ตอนที่ 539 แตะถูกฟางเส้นสุดท้าย

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

“ลูกเชี่ยน ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่คุณชนะอย่างไม่โปร่งใส เอาแค่คุณอยากดูผมแต่งหญิงผมก็ไม่ได้คัดค้านอะไร แต่คุณดูสิบ้านเราไม่มีกระโปรง เอางี้เดี๋ยวพี่ให้รางวัลเป็นอย่างอื่น วิดพื้นสองร้อยทีให้ดูเลยเป็นไง?” 

 

 

“วิดพื้นน่ะต้องทำอยู่แล้ว—แต่ว่ากระโปรงก็ต้องใส่ นายเป็นทหารหน่วยรบพิเศษไม่ใช่เหรอ? ถนัดที่สุดเรื่องไม่มีก็ทำให้มีได้ไม่ใช่เหรอ? ขอหาดูก่อนนะ—ผ้าม่านไง ผ้าปูที่นอนอีก มีอยู่ไม่ใช่เหรอ? เอามาดัดแปลงนิดหน่อยก็กลายเป็นกระโปรงได้แล้ว ในกระเป๋าฉันมีลิปสติก เดี๋ยวฉันทาสีแดงสุดร้อนแรงให้เป็นไง?” 

 

 

“ฆ่าผมเถอะ…” อวี๋หมิงหลางล้มลงบนโซฟาแกล้งตายเป็นศพ 

 

 

“ฆ่านายแล้วใครจะแต่งคอสเพลย์ให้ฉันดูล่ะ มาเถอะพี่จ๋า ลุกขึ้นมานะ~ แพ้ก็ต้องยอมรับ” 

 

 

“คุณชนะแบบไม่โปร่งใส” 

 

 

“เป็นทหารอย่าสับปลับ อีกอย่างฉันก็ไม่ใช่คนดีอะไร วันแรกที่นายรู้จักฉันก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?” 

 

 

“เฉินเสียวเหม่ย ผมว่าตอนนี้คุณละทิ้งขอบเขตความเป็นมนุษย์ไปแล้ว” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำสีหน้าได้ใจ “ฉันต้องมีขอบเขตกับนายด้วยเหรอ? ขอบเขตของฉันที่มีต่อนายก็คือไม่มีขอบเขต นี่คือความรักอย่างเต็มเปี่ยมที่ฉันมีให้นายเลยนะ” 

 

 

“งั้นคุณก็เกลียดผมเถอะ” ทำไมเขาถึงได้หาเมียจอมแถแบบนี้มาได้นะ? 

 

 

“ไม่ ฉันรักนายไม่มีวันหมดสิ้น—พี่จ๋า กล้องพี่อยู่ไหนเหรอจ๊ะ?” 

 

 

อยู่ไม่ได้แล้วชีวิต เธอไม่ได้แค่อยากเล่นพิเรนทร์ ยังคิดจะถ่ายรูปด้วย? 

 

 

รูปแบบนี้ถ้าถ่ายออกมา ต่อไปอวี๋หมิงหลางอย่าได้มีชีวิตอยู่อีกเลย 

 

 

“วางใจเถอะ ฉันจะล้างรูปออกมา แต่ไม่มีทางเอารูปไปแพร่งพรายแน่” ทักษะนี้ได้ใช้งานจริงๆ 

 

 

“จริงสิลูกเชี่ยน ทำไมคุณรู้อะไรเยอะแบบนี้ ผมว่าคุณเป็นหลายอย่างเลยนะ ครั้งแรกที่เจอคุณถ่ายรูปพวกหลี่เจิ้น ตอนนั้นคุณก็ล้างรูปเองเหรอ?” 

