บทที่ 103 โดดลงเฮลิคอปเตอร์[รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 103 โดดลงเฮลิคอปเตอร์[รีไรท์]

สีหน้าฉู่ชวิ๋นยังคงนิ่งเฉยและมองไปที่หมาป่าเลือดที่หัวเราะเสียงดังอย่างนิ่ง ๆ  มุมปากเปลี่ยนไปเล็กน้อยถ้าไม่มองดูดี ๆ ก็จะไม่เห็นนั่นเป็นพื้นฐานอีกอย่างหนึ่งในการเมินเฉย

แม้แต่ฮาเอ่อร์ก็ยังฉีกปากหัวเราะออกมาเสียงดัง วันนี้เขาก็หนีรอดได้แล้ว จีนไม่อนุญาตให้อิสระแก่เขามา 3 ปี และตอนนี้เขาคิดเรียบร้อยแล้วว่าจะแก้แค้นยังไง

ฉู่ชวิ๋นมองฮาเอ่อร์ด้วยสายตาที่เฉยเมย

ชายสูงใหญ่ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง ร่างกายสูง 2 เมตรบวกกับรูปร่างหน้าตาที่โหดร้ายระงับเสียงหัวเราะโดยไม่รู้ตัวและเสียงของเขาก็เล็กลงและเล็กลง…และหยุดในที่สุด

มังกรเขียวและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะส่งสายตาเย้ยหยันออกมา

ฮาเอ่อร์รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้ามาก คาดไม่ถึงว่าจะถูกสายตาของเด็กวัยรุ่นที่ดูบอบบางคนนี้ขู่ได้

“เฮ้ ไอ้หนุ่ม แก…”

“อ๊ากก…!”

ฮาเอ่อร์ส่งเสียงกรีดร้องออกมา เพราะสายตาที่เยือกเย็นของโม่ซิงเหอที่ยืนอยู่ข้างหลังฉู่ชวิ๋นคว้าเคราของฮาเอ่อร์ไว้แล้วดึงออกมารุนแรง

“จึ!”

ใบหน้าครึ่งหนึ่งของฮาเอ่อร์เต็มไปด้วยเลือด โม่ซิงเหอฉีกเคราที่ติดกับผิวหนังทั้งหมดออกมา เมื่อกระต่ายหยกมองดู เลนส์กล้องก็เล็งไปที่ฮาเอ่อร์พอดี ฉากนี้ถูกถ่ายทอดสดให้คนดูอย่างชัดเจน บนโลกอินเทอร์เน็ตกลับมาคึกคักอีกครั้ง!

“ลุงคนนี้คือใครนะ? ดูเผด็จการจริงๆ”

“ลุงดึงหนวดอีกข้างของมันออกมาด้วยเลยสิ ให้มันรู้ซะบ้างว่าการพูดมากจะเจอกับอะไร”

“ลุงคือไอดอลของผมเลย เห็นแล้วหายโกรธไปได้เยอะ!”

“…”

ทุกคนรีบแสดงความคิดเห็น ซึ่งโม่ซิงเหอไม่รู้ว่าการกระทำของเขาจะดึงดูดความสนใจมากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าหมาป่าเลือดก็มองเห็น สายตาของเขานั้นเยือกเย็น ความโกรธของเขายังสามารถรับรู้ได้ผ่านหน้าจอ

“คนจีน ดี ดีมาก!”

เขาไม่โกรธแต่กลับยิ้มและหัวเราะออกมา ปืนชีพจรสายฟ้าที่อยู่ในมือของเขาก็ยกขึ้นเล็งเป้าไปที่ตัวประกันคนหนึ่ง ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้แม้แต่บนอินเทอร์เน็ตทั้งหมดก็ยังเงียบลง

พลังที่น่าเกรงขามของปืนชีพจรสายฟ้าทุกคนทั้งหมดเคยพบเห็น มันน่าหวาดกลัวเกินไป ปืนเล็งไปที่ชายวัยกลางคนในชุดสูทและรองเท้าหนัง ซึ่งดวงตาของเขาเป็นสีขาวด้วยความกลัวและทรุดตัวลงกับพื้น

ในขณะนี้ร่างที่สวยงามและเรียวยาวท่ามกลางตัวประกันยืนอยู่ต่อหน้าชายวัยกลางคนด้วยสายตาที่ตกใจ

ถางโร้ว!

