บทที่ 125 ใจอ่อน

แต่เรื่องนี้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง

สวี่อวิ๋นซานไม่สมควรมาหาตัวเองเลย!

พอคิดได้ว่าสวี่อวิ๋นซานคิดอะไรในใจ จางซิ่วเอ๋อก็โมโหอย่างยิ่ง

สวี่อวิ๋นซานคิดแบบนี้ไม่ผิดหรอก ก็ในใจเขายังคิดถึงจางซิ่วเอ๋อเจ้าของร่างอยู่นี่นา แต่จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้รู้สึกว่าเรื่องนี้นางทำอะไรไม่ได้จริง ๆ

นางไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเอง!

ไม่ต้องพูดถึงยอดคนบ้านตระกูลสวี่ เอาแค่ตัวนางเองก็ไม่ได้ชอบสวี่อวิ๋นซานแล้ว

“สวี่อวิ๋นซาน! เจ้าไปเถอะ” จางซิ่วเอ๋อไล่แขกด้วยใบหน้าเย็นยะเยือก

จางซิ่วเอ๋อพูดพลางหยิบมีดที่จางชุนเถาวางไว้บนโต๊ะเมื่อครู่นี้

สวี่อวิ๋นซานกำลังอยู่ในวัยเลือดร้อน ใจเขาคิดถึงเจ้าของร่างอยู่ด้วย บัดนี้ไปโดนยาอย่างว่าอีก จางซิ่วเอ๋อกลัวจริง ๆ ว่าสวี่อวิ๋นซานจะบุ่มบ่ามทำอะไรขึ้นมา

จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้จึงเสียใจมาก เสียใจอย่างที่สุด

เมื่อครู่นางจะเปิดประตูให้สวี่อวิ๋นซานทำไมกัน? เหมือนยกหินทุ่มใส่เท้าตัวเองชัด ๆ

เมื่อครู่นางไม่น่าใจอ่อนเลย

“ซิ่ว…..ซิ่วเอ๋อ…..ข้าไม่ได้ตั้งใจ ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้” สวี่อวิ๋นซานพูดเสียงอ่อย

ตอนนี้เขาอยากจะตบหน้าตัวเองเหลือเกิน ถ้าเมื่อครู่ไม่ได้จางซิ่วเอ๋อตบเขาให้ได้สติ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

“เจ้าไม่ต้องอธิบายแล้ว สภาพเจ้าตอนนี้ข้าช่วยอะไรไม่ได้ ตอนนี้ข้าทำได้แค่ขอให้เจ้ารีบออกจากบ้านข้าไปซะ” จางซิ่วเอ๋อกล่าวเสียงเย็น

สวี่อวิ๋นซานมองมีดในมือจางซิ่วเอ๋อ ก็เข้าใจความหมายของจางซิ่วเอ๋อได้อย่างถ่องแท้

เขารู้สึกผิดกับความคิดของตัวเองในทีแรก จึงก้าวออกไปข้างนอกช้า ๆ

แต่เขาโดนมอมยามา และร่างกายไม่ได้รับการผ่อนคลาย ทุกย่างก้าวจึงลำบากเหลือหลาย

เขากำลังจะก้าวพ้นประตู ก็ได้ยินเสียงโกรธแค้นดังเข้ามา

เสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่น แม่หลินนั่นเอง

“เจ้าเด็กนั่นต้องมาบ้านจางซิ่วเอ๋อแน่ ๆ เจ้าคอยดู! ข้าจะไปจับเขากลับมาเดี๋ยวนี้ ต่อให้วันนี้เขาไม่อยากร่วมรักกับเจ้าก็ต้องร่วม! รอจนร่วมรักกันแล้วเขาต้องยอมแต่งงานกับเจ้าแน่!” เสียงแม่หลินดังลั่นเต็มไปด้วยโทสะ นางยังอยู่ห่างจากบ้านผีสิงระยะหนึ่ง แต่เสียงดังเข้ามาเป็นห้วง ๆ เสียแล้ว

จางซิ่วเอ๋อได้ยินก็อดหัวเราะเย็น ๆ ในใจไม่ได้ แม่หลินนี่ตลกจริง ๆ!

