ตอนที่ 145 นึกออกรึยัง / ตอนที่ 146 ผู้หญิงใจดำ

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 145 นึกออกรึยัง 

 

 

“พูดมันไม่ชัดเจนพอ” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปาก มือหนาค่อยๆ เลื่อนลงไปบนเอวของเธอแล้วออกแรงรั้งเธอเข้ามาในอ้อมกอด 

 

 

“เรื่องนี้ ต้องเตือนสติด้วยการกระทำ” 

 

 

หัวใจเธอกระตุกวูบ ไม่ทันจะได้ตั้งตัวเขาก็ค่อยๆ โน้มใบหน้าประทับลงมาอย่างแม่นยำ 

 

 

“!! …” 

 

 

เธอยกมือขึ้นหวังจะดันเขาออก ฝ่ามือที่วางอยู่ตรงหน้าอกกลับโดนเขารวบเอาไว้ในฝ่ามือแล้วนำไปวางไว้ตรงตำแหน่งของหัวใจตัวเอง 

 

 

เธออ้าปากหวังจะเอ่ยปรามแต่สุดท้ายเขากลับถือโอกาสนั้นเข้าไปสำรวจโพรงปากอย่างเผด็จการและเอาแต่ใจ ดั่งพายุโหมกระหน่ำ… 

 

 

เธอพยายามควบคุมจังหวะการหายใจ จนถึงนาทีที่อากาศหายใจภายในปอดนั้นแทบจะถูกสูบออกไปจนหมด อีกฝ่ายถึงจะยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ 

 

 

เธอกุมเสื้อผ้าของเขาเอาไว้แน่น หอบหายใจด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ดวงตาสุกใสถูกฉาบไปด้วยหยาดน้ำจนพร่าเลือน 

 

 

ริมฝีปากที่ถูกเขาย่ำยีแดงเจ่อ แถมยังเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำเป็นประกาย 

 

 

นัยน์ตามือมนลงอีกครั้ง 

 

 

“หายใจ” 

 

 

สองคำถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบๆ หลังจากที่เธอหายใจไปได้ไม่กี่วิ อีกฝ่ายก็โน้มใบหน้าลงมาอีกครั้ง 

 

 

จูบครั้งนี้ทั้งดูดดื่มและร้อนแรง 

 

 

ราวกับเขากำลังคลุ้มคลั่ง ท่อนแขนยาวที่โอบรัดเอวของเธออยู่ยิ่งออกแรงรั้งเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของเขา 

 

 

เป็นอีกครั้งที่เธอถูกทำให้ตกใจเพราะการกระทำที่บุ่มบ่าม แต่ร่างกายกลับหาช่องว่างในการหายใจตามที่ชายหนุ่มเพิ่งเอ่ยขึ้นเมื่อครู่อย่างว่าง่าย 

 

 

เสียงหายใจหอบถี่ระหว่างทั้งคู่ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน สำหรับห้องที่เงียบเชียบเสียงนั้นกลับดังเป็นพิเศษ 

 

 

…… 

 

 

เนิ่นนานกว่าที่เขาจะยอมผละออกไปอย่างอ้อยอิ่ง 

 

 

เขาลดใบหน้าลง ลมหายใจร้อนผ่าวของทั้งคู่สอดผสานกันไปมาอย่างอบอวลและไม่หยุดพักก่อนจะสูดเอาละหายใจของกันและกันเข้าสู่ร่างกาย 

 

 

“นึกออกแล้วยัง” 

 

 

เสียงเข้มทุ้มต่ำและชวนหลงใหล เฉินฝานซิงทำตัวไม่ถูกขึ้นในทันที 

 

 

เธอรีบพยักหน้ารัว “นึกออกแล้ว นึก…ออกแล้ว…” 

 

 

ขืนยังนึกไม่ออกอีกล่ะก็ เธอกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะทำอะไรอีก 

 

 

“หึ” เขาขำเสียงต่ำ 

 

 

ผู้หญิงคนนี้… 

 

 

ดูเหมือนจะไม่ประทับใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเลยแม้แต่น้อย! 

 

 

เขาลดใบหน้าลงไปจุมพิตเบาๆ ลงบนปลายจมูกของเธอ “แล้วทีนี้คุณจะชดใช้ยังไง” 

 

 

ชดใช้? 