ทุกคนล้วนรู้จักเธอ ใครก็คิดไม่ถึงว่าเด็กผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้จะมีความกล้าหาญมากอย่างนี้

แสงแดดที่พาดผ่านเสื้อคลุมของเธอกลายเป็นสีทอง ผิวพรรณที่ขาวเนียนรวมถึงใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบได้ คล้ายกับว่านางฟ้าได้มาเยือนยังโลก

ถางโร้วพยายามทำอย่างเต็มที่ทำให้ดูเหมือนว่าตนเองไม่ได้ตกอยู่ในที่นั่งลำบากแบบนั้น ตอนนี้เธอหวาดกลัวมาก ขาทั้งสองกำลังสั่น

เธอคิดถึงฉู่ชวิ๋น เธอเชื่อมั่นว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องมาช่วยเธอแน่นอน เหมือนกับครั้งก่อน ขอเพียงแต่ฉู่ชวิ๋นของเธอมาปัญหาทั้งหมดก็จะถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย

ชายวัยกลางคนกับเธอไม่เคยพบกันและรู้จักกันมาก่อน เธอไม่รู้ว่าทำไมตนเองจะต้องช่วยขวางปืน เธอไม่เข้าใจเลย ทั้งหมดเป็นสัญชาตญาณที่สั่งให้ทำก็เท่านั้น เพียงแต่ว่าเธอหวาดกลัวมากจริง ๆ

ในความเป็นจริงบางครั้งผู้คนก็ทำสิ่งต่าง ๆ โดยได้รับแรงกระตุ้น ถางโร้วเองก็เป็นเช่นนั้นเธอทนไม่ได้ที่เห็นคนตายเธอ จึงทำแม้ว่าเธอจะกลัวก็ตาม

“ถางโร้ว เธอกล้าหาญมาก!”

“ถางถางสู้ ๆ พวกเราจะสนับสนุนเธอตลอดไป!”

“ถางโร้วอย่ากลัว ประเทศนี้ไม่นั่งดูเฉย ๆ แน่ พวกเขาจะรีบไปช่วยเธอ!”

ในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบถางโร้วหรือว่าแอนตี้แฟนก็ตามพวกเขาทั้งหมดชื่นชมความกล้าหาญของถางโร้ว และเป็นกำลังใจให้เธอ

สายตาที่เยือกเย็นของฉู่ชวิ๋นแทบจะหยุดนิ่ง แต่มีไฟที่โหมกระหน่ำซ่อนอยู่ใต้ดวงตาของเขา มันพร้อมที่จะเผาผลาญทุกสิ่ง หมาป่าเลือดนิ่งอึ้งไป เขารู้ว่าเด็กผู้หญิงที่เปราะบางคนนี้เป็นใคร คนนั้นเคยบอกเขาเธอคือผู้หญิงของฉู่ชวิ๋น

เธอกล้าหาญมาก…หมาป่าเลือดคิด

พวกเขาคือทหารรับจ้าง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่จะต้องผ่านคมมีดที่อาบไปด้วยเลือด พวกเขาเคารพคนที่แข็งแกร่งและมีความสามารถ พวกเขาไม่ชอบคนที่ขี้ขลาด

“หมาป่า ฆ่าเธอซะ!” ฮาเอ่อร์เจ็บปวดอย่างบ้าคลั่งแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง

“แกคงไม่อยากมีชีวิตออกไปจากที่นี่แล้วสินะ?”

ฉู่ชวิ๋นพูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา ทั้งหมดทำให้ฮาเอ่อร์ที่กำลังบ้าคลั่งรีบหุบปากแน่น เขาเกือบจะลืมแล้วที่นี่ก็ยังเป็นจีน แน่นอนว่าเขายังไม่อยากตาย

หมาป่าเลือดเก็บปืนชีพจรสายฟ้าลง หันไปทางฉู่ชวิ๋นแล้วแสยะยิ้มออกมาพูด “ฉันไม่อยากให้เพื่อนของฉันได้รับบาดเจ็บ”

ฉู่ชวิ๋นเงียบ ต่อจากนั้นหันหลังกลับไปแล้วเปิดปากพูด “ขึ้นเครื่อง”

……

……..

