เมื่อคืน ตอนที่ฮ่อหยุนเฉิงเมาเหล้านั้น ก็เพ้อหาแต่ถังถัง
สวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกสงสัยมากว่าใครกันคือถังถัง
ได้ยินน้ำเสียงพูดของฮ่อหยุนเฉิงเหมือนกับว่าเขานั้นรักผู้หญิงที่ชื่อถังถังมาตลอด
สวีหว่านเอ๋อร์เลยให้คนไปสืบมาภายในคืนนั้นเลย
และถึงได้รู้ว่าที่แท้เป็นผู้หญิงที่อยู่ในใจของฮ่อหยุนเฉิงตลอดมา เป็นผู้หญิงที่ถูกจับเรียกค่าไถ่พร้อมกับเขาเมื่อสมัยยังเด็ก ชื่อเล่นว่าถังถัง
เรื่องนี้ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์ดีใจมาก หล่อนคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะชอบซูฉิงซะอีก แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่
ในเมื่อฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยลืมถังถังเลย และถังถังก็หายสาบสูญแม่แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ตามหาไม่เจอ ไม่แน่ถังถังอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ได้
ถ้าหากว่าเธอปลอมตัวเป็นถังถัง งั้นตำแหน่งคุณนายแห่งตระกูลฮ่อจะเป็นใครไปได้นอกจากเธอล่ะ
สวีหว่านเอ๋อร์ที่คิดมาถึงตอนนี้ก็ค่อยๆ แหวกกระโปรงออกนิดหน่อย ทำทางอ่อยให้ดูน่าหลงใหล แล้วก็พูดอ้อน”หยุนเฉิง พวกเราเสียวเวลามานานหลายปีแล้ว นับจากนี้ไป พวกเรามาเริ่มใหม่ด้วยกันนะ”
ฮ่อหยุนเฉิงยักคิ้วขึ้นเป็นปมน่าเคร่ง
เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าสวีหว่านเอ๋อร์เคยถูกจับเรียกค่าไถ่
อีกทั้งสวีหว่านเอ๋อร์ทำให้เขารู้สึกว่าไม่เหมือนกับถังถังเลย
แล้วสวีหว่านเอ๋อร์จะเป็นถังถังได้ยังไง
สวีหว่านเอ๋อร์เห็นฮ่อหยุนเฉิงหน้านิ่งขรึมนิ่ง ก็ใจกระตุกแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจใช้สองแขนโอบรอบคอของฮ่อหยุนเฉิง
“หยุนเฉิง ฉันรู้นะว่าในใจของคุณยังมีแต่ฉันอยู่ เหมือนที่ฉันก็ยังรักแต่คุณ ถูกต้องมั้ย”
อยู่ต่อหน้าผู้ชายหน้านิ่งขรึมราวกับก้อนหินแม้จะเย็นชาขนาดไหนก็ยังทำให้สวีหว่านเอ๋อร์หลงใหล
ถ้าหากเวลาสามารถหยุดอยู่ช่วงเวลานี่ได้ เพื่อที่จะให้เธอได้อยู่ใกล้ชุดกับฮ่อหยุนเฉินอย่างนี้ตลอดกาลก็คงจะดี!
สวีหว่านเอ๋อร์ยังคงมีน้ำหอมกลิ่นแรงจนมืนหัว ส่งกลิ่นเข้าจมูกฮ่อหยุนเเฉิง ไม่ใช่ถังถังอย่างแน่นอน!
