ตอนที่ 105 : หาเรื่องมังกรเพลิง
ทั้งสองคนตกลงกันไว้ เมื่อกลับไปที่เมือง หวังเย่าก็จะดำเนินการเรื่องนี้ทันที
20 นาทีต่อมาในที่สุดทั้งสองก็มาถึงยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหินลาวาเพราะภูเขาไฟที่ระเบิดออกมา
มังกรเพลิงที่ตัวยาวกว่า 100 ฟุตนั้นหายตัวไปแล้ว
“หวังเย่า มังกรนี่อยู่ที่ท้องภูเขา ฉันจะนำไปก่อน ถ้านายเห็นว่าสถานการณ์ได้เปรียบก็ค่อยตามไป” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้นมา
หวังเย่ามองไปที่อีกฝ่ายด้วยความสับสน
เฉี่ยนเจินเฉียนยิ้มออกมา “ จริง ๆ แล้วฉันก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะมันได้ ฉันแค่อยากจะลองดู”
“ได้” หวังเย่าพยักหน้าก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายได้กระโดดลงไปในหุบเขาพร้อมกับลมที่พัดกระพือออกมา
ปัง !
หวังเย่าได้ยินเสียงลาวาปะทุพร้อมกับเสียงคำรามของมังกร ก่อนที่มังกรเพลิงตัวใหญ่จะบินออกมา มันดูดุร้าย เกล็ดที่ตัวมันเต็มไปด้วยไฟลุกไหม้ สายตาของมันดูน่าเกรงขาม
มังกรเพลิงนี่ตัวยาวกว่า 430 เมตร แม้แต่หวังเย่าที่อยู่ตีนเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังอันยิ่งใหญ่ที่แผ่ปกคลุมไปทั่ว นี่คือคลื่นพลังของมังกร
“มนุษย์ เจ้าอยากตายงั้นหรื[u1] อ ? ” สิ่งที่ทำให้หวังเย่าแปลกใจที่สุดคือมังกรเพลิงกลับพูดภาษามนุษย์ได้
เขาได้ยินมาว่าสัตว์อสูรที่มีความฉลาดนั้นสามารถเรียนรู้ภาษามนุษย์ได้ สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์บางพวกถึงกับสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ซึ่งนั่นทำให้มนุษย์พากันลนลาน แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีสัตว์อสูรที่เปลี่ยนร่างแฝงเข้ามาอยู่ในสังคมมนุษย์ ไม่งั้นแล้วคงเกิดปัญหามากมายขึ้นมาแน่ ๆ
เฉี่ยนเจินเฉียนเป็นผู้ตรวจสอบ 4 ดาว เขาอยู่ในเมืองมาหลายปี เขามีทหารใต้สังกัดจำนวนมาก เขาได้ยึดครองมิติต่าง ๆ มาเยอะ เขาได้สำรวจมิติมามากมายและมีความรู้กว้างขวาง การที่เห็นสัตว์อสูรพูดภาษามนุษย์ได้นั้น เขาไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อย
“จะเป็นไปได้ยังไง ? ฉันไม่ได้คิดจะหาเรื่องแก ฉันแค่อยากยืมบางอย่าง หากแกเอามาให้ฉัน ฉันก็จะไปทันที” เฉี่ยนเจินเฉียนพูดขึ้น
มังกรเพลิงหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า แกนี่กล้าดีจริง ๆ ฉันไม่คิดจะไปหาเรื่องมนุษย์ แต่ไม่คิดเลยว่าแกจะคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่และฝ่าเข้ามาในโลกไฟของเรา นี่มันเกินไปแล้ว ที่แกบอกว่าจะยืมของคงเป็นแค่ข้ออ้าง จริง ๆ แล้วแกคิดจะล่าพวกเราสินะ ? ”
ถึงจะโดนเป้าหมายมองออก แต่เฉี่ยนเจินเฉียนก็ยังแสดงสีหน้าเฉยเมยและพูดขึ้น “ เมื่อแกรู้ความคิดฉัน งั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อ ฉันขอท้าแกสู้”
“ทำไมฉันต้องกลัวแก เข้ามาสิ ! “
มังกรเพลิงอ้าปากและพ่นไฟออกมา ลำแสงไฟนี้ยาวกว่า 50 เมตร คลื่นความร้อนสูงพุ่งผ่านอากาศ จนทำให้อากาศรอบตัวถึงกับพังลง
แต่เฉี่ยนเจินเฉียนแค่พลิกฝ่ามือก็มีพายุก่อตัวขึ้นมาและแผ่พลังกลืนกินมหาศาลออกมา
