บทที่ 116 เงาร่างสีดำสายหนึ่ง

ตื๊อรักแพทย์หญิง ฉบับท่านอ๋อง

สายลมที่เต็มไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวนี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หลินชิงเวยหันกลับไปอย่างรวดเร็ว พบทางเล็กๆ ด้านหลังท่ามกลางความมืดยามราตรีปรากฏเป็นทางคดเคี้ยวเสมือนเข็มขัดหยกขาว ตลอดเส้นทางไร้ผู้คนแม้แต่คนเดียว

ทว่าเมื่อนางหันกลับมาอีกครั้ง พบว่าเบื้องหน้าพลันปรากฏเงาร่างสีดำสายหนึ่ง นางยกมือขึ้นป้องกันทันทีที่รู้สึกตัว ความเจ็บปวดจากบาดแผลบนแขนส่งผ่านประสามสัมผัส ความรวดเร็วทำให้นางมองไม่ทัน ต่อมาร่างทั้งร่างของนางถูกพละกำลังมหาศาลผลักไปด้านข้าง จากนั้นร่างของนางก็ตกลงไปในสระไท่เยี่ย

สระไท่เยี่ยเงียบสงบจนน่ากลัว น้ำในสระไท่เยี่ยทั้งลึกทั้งเย็น

หลินชิงเวยเดิมทีว่ายน้ำเป็น ต่อให้ตกลงไปในสระนางไม่มีความจำเป็นต้องหวาดกลัว นางว่ายน้ำขึ้นฝั่งเองได้ย่อมไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้น

ที่สมควรตายก็คือ เมื่อนางเคลื่อนไหวร่างกายกลับพบว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางกลับไม่เหลือ มีคนอยู่ริมฝั่งใช้มือข้างหนึ่งกดแขนของหลินชิงเวย มือหนึ่งกดคอด้านหลังเพื่อกดศีรษะของนางให้จมอยู่ในน้ำ

น้ำในสระที่สงบนิ่ง เพราะการดิ้นรนต่อสู้อย่างรุนแรงของหลินชิงเวยจึงถูกทำลายความสงบ

เกิดระลอกคลื่นบนผิวน้ำจากริมฝั่งกระจายตัวออกไปรอบแล้วรอบเล่า

หลินชิงเวยรับรู้ได้ว่ามือที่กดแขนและคอของตนนั้นเย็นเยียบกว่าน้ำในสระไท่เยี่ยเสียอีก เยียบเย็นเสียจนทำให้คนขนลุกเกรียวทั้งร่าง

หลินชิงเวยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใครได้แต่ดิ้นรนต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ศีรษะของนางจมอยู่ในน้ำ ที่เข้ามาในดวงตาคือความมืดสนิทมองอะไรไม่เห็นทั้งสิ้น นางไม่อาจไม่หวาดกลัว ร่างของนางจึงตีน้ำจนแตกกระจายเป็นฟอง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป นางไม่อาจหายใจต้องจมน้ำตายอยู่ที่นี่แน่นอน

หลินชิงเวยตัดสินใจเรียกชิงหลันออกมาในเวลานี้ ร่างของชิงหลันลื่นมันจนสะท้อนแสง ปรากฏขึ้นบนแผ่นหลังของหลินชิงเวย แต่เมื่อมันเห็นชัดเจนว่าผู้ที่ควบคุมหลินชิงเวยเป็นใคร มันกลับไร้ซึ่งความกล้าหาญที่จะต่อสู้

ชิงหลันรับรู้ภาษาคนได้ มันรู้ว่าเจ้านายของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย ไม่ว่าคนผู้อยู่เบื้องหน้าจะทำให้มันต่อสู้ไม่ได้ มันยังคงต้องโจมตีอย่างกล้าหาญ จึงพุ่งเข้าหาอีกฝ่าย

ไหนเลยจะคิดว่าอีกฝ่ายไม่กลัวงูแม้แต่น้อย เพียงแค่สะบัดมือมีดสั้นเล่มหนึ่งก็ซัดออกมาจากมือของเขา จากนั้นปักร่างของชิงหลันไว้กับพื้นดินอย่างแม่นยำ มันไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะต่อต้านขัดขืน

ชิงหลันได้รับความเจ็บปวด ร่างของมันบิดเป็นก้อนกลมๆ

หลินชิงเวยไม่รู้ว่าชิงหลันเป็นอย่างไรบ้าง นางยังเอาตัวไม่รอด นางรู้เพียงว่าชิงหลันไม่ได้ทำให้คนผู้นี้ปล่อยมือได้ ชิงหลันย่อมต้องล้มเหลว

