ตอนที่ 119 : สำรวจ
****
สายพันธุ์ : อนาคอนดามังกรน้ำโลหิต
ระดับ : ทองขั้นสูง
เลเวล : 52
สกิล : 1. กลืนกิน อ้าปากพ่นกระแสลมออกมาเพื่อดูดเหยื่อเข้ามากลืนกิน, 2. รัด ใช้ลำตัวที่หนักและรวดเร็วของมันบดขยี้ทุกอย่าง, 3. เพิ่มพลัง เผาไหม้เลือดเพื่อเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ขึ้นเป็นสองเท่า, 4. สั่งการ สามารถสั่งงูรอบ ๆ สู้แทนมันได้
จุดอ่อน : ในป่านี้ เมื่อเผชิญหน้ากับเหยื่อตัวเล็กแล้ว ร่างกายของมันคงจะดูไม่เหมาะสมที่จะสู้เท่าไหร่
****
หวังเย่าแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา ไม่คิดเลยว่าสัตว์อสูรตัวนี้จะมีสายเลือดมังกรน้ำอยู่ด้วย อาจจะบอกได้ว่ามันคือลูกหลานของมังกรน้ำ [ มังกรน้ำหรือเจียว คือมังกรเขาเดียว ]
ในเส้นทางการวิวัฒนาการนั้น งูสามารถวิวัฒนาการเป็นมังกรน้ำได้ ส่วนมังกรน้ำก็วิวัฒนาการเป็นมังกร [ มังกรหรือหลง เป็นมังกรสองเขา ] ซึ่งมังกรน้ำไม่ได้อ่อนแอไปกว่ามังกรเพลิงเลย มันเป็นสัตว์อสูรชนิดเดียวกัน มังกรน้ำสามารถบินบนฟ้าได้ แต่บางคนก็คิดว่ามังกรน้ำนั้นแข็งแกร่งกว่ามังกรเพลิง
หวังเย่าอึ้ง ตอนแรกเขาได้เห็นลูกหลานของกิเลน กิเลนไฟกลายพันธุ์ ต่อมาก็ยังมาเห็นลูกหลานของมังกรน้ำอีก นี่คือสัตว์ในตำนานของจีน กิเลนและมังกรน้ำต่างก็เป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่
“การ์ฟิลด์ ไปกันเถอะ” หวังเย่าไม่คิดจะจัดการกับงูนี่ เขาแค่ถ่ายรูปมันเอาไว้ก่อนจะรีบบินหนีออกมา
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อาจจะเอาชนะมันได้ อันที่จริงหวังเย่ามั่นใจกว่า 80 เปอร์เซ็นว่าจะเอาชนะมันได้ แต่เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อฆ่างูนี่ แต่เป็นการสำรวจมิติลับ ดังนั้นเวลาคือสิ่งสำคัญ
การ์ฟิลด์มีสกิลในการบินสูงจากพื้นไป 100 เมตรได้อย่างง่าย ๆ มันกระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ก่อนจะทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่องูเห็นแบบนั้นก็ได้แต่มองตาม แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้
“มิติเทือกเขาหินโม่แห่งนี้อยู่ระดับ 3 ดาว สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่น่าจะเป็นระดับราชา แต่ไม่คิดเลยว่าจะมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิอยู่ ดังนั้นที่นี่ไม่อาจจะดูถูกได้”
หวังเย่าอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงมีสัตว์อสูรระดับนี้อยู่ที่นี่ ? เพราะภูมิประเทศของที่นี่พิเศษงั้นหรือ ?
มันจะมีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิอยู่ที่นี่อีกรึเปล่า ?
คำถามนี้เขายังตอบไม่ได้ เขาได้แต่ต้องสำรวจต่อไป ถึงจะค้นพบความลับของที่นี่
“นี่มันอะไร ? ” ที่ต้นไม้ตรงหน้านั้นมีดอกไม้งอกออกมาเป็นจำนวนมาก มันมีกิ่งเกสรที่ดูคล้ายกับร่มขนาดใหญ่
นี่คือสิ่งมีชีวิตพิเศษ หวังเย่าจึงสามารถตรวจสอบมันด้วยระบบได้
****
สายพันธุ์ : อสูรดอกไม้
ระดับ : ทองขั้นต้น
เลเวล : 1-39
สกิล : 1. สูบ สูบพลังเพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเอง, 2. ฝัง เมื่อเกสรตกลงไปยังสิ่งมีชีวิตอื่น มันจะทำการฝังตัวและสูบพลังของอีกฝ่ายจนมีดอกไม้งอกออกมา, 3. กำยานพิษ ดอกไม้จะปล่อยกำยานพิษออกมา เมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้สับสนและเสียสติรึอาจจะเป็นบ้าได้
****
“มันมีของแบบนี้อยู่ด้วยหรือ” หวังเย่ารีบกลั้นหายใจทันที เพราะเขาเพิ่งจะสูดดมกลิ่นของมันเข้าไป โชคดีที่เขารู้ตัวเร็ว เขาดมกลิ่นไปแค่ 2 ครั้งจึงติดพิษไม่ได้หนักหนาอะไร
