ตอนที่ 111  : กลับเมือง

เฉี่ยนเจินเฉียนมองไปที่กองแร่และพูดขึ้นมา  “ส่วนหินพวกนี้คือแร่ไฟที่โด่งดัง มันเกิดขึ้นจากลาวา และไม่อาจจะหลอมได้ง่าย ๆ มันได้ดูดซับแก่นไฟจำนวนมากเอาไว้  มังกรเพลิงใช้มันในการเพิ่มพลังไฟของมัน สัตว์อสูรธาตุไฟอื่น ๆ สามารถใช้มันในการวิวัฒนาการได้ คุณค่าของมันจึงสูงเป็นอย่างมาก”

หวังเย่าพยักหน้า แร่นี้มีกว่า 100 ชิ้น  “ผมเป็นผู้ดูแล ไข่มังกรนี่ผมมั่นใจว่าจะฟักมันออกมาให้ลุงได้ แต่ผมไม่ต้องการไข่นี่  และผมก็ไม่มีสัตว์อสูรธาตุไฟ ดังนั้นแร่พวกนี้ลุงเอาไปเถอะ”

เฉี่ยนเจินเฉียนไม่คิดเลยว่าหวังเย่าจะพูดแบบนี้ออกมา เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมอีกฝ่ายและพูดขึ้น  “สมบัติอื่น ๆ นายเอาไปเพิ่มก็ได้ ส่วนไข่นี่ฉันจะให้นายเป็นคนฟักมันให้ฉัน”

“แล้วน้ำนี่ล่ะ ? ”  หวังเย่าชี้ไปที่น้ำนมที่เขาเก็บมา

เฉี่ยนเจินเฉียนคิดสักพักแล้วพูดขึ้นมา  “มันน่าจะเป็นนมดิน นมดินคือแก่นของดิน มันส่งผลหลายอย่างโดยเฉพาะกับผู้หญิง มันช่วยลดการแก่ตัวและทำให้หน้าขาวกระจ่างขึ้นรวมถึงดูเด็กขึ้นด้วย มันคือยาระดับศักดิ์สิทธิ์ มันมีค่าสูงอย่างมาก”

ฟ่านฉิงเหมยได้ยินแบบนั้นก็หวั่นไหวขึ้นมา เธอมองไปที่หวังเย่าด้วยสีหน้าคาดหวัง

หวังเย่าจึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น  “ผมอยากได้มัน แต่ลุงเฉี่ยนคงมีภรรยาและลูกสาวอยู่สินะ”

เฉี่ยนเจินเฉียนพยักหน้า  “งั้นเอาไปคนละครึ่งก็แล้วกัน”

จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่เหล็กสีดำทองด้วยสีหน้าตื่นเต้นและพูดขึ้น  “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด มันน่าจะเป็นเหล็กทองทมิฬ มันคือเหล็กที่แข็งและหนักที่สุด มันคือวัสดุชั้นดี แต่ฉันฝึกทักษะพายุสังหารมา ดังนั้นจึงใช้ของหนักแบบนี้ไม่ได้”

หวังเย่าจึงพูดขึ้นทันที  “งั้นเหล็กทองทมิฬนี่เป็นของผม”

เขาคิดสักพักแล้วพูดต่อ  “ลุงเฉี่ยน เกล็ดมังกรนี่ผมต้องการมันส่วนหนึ่ง ผมจะใช้มันทำเกราะ ส่วนหญ้ามังกรผมก็ต้องใช้มัน”

หวังเย่าไม่ได้ต้องการอะไรมาก เขาได้มาไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด หญ้ามังกรและดอกไม้โลหิตมังกรเพลิงถือว่าเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ หากเทียบกับสมบัติอื่นๆแล้ว มันแทบไม่มีค่าให้พูดถึง

“ก็ได้ ตกลงตามนี้”  เฉี่ยนเจินเฉียนเห็นด้วย

หวังเย่าทำการแบ่งสมบัติของตัวเองออกมาโดยมีดอกไม้โลหิตมังกรเพลิง 3 ดอก, หญ้ามังกร 5 ต้น, เหล็กทองทมิฬ, นมดินครึ่งถังและเกล็ดมังกรส่วนหนึ่ง