เครื่องบินลอยสูงขึ้นและบินอย่างมั่นคง ฉากที่อยู่ในห้องโดยสารยังกำลังถ่ายทอดสดอยู่ หนังตาของฉู่ชวิ๋นตกลงมาเล็กน้อยคล้ายกับพระสงฆ์เข้าฌาน คนอื่น ๆ ก็ปิดปากเงียบ

ใน 2 ชั่วโมงแรก ฮาเอ่อร์ค่อนข้างสงบเสงี่ยม เมื่อเห็นว่าเข้าใกล้เมืองหยุนกุ้ยมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาก็รู้สึกตื่นเต้น ในบางครั้งเขามองไปที่กระต่ายหยก งูเขียว และแพะ ด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าและดวงตาของเขาก็ลามกอนาจาร เขายังคงพึมพำเป็นระยะ ๆ ด้วยแม้ว่าจะไม่ได้ยินที่เขาพูดก็ตาม แต่เมื่อมองไปที่รูปลักษณ์ของเขาแล้วก็บอกได้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี

นิสัยของกระต่ายหยกกับแพะขาวนั้นค่อนข้างที่จะอ่อนโยนและนุ่มนวล แต่ไม่ใช่กับงูเขียว เธอแทบอดทนไว้ไม่ได้ แตะมีดสั้นที่อยู่ตรงเอวอยู่หลายครั้ง อยากจะแทงไปบนร่างกายของฮาเอ่อร์หลาย ๆ ครั้งให้เป็นรูโหว่

“ไม่อยากได้หนวดเคราอีกครึ่งหนึ่งแล้วเหรอ?” โม่ซิงเหอเหล่มองเขา

ฮาเอ่อร์แสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังหวาดกลัวในบางอย่างของโม่ซิงเหอ ปากแอบพึมพำมา 2-3 ประโยค แต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้มาก

4 ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินลงจอดที่สนามบินเมืองหยุนกุ้ย ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างและให้ความสนใจกับสถานการณ์

สิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจก็คือเรื่องนี้เป็นอันตรายต่อประเทศอย่างมาก แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไหนออกมาเลย และยังไม่ได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นใด ๆ ออกมาด้วย

“อะไรต่อ?” ฉู่ชวิ๋นจ้องมองเหตุการณ์ข้างหน้าแล้วถามหมาป่าเลือด

มุมของดวงตาของหมาป่าเลือดกระตุกโดยไม่สังเกตเห็น เขาไม่ชอบน้ำเสียงและการแสดงออกของฉู่ชวิ๋นเป็นอย่างมาก มันเยือกเย็นเกินไปและทำให้คนรู้สึกขนลุก

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตายไปแล้วหรือไง? แต่เขาไม่ได้มีจิตสำนึกในการเผชิญหน้ากับความตาย ความหวาดกลัว ความสิ้นหวัง ความรู้สึกเหล่านี้เขามองไม่เห็นเลยสักนิด หมาป่าเลือดคิดในใจ

จนกระทั่งหมาป่าเลือดอยากถามฉู่ชวิ๋นสักหนึ่งประโยค “รู้หรือเปล่าว่าทำแบบนี้มันทำให้ฉันไม่มีความสุข?”

คำพูดนี้เขาแค่คิดอยู่ในใจ ถ้าหากว่าถามออกไปจริง ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องที่ตลกที่สุดบนโลกใบนี้

“ฉันจะส่งพิกัดให้ จะสามารถหาได้หรือไม่ก็อยู่ที่ความสามารถของเธอ” มีผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์คนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างหมาป่าเลือด เขานำพิกัดและรูปแบบรหัสส่งเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของกระต่ายหยก

นี่เป็นการยั่วยุกระต่ายหยกอย่างไม่ต้องสงสัย

นี่ยังแสดงให้เห็นด้วยว่าหมาป่าเลือดเข้าใจถึงกลุ่มสิบสองนักษัตรอย่างชัดเจนมาก อย่างน้อยที่สุดเขารู้ว่ากระต่ายหยกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์

สีหน้าของมังกรเขียวดูไม่ดี เรื่องราวชัดเจนมากขึ้นแล้ว ในประเทศมีคนทรยศ และข้อมูลของพวกเขาอาจรั่วไหล กระต่ายหยกมีสีหน้ากลุ้มใจ เธอนำอุปกรณ์ถ่ายทอดสดส่งให้แพะขาว จากนั้นก็ตั้งอกตั้งใจแก้พิกัดที่เข้ารหัส

ทุกคนล้วนกำลังรอคอย บนอินเทอร์เน็ตก็เงียบสงบลงไปชั่วขณะหนึ่ง เวลาผ่านไปทุกนาที หน้าผากของกระต่ายหยกขับเหงื่อออกมา จริง ๆ แล้วการเผชิญหน้ากับแฮกเกอร์หรือการเผชิญหน้ากับนักต่อสู้ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าสงครามไม่เหมือนกันก็เท่านั้นเอง

ปกติแล้วกระต่ายหยกจะน่ารักเหมือนตุ๊กตา ในตอนนี้ดวงตาของเธอกลับดุร้ายเหมือนเสือพร้อมกับฟันแหลมที่แยกเขี้ยวออกมาเป็นครั้งคราว เธอกำลังต่อสู้กับคนในโลกเสมือนจริงของอินเทอร์เน็ต