 

 

เรื่องแบบนั้นจะต้องชดใช้ยังไง 

 

 

ดวงตาคู่นั้นของเธอเริ่มมืดสลัว ความเงียบงันเริ่มกินเวลายืดเยื้อ 

 

 

เธอเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ 

 

 

เธอเข้าใจ… 

 

 

นัยน์ตาสีนิลจ้องมองเขาอย่างลึกซึ้งสักพัก ก่อนมือที่ใช้รั้งเอวของเธอเอาไว้อยู่จะค่อยๆ คลายออก 

 

 

“ไม่เป็นไร คุณค่อยๆ คิดก็ได้…” 

 

 

กำลังที่ตรึงร่างของเธอเอาไว้ค่อยๆ ผ่อนแรงลง แพขนตาที่ลู่ลงของเธอสั่นไหวเบาๆ นาทีที่สัมผัสของชายหนุ่มได้ค่อยๆ จางหายไป ฝ่ามือที่ยันแผ่นอกของเขาเอาไว้ก็กำกระชับเสื้อเชิ้ตพอดีตัวที่เขาสวมอยู่ทันที 

 

 

ร่างอันสูงสง่าของเขาแข็งทื่ออยู่กับที่พร้อมก้มลงมองฝ่ามือนุ่มที่รั้งเขาเอาไว้ 

 

 

“หืม?” เขาเคลื่อนสายตาลงมองเธอด้วยสายตาฉงน 

 

 

หญิงสาวกลับขยับเข้าไปใกล้เขายิ่งขึ้น ตามมาด้วยความอุ่นที่ประทับลงบนริมฝีปาก 

 

 

สัมผัสอ่อนโยนราวกับถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปทั้งร่างกายพุ่งตรงไปยังสมอง 

 

 

ดวงตาลึกล้ำหรี่ลงเล็กน้อย กระชับหญิงสาวที่จู่ๆ ก็โผเข้ามาเอาไว้แน่น 

 

 

เก็บเกี่ยวเข้ามาทีละเล็กน้อย 

 

 

เฉินฝานซิงค่อยๆ ผละออกมาจากกลีบปากบางคู่นั้น จากนั้นเคลื่อนสายตาขึ้นมองเขาดวงตาพร่างพราวคู่นั้นจ้องมองเขาตาไม่กะพริบ ภายในนั้นเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่และมั่นคง 

 

 

“ป๋อจิ่งชวนเราคบกันเถอะ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 146 ผู้หญิงใจดำ  

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น อารมณ์ในดวงตาคู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นราวกันน้ำหมึกสีเข้มข้นที่อยู่ในแท่นฝน 

 

 

เฉินฝานซิงหรี่ตาลงมองทุกๆ สีหน้าที่เขาแสดงออก 

 

 

อารมณ์ของเขาช่างเงียบขรึมจนคาดเดาไม่ออก 

 

 

“เป็นอะไร ไม่ดีใจเหรอ” 

 

 

มือที่กุมแขนเสื้อเชิ้ตของเขาอยู่ค่อยๆ ผ่อนแรงลง 

 

 

เพราะถึงอย่างไรเธอไม่อาจล่วงรู้ความคิดของเขา 

 

 

แต่เมื่อเธอกำลังจะดึงมือกลับ จู่ๆ มือของเธอก็กลับถูกรั้งเอาไว้ 

 

 

ต่อจากนั้นเธอก็ถูกลากให้เดินตามเขาออกไปข้างนอก 

 

 

ในตอนนั้นเธอเองก็รู้สึกฉงน 

 

 

“ป๋อจิ่งชวน คุณคิดจะทำอะไร” 

 

 

“ไปจดทะเบียน” 

 

 

เธอหัวใจกระตุกวูบ! 

 

 

ผู้ชายคนนี้ต้องตรงไปตรงมาขนาดนี้เลยเหรอ! 

 

 

ขณะที่กำลังเดินผ่านประตู เธอก็ได้คว้าเกาะขอบประตูเอาไว้ 

 

 

เขาชะงักเท้าลงอย่างเสียไม่ได้ก่อนจะหันมามองเธอ 

 

 

เธอมีท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ใครบอกว่าจะแต่งงานกับคุณ” 

 

 

เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วกดเสียงเข้ม “เมื่อกี้” 

 

 

เธอมองเขาแล้วหลุดขำออกมาเบาๆ “ฉันก็แค่ยอมคบกับคุณแค่นั้นเอง คุณชายป๋อ” 

 

 

คิ้วเขาขมวดเข้าหากัน “นั่นก็หมายความว่าตอบตกลงแต่งงานแล้ว!” 

