความสามารถที่สวรรค์ประทานมา ถ้าไม่สามารถรับสามกระบวนท่าได้ ที่มาของพลังปราณของนาย คงจะมีปัญหาแล้วล่ะ”

พูดจบ น่าหลานรั่วหันไปกวักมือเรียกครูหร่วนฉีเข้ามา

แต่ขณะนั้น ลู่ฝานกลับยกมือขึ้นพูดว่า “ไม่จำเป็นแล้ว ครูน่าหลาน สู้มาประลองสามกระบวนท่ากับฉันดีกว่า แบบนี้จะทำให้ทุกคนเชื่อได้มากกว่า”

น่าหลานรั่วอึ้งไปเล็กน้อย เขาหรี่ตาลงพูดว่า “ลู่ฝาน นายพูดจริงเหรอ ฉันลงมือหนักกว่าครูหร่วนฉีนะ”

ลู่ฝานพูดว่า “ไม่เป็นไร แค่ฉันรับสามกระบวนท่าได้ ครูน่าหลานขอโทษฉันต่อหน้าทุกคนก็พอ!”