“แก้ได้แล้ว!” กระต่ายหยกพูดอย่างตื่นเต้นและภาคภูมิใจที่เธอชนะ

แน่นอนว่าหมาป่าเลือดมองเห็นฉากนี้และพูดด้วยรอยยิ้ม “จริง ๆ ก็นับว่าค่อนข้างมีความสามารถอยู่นะ”

“แกพูดไร้สาระมากเกินไปแล้ว” ฉู่ชวิ๋นพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น

สายตาของหมาป่าเลือดเปล่งแสงอ่อน ๆ ออกมาเหมือนกับหมาป่ากระหายเลือดที่จ้องมองไปยังฉู่ชวิ๋น เผยให้เห็นฟันขาว ๆ “ฉู่ชวิ๋นมีแค่แกกับฮาเอ่อร์ที่สามารถมาหาฉันได้ คนอื่นไม่ได้”

ฉู่ชวิ๋นเหมือนกับสายลมที่นิ่งสงบ และตอบทันที “ได้!”

ในบางครั้งหมาป่าเลือดก็อยากจะบ้าคลั่งขึ้นมา เขารังเกียจลักษณะนิสัยของฉู่ชวิ๋นมากจริง ๆ

“ฉันไปด้วยได้ไหม?” ทันใดนั้นกระต่ายหยกก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขี้อาย

สายตาของทุกคนจ้องมองไปที่เธอ รวมไปถึงหมาป่าเลือดที่กำลังดูอยู่

ความกล้าหาญของกระต่ายหยกมีไม่มาก เมื่อถูกคนมากมายจ้องมองมาที่ตนเองเธอก็หดคอลงและพูดอย่างอ่อนแรงว่า “ฉันทำถ่ายทอดสดได้”

หมาป่าเลือดเกือบลืมไปแล้วถ้าเขาไม่ให้พาคนอื่นมาด้วยแล้วใครจะถ่ายทอดสดและเขาจะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของฉู่ชวิ๋นได้อย่างไร? เขาจึงตกลงโดยไม่คิดมาก

เพราะเท่าที่เขารู้กระต่ายหยกนั้นอ่อนแอที่สุดและขี้อาย

กระต่ายหยกแอบมองใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาของ ฉู่ชวิ๋น ใบหน้าก็ปรากฏสีแดงสดใสออกมา แน่นอนว่าที่เธอติดตามเขาก็เพราะว่าเธอเลื่อมใสศรัทธาในตัวเขา ช่างเป็นผู้ชายที่เก่งอะไรอย่างนี้ เขาเก่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน? กระต่ายหยกคิดในใจ

ฉู่ชวิ๋น ฮาเอ่อร์ กระต่ายหยกขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธที่มังกรเขียวเตรียมไว้ และบินตรงไปสถานที่ที่ทำเครื่องหมายเอาไว้

กระต่ายหยกบอกฉู่ชวิ๋นว่าสถานที่ที่ทำเครื่องหมายเอาไว้อยู่ติดชายแดนระหว่างจีนและประเทศวาย

ประเทศวาย ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ๆ ยากจนและล้าหลัง แต่มีความคิดเรื่องชาติที่ผิดปกติที่น่ารังเกียจ ประเทศขนาดเล็กและเล็กเช่นนี้มักก่อกวนพรมแดนของจีน เผาและปล้นสะดม ทำให้ชาวจีนที่อาศัยอยู่บนพรมแดนต่างก็ทุกข์ยาก

มังกรเขียวจึงต้องขอคำสั่งก่อน เพราะว่าเฮลิคอปเตอร์อาจจะข้ามเส้นเขตแดน ฉู่ชวิ๋นหยุดเขาไว้ แค่ประเทศเล็ก ๆ หากเขาเป็นจักรพรรดิเซียน เขาคงทำลายได้ด้วยการยกมือขึ้นแล้ว

แม้ว่าตอนนี้เขาจะอยู่แค่ขั้นสร้างรากฐานลมปราณ แต่ประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศวายนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนที่ไปตามทิศทางของที่บอกพิกัด

ประเทศวายเกือบจะเต็มไปด้วยป่าไม้และพื้นดินชุ่มชื่น เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินผ่าน สายลมที่พัดก็ทำให้ยอดไม้ด้านล่างส่งเสียงกรอบแกรบ

ในเขตแดนข้างในของประเทศวายมีเขาสูงระฟ้าอยู่

ภูเขาโมเทียนมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยต้นไม้และเมื่อมองจากด้านบนจะมีกิ่งก้านและใบไม้ปกคลุมอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย

ติ้ง!

