ผู้ชายคนหนึ่งมีใจให้ผู้หญิงคนหนึ่งหรือเปล่าให้ดูว่าเขาทำตัวอย่างไรต่อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอก็จะรู้ เสี่ยวเชี่ยนให้อวี๋หมิงหลางไปสืบเรื่องพ่อเมื่อนานมาแล้ว แต่เขากลับจดจำรายละเอียดจนขึ้นใจ
“ไปสืบร่องรอยของคนๆนี้ให้ผมที ใช้วิธีไหนก็ได้ตามตัวให้เจอแล้วจับไว้ อย่าให้เขาหนีไปได้”
อวี๋หมิงหลางขับรถอย่างรวดเร็ว บ้านของเจี่ยซิ่วฟางอยู่ห่างจากบ้านของเขาไม่ไกล ไม่กี่นาทีก็ถึง
เมื่อเข้าไปถึงทางเดินในตึกก็ได้กลิ่นบุหรี่โชยมา ประตูบ้านถูกเปิดทิ้งไว้ คนท่าทางนักเลงหลายคนอยู่แถวนั้น บ้างก็ยืนพิงกำแพง บ้างก็นั่งอยู่ตรงบันได บนพื้นมีแต่ขี้บุหรี่
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางมาแล้ว มีคนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงของเขากำลังรายงานข่าว
“พี่จิ่ว ลูกสาวเฉินหลินกลับมาแล้ว”
เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางมองหน้ากัน เธอยังไม่ได้พูดอะไรคนพวกนี้กลับจำเธอได้ ก็แสดงว่ามีการทำการบ้านมาไม่น้อย ดูท่าการคาดคะเนของเสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางจะถูก 80-90%
ไม่นานผู้ชายท่าทางนักเลงคนหนึ่งก็เดินออกมา ซึ่งก็คือคนที่บอกว่าตัวเองชื่อพี่จิ่วทางโทรศัพท์
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนแววตาก็เป็นประกาย เด็กคนนี้สวยกว่าในรูปอีก
หลังจากที่อวี๋หมิงหลางรู้สึกได้ถึงความคิดลามกชนิดที่ปิดไม่มิดของคนๆนี้ รังสีอำมหิตก็แผ่ซ่านทันที ถึงเสียวจิ่วจะไม่รู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร แต่สัตว์ต่างมีสัญชาตญาณ เขาเห็นอวี๋หมิงหลางก็เหมือนหนูเห็นแมว บุคลิกทหารนักรบที่อยู่บนตัวใช่ว่านักเลงกระจอกทั่วไปจะมาเล่นด้วยได้
“บอกไม่ให้แจ้งตำรวจไม่ใช่เหรอ? แล้วนี่ใคร?” เสียวจิ่วละสายตาจากอวี๋หมิงหลาง ไม่กล้ามองสายตาเอาเรื่องของเขา
ตัวเตี้ยกว่าอย่างเห็นได้ชัด น้ำเสียงที่พูดกับเสี่ยวเชี่ยนก็ไม่ได้ดูข่มแต่อย่างใด คนเยอะกว่าแท้ๆแต่กลับไม่ดูได้เปรียบ
“เขาเป็นแฟนฉัน แม่ฉันล่ะ?”
“อยู่ในบ้าน—เงินล่ะ?” ในที่สุดเสียวจิ่วก็นึกจุดประสงค์ที่มาออก ลูกน้องที่อยู่ข้างๆต่างพากันส่งเสียงตามลูกพี่ อวี๋หมิงหลางกวาดตามอง คนพวกนั้นต่างพากันหลบตาไม่กล้าพูดอะไรอีก
“แม่แกอยู่ในบ้าน” เสียวจิ่วเองก็เริ่มเครียด เขากลัวอวี๋หมิงหลางมาก
เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้หวาดกลัวอะไรทั้งนั้น ไม่ได้เห็นนักเลงกระจอกพวกนี้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เธอเดินเข้าไปในบ้าน อวี๋หมิงหลางตามติดทันที
หลังจากที่ทั้งสองคนเข้าไปแล้ว เสียวจิ่วที่ยืนอยู่หน้าบ้านอยู่ๆก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
“พี่จิ่ว คงไม่มีอะไรใช่ไหม ผมว่าผู้ชายคนนี้มันไม่ธรรมดา ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้แจ้งตำรวจหรอกนะ?”
