ตอนที่ 277 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (1) / ตอนที่ 278 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 277 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (1)

สายตาของเฟิงหรูชิงค่อยๆ เคลื่อนไปมองที่ย่ามสัมภาระที่อยู่ใมมือถังอิ่น

ทันใดนั้น ก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นที่ริมฝีปากของนาง

“อืม ไว้ข้าดูว่าเจ้าจะจ่ายค่าเช่าบ้านเท่าไร แล้วข้าจะตัดสินใจอีกที”

ขอแค่มีเงิน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็คุยกันได้

แต่ต้องขอคิดพิจารณาดูก่อน

“เฮอะๆ”

ชายวัยกลางคนกระอักเลือดไม่หยุด ใบหน้าของเขาซีด เสียงหัวเราะที่ทุ้มต่ำและดูชั่วร้ายนั้นดังแว่วไปในป่าลึก

“ก่อนหน้านี้ ข้าได้บอกกับคนในจวนเฟิงอวิ๋นคนอื่นๆ ที่อยู่ละแวกนี้ไว้แล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็จะมาที่นี่ ถึงตอนนั้นพวกเจ้าอย่าคิดว่าจะหนีไปได้แม้เพียงสักคน ฮ่าๆๆ !”

ต่อให้เขาต้องตาย เขาก็ไม่มีทางปล่อยคนพวกนี้ไป!

เฟิงหรูชิงหยีตา สังเกตดูชายวัยกลางคนด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “ที่แท้คนของจวนเฟิงอวิ๋นส่งพวกไม่เอาไหนอย่างเจ้ามาเป็นหินถามทาง จากนั้นค่อยส่งยอดฝีมือมา? ชิชะ ดูท่าคนของจวนเฟิงอวิ๋นไม่เห็นจะเอาไหน”

“เจ้าพูดเพ้อเจ้ออะไรกัน” ชายวัยกลางคนโมโห “ก่อนหน้านี้ไม่นานพวกผู้อาวุโสของจวนเฟิงอวิ๋นกำลังเก็บตัวฝึกวิชาอยู่ เวลานี้กำลังความสามารถของข้าไม่ด้อยเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ในจวน เจ้ายังกล้าดูถูกข้าว่าเป็นพวกไม่เอาไหน! การจัดการคนอย่างพวกเจ้า ไม่จำเป็นต้องใช้ยอดฝีมือจากจวนเฟิงอวิ๋นหรอก! แค่คนอื่นๆ ก็เพียงพอแล้ว!

“อีกอย่าง คุณหนูของพวกข้าส่งข้าลุยเดี่ยวมาเพื่อฆ่าถังอิ่น! คนอื่นๆ ของจวนเฟิงอวิ๋นกระจายตัวอยู่ตามที่ต่างๆ แล้ว!

คำพูดของเขาเป็นเรื่องจริง

เดิมทีแค่คิดว่าจะจัดการถังอิ่นเพียงคนเดียว ไม่จำเป็นต้องส่งคนมาให้มากมาย แค่คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดอย่างเฟิงหรูชิง เมื่อถึงทางตัน เขาจึงใช้มือขยี้ยันต์สื่อสารของจวนเฟิงอวิ๋น เพื่อแจ้งให้คนของจวนเฟิงอวิ๋นที่อยู่ละแวกใกล้เคียงได้ทราบ

“ดูท่าคนของจวนเฟิงอวิ๋นที่จะมา คงไม่เก่งไปกว่าเจ้า แบบนี้ข้าก็สบายใจ” เฟิงหรูชิงยิ้ม

รอยยิ้มของนางช่างดูร้ายกาจและเลือดเย็น ทำให้ชายวัยกลางคนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น

ถึงแม้คนที่มาจะไม่เก่งไปกว่าเขา แต่ว่า…ตอนนี้เขายังไม่ตายนี่? ขอแค่คนพวกนั้นมาถึง รวมกับเขาด้วยอีกคน ก็คงเพียงพอที่จะรับมือกับคนเหล่านี้

“โฮก!”

เสือโคร่งโมโห มันส่งเสียงคำราม กรงเล็บของมันกดไหล่ของชายวัยกลางคนแน่น แล้วกัดลงไปอย่างแรง

ถ้าชายวัยกลางคนไม่พลิกหัวหลบโดยเร็ว คอของเขาคงขาดไปแล้ว แต่ถึงกระนั้น ไหล่ของเขาก็มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด นองเต็มพื้นไปหมด

ใบหน้าของเขาหงิกงอไปหมด เส้นเลือดปูดโปนเต้นตุบๆ

ล่วงเกินคนของจวนเฟิงอวิ๋น แถมยังแย่งผู้ชายของคุณหนู คนพวกนี้…ต้องตายสถานเดียว!