เฮลิคอปเตอร์เข้าสู่เขตแดนภายในของประเทศวายแล้ว ทหารรักษาเขตชายแดนของประเทศวายออกคำสั่งเตือนครั้งแรก

“ทำยังไงดี?” กระต่ายหยกกังวลเล็กน้อย

“บินต่อไป มุ่งตรงไปที่จุดหมายข้างหน้า ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น” สีหน้าของฉู่ชวิ๋นสงบนิ่ง ไม่ตกใจคลื่นลูกใหญ่ที่กำลังจะตามมา

เฮลิคอปเตอร์รุกล้ำเข้าไป ทำให้กระทรวงกลาโหมของประเทศวายตกใจทันที ฮาม่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รูปร่างปานกลาง ไม่พอใจที่ถูกแข็งข้อใส่

“สกัดกั้นเฮลิคอปเตอร์ลำนี้เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องสนใจว่าจะต้องเสียอะไรบ้างก็ตาม” นี่คือคำสั่งของฮาม้าน

คำสั่งถูกถ่ายทอดไปถึงกองกำลังทหารรักษาชายแดนอย่างรวดเร็ว ผู้นำสูงสุดของกองกำลังทหารชื่อว่าเหล่ยเต๋อ มียศเป็นร้อยโท เหล่ยเต๋อได้รับคำสั่งโจมตี เขาก็ไม่ล่าช้าเลยสักนิดเพราะว่าเขาคิดได้นานแล้วว่าจะทำยังไงเพราะเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นเป็นของจีน

มีการติดตั้งปืนต่อต้านอากาศยานขึ้นมา เป้าหมายคือเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ในอากาศลำนั้น

เหล่ยเต๋อต้องการเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายลงจอดในเชิงสัญลักษณ์ก่อน จากนั้นจึงยิงปืนใหญ่โดยตรงแม้ว่าเฮลิคอปเตอร์จะดีกว่าของประเทศเขามาก แต่เขาก็อยากเห็นมันถูกยิงและกลายเป็นกองเศษเหล็กที่ถูกเผาไหม้

การถ่ายทอดสดก็ยังคงดำเนินต่อไป หมาป่าเลือดขมวดคิ้ว กำลังทหารของประเทศวายทำไมถึงยังไม่โต้ตอบกลับ แล้วทันใดนั้น เขาก็สนใจบางอย่างขึ้นมา

หมาป่าเลือดแอบพูดว่า “ฉันนี่มันอัจฉริยะจริง ๆ!”

เขายิ้มไม่หยุดและหัวเราะอย่างเอร็ดอร่อย มองดูสถานการณ์แล้วพูดออกมาเหมือนกับคำสาบาน

“ฉู่ชวิ๋น ฉันอยากให้นายกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ตอนนี้เลย”

หมาป่าเลือดพูดออกมาทีละคำ

เมื่อเสียงนั้นเงียบลงและบนโลกอินเทอร์เน็ตที่สงบก็เหมือนถูกระเบิดทิ้งลงในทะเลสาบ

ทุกคนต่างตะโกนใส่หมาป่าเลือดด้วยความรังเกียจ ร้ายกาจ ไร้ยางอายและน่ารังเกียจ แต่น่าเสียดายที่คำพูดประณามเหล่านั้นไม่ส่งผลกระทบต่อหมาป่าเลือดแม้แต่น้อย บางทีเขาอาจจะมองเห็นข้อความที่ฝากไว้บนอินเทอร์เน็ต แต่เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะเข้าใจ

“ได้!”

แต่คาดไม่ถึงว่าฉู่ชวิ๋นจะตอบรับคำขอที่ไร้สาระของหมาป่าเลือด คนอื่นทั้งหมดถลึงตาจ้องมองไปที่จอภาพข้างหน้า

“ผู้อาวุโส ไม่ได้นะ!”

กระต่ายหยกดวงตาแดงก่ำด้วยความกังวล และเธอดูเหมือนกระต่ายน้อยสีขาวตัวหนึ่งที่น่ารักมาก ฮาเอ่อร์หัวเราะเสียงดังออกมาอย่างหยิ่งผยอง

ฉู่ชวิ๋นยิ้มให้กับกระต่ายหยกแล้วพูดขึ้นมาว่า “หลังจากที่ฉันกระโดดลงไป เธอรีบถอยกลับออกจากประเทศวายทันที ห้ามหยุดเด็ดขาด”