มิน่าล่ะหลีฮวาถึงกล้าขนาดนั้น ที่ไหนได้มีแม่หลินคอยยุแยงอยู่ด้านหลังนี่เอง

สวี่อวิ๋นซานได้ยินเสียงที่คุ้นเคยแล้วต้องรีบปิดประตู ก่อนจะคล้องกลอนประตู

จางซิ่วเอ๋อเห็นแบบนั้นรีบถามขึ้น “เจ้าทำอะไร”

จางซิ่วเอ๋อกลัวว่าแม่หลินจะได้ยินจากข้างนอก ถ้าแม่หลินรู้ว่าสวี่อวิ๋นซานอยู่ในบ้านนางจริง ๆ ไม่รู้ว่าจะอาละวาดขนาดไหน!

“ซิ่วเอ๋อ ข้าขอร้อง เจ้าช่วยข้าหน่อย ข้าไม่ขออะไรเลย ขอแค่เจ้าให้ที่ข้าพักพิง อย่าส่งตัวข้าให้ท่านแม่ข้า” สวี่อวิ๋นซานเริ่มสะอื้น

ชายหนุ่มผู้นี้เป็นถึงบุรุษกล้าในละแวกนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังอายุน้อย และโดนมารดากับน้องสาวตัวเองบีบคั้นหลอกลวง เวลานี้ย่อมทำอะไรไม่ถูก ต้องน้ำตาตกเป็นธรรมดา

เขาเองก็ถูกบีบคั้นจนหมดหนทาง

“ซิ่วเอ๋อ ข้ารับปากเจ้า ถ้าเจ้ายอมช่วยข้า พ้นคืนนี้ไปข้าจะไม่มายุ่งกับเจ้าอีก” เสียงของสวี่อวิ๋นซานเต็มไปด้วยความขอร้องอ้อนวอน

ตอนนี้จางชุนเถาก็เริ่มมองออกแล้ว นางเอ่ยเสียงเบา “พี่ เมื่อก่อนพี่สวี่ดีกับพวกเรามาก ต่อให้พี่ไม่ชอบเขา ครั้งนี้ก็ช่วยเขาหน่อยเถอะเจ้าค่ะ……”

จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าเมื่อก่อนสวี่อวิ๋นซานดูแลจางชุนเถาและจางซานหยาไว้ไม่น้อย แต่จะช่วยสวี่อวิ๋นซานหรือไม่นางยังลังเลอยู่

ในขณะนั้น จางซิ่วเอ๋อก็รู้สึกว่าใจของตัวเองหน่วง ๆ ความเจ็บแปลก ๆ แผ่ขยายอยู่ในใจ

พอรู้สึกแบบนี้จางซิ่วเอ๋อก็หมดแรง

เจ้าของร่างที่หายไปไม่รู้นานเท่าไรกลับมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของนาง

ถึงแม้เจ้าของร่างจะไม่อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างไรจางซิ่วเอ๋อก็ดูดซับความทรงจำของเจ้าของร่างมาส่วนนึง เจ้าของร่างจึงยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของจางซิ่วเอ๋ออยู่บ้าง

แต่จางซิ่วเอ๋อคิดไม่ถึงว่าเจ้าของร่างไม่ได้ทิ้งความทรงจำของสวี่อวิ๋นซานให้นาง เวลาแบบนี้กลับหวั่นไหวเพราะเรื่องของสวี่หวิซาน

จางซิ่วเอ๋อไม่อาจไตร่ตรองได้ว่าเพราะอะไรกันแน่ แต่นางถอนหายใจอย่างหมดแรง “ใครใช้ให้เจ้าติดหนี้เขา ข้าติดหนี้เจ้า เรื่องนี้ข้าต้องยุ่ง”

ตอนนี้แม่หลินมาถึงหน้าประตูแล้ว ถีบประตูอย่างแรง “จางซิ่วเอ๋อ ออกมาเดี๋ยวนี้!”