ต่อมา หลินชิงเวยสิ้นเรี่ยวแรง การดิ้นรนต่อสู้ค่อยๆ เบาลง น้ำเย็นๆ ในสระเข้ามาในดวงตา หู ปาก และจมูกของนาง นางรู้ว่าสึกเหมือนตนเองเป็นลูกโป่งที่ใส่น้ำเอาไว้ การขาดออกซิเจนเป็นเวลานานเกินไป ทำให้สมองของนางเข้าสู่สภาวะปิดการรับรู้

น้ำหนักของมือที่อยู่บริเวณต้นคอคลายออก คนผู้นั้นปล่อยนางแล้ว ต่อมาเขาผลักนางลงไปในบริเวณน้ำลึกของสระ ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งพลันปรากฏเงาร่างสีดำสายหนึ่ง รวดเร็วประดุจสายลม มาพร้อมกับลมหมุนและพลังที่แหวกอากาศเข้ามาพุ่งเข้าใส่เงาร่างสีดำด้านนี้

เขาพลิกฝ่ามือตั้งขึ้น ฝ่ามือนั้นซัดผ่านกระแสลมมาอย่างรุนแรงตรงเข้าฟาดฟันเงาร่างสีดำ ศีรษะของเงาสีดำรับฝ่ามือของเขาไปหลายฝ่ามือราวกับจะซัดให้สมองของเงาร่างสีดำให้แตกกระจุย ทว่าที่มหัศจรรย์ก็คือเงาร่างสีดำราวกับไม่เป็นอะไร ยังคงขยับเคลื่อนไหวได้ปกติ เมื่อเห็นว่าตนสู้ศัตรูไม่ได้ จึงรีบเผ่นหนีไปในป่าด้านข้าง ในป่ามืดสนิทเขาจึงหายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา

เซียวเยี่ยนมาช้า หน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงเห็นได้ว่าเขาวิ่งมาตลอดทางและได้ใช้ความพยายามทั้งหมดในความเร็วที่สุดที่เคยทำมา เขาไม่มีกะจิตกะใจจะไปไล่ตามเงาร่างสีดำนั้น หันกลับมองในสระ ผิวน้ำในสระกำลังกลับเข้าสู่สภาวะเงียบสงบดังเดิม มีเพียงฟองน้ำสองสายที่ปรากฏให้เห็นอยู่บนผิวน้ำ

นาทีถัดมาร่างของเขากระโดดลงไปในสระ

เขากลับมาถึงตำหนักซวี่หยางเป็นเวลาดึกมาก เซียวจิ่นเข้านอนแล้ว ได้ยินนางกำนัลพูดว่าหลินชิงเวยเพิ่งจะออกจากตำหนักซวี่หยางไม่นาน

เมื่อไตร่ตรองว่าหลายวันมานี้ได้เกิดเรื่องอันใดขึ้นบ้าง หลินชิงเวยกลับไปเพียงลำพังคนเดียว เวลานี้กระทั่งในวังก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เซียวเยี่ยนไม่รู้ว่าตนเองถูกเวทย์มนต์อันใดดลใจให้รู้สึกว่าต้องส่งหลินชิงเวยกลับไปจึงจะดี ขอเพียงรอให้บาดแผลของนางหายดีแล้ว นางจึงจะรักษาขาทั้งคู่ของเซียวจิ่นได้ ระหว่างนี้จะเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนางไม่ได้

ดังนั้นเซียวเยี่ยนจึงไล่ตามหลินชิงเวยด้วยเส้นทางที่นางใช้ประจำ คิดไม่ถึงว่า เมื่อมาถึงริมสระเขากลับต้องมาพบเห็นภาพเช่นนี้

เขาคิดอย่างหวาดหวั่นว่าหากเขาไม่ได้มา ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?

เขาถึงกับหวาดหวั่นหรือ?

หลินชิงเวยพยายามที่จะลืมตาขึ้น เมื่อแยกจากโลกภายนอกย่อมมองไม่เห็นว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าจะมีคนมาช่วยนางหรือไม่ สิ่งเดียวที่นางมองเห็นก็คือร่างของนางกำลังจมดิ่งลงไปข้างล่างเรื่อยๆ นางไร้สามารถ

สถานที่แห่งนี้เมื่อถึงกลางดึกจะเงียบสงัดผิดธรรมดา นอกจากนางแล้วยังจะมีใครมาถึงสถานที่แห่งนี้อีกเล่า? ไม่มีแล้ว ไม่มีใครมาช่วยนางหรอก

ผู้ที่ลอบทำร้ายนางเป็นใครกันแน่ ดูซิว่าหลังจากนางตายไปแล้ววิญญาณหลุดออกจากร่างจะไปสืบดูให้แน่ชัด เพ้ย นางมิใช่ไม่เชื่อเรื่องผีสางหรอกหรือ เช่นนั้นนางจะวิญญาณหลุดออกจากร่างได้อย่างไร หากวิญญาณออกจากร่างไม่ได้ เมื่อแรกนางจะทะลุมิติมาได้อย่างไรเล่า?

