ตอนที่ 243 ให้เขาหุบปาก (2)/ตอนที่ 244 ให้เขาหุบปาก (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 243 ให้เขาหุบปาก (2)

อีกอย่าง ไป๋เฉากั่วนี้ยังมีผลต่อการบาดเจ็บของระดับหลิงอู่ด้วยหรือ?

ดวงตาถังซานทอประกาย นัยน์ตาฉายแสงมืดมน

ดูเหมือนว่าเฟิงหรูชิงจะไม่เห็นแววตาของเขา สายตาของนางเบนไปทางคนของทัพเลือดเหล็ก

“คนที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อครู่ทุกคนมารับไป๋เฉากั่วที่ข้าคนละผล”

ไป๋เฉากั่วรักษาได้แม้กระทั่งความสามารถระดับถังจือ สำหรับคนอื่นๆ แล้วยิ่งได้ผลมากกว่า

ทว่าพวกนางล้วนรู้ดีถึงความล้ำค่าของไป๋เฉากั่ว นายหญิงสามารถเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินในวันหน้าได้ เอามาให้คนเช่นพวกนางใช้จะมิเป็นการสิ้นเปลืองหรือ?

ฉะนั้นทุกคนในกองทัพเลือดเหล็กจึงเกิดความลังเล ไม่มีผู้ใดก้าวออกไปรับไป๋เฉากั่ว

เฟิงหรูชิงนัยน์ตาประกาย “พวกเจ้าเป็นคนของข้า ตอนแรกที่ติดตามข้ามีกี่คน วันหน้า ตลอดไปก็ต้องมีเท่านั้นห้ามน้อยลงแม้แต่คนเดียว ต่อให้ไป๋เฉากั่วล้ำค่า สำหรับข้าแล้ว มันไม่ได้ล้ำค่าไปกว่าชีวิตของพวกเจ้า!”

นางไม่พูดจากับคนในกองทัพเหล็กให้มากความอีก นางรู้ดีว่าคนพวกนี้ไม่มีทางรับไป๋เฉากั่วไว้ ดังนั้นนางจึงหยิบเอาผลอื่นๆ ออกมาวางลงบนมือถังจือ

“เจ้าไปป้อนพวกนาง ให้คนที่บาดเจ็บหนักก่อน วันนี้ทุกคนจะต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ปลอดภัยออกไปจากที่นี่กับข้า! ห้ามมีแผลกลับเมืองแม้แต่คนเดียว!”

หัวใจของทุกคนสั่นไหว น้ำเสียงใสและหนักแน่นของหญิงสาวดุจดั่งมือข้างหนึ่งมาหลอกล้อหัวใจพวกนาง

นางพูดว่า ต่อให้ไป๋เฉากั่วล้ำค่า ก็มันไม่ได้ล้ำค่าไปกว่า…ชีวิตของพวกนาง!

แม้ในปีนั้น น่าหลานฮองเฮานำพวกนางต่อสู้ในสนามรบไม่เคยทอดทิ้ง แต่ทว่าก็ไม่เคยพูดถ้อยคำเช่นนี้กับพวกนางเลย

หลิงอวิ้นมองหญิงสาวนิ่งค้างจึงได้รู้ว่า ภายในเวลาสั้นๆ ครึ่งปีนี้นางเปลี่ยนไปมากมายเหลือเกิน

เยี่ยมยอดจน…ทำให้คนกล้ามองนางตรงๆ

“เจ้าเป็นอะไรกับถังจือ?” สายตาถังซานตกอยู่ที่ไป๋เฉากั่วในมือเฟิงหรูชิง แสงมืดดำน่ากลัวฉายชัดจากนัยน์ตา

เฟิงหรูชิงหันกลับไปมองถังซานแล้วยิ้มเย็น “นางเป็นคนของข้า”

“เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ ถังจือเคยเป็นคนทรยศ! นางทรยศตระกูลถังของข้า วันหน้าก็ต้องทรยศเจ้าเช่นกัน!”

เสียงของถังซานราวกับค้อนหนักๆ ทุบลงกลางใจถังจือ

นางรีบเงยหน้าขึ้นมองไปทางเฟิงหรูชิง

นัยน์ตานั้นแฝงด้วยความเคร่งเครียด เจ็บปวด และ…สิ้นหวัง

เดิมทีก็เพราะคำพูดของคนคนหนึ่งทำให้ตระกูลถังทุกคนไม่เชื่อนาง

บรรดาคนที่ออกปากว่าจะปกป้องนางก็ไม่เชื่อนางแม้แต่น้อย!