เฉี่ยนเจินเฉียนได้แบ่งเอาสมบัติจากสามคนที่เหลือมา 80 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าสมบัติที่พวกนั้นเก็บมาจะน้อย และได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่หากเปลี่ยนเป็นเครดิตแล้วก็ยังได้หลายแสนเครดิต

หลังจากที่แบ่งสมบัติกันแล้ว เฉี่ยนเจินเฉียนก็ลุกขึ้นและพูดว่า  “หวังเย่า ฉันขอตัวก่อน นายอย่าลืมติดต่อฉันมาด้วย”  เมื่อพูดจบ เขาก็ส่งนามบัตรให้กับหวังเย่าทันที

หวังเย่ารับมันไว้ก่อนจะเดินไปส่งเฉี่ยนเจินเฉียนที่ปากถ้ำ ก่อนที่อีกฝ่ายจะบินออกไป

“หัวหน้า เราจะทำยังไงกันต่อ ? ”  พี่หลงถามขึ้นมา

หวังเย่าคิด แม้ว่าเขาจะรับสามคนนี้มาเป็นลูกน้อง แต่เขาคิดว่าเขาจะดูแลพวกนี้เหมือนเป็นพี่น้อง เขาไม่คิดจะเอาเปรียบอีกฝ่าย สำหรับว่าจะจัดการกับพวกนี้ยังไงนั้นเขายังคิดไม่ออก ดังนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า  “เราจะทำตามที่เราตกลงกันไว้ เมื่อฉันต้องการพวกนายเมื่อไหร่ ก็ให้พวกนายมาช่วยฉัน”

พี่หลงและคนอื่น ๆ พยักหน้าทันทีก่อนจะทำการแลกเบอร์ติดต่อกันไว้

จากนั้นทั้งสามก็ได้แยกตัวออกไป พวกนั้นตัดสินใจจะออกไปเสี่ยงโชคอีกครั้งด้วยการล่าสัตว์อสูรแถว ๆ นั้นต่อ

เมื่อเห็นทุกคนจากไป เหลือแค่หวังเย่าและฟ่านฉิงเหมยบรรยากาศก็ผ่อนคลายขึ้นมา

“ฉิงฉิง โชคดีที่ฉันได้ดอกไม้โลหิตมังกรเพลิงมา”  หวังเย่าเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ฟ่านฉิงเหมย ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

ฟ่านฉิงเหมยพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น  “ฉันเห็นแล้ว หวังเย่า นายนี่เก่งจริง ๆ นายรู้จักผู้ตรวจสอบ 4 ดาวด้วยและยังได้ลูกน้องมาอีก 3 คน รวมถึงสมบัติพวกนี้ด้วย”

หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะโอบเธอและพูดขึ้น  “ฉันโชคดีไง ฉันถึงได้แฟนสวยถึง 2 คน ฉิงฉิง เธอสบายใจได้ ถ้าเธออยู่กับฉัน ฉันจะดูแลเธออย่างดี”

“น่าเกลียด นายเอามือสกปรกของนายออกไปให้พ้นเลย”  ฟ่านฉิงเหมยหยิกไปที่เอวของหวังเย่า

“ไปกันเถอะ มังกรเพลิงอาจจะฝ่าออกมา เราได้สมบัติมาเยอะ ได้เวลากลับเมืองแล้ว เราจะกลับไปฉลองปีใหม่กันสองคน ฟังดูไม่เลวใช่ไหม ? ”  หวังเย่าพูดขึ้น

“ฟังนายพูดเข้าสิ”  ฟ่านฉิงเหมยยิ้มหวานออกมา

….

ทั้งสองคนได้ขี่เสี่ยวไป๋กลับมาที่เมืองหัวเซี่ย ม้านี่สามารถเดินทางได้ 3,000 ไมล์ต่อวัน แต่เพื่อรักษาพลังของมันให้พร้อมที่สุด ระหว่างทางพวกเขาจึงต้องพักกัน 2 รอบ

จากมิติไฟมาถึงเมืองหัวเซี่ยนั้นห่างกัน 2,000 ไมล์ ดังนั้นในบ่ายวันต่อมา หวังเย่าและฟ่านฉิงเหมยก็กลับมาถึงเมือง

“กลับไปซื้อเห็ดเลือดม่วงกันก่อน”