ลูกน้องคนหนึ่งถามแทนทุกคน
เสียวจิ่วเองก็ไม่มั่นใจ ทุกคนต่างดูออกว่าอวี๋หมิงหลางไม่ธรรมดา คนพวกนี้ปกติลักเล็กขโมยน้อยเข้าคุกเป็นว่าเล่น รู้สึกได้ว่าลักษณะของอวี๋หมิงหลางไม่เหมือนกับตำรวจ ถึงพวกเขาจะหวาดกลัวคนในเครื่องแบบเป็นทุนเดิม แต่รังสีอำมหิตจากตัวอวี๋หมิงหลาง ต่อให้เป็นตำรวจทั่วไปก็ไม่น่าจะเป็นแบบนี้
นี่เป็นลักษณะท่าทางที่คนเป็นทหารผ่านสงครามมาถึงจะมี พวกเขาจะเคยเห็นได้อย่างไร
“ช่างเถอะ ทำตามแผนเดิมที่วางไว้ พวกเราคนเยอะกว่ายังจะกลัวไม่สำเร็จ? ต่อให้เก่งกว่านี้ก็เอาชนะพวกเราไม่ได้หรอก ไป เข้าบ้าน”
เสียวจิ่วอาศัยที่พรรคพวกตัวเองเยอะกว่าพูดเรียกความมั่นใจอย่างฝืนๆ
ภาพที่เสี่ยวเชี่ยนเข้าไปเห็นในบ้านทำให้เธอโมโหมาก
แม่ของเธอถูกคนจับตามองจนไม่กล้าขยับตัว ส่วนน้องชายกับพ่อเลี่ยวถูกผู้ชายสองคนต้อนเข้ามุมกำแพง ดูก็รู้ว่าต้าหลงถูกซ้อม พ่อเลี่ยวก็เหมือนกัน แว่นตาแตก พวกเขาถูกผู้ชายร่างกำยำสองคนจับมัดไว้
พ่อเลี่ยวมาพลอยซวยไปด้วยของแท้ พอเลิกงานกลับมาเขาเห็นประตูบ้านของเจี่ยซิ่วฟางปิดสนิท มีเสียงพูดคุยดังมากลอดออกมา เขารู้สึกแปลกๆจึงมาเคาะดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ปรากฏว่าเห็นคนกำลังขู่เจี่ยซิ่วฟาง พ่อเลี่ยวก็รีบส่งเสียงห้ามหวังจะเป็นฮีโร่ช่วยสาวงาม แต่กลับถูกต่อยแว่นตาแตก คิดจะโทรแจ้งตำรวจก็ถูกพังโทรศัพท์ พอบอกว่าตัวเองเป็นประธานในศาลคนพวกนี้ก็หัวเราะเยาะใหญ่ แล้วก็จับเขามัดไว้
ประธานในศาลก็ผู้พิพากษาไม่ใช่เหรอ ผู้พิพากษาบ้านไหนมาอยู่ในตึกซอมซ่อแบบนี้ แต่งตัวก็เหมือนคนทั่วไป จะโกหกทั้งทีไม่รู้จักดูสารรูปของตัวเอง อัดแม่ง
ดังนั้นพ่อเลี่ยวนอกจากจะเป็นฮีโร่ไม่ได้แล้วยังถูกจับมัดด้วย
“เชี่ยนเอ๋อ” เจี่ยซิ่วฟางพอเห็นหน้าลูกสาวน้ำตาก็ไหลออกมา
เมื่อครู่ตอนเธอโทรไปเรื่องยังไม่ร้ายแรงขนาดนี้ พอเธอคุยกับลูกสาวได้ครึ่งทาง เฉินจื่อหลงก็กลับบ้านมา เฉินจื่อหลงเห็นหน้าบ้านมีคนเยอะแยะ มีคนรุมล้อมแม่ของเขาอยู่ ฮอร์โมนเลือดร้อนของเด็กวัยรุ่นก็ปะทุทันที เข้าไปกระชากคนพวกนั้น แล้วเขาก็ถูกจับมัด
ต่อมาพ่อเลี่ยวพยายามเข้าช่วยแต่ไม่สำเร็จ จะโทรแจ้งตำรวจก็ถูกพังโทรศัพท์ ทั้งสองคนต่างเลือดร้อนอยากเข้าช่วย แต่ก็สู้จำนวนคนที่เยอะกว่าไม่ได้ เลยถูกอัดหน้าช้ำเลือดไหล ถูกจับมัดไว้ ปากก็ถูกอุด