ทุกคนมองว่านางเป็นคนทรยศ

ถ้าไม่ใช่เพราะสุดท้าย…ท่านผู้เฒ่าต้องการไว้ชีวิตนาง คนพวกนั้นย่อมไม่ยอมปล่อยนางออกมาจากตระกูลถัง

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น คนพวกนั้นก็ยังอาศัยช่วงที่นางถูกขับออกจากตระกูลถังลงมือกับนาง ทำให้นางบาดเจ็บสาหัส และ…พลังถดถอยไปไม่น้อย…

นางกลัว กลัวว่าเฟิงหรูชิง…จะละทิ้งนาง

มองว่านางเป็นคนทรยศขับไล่ออกจากเมืองหลวง

ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าตัวนาง หนึ่งคำพูดดั่งตะปูหนึ่งดอก[1] มีคนกัดไม่ปล่อยว่านางเป็นคนทรยศ หากนางไม่มีหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ นางก็จะต้องเป็นคนทรยศในสายตาทุกคน

แววตาเรียบเฉยของเฟิงหรูชิงจ้องไปยังถังซาน

สายตานางนิ่งเรียบ ทว่าในใจกลับมีไฟโทสะเผาไหม้

ทรยศ…

ที่แท้ถังจือในตอนนั้นก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีเช่นนี้

จนถึงตอนนี้พวกคนที่ไม่เชื่อนาง ใส่ร้ายนาง ก็ยังกล้า…มาหานางอีก?

“ข้าไม่รู้ว่าถังจือเคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ทว่า” เฟิงหรูชิงแย้มยิ้มประชดประชัน รอยยิ้มนั้นแฝงด้วยความเยาะเย้ย “หากข้าเพียงได้ฟังคำพูดนั้นแล้วตัดสินโทษถังจือ เช่นนั้นนางจะไม่ได้รับความอยุติธรรมมากเกินไปหรือ?”

………………………….

ตอนที่ 244 ให้เขาหุบปาก (3)

“อย่างไรเสีย นางก็เป็นคนของข้า เช่นนั้นข้าก็ย่อมเชื่อนาง!”

เวลานางเชื่อใครคนหนึ่งก็จะเชื่อจนหมดใจ หากคนนั้นทรยศนางจริง วิธีการของนางก็ไม่มีคนสามารถลิ้มรส

ทว่า นางเชื่อถังจือ!

ถังจืออยากทรยศนางจริง ในตอนที่เจ้าของร่างกระทำการน่าชังจนสามารถทำให้นางหนีจากไปได้นางก็ไม่ไป และไม่ยอมสยบต่อหรงกุ้ยเฟย! รอเพียงนางตื่น

นางตื่นแล้วและจะไม่มีทางทำร้ายจิตใจพวกนางอีก!

ถังจือมองเฟิงหรูชิงก็รู้แจ้งในทันที

นางเชื่อนาง!

องค์หญิง…ยินยอมที่จะเชื่อนาง!

น้ำตาถังจือคลออยู่ที่ดวงตา พลันนางก็คิดถึงช่วงเวลาปีนั้นขึ้นมา นางต้องช้ำใจเพราะคนตระกูลถัง ตอนนี้มาคิดดูแล้วมันน่าหัวเราะสิ้นดี

คนที่อาศัยเพียงคำพูดคนอื่นคำสองคำก็ไม่เชื่อใจนาง จำเป็นจะต้องรำคาญใจมานานหลายปีเช่นนี้หรือ?

ตอนนี้รู้เข้าใจแล้ว ในหัวมันกระจ่างแจ้งผิดปกติ แววตาที่มองไปทางถังซานแฝงด้วยความมั่นคง

“ข้าเคยพูดแล้ว ข้าถังจือทรยศตระกูลถังจริง ไม่ใช่เมื่อยี่สิบปีก่อนแต่คือวันนี้!”

ตระกูลถังคือความเจ็บปวดที่นางไม่อาจวางลงได้ ในวันนี้นางได้สติแล้ว! จะไม่เสียใจเพราะคนพวกนั้นอีก!

