ตอนที่ 104 : ทักษะพายุสังหาร
เมื่ออีกฝ่ายบอกชื่อตัวเอง หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจ ชายตรงหน้าเขาคือคนที่โด่งดังในเมืองหัวเซี่ย
“โอ้ คุณคือ…” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะมองไปที่อีกฝ่ายอีกครั้งและพูดขึ้น “ไม่แปลกเลยที่คุณจะกล้าเข้ามาในมิติไฟแบบนี้”
พายุสังหาร นี่คือทักษะของเขา เขาคือคนที่สร้างทักษะต่อสู้ขั้นที่ 8
ทักษะต่อสู้นี้เมื่อฝึกฝนแล้วจะสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นพายุที่ทรงพลังและทำลายทุกอย่างได้ มีคนเคยถ่ายภาพของเขาเอาไว้ได้ด้วย
ภาพนั้นถูกถ่ายที่นอกเมืองนี้ เฉี่ยนเจินเฉียนได้ใช้ทักษะนี้ออกมาและก่อตัวเป็นพายุที่ใหญ่กว่า 20-30 ตารางไมล์ ก่อนจะพุ่งไปข้างหน้าและกลืนฝูงสัตว์อสูรนับไม่ถ้วน
ทักษะที่ทรงพลังนี้ไม่ได้มาจากสัตว์อสูรแต่เป็นทักษะที่เขาเข้าใจเอง ซึ่งทุกคนสามารถฝึกฝนได้
แน่นอนว่าตามอินเตอร์เน็ตนั้น ทักษะพายุสังหารนี้ไม่ใช่ทักษะที่สมบูรณ์ที่สุด มันสร้างขึ้นมาได้แค่ 7 ส่วน เพราะมันยังขาดอีก 2 ส่วน
เฉี่ยนเจินเฉียนนั้นมีความแข็งแกร่งระดับ SS บอกได้ว่าเขาคือเสาหลักของมนุษย์ก็ว่าได้ เขาถือว่าอยู่ใน 100 อันดับแรกของมนุษย์ในโลกนี้ที่แข็งแกร่งที่สุด
หวังเย่าไม่คิดว่าจะได้เจอกับคนในตำนานที่นี่ เขารู้สึกอึดอัดใจทันทีแต่ก็ถือว่าดีที่ภายนอกเขายังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมาได้
เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่หวังเย่าและพูดขึ้น “หวังเย่า นายกล้ามาที่มิติไฟคนเดียวเลยหรือ ? นายนี่ใจกล้าจริง ๆ แต่นายมาที่นี่ทำไม ? ”
หวังเย่าตอบกลับ “ผมต้องการดอกไม้โลหิตมังกรเพลิง ผมได้พบกับมังกรเพลิงแล้วแต่มีแม่น้ำนี้ขวางอยู่ ผมเลยขึ้นมาที่ต้นน้ำ คุณช่วยผมข้ามแม่น้ำนี้ได้รึเปล่า ? ”
เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น “ดูเหมือนว่าชะตาเราจะต้องกัน เป้าหมายของฉันในครั้งนี้ก็คือมังกรเพลิง นายตามฉันมาก็ได้”
หวังเย่าคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญเช่นกัน แต่การได้ตามชายที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ถือว่าเป็นโชคดี เขารีบพูดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น “ขอบคุณผู้อาวุโสมาก”
“ผู้อาวุโสอะไร เรียกฉันว่าลุงเฉี่ยนก็พอ ฉันยังไม่ได้แก่มากขนาดนั้น ฉันกับหลี่ว่านเฟิงก็ถือว่าอยู่รุ่นเดียวกัน” เฉี่ยนเจินเฉียนโบกมือ
ทั้งสองได้นั่งลงก่อนจะทำการย่างเนื้อกินกัน นี่คือเนื้อของสัตว์อสูรในมิติไฟ