นี่ดูเหมือนวิทยาศาสตร์ก็ยังอธิบายไม่ได้นี่นา…

อย่างไรคืนนี้นางต้องจมน้ำตายทั้งเป็นอยู่ที่นี่ เฮ้อ บุรุษรูปงามยังไม่เชยชม ยังไม่ได้ใช้ชีวิตอันงดงามก็ต้องมาตายลงเยี่ยงนี้

ที่ย่ำแย่ที่สุดก็คือนางถูกผู้อื่นร่วมหลับนอนไปแล้วซ้ำผู้อื่นยังไม่ยอมรับ มีใครทะลุมิติมาแล้วล้มเหลวเช่นนางบ้าง ดีชั่วก็เป็นสาวแก่อายุสามสิบปีนางหนึ่ง ช่างเปราะบางเกินไปแล้ว

น้ำข้างใต้สระเย็นยิ่งกว่า ทั้งเย็นทั้งมืด

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความคิดของหลินชิงเวยแรงกล้าเกินไปหรือไม่ ดูเหมือนสวรรค์รับรู้ ระหว่างที่นางลืมตาขึ้นมองเห็นผิวน้ำข้าบนศีรษะกระเพื่อมเคลื่อนไหว มีแสงสว่างจากแสงจันทร์เล็กน้อย ราวกับมีดวงดาวดารดาษเต็มท้องฟ้า

ท่ามกลางแสงจากดวงดาวเล็กๆ เหล่านั้น มีคนๆ หนึ่งกำลังว่ายน้ำมาหานาง

เป็นเซียวเยี่ยน เสียงในสมองของนางดังขึ้น นางยื่นมือออกไป ปลายนิ้วของนางเย็นเฉียบ เดิมทีคิดว่าคนผู้นั้นอยู่ไกลจากตัวเองเกินไป สุดท้ายนางก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้

ขณะที่มือของนางค่อยๆ ห้อยตกลงมา พลันมีมือใหญ่ๆ ข้างหนึ่งกวาดเข้ามา จับมือของนางไว้ในอุ้งมือจากนั้นลากนางเข้ามาในอ้อมกอดอันกว้างใหญ่และเปียกชุ่ม

เซียวเยี่ยนอุ้มนางง่ายดายเหมือนนางเป็นแม่ไก่ตัวเล็กๆ ที่ไร้น้ำหนักพร้อมกับว่ายน้ำขึ้นสู่พื้นผิวน้ำเต็มกำลัง

ในที่สุด เสียงซู่ซ่าของน้ำดังขึ้น เซียวเยี่ยนพาหลินชิงเวยขึ้นมาบนผิวน้ำได้สำเร็จ

ริมฝั่งนี้กลับไม่ใช่ฝั่งที่เขากระโดดน้ำลงไป เป็นฝั่งที่ห่างจากริมศาลาไม่ไกล เซียวเยี่ยนอุ้มหลินชิงเวยก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว คนทั้งสองตัวเปียกชุ่มไปทั้งร่าง หยดน้ำหยดลงบนพื้นดินราวกับหยาดพิรุณ

เขาวางหลินชิงเวยบนเก้าอี้ยาวในศาลาหลังนั้น ยามนี้หลินชิงเวยตกอยู่ในสภาพหมดสติหลับลึก ไม่รับรู้อันใด

เซียวเยี่ยนตบๆ ใบหน้าของนาง พบนางไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง คิ้วที่พาดเฉียงขึ้นไปหาเชิงผมนั้นขมวดขึ้นมา เขายืนขึ้นเหนือร่างของหลินชิงเวย มือทั้งคู่ซ้อนกันใช้แรงกดลงบริเวณหน้าอกของหลินชิงเวย

นางร่างเล็กแบบบาง นุ่มนิ่มไปทั้งตัว เขากดลงไปหลายครั้งยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง เซียวเยี่ยนเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหยดน้ำ หยดน้ำไหลไปตามใบหน้าของเขามาถึงปลายคางกลายเป็นหยดน้ำหยดลงบนใบหน้าและลำคอของหลินชิงเวย