ไม่ไกลจากประตูเมืองนั้นมีโถงเมืองซึ่งคอยขายของใช้ต่าง ๆ อยู่ ดังนั้นของที่นั่นจึงมีราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ว่าอยากจะซื้ออะไรก็สามารถกรอกข้อมูลลงบนจอของห้องโถงได้ แต่วิธีนี้อาจจะต้องเสียเงินค่าโฆษณาสักหน่อย

ตอนที่หวังเย่าเข้าไปและเดินดูกว่าสองรอบ เขาก็เข้าใจวิธีการทำงานของตลาดที่นี่ทันที

“ไปที่ร้านศตล้ำค่ากัน”  ชัดแล้วว่าฟ่านเฉิงเหมยไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก เธอจูงมือหวังเย่าไปยังร้านขนาดใหญ่ทันที

เมื่อทั้งสองคนเข้าไปในร้านก็มีพนักงานเข้ามาต้อนรับทันที  “ต้องการอะไรบอกฉันได้เลย”

ฟ่านฉิงเหมยจึงถามขึ้น  “ที่นี่มีเห็ดเลือดม่วงรึเปล่า ? ”  เธอถามด้วยท่าทีไม่มั่นใจ เพราะยังไงซะเห็ดเลือดม่วงก็มีในมิติมืด มันไม่ใช่ของมีค่าอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่มั่นใจว่าพวกพ่อค้าและทหารจะเก็บมันมารึไม่

พนักงานยิ้มและพูดขึ้นมา  “คุณผู้หญิงนี่โชคดีจริง ๆ เมื่อวานนี้ร้านเราเพิ่งจะซื้อเห็ดเลือดม่วงมา ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการเท่าไหร่ ? ”

ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้นมา  “เอามาทั้งหมดเลย ราคาต้องสมเหตุสมผลด้วย”

“แน่นอน เราน่ะเป็นร้านที่มีประวัติที่ดี คุณสบายใจได้”  ตอนที่เขาพูดนั้นเขาก็ให้ลูกน้องสองคนลงไปที่ชั้นล่างเพื่อเอาสินค้ามาให้ฟ่านฉิงเหมย

5 นาทีต่อมาพนักงานก็ได้ส่งถุงมิติถุงหนึ่งให้กับฟ่านฉิงเหมยและพูดขึ้น  “มีเห็ดเลือดม่วง 500 กิโลกรัม ด้านใน มันมีประมาณ 50 ต้น ราคาอยู่ที่ 130,000 เครดิต”

ฟ่านฉิงเหมยรับถุงมิติมาก่อนจะจ่ายเงินให้กับอีกฝ่าย

“ตอนนี้เราได้ดอกไม้โลหิตมังกรเพลิงกับเห็ดเลือดม่วงมาแล้ว นายทำให้มันวิวัฒนาการได้จริง ๆ หรือ ? ”  ฟ่านฉิงเหมย มองไปที่หวังเย่า

“แน่นอน เธอสบายใจได้ กลับไปแล้วฉันจะวิวัฒนาการมันให้ อย่าลืมว่าเธอต้องให้รางวัลฉันด้วย”  หวังเย่าพูดขึ้น

“ฉันเป็นแฟนนาย นายยังคิดจะเอารางวัลจากฉันอีกหรือ ? นายนี่โลภมากจริง ๆ ”  ฟ่านฉิงเหมยกลอกตาใส่

“ฮ่าฮ่า มันต้องมีอะไรตอบแทนสิ ถึงเธอจะเป็นแฟนฉันแต่งานนี้ก็ต้องใช้แรง”  หวังเย่าจะทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ได้ยังไง

เมื่อออกมาจากตลาดแล้ว หวังเย่าก็ได้เอามอเตอร์ไซค์ออกมาจากกระเป๋ามิติ

“หวังเย่า นายจะทำอะไร ? ”  ฟ่านฉิงเหมยถามด้วยความสับสน

“ขับพาเธอไปส่งบ้านสิ ฉันว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้ใกล้ชิดกัน เธอไม่ชอบรึไง ? ”  หวังเย่าถามขึ้นมา

“ไปคนเดียวเลยไป หนาวแบบนี้ใครจะขี่มอเตอร์ไซค์กัน”  ฟ่านฉิงเหมยได้ดึงเอารถออฟโรดสองที่นั่งออกมาจากกระเป๋ามิติและพูดขึ้น  “ขับรถฉันไปดีกว่า”