ฮ่อหยุนเฉิงผลักสวีหว่านเอ๋อร์ออกด้วยแววตานิ่งขรึมยากจะคาดเดาได้ พร้อมทั้งพูดออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า”ออกไป”
พลังมหาศาลที่ส่งมา ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ในห้วงความเพ้อฝันอยู่นั้นกระเด็นร่วงไปกองบนพื้น
สวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกเจ็บตามตัวหันมองฮ่อหยุนเฉิงที่แววตาเย็นชาจนสามารถทำให้คนที่อยู่ใกล้แข็งตาย ทำให้สวีหว่านเอ๋อร์รู้สึกจมดิ่และถูกแช่แข็งไว้ใต้ก้นทะเลสาบก็ไม่ปาน
“หยุนเฉิง ทำไม…….ทำไมคุณถึงทำอย่างนี้กับฉัน”
“เพราะเธอไม่ใช่ถังถังไง!” ฮ่อหยุนเฉิงที่ทำตัวนิ่งเฉยและดูเหินห่างมองสวีหว่านเอ๋อร์ “เธอคิดว่าเธอจะปลอมตัวเป็นถังถังได้หรอ”
“ฉันคือถังถังนะ!”สวีหว่านเอ๋อร์พูดอย่างไม่ยอมแพ้
เธอพยายามดิ้นรนให้ลุกขึ้นมา”เมื่อคืนตอนที่คุณเมา คุณก็ร้องหาแต่ฉันถังถัง คุณยังบอกว่าคุณรักฉัน คุณบอกว่าฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวที่คุณรัก คุณยังจูบฉัน พวกเรายัง…….หรือว่าคุณลืมหมดแล้วหรอ”
ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งทำสีหน้าเคร่งมองสวีหว่าเอ๋อร์ด้วยแววตาเย็นชา
เมื่อคืนเขาเห็นผู้หญิงคนนี้เป็นถังถังจริงๆ หรอ ทำเรื่องที่ไม่ควรทำจริงๆ หรอ
ไม่นะ
ฮ่อหยุนเฉิงสามารถยืนยันได้ เขาไม่ได้แตะต้องตัวสวีหว่านเอ๋อร์เลย
“สวีหว่านเอ๋อร์เธอเป็นโรคประสาทหลอนรึไง “ฮ่อหยุนเฉิงลุกขึ้นก้มมองสวีหว่านเอ๋อร์พร้อมกับพูดเสียงเรียบว่า”ถ้าป่วยก็รีบไปรักษาซะ อย่ามาอาการกำเริบอยู่ที่นี่”
“คุณพูดอะไร ฉันบ้างั้นหรอ”สวีหว่านเอ๋อร์เม้มปากพูดอย่างน่าสงสาร แล้วก็ยื่นมือไปจับเข้าจับตัวของฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังจะก้าวออกไปจากห้อง “เมื่อคืน คุณอยู่กับฉันทั้งคืน ชายโสดกับหญิงโสดอยู่ด้วยกันสองต่อสอง คุณทำอย่างนั้นกับฉันอีกคุณต้องรับผิดชอบ”
“ปล่อย “ฮ่อหยุนเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
สวีหว่านเอ๋อร์กลับยิ่งกอดแขนของเขาแน่น
ฮ่อหยุนเฉิงมองด้วยสายตารังเกียจแล้วก็สะบัดสวีหว่านเอ๋อร์ออกอย่างแรง
เขามีความเคยชินที่จะคลำหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแล้วก็หยิบออกมา
โทรศัพท์ถูกปิด
ฮ่อหยุนเฉิงกดเปิดโทรศัพท์ และพอเปิดโทรศัพท์แล้วก็มีทั้งข้อความและเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วไม่ได้รับหลายสาย
“ประธานฮ่อ วันนี้จะไปถ่ายโฆษณากันที่ทะเลสาบแห่งรัก ใกล้จะถึงเวลาแล้ว คุณจะไปมั้ยครับ”
“ประธานฮ่อ คุณปิดโทรศัพท์ ติดต่อไม่ได้ งั้นพวกเราไปก่อนนะครับ”
ล้วนเป็นข้อความที่ถูกส่งมาจากหลินเหยียนเฟิง
ฮ่อหยุนเฉิงยกแขนขึ้นมาดูเวลา ตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว
เดิมทีวันนี้เขาจะไปดูการถ่ายโฆษณาคอลเลคชั่นน้ำแข็งและไฟพร้อมกับซูฉิง
แต่ว่าตอนนี้…….
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกกลุ้ม เมื่อคืนเขาดื่มจนเมาได้ยังไงนะ
และทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้น เป็นหลินเหยียนเฟิงที่โทรมา
พอกดรับสายฮ่อหยุนเฉิงก็ถามเสียงเรียบ”มีเรื่องอะไร”
“ประธานฮ่อ ในที่สุดผมก็ติดต่อคุณได้แล้ว “หลินเหยียนเฟิงส่งเสียงพูดมาตามสาย”เกิดเรื่องขึ้นกับคุณหนูซูแล้วครับ”
เกิดเรื่องขึ้นกับซูฉิงแล้ว?
ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงและร้อนใจ”เกิดอะไรขึ้นกับซูฉิง
หลินเหยียนเฟิงก็ตอบไปตอบความเป็นจริง”ซูฉิงถูกฮ่อเฉียนให้การเป็นพยานว่าเธอเป็นคนผลักเซี่ยซิงซิงตกน้ำ ตอนนี้ถูกตำรวจนำตัวไป เพื่อไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจครับ”
“ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ “ฮ่อหยุนเฉิงกดวางสายแล้วก็เดินตรงออกไปหน้าประตูทันที
“หยุนเฉิง คุณจะไปไหน”สวีหว่านเอ๋อรที่ร้องตามมาด้านหลังเขา
เมื่อกี้เหมือนเธอจะได้ยินว่าปลายสายพูดถึงซูฉิงกับเซี่ยซิงซิง
ดูจากเวลาแล้ว ตอนนี้เซี่ยซิงซิงน่าจะลงมือแล้ว
ดูท่าทางร้อนรนของฮ่อหยุนเฉิงแล้ว จะต้องเกิดเรื่องขึ้นกับซูฉิงแน่
ไม่แน่ ตอนนี้ซูฉิงอาจจะจมน้ำตายก็ได้
สวีหว่านเอ๋อร์ยกยิ้มมุมปาก “หยุนเฉิง รอฉันด้วย”
แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้สนใจเธอเลย เดินออกไปจากบ้านตระกูลสวี
สวีหว่านเอ๋อร์ก็รีบเดินตามออกมา”หยุนเฉิงคุณมีเรื่องรีบร้อนอะไรหรอ คุณจะไปไหนหรอ ฉันขับรถไปส่งคุณดีมั้ย จะได้เร็วขึ้น”
วิลล่าของตระกูลสวีอยู่ตีนเขาเขตชานเมือง เรียกรถยาก และฮ่อหยุนเฉิงก็รีบที่จะไปหาซูฉิงที่สถานีตำรวจด้วย
เขาตอบเสียงเรียบ”ได้”
ฮ่อหยุนเฉิงตอบตกลง สวีหว่านเอ๋อร์ก็แอบดีใจอยู่ภายในใจ แล้วก็รีบเดินนำฮ่อหยุนเฉิงไปขึ้นรถ
ทั้งสองขึ้นรถมาโดยที่สวีหว่านเอ๋อร์นั่งตำแหน่งคนขับ ขับรถออกไปด้วยตัวเอง
เธอหันไปมองผู้ชายที่ทำให้เธอใจเต้นแรงที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วก็ทำเป็นถามประจบ”หยุนเฉิงคุณจะไปไหน”
“สถานีตำรวจ”ฮ่อหยุนเฉิงตอบอย่างขอไปที คิ้วขมวดด้วยความรู้สึกกังวล
สถานีตำรวจงั้นหรอ ทำไมต้องไปสถานีตำรวจด้วย
ไม่ใช่จะไปคลำหาศพของซูฉิงที่ทะเลสาบแห่งรักหรอกหรอ
สวีหว่านเอ๋อร์เก็บความสงสัยไว้ในใจ ตั้งใจขับรถไปตามคำเร่งของฮ่อหยุนเฉิง จนฝ่าไฟแดงมาหลายที่ ขับรถอย่างกับบินได้จนมาถึงหน้าสถานีตำรวจ
พอจอดรถ ฮ่อหยุนเฉิงก็รีบลงจากรถแล้วเดินก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปในสถานีตำรวจ
“ประธานฮ่อ คุณมาแล้ว”หลินเหยียนเฟิงที่รอฮ่อหยุนเฉิงอยู่ที่สถานีตำรวจอย่างร้อนใจ
“ซูฉิงล่ะ “ฮ่อหยุนเฉิงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น พอเข้ามาแล้วกลับไม่เห็นซูฉิงก็เอ่ยถามหาทันที