ในขณะนั้นเอง…

ที่บนท้องฟ้า ปรากฏกายคนจำนวนมากลอยอยู่ ราวกับสายลมที่พัดเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พริบตาเดียวก็ลงมาปรากฏตรงหน้าของคนทั้งหลาย

คนพวกนั้นใส่ชุดสีเขียวเหมือนกันทุกคน ที่เอวห้อยป้ายหยกรูปเมฆเอาไว้ สีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์

“ฮ่าๆๆ ในที่สุดคนของข้าก็มาแล้ว” ความกลัวของชายวัยกลางคนก่อนหน้านี้กลับกลายเป็นรอยยิ้มที่แสดงถึงความโอหัง “พวกเรา ฆ่าคนพวกนี้ให้หมด!”

คิดว่ามีสัตว์วิเศษระดับห้าแล้วจะทำอะไรได้หรือ

คนของพวกข้าเยอะขนาดนี้ แค่สัตว์วิเศษระดับห้าตัวเดียว จะคุ้มกันพวกเจ้าที่มีกันหลายคนไหวหรือ!

กลุ่มคนของจวนเฟิงอวิ๋นที่มาคราวนี้ ที่เก่งที่สุดก็แค่ฌานระดับหลิงอู่ แต่ก็เป็นดังที่ชายวัยกลางคนพูด พวกเขามีคนเยอะกว่า

ด้วยกำลังความสามารถของเสือโคร่งแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลัวคนพวกนี้เลย แต่เพราะพวกเขามีกันหลายคน เสือโคร่งไม่อาจคุ้มกันคนของมันที่อยู่ตรงนั้นได้ทั้งหมด

ตอนที่ 278 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (2)

“นายท่าน”

ถังจือเดินเข้าไปขวางหน้าเฟิงหรูชิงเอาไว้ สายตาของนางจับจ้องไปที่คนที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าเต็มไปหมด นัยน์ตาของนางดูไร้อารมณ์

คนอื่นๆ ก็ตรงเข้ามา โอบล้อมป้องกันเฟิงหรูชิงเอาไว้

ในตอนนั้น ทุกคนดูฮึกเหิมราวกับคลื่นยักษ์ที่โถมกระหน่ำ

การแช่น้ำพุวิเศษหลายเดือนทำให้ถังจือไม่เพียงแต่มีกำลังความสามารถที่มั่นคงหนักแน่น แต่ยังบรรลุถึงฌานขั้นกลางของระดับหลิงอู่ ส่วนหลิงอวิ้นก็ทะลุผ่านระดับเจินอู่มาอยู่ที่ระดับหลิงอู่ได้สำเร็จ

นอกจากพวกนางสองคน ทหารทั้งหลายของเทพเลือดเหล็กต่างทยอยบรรลุฌานขั้นสูงของระดับเจินอู่ อีกนิดเดียวก็ไปถึงขั้นหลิงอู่ได้แล้ว

ถังอิ่นตัวสั่นเทา แววตาตกตะลึง

นางได้ฟังคนในสกุลถังเล่าว่า ในโลกปุถุชนไม่ค่อยมีสิ่งวิเศษ และไม่มีที่เป็นศูนย์รวมสำหรับผู้บำเพ็ญฌาน ดังนั้นการจะบรรลุฌานระดับหลิงอู่เป็นไปได้ยากเหลือเกิน ผู้มีฌานระดับหลิงอู่ของแต่ละแคว้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

แต่เฟิงหรูชิงที่เป็นองค์หญิง กลับมีผู้มีฌานระดับหลิงอู่คอยอารักขา แล้วยังมีสัตว์วิเศษระดับห้าด้วยอีกหนึ่งตัว

เป็นใครกันนะที่บอกนาง…ว่าการบรรลุขั้นหลิงอู่ในโลกปุถุชนเป็นเรื่องยาก สายตาของถังอิ่นมองไปที่ฉินเฉินซึ่งแผ่ซ่านด้วยรังสีอำมหิตอีกครั้ง แววตาของนางมีประกายที่ยากจะอธิบาย

ดูเหมือนว่ากำลังความสามารถของชายหนุ่มคนนี้…มีมากกว่าทหารของทัพเลือดเหล็กทุกคน!