เขาเปิดการทำงานของหน้ากากก่อนจะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปมันไว้พร้อมกับเก็บตัวอย่างดอกไม้นี้ใส่ในกล่อง
ไม่คิดเลยว่าอสูรดอกไม้กลับซ่อนตัวอยู่ในต้นไม้ มันโผล่ออกมาแค่ตัวดอกไม้เท่านั้น
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ต้นไม้ ต้นไม้นี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย ต้นไม้นี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เพราะตอนนี้มันราวกับต้นไม้ที่ตายไปแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้นหวังเย่าก็ยิ่งมั่นใจว่าจะต้องเอาดอกไม้นี่กลับไปศึกษาให้ได้ เขาดึงมีดทมิฬออกมาก่อนจะปักเข้าไปที่ตัวต้นไม้
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ดึงอสูรดอกไม้ออกมาจากต้นไม้ได้ จากนั้นหวังเย่าก็พบกับรากของอสูรดอกไม้ เขารีบใช้มีดตัดมันออกทันที
เขาอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น โชคดีที่เขาใส่ถุงมือมาด้วย ไม่งั้นแล้วตัวเขาคงโดนเกสรของมันไปแล้ว
เขาคิดภาพตอนที่ดอกไม้งอกออกมาจากตัวเขา รากของต้นไม้นั้นราวกับตะขอที่คมกริบ ถ้าดึงมันออกมา กล้ามเนื้อคงโดนเกี่ยวออกมาด้วยแน่ มันจะเจ็บแค่ไหน
หลังจากที่ได้อสูรดอกไม้มา หวังเย่าก็ทำการเดินหน้าต่อ
ตลอดทั้งวันเขาเดินทางได้กว่า 100 ไมล์
ระหว่างการเดินทางเขาในวันนี้ได้เจอกับอนาคอนดามังกรน้ำโลหิต, อสูรดอกไม้, แมงมุมสามตา, นกสองสีและสัตว์อสูรรูปร่างประหลาดมากมาย
นอกจากนี้แล้วเขาก็ยังเห็นตัวมอดกินไม้ที่ไม่มีปีก มันคล้ายกับดักแด้
แต่มันสามารถปล่อยสายฟ้าออกมาได้ จากนั้นมันก็จะเปลี่ยนร่างกลายเป็นหนอนตัวใหญ่
หวังเย่ามองไปที่หนอนสายฟ้าและรู้สึกอึ้งกับมัน
สิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือหนอนนี่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่กลับมีเป็นกลุ่ม มันมีขนาดเท่ากับกำปั้นและอยู่รวมกันเป็นพัน ๆ ตัว ถ้าพวกมันทุกตัวร่วมมือกันแล้ว เหยื่อคงตายด้วยสายฟ้าแน่ ๆ
ไม่ว่าพวกนี้จะไปที่ไหนก็จะมีร่องรอยของตอตะโกเนื่องจากโดนไหม้เพราะสายฟ้า
แม้ว่าหนอนพวกนี้จะเลเวลแค่ 20 และไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนักแต่วิธีการโจมตีของมันก็โดดเด่น
ทันทีที่หวังเย่าเห็นพวกมัน เขาก็รีบหนีทันทีเพราะจำนวนที่มากของพวกมัน
จุดอ่อนของหนอนนี้ถูกชดเชยด้วยจำนวนของพวกมัน
หนอนระดับลอร์ดสามารถสั่งการหนอนเหล่านี้ได้ และพวกมันจะลงมือราวกับถูกควบคุม
เอาง่าย ๆ คือถ้าไปหาเรื่องมันก็คงโดนโจมตีเป็นแน่
เมื่อหนอนสายฟ้าระดับลอร์ดเจอเหยื่อ พวกมันจะเคลื่อนที่ ก่อนที่หนอนระดับลอร์ดจะสั่งการให้กลุ่มหนอนปล่อยสายฟ้าออกมา และสั่งการให้เดินหน้าอีกครั้ง
การโจมตีแบบนี้จะทำให้ร่างกายหยุดทำงาน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหวังเย่าต้องหนี
“มิตินี่อยู่ระดับ 3 ดาว เราต้องทำการสำรวจที่นี่” หวังเย่าส่ายหน้า
เขารู้ว่าผู้ตรวจสอบ 1 ดาวนั้นได้ทำการสำรวจมิติแห่งนี้ไปมากแล้ว แต่จากตอนที่สำรวจจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมา 3 ปีแล้ว มันยังมีบางอย่างที่ยังไม่อาจจะทำความเข้าใจมิตินี้ได้
บางคนบอกว่างูพิษที่นี่เยอะเกินไป
บางคนบอกว่าป่าที่นี่ดูซับซ้อน
บางคนบอกว่าสัตว์อสูรที่นี่ประหลาดเกินไป
บางคนบอกว่าที่นี้อันตรายไม่ใช่น้อย
หวังเย่าทำการสำรวจแทบทั้งวัน ความลึกลับของที่นี่นั้นเขาได้ทำความเข้าใจมาก่อนแล้ว อันที่จริงข้อมูลที่เขาได้มาจากอินเตอร์เน็ตนั้นก็ถูกต้องแล้ว
ดังนั้นมิติเทือกเขาหินโม่แห่งนี้จึงถือว่าเป็นมิติลับที่อันตรายและลึกลับซับซ้อน
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องทำการสำรวจที่นี่ให้หมด” หวังเย่ากัดฟันแน่นและพึมพำออกมา