“หวังเย่า นายกินอีกก็ได้ ถ้านายกินไม่หมดก็เก็บไว้ได้” เฉี่ยนเจินเฉียนใจกว้าง
หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ เสือดาวนี่มีพลังที่แข็งแกร่ง เมื่อคนกินมันเข้าไปก็จะรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ถูกเติมเต็ม
ยิ่งกว่านั้นเสือดาวนี่ก็เลเวลมากกว่า 50 หากเอาไปขายในเมือง แค่ปอนด์เดียวก็ขายได้หลายหมื่นเครดิต นี้ไม้ต้องพูดถึงเนื้อตรงหน้าของเขาเลย คงขายได้เป็นแสนเครดิต
หวังเย่าได้โอกาสแบบนี้จะปล่อยผ่านได้ยังไง เขาเสียดายที่ไม่ได้พาฟ่านฉิงเหมยมาที่นี่ด้วย ไม่งั้นเธอคงได้กินด้วยแน่
น้ำมันจากเนื้อหยดลงไปที่ไฟจนทำให้ไฟลุกซู่ จากนั้นด้วยการโรยเครื่องปรุงต่าง ๆ ลงไป กลิ่นหอมก็ลอยออกมาจนเตะจมูก
หวังเย่ากลืนน้ำลาย เขาพบว่าการที่เขาได้ทะลุมิติมานี้ไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า หากเทียบกับชีวิตที่แล้ว ชีวิตที่แล้วถือว่าน่าอนาถกว่าอีก
แม้ว่ามนุษย์จะตกอยู่ในสถานะที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ แต่เขากลับมีชีวิตที่ราบรื่นพร้อมกับได้สาวสวย 2 คนมาเป็นแฟน ทั้งยังได้กินอาหารที่แสนอร่อย ตามสถิติที่ไม่แน่ชัดนัก ว่ากันว่าสิ่งมีชีวิตจากต่างโลกมีอย่างน้อยพันล้านชนิดขึ้นไป ส่วนสิ่งมีชีวิตของดาวโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นมีเพียงหลายแสนชนิด
ในอีกความหมายคือมันมีอีกหลายเมนูให้เขาสำรวจอยู่ หวังเย่าเพิ่งจะทะลุมิติมาแค่ครึ่งปี แต่กลับได้กินอาหารอร่อย ๆ จำนวนมาก
เขาเคี้ยวเนื้ออย่างพอใจ
เนื้อย่างนี้ฟื้นฟูเรี่ยวแรงที่หายไป ทั้งสองกินอยู่กว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่หวังเย่าจะตัดเนื้อหนักประมาณ 5,000 ปอนด์เก็บไปในกระเป๋ามิติซึ่งเพียงพอที่จะกินได้เป็นปี
“ไปกันเถอะ” เฉี่ยนเจินเฉียนโบกมือ ก่อนที่เท้าของหวังเย่าจะมีลมก่อตัวขึ้นและพัดเขาขึ้นไป ที่เท้าของเฉี่ยนเจินเฉียนเองก็เช่นกัน
หวังเย่ารู้สึกว่าลมนี่ประคองตัวเขาเอาไว้และทำให้เขาเดินทางไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว เขาข้ามแม่น้ำที่กว้างกว่า 10 ไมล์ได้ในพริบตา มันเร็วยิ่งกว่าการขับรถเสียอีก
เมื่อข้ามแม่น้ำมาแล้ว เฉี่ยนเจินเฉียนก็ยังไม่เลิกใช้พลังแต่กลับเดินหน้าต่อ
อีกฝ่ายอยู่ถึงระดับ SS อสูรของอีกฝ่ายอย่างน้อยก็ต้องเลเวล 70-80 ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะกล้าล่ามังกรเพลิง
ตอนนั้นแมงมุมขนาดใหญ่ได้คายไหมสีขาวออกมา มันคิดจะล่าเหยื่อทั้งสองนี้
เฉี่ยนเจินเฉียนได้สร้างใบมีดลมออกมาจากมือ ก่อนจะตัดไหมรวมไปถึงแมงมุมนั่นทิ้งจนเลือดที่มีพิษสาดกระเซ็นออกมา
