บทที่ 52 สาวน้อยชุดแดงมาขอสู้
เห็นว่าบนเวทีประลองนั้น มีสาวน้อยสวมชุดแดงยืนอย่างมั่นใจอยู่บนนั้น สายตามองเยอะเย้ยมายังคนทางด้านล่างเวที แล้วยิ้มพูดว่า “หรือว่าสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนจะไม่มีคนเก่งแล้วหรือไงกัน? แค่ผู้หญิงอย่างฉันคนเดียวก็สู้ไม่ได้ กระจอกจริงๆ !”
พอพูดออกมาดังนั้น นักเรียนในสำนักยุทธ์ทั้งหลายก็โมโหมาก แต่ก็ไม่มีคำพูดไหนพูดสู้ได้
บนห้องใต้หลังคา เจ้าสำนักชิงหยุนก็หน้านิ่ง ฝั่งตรงข้ามหยามเกียรติบนเวทีประลองแบบนี้ จะให้เจ้าสำนักเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ฮ่าๆ เจ้าสำนักชิงหยุนอย่าเพิ่งโมโหไป เด็กน้อยมันไม่รู้ความ” เจ้าสำนักซินฉือเอามือลูบเคราพูด
“เหอะ!” เจ้าสำนักชิงหยุนส่งเสียงไม่พอใจ “คุณกล้าพาคนมาท้าทายถึงเมืองชิงหยุนของผม เพียงเพราะอาศัยอัจฉริยะอา15ปีที่เป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่คนนี้น่ะหรือ?”
เรื่องของเมืองซินฉือสำนักยุทธ์นั้น เจ้าสำนักชิงหยุนก็พอรู้มาบ้าง รู้ว่าเมืองซินฉือมีสาวน้อยอัจฉริยะ ชื่อว่า เนี่ยเสี่ยวเตี๋ย ก็คือสาวน้อยชุดแดงบนเวทีประลองคนนี้
หลังจากที่จบการประลองยุทธ์ สวี่ชิวเซิงและหานซานก็เก็บตัวฝึกตนไม่ออกมา เพื่อพยายามไปให้ถึงแดนฝึกชี่ไห่ ตอนนี้ก็มีแต่เฟิงเซวียนจวี๋ ที่มีพลังมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยเลย
“ไม่รู้ว่าหลัวซิวจะสู้กับเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยได้ไหม”
เจ้าสำนักชิงหยุนขมวดคิ้ว โดยไม่รู้ว่าหลัวซิวกลายเป็นจอมยุทธ์ชี่ลึกลับแล้ว
“หลัวซิวมาแล้ว!”
“หลัวซิวจริงๆ ด้วย!”
“หลัวซิวเป็นยอดฝีมืออันดับ1ของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนเรา จะต้องเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้แน่!”
ทันใดนั้น ผู้คนข้างเวทีประลองก็ดังกระหึ่มขึ้นมา สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปยังชายหนุ่มชุดดำที่แบกกระบี่ไว้ที่หลัง
“ยอดฝีมืออันดับหนึ่งงั้นหรือ? ไม่รู้ว่าจะรับกระบวนท่าของฉันได้สักท่าหรือเปล่า?” สาวน้อยชุดแดงบนเวทีพูดอย่างไม่สนใจ
พอได้ยินเสียงเหยียดหยามกันแบบนี้ หลัวซิวก็มองขึ้นไปบนเวทีประลองยุทธ์ แล้วก็สังเกตลายเส้นชีวิตของสาวน้อยชุดแดงคนนั้นอย่างชัดเจน
“จอมยุทธ์ชี่ไห่งั้นหรือ?ถึงว่าอวดเก่งไม่เบา……”
จากพลังในลายเส้นชีวิต หลัวซิววินิจฉัยได้ว่าผลฝึกตนของสาวน้อยชุดแดงคนนี้อยู่ที่วิชาชี่ไห่ขั้น1น่าจะเหมือนกับตนเอง ที่เพิ่งบรรลุแดนชี่ไห่ได้ไม่นาน
แต่ว่าหลัวซิวไม่ได้สนใจสาวน้อยชุดแดงคนนั้น แต่มองไปยังบนห้องใต้หลังคาเพื่อทำความเคารพเจ้าสำนักชิงหยุนก่อน
“เจ้าสำนักชิงหยุนพยักหน้า แล้วพูดเสียงขรึมว่า “หลัวซิว คนบนเวทีนั้น ก็คือเนี่ยเสี่ยวเตี๋ย สาวน้อยยอดอัจฉริยะของเมืองซินฉือสำนักยุทธ์”
ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็มองไปยังตัวของหลัวซิว เหล่านักเรียนของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนทั้งหลายล้วนรู้ดี ว่าหลัวซิวเป็นยอดฝีมืออันดับ1 ถ้าแม้แต่เขาก็ยังแพ้ล่ะก็ ก็ต้องนอกจากสวี่ชิวเซิงหรือหานซาน ใครสักคนบรรลุขั้นออกจากการฝึกตนมา ไม่อย่างนั้นวันนี้สำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนคงจะต้องขายหน้าแล้วล่ะ
“มี!” หลัวซิวค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ใบหน้ามีรอยยิ้มด้วยความมั่นใจ บนร่างกายก็ปล่อยพลังของจอมยุทธ์ชี่ไห่ออกมา เหล่านักเรียนของสำนักยุทธ์โดยรอยล้วนรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่ส่งเข้ามา
“หลัวซิวบรรลุแดนฝึกชี่ไห่แล้วงั้นหรือ?”