 

 

“ฉันเป็นหลายอย่าง อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง เร็วๆ แพ้แล้วต้องทำ” 

 

 

เห็นทีจะทำเฉไฉไม่ได้แล้วในขณะที่อวี๋หมิงหลางกำลังจนมุม โทรศัพท์ของเสี่ยวเชี่ยนก็ดังขึ้น 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนส่งสายตา ‘รอก่อนเถอะเดี๋ยวจะคิดบัญชี’ ให้เขา แล้วไปรับโทรศัพท์ 

 

 

“แม่มีอะไรเหรอ?” ที่บ้านโทรมา 

 

 

“เชี่ยนเอ๋อ…แกช่วยติดต่อทางบ้านหมิงหลางได้ไหม? ฉันโทรหาพี่ชายเขาไม่ติด…” น้ำเสียงของเจี่ยซิ่วฟางดูร้อนรน 

 

 

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? แม่ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด” เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลาง 

 

 

“พ่อเฮงซวยของแกไม่รู้ไปก่อเรื่องอะไรไว้ข้างนอก มีกลุ่มคนมาล้อมหน้าบ้านเราบอกต้องชดใช้หนี้ คนพวกนั้นบอกว่าถ้าไม่ใช้หนี้ก็จะกินนอนที่บ้านเรา แกอย่ากลับมาให้หมิงหลางช่วย—ว้าย” 

 

 

“แม่?” เสี่ยวเชี่ยนได้ยินเสียงแม่ร้องก็รีบนั่งตัวตรงทันที ส่วนอวี๋หมิงหลางพอได้ยินว่าเกิดเรื่องก็รีบไปหาเสื้อผ้ามาใส่ 

 

 

“เฉินเสี่ยวเชี่ยน พ่อแกติดเงินพวกเราไว้ รีบเอาเงินมาคืนพวกเราเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้น…หึหึ ฉันไม่รู้นะว่าพี่น้องฉันจะทำอะไรลงไปบ้าง” 

 

 

เสียงผู้ชายลอยมาตามสาย 

 

 

“อยากได้เท่าไรมาคุยกัน ห้ามทำร้ายแม่ฉัน เดี๋ยวฉันไป” เสี่ยวเชี่ยนมองอวี๋หมิงหลางที่แต่งตัวเสร็จอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังหยิบเสื้อผ้าเธอมาให้ด้วย เธอให้เขาใส่กางเกงให้ แล้วก็พบว่าตรงเอวอวี๋หมิงหลางมีอาวุธคล้ายกระบองติดอยู่ 

 

 

“สองแสน ห้ามขาดแม้แต่แดงเดียว” 

 

 

“ขอทราบชื่อ” 

 

 

“ฉันชื่อเสียวจิ่ว—ฉันคือพี่จิ่ว จำไว้ห้ามแจ้งตำรวจ พ่อแกยังอยู่ในกำมือพวกฉัน ถ้าแกแจ้งตำรวจฉันจะเอาพ่อแกไปโยนทะเล” 

 

 

“เดี๋ยวฉันไป จำไว้ห้ามแตะต้องแม่กับน้องชายฉัน ไม่อย่างนั้นแกจะไม่ได้เงินสักแดงเดียว” เสี่ยวเชี่ยนตัดสายทิ้ง ระหว่างคุยอวี๋หมิงหลางได้แต่งตัวให้เธอเสร็จแล้ว 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนเกือบลืมไปแล้วว่าเธอมีพ่อ หายไปนานโผล่มาทีก็สร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้ 

 

 

เธอก้มหน้าค้นหาเบอร์เจิ้งซวี่ พอกำลังจะกดโทรก็รู้สึกแปลกๆ 

 

 

เงยหน้าขึ้นเห็นอวี๋หมิงหลางกำลังจับจ้อง ถ้าเธอกล้านึกถึงผู้ชายอื่นก่อนเป็นคนแรก ว่าที่สามีอย่างเขาก็จะรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายจิตใจ เขาต้องตามคิดบัญชีกับเธอแน่ 

 

 

ยังดีที่เสี่ยวเชี่ยนคิดได้ทัน รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า 

 

 

“เสี่ยวเฉียงนายจัดการ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางจูงมือเธอข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างกดโทรหาพี่ใหญ่ 

 

 

“พี่ใหญ่ พี่จัดการเรื่องยังไงเนี่ย? ทำไมมีคนไปหาเรื่องแม่ยายผม พี่ทำพลาดเหรอ นี่เมืองQยังมีคนกล้าปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหดให้อดีตพ่อตาผมด้วยเหรอ ตอนนั้นผมบอกพี่ไว้ว่าไง?” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนรู้ว่าเฉินหลินติดพนัน ดังนั้นก่อนหน้านี้จึงได้บอกอวี๋หมิงลี่เรื่องนี้ไว้ ว่าห้ามให้ใครหน้าไหนปล่อยเงินกู้ให้เฉินหลิน บ่อนใหญ่หน่อยก็ห้ามเฉินหลินเข้า 

 

 

อวี๋หมิงลี่พอได้ยินข่าวนี้ก็อึ้งไปเหมือนกัน “เป็นไปไม่ได้ ฉันบอกลูกน้องเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ใครมันกล้าปล่อยเงินให้เขา? คนมาทวงหนี้ชื่ออะไร?” 