ต่อไปใครกล้ามาบอกนางว่าโลกปุถุชนไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ นางจะบีบคอให้ตาย!

“เจ้าแน่ใจหรือ…ว่าจะวัดกำลังคนกับข้า…ในป่าที่อยู่ของสัตว์วิเศษนี่” เฟิงหรูชิงโบกมือห้ามเสือโคร่งเอาไว้ แล้วมองชายวัยกลางคนด้วยสายตานิ่งๆ

นางให้โอกาสเขาหลายครั้งแล้ว ดูท่าจะตายดีๆ ไม่ชอบ อยากตายแบบศพกระจุยเป็นผุยผง

“เฮอะๆ” ชายวัยกลางคนบ้วนเลือดออกจากปาก “เจ้าคิดว่าลูกน้องพวกนี้จะปกป้องเจ้าได้หรืออย่างไร คนของข้าสิบกว่าคนล้วนมีฌานระดับหลิงอู่ขั้นสูง ส่วนคนอื่นๆ ล้วนมีฌานระดับหลิงอู่ทุกคน!”

เฟิงหรูชิงถอนหายใจ ถ้าเจ้าตามมาหาเรื่องข้าตอนอยู่ที่อื่น บางทีข้าอาจต้องใช้เวลาในการจัดการกับคนพวกนี้บ้าง แต่ทำไมเจ้าถึงมาหาเรื่องข้าในป่าแห่งสัตว์วิเศษนะ”

ชายวัยกลางคนรู้สึกงวยงง ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เฟิงหรูชิงพูดหมายถึงสิ่งใด

เฟิงหรูชิงไม่สนใจชายวัยกลางคน นางหยิบโต๊ะออกมาจากอีกมิติหนึ่ง แล้วเอาผลเทียนหลิงกั่ววางเรียงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ

จู่ๆ ลูกตาของหมาป่าสีขาวก็เบิกโพลง นี่เจ้านายพกผลเทียนหลิงกั่วมามากมายขนาดนี้เชียวหรือ ทำไมไม่ยอมบอกมัน มันไม่ได้ลิ้มรสผลเทียนหลิงกั่วมานานมากแล้ว

“เจ้าเสือโคร่ง เจ้าไม่ต้องสนใจเขา เจ้าช่วยข้าเรียกสัตว์วิเศษที่ต่ำกว่าระดับห้ามาให้หมด ฆ่าศัตรูได้คนหนึ่งเอาผลเทียนหลิงกั่วไปสิบลูก ยิ่งฆ่าได้เยอะมากเท่าใด ก็เอาไปเยอะเท่านั้น

จะหาเรื่องที่ไหนไม่ดูให้ดีๆ ดันมาหาเรื่องที่ป่าแห่งสัตว์วิเศษนี่

“โฮก!”

เสือโคร่งปล่อยตัวชายวัยกลางคน มันส่งเสียงคำรามกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน เสียงของมันดังสนั่นไปทั่วทั้งป่าแห่งสัตว์วิเศษ ดังต่อเนื่องเป็นสาย

สำหรับสัตว์วิเศษแล้ว การกดขี่ทางชนชั้นเป็นปกติ หากเป็นสัตว์วิเศษระดับห้าลงไป เมื่อได้ยินเสียงคำรามของเสือโคร่งแบบนี้ พวกมันก็จะรีบมา แต่ถ้าเป็นสัตว์วิเศษที่สูงกว่าระดับห้าขึ้นไป คงไม่มีตัวไหนที่ใส่ใจเสียงของเสือโคร่ง

ดังนั้น เฟิงหรูชิงจึงให้มันเรียกสัตว์วิเศษที่ต่ำกว่าระดับห้ามาให้หมด

ชายวัยกลางคนอึ้ง ในระหว่างที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น ไม่ไกลออกไปมีฝุ่นฟุ้งตลบอบอวล สัตว์วิเศษจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนร้องส่งเสียงสนั่น พุ่งตรงมาจากม่านฝุ่นวิ่งเข้าไปหากลุ่มคนจากจวนเฟิงอวิ๋นอย่างรวดเร็ว

คนของจวนเฟิงอวิ๋นตกใจ สัตว์วิเศษมีความดุร้ายมากพอแล้ว นี่ยังมากันเป็นฝูง หากพวกเขาดึงดันจะสู้ ดูแล้วไม่มีทางชนะเลย

ดังนั้นยังไม่ทันเริ่มสู้ คนของจวนเฟิงอวิ๋นต่างมีความคิดว่าจะถอยหนี