“หึ” ถังซานหัวเราะเสียงเย็น “แม่นาง ไม่ว่าเมื่อก่อนถังจือจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลถังหรือไม่ แต่ในตัวนางก็มีเลือดตระกูลถังไหลเวียนอยู่ เจ้าอยากให้นางติดตามเจ้าโดยสมบูรณ์ก็เอายาวิเศษระดับสามเหล่านั้นของเจ้ามาแลก เงื่อนไขของข้าไม่มาก ไป๋เฉากั่ว[2]หนึ่งร้อยผลก็พอ”

ถังจือตกตะลึง ตวาดเสียงดังด้วยความโมโห “ถังซาน เจ้าจะปล้นกันหรือ?”

ด้วยความสามารถของตระกูลถังแล้ว ทุกปีจะได้รับยาวิเศษระดับสามทุกชนิดรวมกันแล้วมากที่สุดก็สี่สิบห้าสิบอัน ยาวิเศษระดับสี่ขึ้นไปก็ยิ่งน้อยนิด ตอนนี้เจ้านี่กลับแค่อ้าปากก็ได้ไป๋เฉากั่วหนึ่งร้อยผล?

แววตาถังซานเหยียดหยามทุกสิ่ง “วันนี้หากพวกเจ้าสามารถเอาไป๋เฉากั่วหนึ่งร้อยผลมาได้ข้าก็จะปล่อยพวกเข้า หลังจากนี้ทุกเดือนต้องส่งยาวิเศษหนึ่งร้อยอันมาให้ข้า หากหามาไม่ได้ก็อย่าโทษว่าข้าโหดเหี้ยมแล้วกัน!”

แม่นางคนนี้เอาไป๋เฉากั่วออกมามากมายเช่นนี้โดยไม่เสียดายสักนิด ในมือนางจะต้องมีทางลัดแน่ ไว้ชีวิตนางบางทีอาจจะมีประโยชน์

ส่วนหนุ่มที่หน้ามีแผลเป็นนั่น…

ต่อให้อันตรายเพียงใด จะกล้าสู้กับตระกูลถังหรือ?

เพราะถังอิ่นเป็นคู่หมั้นของคุณชายหนานเสียนในตระกูลถังไม่ใช่เรื่องลับอะไร ในโลกสันโดษใครกล้าไม่ไว้หน้าตระกูลถัง นั่นหมายถึงไม่ไว้หน้าคนที่นั่นด้วย

เขาย่อมมั่นใจ

ฮวา!

อยู่ๆ ก็มีลมพายุพัดมาจากด้านหลัง

ถังซานตกตะลึง ในตอนที่หันกลับไปก็เห็นเด็กหนุ่มสำอางมาอยู่ตรงหน้าเสียแล้ว

แววตาเขาเยือกเย็นไร้ความรู้สึกใด

ถังซานไม่เข้าใจ ตรงหน้าเขามีเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวแท้ๆ แต่กลับทำให้เขารู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่าง ไร้อุณหภูมิ

เขาไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน

ความแข็งแกร่งของเด็กหนุ่มผู้นี้กับเขาดูแล้วคงจะพอๆ กัน ไม่ใช่หลิงอู่ระดับสูงแต่เหตุใด…จึงได้น่ากลัวเช่นนี้?

เป็นครั้งแรกที่เฟิงหรูชิงได้เห็นฉินเฉินสู้รบ ความแข็งแกร่งของเขาทำให้นางตกใจไม่น้อย

หากจำไม่ผิดฝูเฉินเคยบอกนางว่า ฉินเฉินไม่สามารถฝึกตบะมาหลายปีแล้ว มีเพียงต้องอยู่ข้างกายนางเท่านั้นเขาจึงจะสามารถฝึกตบะต่อได้และสถานการณ์เช่นเขายากนักที่จะแก้ไข

แต่ฉินเฉินตอนนี้อายุเพียงสิบหกปีเท่านั้น

หลายปีก่อนก็สามารถก้าวถึงหลิงอู่ระดับสูงได้ พรสวรรค์เช่นนี้คนธรรมดาไม่สามารถเทียบได้เลย

อย่างไรเสียมนุษย์ไม่ได้เกิดมาแล้วจะสามารถฝึกตบะได้เลย จะต้องรอจนถึงอายุที่เหมาะสมจึงจะสามารถลองดึงพลังเข้าสู่ร่างกาย

……………………………….

[1] หนึ่งคำพูดดั่งตะปูหนึ่งดอก คำพูดที่พูดออกมาหนักแน่นดั่งใช้ตะปูตอกยึดเอาไว้

[2]  ไป๋เฉากั่ว คือ ผลไม้วิเศษใช้เป็นยาวิเศษระดับสาม