จางซิ่วเอ๋อมองสวี่อวิ๋นซานพลางชี้ไปทางบ้าน

สวี่อวิ๋นซานพยักหน้า เดินตามจางซิ่วเอ๋อเข้าไปในบ้าน

จางซิ่วเอ๋อไม่ได้ให้สวี่อวิ๋นซานเข้าบ้านตัวเอง แต่พาสวี่อวิ๋นซานไปที่ห้องครัวและบอกกับสวี่อวิ๋นซาน “สวี่อวิ๋นซาน เจ้าควบคุมสติตัวเองให้อยู่ อย่าสร้างปัญหาให้ข้า!”

“เดี๋ยวพอแม่เจ้าไปแล้ว ข้าไปตามท่านหมอเมิ่งมาให้เจ้าได้” จางซิ่วเอ๋อกล่าว

สวี่อวิ๋นซานพยักหน้าและเอ่ย “ขอบคุณมาก”

จางซิ่วเอ๋อกลัวว่าสวี่อวิ๋นซานจะคุมตัวเองไม่ได้และพุ่งออกมา จึงคล้องประตูจากด้านนอก

นางมาถึงหน้าประตูและตะโกนใส่ด้านนอก “ดึกดื่นป่านนี้นังบ้าที่ไหนมาโวยวายกัน”

“จางซิ่วเอ๋อ! นังแพศยา ปล่อยตัวลูกชายข้ามานะ!” แม่หลินกล่าวเสียงเกรี้ยวกราด

จางซิ่วเอ๋อยิ้มเย็น “สมองท่านมีปัญหารึเปล่า? มาร้องหาลูกชายกับข้ากลางค่ำกลางคืนแบบนี้ ตระกูลสวี่ของท่านไม่ต้องการหน้าตาชื่อเสียงแล้วรึ? ข้ายังต้องการอยู่นะ!”

“ท่านไม่กลัวว่ามีข่าวลืออะไรออกไปแล้วมีผลร้ายกับลูกชายท่านเหรอ?” จางซิ่วเอ๋อไม่เคยเจอแม่แบบนี้มาก่อน

“พี่ข้าต้องมาหาเจ้าแน่ ๆ!” เสียงของหลีฮวาดังเข้ามาด้วย

จางซิ่วเอ๋อหัวเราะ “เจ้าบอกว่าอยู่กับข้าก็อยู่กับข้าเหรอ วันนี้ข้าจะบอกให้นะว่าตอนกลางวันข้าเจอสวี่อวิ๋นซานจริง แต่ตอนนี้ไม่เห็นสวี่อวิ๋นซานเลย!”

“สิ่งที่เจ้าพูดมาไร้ประโยชน์ รีบเปิดประตูเร็วเข้า ลูกชายข้าอยู่ในบ้านเจ้าหรือไม่ให้พวกเราดูหน่อยเดี๋ยวก็รู้เอง!” แม่หลินเอ่ยเสียงเกรี้ยวกราด

จางซิ่วเอ๋อแค่นเสียง “ทำไมข้าต้องเปิดประตูให้พวกท่านด้วย ใครจะรู้ว่าพวกท่านมาดึกดื่นแบบนี้หวังอะไรรึเปล่า?”

“ที่นี่ปลีกวิเวกขนาดนี้ ถ้าถึงตอนนั้นท่านเข้ามาจะทำอะไรข้า ข้าก็ขัดขืนไม่ได้!” จางซิ่วเอ๋อแย้ง

“ข้าจะทำอะไรนังแพศยาอย่างเจ้าฮึ! รีบเปิดประตูเร็วเข้า!” แม่หลินโหวกเหวก

เสียงของจางซิ่วเอ๋อเย็นเยียบ “วันนี้ข้าจะพูดกับท่านให้เข้าใจ ข้าไม่เปิดประตูให้ท่าน! แน่จริงท่านก็ทุบประตูให้ออก!”

จางซิ่วเอ๋อนึกขอบคุณคนที่ซ่อมประตูให้นางสุด ๆ ประตูทำจากเหล็กเป็นทุนเดิม ตอนนี้ใช้โซ๋เหล็กเป็นกลอนคล้องด้านใน อย่าให้พูดเลยว่าแข็งแรงขนาดไหน

………………………………………