“ไม่เสียแรงที่เป็นยอดอัจฉริยะอันดับ1ในการประลองยุทธ์ หลัวซิวจะต้องเอาชนะเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยคนนี้ได้แกฎเกณฑ์”
“หลัวซิว!หลัวซิว!หลัวซิว!……”
เหล่านักเรียนของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนก็กระหึ่มดังกันขึ้นมา คนนับร้อยเรียกชื่อของเขา
การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวกับศักดิ์ศรีของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน หลัวซิวบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ ไม่แปลกที่จะทำให้ทุกคนมองเห็นถึงความหวัง มีคนเชียร์กันมากมายถึงที่สุด
พอสัมผัสถึงปราณแท้ที่บนตัวของหลัวซิว เจ้าสำนักชิงลึกลับนก็มีสีหน้าออกมาเล็กน้อย เดิมทีเขายังคิดว่าอย่างน้อยอีก1-2เดือนหลัวซิวถึงจะสามารถบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ได้
“ฮ่าๆ เจ้าสำนักซินฉือเมื่อครู่คุณบอกว่าอยากจะพนันกับผมใช่ไหม?” เจ้าสำนักชิงหยุนหันตัวไปมองเจ้าสำนักซินฉือ
เจ้าสำนักซินฉือที่มีรูปร่างท้วมๆ ก็มองหลัวซิว แล้วพูดในใจว่า “นี่ก็คืออัจฉริยะที่ฝึกพลังหยางบริสุทธิ์สำเร็จงั้นหรือ? บรรลุแดนฝึกชี่ไห่แล้วเหมือนกันนี่………”
เจ้าสำนักซินฉือบ่นพึมพำ เห็นได้ชัดว่าการบรรลุของหลัวซิว ทำให้ในใจของเขาเริ่มไม่ค่อยมั่นใจแล้ว
“ทำไมล่ะ? เจ้าสำนักซินฉือไม่กล้าพนันแล้วงั้นหรือ?” เจ้าสำนักชิงหยุนแกล้งพูดหยอกเล่น
“เหอะ มีระดับวิชาชี่ไห่ขั้น1เหมือนกัน หมอนั่นก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเสี่ยวเตี๋ยได้” เจ้าสำนักซินฉือบึนปากพูด “พนันแน่นอน ถ้าเสี่ยวเตี๋ยชนะ คุณก็เอากำไลอัญมณีฟ้ามาให้ผม”
“แล้วถ้าหลัวซิวชนะล่ะ?” เจ้าสำนักชิงหยุนยิ้มพูดว่า “กำไลอัญมณีฟ้านั้น เป็นถึงสมบัติค่ายกลระดับ3เลยนะ”
ได้ยินดังนั้น เจ้าสำนักซินฉือก็หน้ากระตุกๆ เดิมทีกำไลอัญมณีฟ้า เป็นของของเขาเอง 3ปีก่อนแพ้พนันให้กับเจ้าสำนักชิงหยุน
“เสี่ยวเตี๋ยจะแพ้ได้อย่างไรกัน? ถ้าไอ้หลัวซิวของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนชนะได้ล่ะก็ ผมให้ยาพรสวรรค์หนึ่งขวดเลย!”
ยาพรสวรรค์คือยาระดับ3ที่จอมยุทธ์พรสวรรค์ใช้เพิ่มผลฝึกตน 1ขวดมี6เม็ด ราคาก็สามารถเทียบกับสมบัติค่ายกลระดับ3ได้เลย
“ได้!” เจ้าสำนักชิงหยุนหัวเราะลั่น หลัวซิวกลายเป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่ ทำให้เขามั่นใจเต็มเปี่ยม
“หลัวซิว การต่อสู้ครั้งนี้เกี่ยวเนื่องกับศักดิ์ศรีของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน เอ็งจะต้องทำให้เต็มที่นะ!” เขามองไปที่หลัวซิวแล้วพูด
“ครับ!”