พอเห็นเสี่ยวเชี่ยนเข้ามาเฉินจื่อหลงก็ส่งเสียงอืออา พี่สาวของเขาสวยขนาดนี้จะปล่อยให้ถูกรังแกไม่ได้ ทันใดนั้นก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ในหนังฮีโร่ พี่ ทิ้งผมไว้แล้วรีบหนีไป
เสี่ยวเชี่ยนเห็นน้องชายตัวเองถูกรังแก เพื่อบ้านยังมาซวยไปด้วยก็ระงับไฟโกรธไว้ไม่อยู่
เธอเข้าไปดูเจี่ยซิ่วฟาง ยังดีที่แม่ไม่ได้รับบาดเจ็บ คนพวกนั้นไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเจี่ยซิ่วฟาง แต่ก็ดูเธอตกใจไม่น้อย โดยเฉพาะพอเห็นเสี่ยวเชี่ยนกลับมาน้ำตาก็ไหลทันที
“แกกลับมาทำไม…” น้ำเสียงของเจี่ยซิ่วฟางสั่นเครือ
เมื่อวานลูกสาวบอกว่าจะกลับมหาวิทยาลัยเลย—แน่นอนเสี่ยวเชี่ยนไม่มีทางบอกแม่ว่าตัวเองไปเล่นผีผ้าห่มกับผู้ชายมาทั้งคืน ดังนั้นเจี่ยซิ่วฟางจึงคิดว่าเสี่ยวเชี่ยนไม่ได้อยู่เมืองQแล้ว ตอนโทรไปหาเธอแค่อยากลองถามดูว่าเสี่ยวเชี่ยนพอจะให้ทางครอบครัวอวี๋ช่วยได้หรือเปล่า
นึกไม่ถึงว่าลูกสาวจะกลับมา
หมาป่าเต็มบ้านแบบนี้เจี่ยซิ่วฟางกลัวจะเกิดเรื่องขึ้นกับลูกสาว ถึงว่าที่ลูกเขยจะมาด้วย แต่ก็ไม่วางใจ ต่อให้อวี๋หมิงหลางเก่งแค่ไหน จะเอาชนะคนเยอะขนาดนี้ได้เหรอ?
“พวกมันทำแม่หรือเปล่า?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
“เปล่า แต่ทำน้องแก อาเลี่ยวก็โดนด้วย…” เจี่ยซิ่วฟางพอมองไปทางลูกชายน้ำตาก็ไหลหนักกว่าเดิม ลูกชายเธอถูกซ้อมต่อหน้าต่อตา ส่วนเพื่อนบ้านน้ำใจดีก็มาเจ็บตัวไปด้วย
ไม่ว่าเธอจะขอร้องคนพวกนี้ยังไงก็ไม่ได้ผล เรื่องนี้ทำให้เจี่ยซิ่วฟางขวัญเสีย
“เสียวเหม่ย พาแม่คุณเข้าไปในห้องนอนเถอะ ตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ผม”
อวี๋หมิงหลางพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม นับตั้งแต่วินาทีที่เขาเห็นว่าที่น้องเมียถูกซ้อมถูกมัดไว้แบบนั้น พี่หลางก็แทบควบคุมเซลล์อยากใช้กำลังในร่างกายไม่อยู่
“ระวังตัวด้วยนะ”
เสี่ยวเชี่ยนพยุงแม่ยืนขึ้น ลูกน้องคนหนึ่งคิดจะเข้าไปห้ามเสี่ยวเชี่ยน แต่ถูกอวี๋หมิงหลางจ้องจนไม่กล้าขยับ
เสี่ยวเชี่ยนพาเจี่ยซิ่วฟางเข้าห้องนอนอย่างไม่แคร์
ปิดประตู เจี่ยซิ่วฟางพูดด้วยอาการหวาดกลัว “เชี่ยนเอ๋อ…หมิงหลางอยู่ข้างนอกคนเดียวไม่เป็นไรเหรอ?”
“ไม่เป็นไรหรอก เขารู้ตัวเองดี”
พอเสี่ยวเชี่ยนพูดจบก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยจากด้านนอก