“สัตว์อสูรที่นี่ถึงกับกล้าโจมตีฉัน” เฉี่ยนเจินเฉียนพึมพำออกมาและเดินหน้าต่อ
หวังเย่ารู้สึกว่าลมที่พัดใต้ตัวเขาเหมือนไม่มีวันหมด เขาอยากจะกลับไปฝึกฝนทักษะนี้บ้าง แม้ว่าเฉี่ยนเจินเฉียนจะขายทักษะให้เขาแค่ 3 ส่วน แต่ยังไงซะนี่ก็เป็นทักษะขั้นที่ 8 การได้เรียนรู้ 3 ส่วนแรกก็ถือว่ามีประโยชน์มากแล้ว
“ลุงเฉี่ยน ผมสนใจทักษะพายุสังหารนี้ คุณช่วยแนะนำผมได้รึเปล่า ? ” หวังเย่าตะโกนออกมา
“ได้สิ” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น ก่อนจะอธิบายออกมา “ส่วนแรกนั้นคือการสร้างใบมีดลม ส่วนสองคือการสร้างวังวนลม ส่วนสามคือการสร้างปีกลม”
“งั้นฝึกฝนส่วนที่สามก็จะบินได้งั้นหรือ ? ” หวังเย่าทึ่ง
“ใช่ แต่มันได้ไม่นาน มันบินได้ในระยะ 10,000 เมตร มันขึ้นอยู่กับว่านายฝึกฝนมันได้ดีแค่ไหน”
“งั้นถ้าอยากบินได้เหมือนกับสายลมต้องฝึกฝนถึงส่วนไหน ? ”
“ส่วนที่ 5” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น “แต่ถ้าฉันไม่อนุญาต งั้นมันก็มีขายแค่ 3 ส่วนในตลาด ถ้านายอยากฝึกฝนมัน งั้นมันอาจจะมีปัญหาอยู่บ้าง”
“ผมขอให้ลุงเฉี่ยนแนะนำด้วย” หวังเย่าเข้าใจว่าเงินของตัวเองกับเฉี่ยนเจินเฉียนไม่อาจจะเทียบกันได้ แม้อีกฝ่ายจะไว้หน้าหลี่ว่านเฟิง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขายทักษะทั้งหมดให้ อีกอย่างเฉี่ยนเจินเฉียนไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอยู่แล้ว แต่จากคำพูดอีกฝ่ายแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้บอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่บอกว่ามันมีปัญหา
หวังเย่ารู้ความหมายของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาตื่นเต้นขึ้นมาทันที เขาอาจจะได้ทักษะที่ 5 นั่นมา
“ก็ง่าย ๆ ฉันได้ยินนายบอกว่านายเป็นผู้ดูแล ไข่ที่ฉันเพิ่งได้มาจากที่นี่ ถ้านายฟักมันออกมาได้ ฉันก็จะให้ทักษะ 6 ส่วนกับนาย” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นและมองไปที่หวังเย่า
สีหน้าของหวังเย่าไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เขายังแสดงท่าทีเยือกเย็นออกมา “ได้ ผมจะลองดู”
แม้แต่เฉี่ยนเจินเฉียนก็คิดว่าไข่นี่ล้ำค่า ทำให้หวังเย่าสนใจขึ้นมานิด ๆ เขาอยากเห็นว่าในไข่นี่มีอะไรอยู่กันแน่
ปล. จากบทนี้ไปจะเปลี่ยนสถานะผู้ใช้อสูรเป็นผู้ดูแล ผู้ใช้อสูร คือคนทั่วไปที่ได้ทำสัญญากับสัตว์อสูร ส่วนผู้ดูแลก็คือผู้ใช้อสูรที่สามารถฟักไข่หรือวิวัฒนาสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ แบ่งได้หลายดาว และตัวหวังเย่าเป็นผู้ดูแล 3 ดาว