 

 

เธอพิงขอบประตูเงยหน้ามองเขาแล้วยิ้มพร้อมเอ่ยออกมา 

 

 

“คุณโลกสวยเกินไปแล้ว! คุณจีบฉันไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ ยังจะข้ามขั้นไปแต่งงานอีก?” 

 

 

“ข้ามขั้น?” 

 

 

เธอก้มหน้าลงถอนหายใจอยู่หลังขอบของประตู 

 

 

“แม้ฉันจะอายุยี่สิบหกซึ่งเป็นวัยที่ควรจะแต่งงานได้แล้ว แต่ฉันก็ยังอยากเข้าใจความรู้สึกตอนที่คบกันถูกไหม” 

 

 

คบกัน? 

 

 

เขาชะงักไปกับสองคำนี้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับเขา 

 

 

“ตกลง งั้นก็คบกันก่อน” 

 

 

เธอกระตุกมุมปากแล้วพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงใส 

 

 

“ดี งั้นเริ่มจากวันนี้เลย ตอนฉันทำงาน ถ้ามีอะไรก็โทรมา ถ้าไม่มีก็คิดถึงเอา เพราะเหตุผลเรื่องงาน ต่อไปฉันคงจะยุ่งมาก ดังนั้น…ฉันต้องย้ายออกไป!” 

 

 

ใบหน้ารูปงามค่อยๆ ขึงตึงขึ้นทีละน้อยตามคำพูดที่เขาได้ฟัง 

 

 

“ย้ายออกไป? ไม่ได้!” 

 

 

“งั้นคุณจะปฏิเสธการคบหากับ ฉันเหรอ?” 

 

 

ป๋อจิ่งชวนเม้มปาก “คุณอยู่ที่นี่ผมก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอุปสรรคต่อความรักตรงไหน” 

 

 

“ฉันคิดว่ามีนะ หากเราคบหากันเห็นผลละก็ ฉันอาจจะอยากแต่งเข้ามาอยู่ที่นี่ก็ได้ หรือคุณจะให้ฉันแต่งออกจากบ้านรับรองมาอยู่บ้านใหญ่” 

 

 

“ก็ไม่เห็นจะแปลก” 

 

 

“…” 

 

 

เขามองหญิงสาวที่ยืนพิงขอบประตู ท่าทีอืดอาดจะยิ้มก็ไม่ยิ้มเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกขัดใจ 

 

 

เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้เธอ สายตาหยอกล้อของเธอหายไปในทันทีก่อนจะเปลี่ยนเป็นตื่นกลัว 

 

 

เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แผ่นหลังตั้งตรงค่อยๆ โน้มลงต่ำ บัดนี้ความเยือกเย็นค่อยๆ แปลเปลี่ยนเป็นความคุ้นเคย 

 

 

ใบหน้าที่ยากจะหาใครเปรียบได้ใกล้เข้ามาเพียงคืบเป็นอีกครั้งที่ลมหายใจของทั้งสองผสานกัน 

 

 

“ใจคอคุณจะทรมานกันให้ตายเลยรึไง หืม?” 

 

 

เสียงแหบทุ้มของชายหนุ่มอัดแน่นไปด้วยพิษร้าย “กว่าจะยอมใจอ่อนเอ่ยปากตกลง แต่สุดท้ายคุณกลับห่างจากผมยิ่งไกลออกไปทุกทีคุณนี่ใจดำจังเลยนะ” 

 

 

หัวใจของเธอเต้นตุบตับ การได้ใกล้ชิดกับเขา สัมผัสถึงเขา การที่ทำให้เธอลุ่มหลงเขา เธอไม่อาจทัดทานมันได้เลย 

 

 

“ปกติเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว” 

 

 

“แต่ผมอยากเจอคุณทุกวัน” 

 

 

ใบหูของเธอขึ้นสีระเรื่อ 

 

 

ผู้ชายคนนี้… 

 

 

เพียงหนึ่งสัปดาห์ที่อยู่ด้วยกันหัวใจดวงนั้นก็ตกเป็นของเขาแล้ว ยังไม่พอใจอีก! 

 

 

“งั้นใจร้ายมันหมายความว่าไง” 

 

 

เอาล่ะ เธอยอมรับเธอไม่ได้อยากให้เขารามือตอนนี้! 

 

 

นี่เธออายุยี่สิบหกเข้าไปแล้วนะ 

 

 

คิดว่าเธอไม่อยากได้รับถ้อยคำหวานๆ จากผู้ชายบ้างหรือไง!