พายุนี้ได้กลืนกินไฟเข้าไป เมื่อไฟถูกกลืนไป พายุก็ได้สลายตัวก่อนจะมีฝนโปรยปรายออกมา
“เสมอกัน แต่แกอย่าคิดว่าจะเอาชนะฉันได้ “ มังกรเพลิงได้เปลี่ยนร่าง ตัวของมันยาวขึ้นกว่าเดิมอีก 100 เมตร เป็น 530 เมตร พร้อมกับหัวที่มีเขางอกออกมา กรงเล็บทั้งสี่ดูคมกริบ มันบินตัดท้องฟ้าได้อย่างรวดเร็วและคิดจะเข้าปะทะกับเฉี่ยนเจินเฉียน
หวังเย่าดูการต่อสู้ด้วยความตะลึง เขารู้ว่ามังกรมีสกิลอาณาเขตเพลิงซึ่งจะทำให้ที่นี่กลายเป็นทะเลเพลิงขึ้นมา แต่ทะเลเพลิงนั้นต้องใช้แก่นชีวิตของมัน เดาว่ามันต้องใช้แก่นชีวิตไปจำนวนมาก ดังนั้นจึงไม่กล้าใช้สกิลนี้ออกมา เมื่อการพ่นไฟไม่อาจจะเป็นภัยต่อชีวิตอีกฝ่ายได้ ดังนั้นมันจึงเลือกที่จะเข้าสู้ระยะประชิด
มังกรอาจจะไม่ได้สู้ระยะประชิดได้แกร่งที่สุดในโลก แต่ก็ถือว่ามีความสามารถอยู่ ร่างกายของมันแข็งแกร่ง เกล็ดของมันก็แข็งพร้อมกับกรงเล็บที่คมกริบ …มันราวกับราชาแห่งการต่อสู้ระยะประชิด
เฉี่ยนเจินเฉียนเห็นแบบนั้นก็สีหน้าเปลี่ยนไป ด้านหลังเขามีปีก 3 คู่โผล่มา ก่อนที่เขาจะบินหนีออกไปเพื่อเว้นระยะห่าง
ทักษะพายุสังหารของเฉี่ยนเจินเฉียนเป็นทักษะที่โด่งดังในการโจมตีเป็นกลุ่มและระยะไกล แต่ในการโจมตีระยะประชิดนั้นไม่ได้โดดเด่นอะไร โชคดีที่เขาพอมีวิธีหนีอยู่บ้าง
มังกรเพลิงลังเล มันไม่อยากออกจากรังของมัน
ในมุมมองของมันแล้ว มันยิ่งใหญ่และไม่อาจจะโดนดูถูกได้ แต่ต่อหน้าคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแล้ว มันก็เป็นอีกเรื่อง แม้ว่ามังกรจะหยิ่งทะนงแต่ก็มีความฉลาดอยู่
เมื่อเห็นแบบนั้น เฉี่ยนเจินเฉียนก็หยุดก่อนจะเรียกอสูรของตัวเองออกมา อสูรของเขาคือหมาป่าจันทราซึ่งอยู่ระดับสวรรค์เลเวล 75 รวมกับหนอนทองที่เป็นสัตว์อสูรจากมิติแมลง
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หนอนทอง แม้ว่ามันจะเป็นแมลง แต่ตัวของมันก็สูงกว่า 8 เมตรและยาวกว่า 20 เมตรด้านล่างมีขากว่า 36 ข้าง ส่วนด้านหลังก็มีเปลือกแข็งสีแดงด้วย
****
สายพันธุ์ : ราชาหนอน
ระดับ : สวรรรค์ขั้นต้น
เลเวล : 81 (ระดับศักดิ์สิทธิ์)
สกิล : 1. แยกร่าง มันสามารถแยกร่างได้ ความสามารถในการแยกร่างขึ้นอยู่กับเลเวล, 2. กลืน, 3. เกราะเลือด
****
“เป็นแมลงที่ตัวใหญ่จริง ๆ หากมันพัฒนาต่อไปได้ ก็ยากจะคิดได้ว่ามันจะแข็งแกร่งถึงระดับไหน” หวังเย่ารู้สึกกลัวขึ้นมานิด ๆ เขาไม่กล้าจะดูถูกคนที่แข็งแกร่งในโลกนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าด้วยการที่มีระบบอยู่ด้วย เขาก็จะเหนือกว่าใคร แม้จะไม่เคยแสดงมันออกมา แต่เขาก็คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้ใด แต่ตอนนี้ความคิดนั้นต้องพังทลายลงไป
เพราะเขาไม่ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ เลย เขาแค่โชคดีที่ประสบความสำเร็จบ้าง
เฉี่ยนเจินเฉียนได้เรียกอสูรทั้งสองออกมาและให้ทั้งสองคอยระวังด้านข้างให้ ส่วนตัวเขาก็ยังใช้ทักษะพายุสังหาร
เขาใช้ทักษะของตัวเองสร้างพายุลูกเล็กนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันรอบตัวเขา
ตอนนั้นโลกก็ได้เปลี่ยนสีไป เมฆหลากสีได้พัดเข้ามา หวังเย่าเปลี่ยนสีหน้าไปทันที เขารู้ว่าเฉี่ยนเจินเฉียนได้ทุ่มสุดตัว
[u1]