 

 

“มันเรียกตัวเองว่าพี่จิ่ว แต่ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงไม่ได้ใหญ่มาจากไหนหรอก” 

 

 

“เดี๋ยวฉันโทรกลับ ทางคุณน้าไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า เดี๋ยวฉันส่งคนไป” 

 

 

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวผมไปเอง พี่ไปจัดการเรื่องให้มันชัดเจนเป็นพอ” 

 

 

ระหว่างทางพี่ใหญ่ได้โทรกลับมา อวี๋หมิงหลางให้เสี่ยวเชี่ยนรับ 

 

 

“สืบไม่เจอคนปล่อยเงินกู้ชื่อนี้นะ คงไม่ได้อยู่เมืองนี้ เพราะคนปล่อยเงินกูเมืองนี้ไม่มีใครชื่อพี่จิ่ว เดี๋ยวพี่จะลองสืบเมืองข้างๆดูว่ามาจากเมืองอื่นหรือเปล่า” 

 

 

“ไม่ต้องแล้วค่ะพี่ใหญ่ ช่วยหนูสืบหาที่อยู่พ่อก็พอค่ะ” 

 

 

อวี๋หมิงหลางเห็นเสี่ยวเชี่ยนพอวางสายก็หน้าบึ้ง จึงเอามือไปจับมือเธอไว้ 

 

 

“ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร มีผมอยู่ทั้งคน” 

 

 

“ฉันเมตตาเขามากเกินไป ถ้าตอนนั้นฉันโหดขึ้นอีกนิดเขาคงไม่มีแรงมานั่งคิดใช้วิธีไร้สมองแบบนี้” พอนึกถึงแม่ตัวเองที่ต้องมาตกใจกับเรื่องนี้ สีหน้าเสี่ยวเชี่ยนก็แย่ลงมาก 

 

 

“คุณก็คิด…เหมือนที่ผมคิดเหรอ?” 

 

 

อวี๋หมิงหลางพอได้ยินพี่ใหญ่บอกว่าไม่ใช่คนเมืองนี้ที่ปล่อยเงินกู้ก็นึกออกทันทีว่าความจริงอาจจะเป็นแบบนั้น พอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดเขาก็รู้เลยว่า เธอกับเขาคิดเหมือนกัน 

 

 

“เรื่องดีๆไม่คิด เรื่องเลวๆล่ะคิดไว ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่เขาขี้ขลาดรักตัวกลัวตายไม่กล้ากู้เงินดอกเบี้ยโหดหรอก เอาแค่คนปล่อยเงินเขาก็ไม่ได้โง่เสียหน่อย อยากกู้ก็ต้องมีหลักประกัน ตอนนี้แม่ฉันมีเงิน แต่เขาหย่ากับแม่ฉันแล้ว คนปล่อยเงินกู้ไม่มีทางให้คนเหลือแต่ตัวแบบเขากู้เงินหรอก” 

 

 

ตอนนี้เสี่ยวเชี่ยนโมโหมาก ครั้งนี้เฉินหลินได้แตะถูกฟางเส้นสุดท้ายแล้ว 

 

 

“จัดการไปตามสถานการณ์ เรื่องแค่นี้โมโหไปไม่คุ้มหรอก ลูกเชี่ยน คุณหาเบอร์คนชื่อเสียวอู่แล้วโทรไปที” 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนทำตามที่เขาบอก 

 

 

“เสียวอู่ นี่หัวหน้านะ สืบหาคนชื่อเฉินหลินให้ที สูง174 ติดพนัน พูดจาสำเนียงคนชานเมืองQ เลขบัตรประชาชน…”