หลัวซิวพยักหน้า แล้วก็กระโดดขึ้นไปบนเวทีประลองยุทธ์
เนี่ยเสี่ยวเตี๋ยสวดชุดแดงทั้งตัว สีหน้ามองหลัวซิวด้วยความเย่อหยิ่ง แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “คิดไม่ถึงว่าในบรรดาสวะของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุน จะมีจอมยุทธ์ชี่ไห่อยู่ด้วย”
เธออายุ10ปีก็เข้ามาในสำนักยุทธ์แห่งเมือยซินฉือ ก็ได้รับการยอมรับจากทุกคน ได้รับการเยินยอจากทุกคนมาตลอด คิดว่าตนเองเก่ง ถึงแม้จะเป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่เหมือนกัน เธอก็ไม่มองหลัวซิวอยู่ในสายตา
หลัวซิวสีหน้านิ่ง ถึงแม้เนี่ยเสี่ยวเตี๋ยจะหน้าตาดี แต่ท่าทางเป็นผู้หญิงแบบที่เขาเกลียดเลย
เห็นเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยยื่นมือออกมา หอกยาวก็ปรากฏขึ้นบนมือเธอ แล้วพูดอวดเก่งว่า “คนที่ทำให้ฉันใช้หอกได้ มีไม่เยอะ ต่อให้นายแพ้ ก็ถือว่าเก่งแล้วล่ะ”
ขณะพูดนั้น เธอก็ขยับตัว หอกยาวก็พุ่งแทงมายังตัวของหลัวซิว ปราณแท้เปล่งประกาย
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ หลัวซิวไม่ได้ชักกระบี่ออกมา แต่ใช้เท้าก้าวออกเป็นฝีเท้าแปลกๆ ทุกคนก็รู้สึกเหมือนตาลาย หลัวซิวก็มาโล่ทางด้านหลังของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยแล้ว จากนั้นก็ซัดฝ่ามือออกไป
“รวดเร็วมาก!”
ใบหน้าเรียวๆ ของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยก็เปลี่ยนสีหน้า แล้วรีบดึงหอกกลับมาเพื่อป้องกันการโจมตีจากฝ่ามือของหลัวซิว
“ตุบ!”
เสียงดังขึ้น ทุกคนก็อึ้งไป เนี่ยเสี่ยวเตี๋ยถูกหลัวซิวโจมตีจนถอยร่นไปหลายก้าว
“พลังแค่นี้ยังจะกล้ามาอวดเก่งที่สำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนนี้อีก เธอไม่มันคู่ควรให้ผมชักกระบี่ออกมาด้วยซ้ำ!” หลัวซิวยิ้มพูด
คนด้านล่างเวทีก็อึ้ง ใครก็คิดไม่ถึงว่าคนที่นิ่งเงียบอย่างหลัวซิว จะพูดจาแบบนี้ออกมาได้
แต่ว่าทุกคนก็ล้วนรู้สึกว่าคำพูดของหลัวซิวนี้มันสะใจ เพราะว่าตอนที่เขายังไม่มานั้น เนี่ยเสี่ยวเตี๋ยเอาแต่ว่าเป็นพวกไม่เอาไหน ทำให้ทุกคนเจ็บแค้นอยู่ในใจ
“ฮ่าๆ พูดได้ดี!เป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่ไม่ใช่หรือไง จะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว?”
“หลัวซิวเก่งมาก ให้ยัยหนูคนนั้นได้รู้เสียบ้างว่ายอดฝีมืออันดับ1ของสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนเราร้ายกาจแค่ไหน!”
“นี่นาย……รนหาที่ตาย!” ใบหน้าเรียวๆ ของเนี่ยเสี่ยวเตี๋ยบังเกิดความโกรธ เป็นผู้หญิงที่ทุกคนประคบประหงม ยังไม่เคยมีใครมาดูถูกเธอแบบนี้มาก่อน
“หอกล่าลม!”
ใช้วิชาท่าร่างออกมา ชุดสีแดงพลิ้วไหวเป็นเงา หอกยาวเปล่งรังสีออก ใช้ปราณแท้ช่วยเสริม เกิดเป็นลมรุนแรง ใช้แทงออกมา3ครั้ง ที่จุดสำคัญของหลัวซิวทั้งสิ้น
ถึงแม้วิชาหอกของเธอจะคม แต่วิชาท่าร่างของหลัวซิวก็ไม่หยุดอยู่กับที่ ปราณแท้ก็มารวมที่หมัด แล้วต่อยออกไป
“หมัดเสือมังกร!”
“เพล๊ง!”
หมัดกับหอกปะทะกัน ประกายไฟกระจายทั่วทิศ
จอมยุทธ์แดนฝึกชี่ไห่ใช้ปราณแท้ขับเคลื่อน สามารถใช้กายเนื้อต้านอาวุธได้ ทำให้นักเรียนแดนกลั่นร่างทั้งหลายเห็นแล้วอิจฉาไปตามๆ กัน