ตอนที่ 279 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (3) / ตอนที่ 280 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (4)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 279 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (3)

“แย่แล้ว”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนด้วยความกระวนกระวายออกมา เมื่อเห็นเสือแดงตัวหนึ่งวิ่งนำเข้ามา

กรงเล็บของมันคมกริบ ทันใดนั้น หน้าของเขาก็โดนตะปบจนยับเยิน เลือดสาดกระเด็น

สัตว์วิเศษตัวอื่นๆ ก็พุ่งเข้ามาตรงหน้า เมื่อเทียบกับฝูงสัตว์วิเศษพวกนี้ คนของจวนเฟิงอวิ๋นดูน้อยไปทันที

ชายวัยกลางคนเห็นคนของจวนเฟิงอวิ๋นถูกสัตว์วิเศษโจมตี พวกเขากลายเป็นคนที่ดูไร้น้ำยา ชายวัยกลางคนงงเป็นไก่ตาแตก คิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้

“เจ้า เจ้าเป็นใครกันแน่” เขาแหงนหน้ามองเฟิงหรูชิง แววตาสงสัย กัดฟันพูดถาม

นางหยิบผลเทียนหลิงกั่วออกมาเพิ่ม พวกสัตว์วิเศษต่างเชื่อฟังนาง

ดูเหมือนว่าป่าแห่งสัตว์วิเศษได้กลายเป็นถิ่นของนางเสียแล้ว

เฟิงหรูชิงไม่ตอบสิ่งที่ชายวัยกลางคนถาม

นางหันหลังให้คนพวกนั้น แววตาดูไร้อารมณ์

นางไม่ใช่คนเย็นชา ไม่ใช่คนที่มองชีวิตคนเป็นแค่ผักปลา แต่นางรู้ดีว่า หากคนเหล่านี้ไม่ตาย คนที่ต้องตายต้องเป็นนางแน่ และอาจเดือดร้อนไปถึงคนในครอบครัวของนางด้วย

“ข้าผิดไปแล้ว ตอนนี้ข้าสำนึกแล้วจริงๆ เจ้าให้เสือโคร่งปล่อยข้าเถอะ ให้สัตว์วิเศษพวกนั้นกลับไป โอ้ย!” ชายวัยกลางคนกรีดร้องเสียงดัง น้ำเสียงเต็มได้ด้วยความหวาดกลัว

เฟิงหรูชิงค่อยๆ หมุนตัว นัยน์ตาสีดำที่ดูสงบจ้องมองไปยังชายวัยกลางคนที่เลือดอาบเต็มตัว

“ข้าเคยได้ยินชื่อของจวนเฟิงอวิ๋น ในโลกสันโดษ ถือว่ามีฐานะใหญ่โต แต่ที่ข้าเห็น คนชอบรังแกคนอ่อนแอและยอมศิโรราบคนมีอำนาจอย่างเจ้า เข้าไปอยู่ในจวนเฟิงอวิ๋นได้อย่างไร”

โลกสันโดษกับโลกปุถุชนแม้เป็นดูจะเป็นคนละโลก แต่ในโลกสันโดษก็มีชื่อของโลกปุถุชนอยู่ เพียงแต่จะไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของโลกปุถุชน ไม่ออกหน้าแทนคนจากโลกปุถุชน และไม่รู้ถึงอิทธิพลของตระกูลคนเหล่านั้น

ชายวัยกลางคนตัวแข็งทื่อ

ชายวัยกลางคนกำหมัดแน่น แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ด้วยกำลังความสามารถที่เขามี แม้ไม่อาจกลายเป็นผู้นำชั้นสูงได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้เข้าไปฝึกฝนที่นั่น

แต่เพราะเขาเป็นคนขี้ขลาด ทั้งยังชอบรังแกคนอ่อนแอและยอมศิโรราบคนมีอำนาจ เขาจึงเกือบถูกขับออกจากจวนเฟิงอวิ๋นมาแล้วหลายรอบ

ครั้งนี้ เขากอดแข้งกอดขาประจบเอาใจคุณหนู ถึงได้กลายเป็นผู้พิทักษ์ของจวนเฟิงอวิ๋น! ไม่อย่างนั้นชาตินี้ทั้งชาติเขาคงต้องปากกัดตีนถีบหาเลี้ยงตัวเองอยู่ข้างนอก หรืออาจจะถูกขับไล่ออกจากจวน

แม้เขาจะรู้ว่าตัวเองเป็นคนนิสัยอย่างไร แต่ก็ไม่ชอบที่คนอื่นพูดมันออกมา!

ถ้ามันออกมาจากปากของคนอื่น ยิ่งทำให้เขารู้สึกอับอาย!

“ฮ่าๆ !” ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงดัง รอยยิ้มของเขาดูเหมือนคนบ้า “ในเมื่อเจ้าทำกับพวกข้าแบบนี้ ข้าก็ไม่มีทางเลือก”

แววตาอันร้ายกาจของเขา มองไปที่คนจากจวนเฟิงอวิ๋นคนอื่นๆ

คนเหล่านั้นที่เดิมพยายามต่อสู้สุดกำลังจู่ๆ ก็หยุดการต่อสู้ลง

“ลูกน้องของข้าเหวินเฟิง ไม่มีใครขี้ขลาดตาขาว ต่อให้พวกเขาต้องระเบิดตัวเองเป็นจุณ ก็ต้องทำให้พวกเจ้าได้รับบทเรียนให้ได้!” แววตาของเขาดูเหมือนข่มขู่ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่ดูชั่วร้าย

ทันใดนั้น คนของจวนเฟิงอวิ๋นต่างเข้าใจว่าเขาหมายความว่าอย่างไร

ผู้พิทักษ์เหวินจะให้พวกเขาระเบิดตัวเอง!

ทันทีที่ระเบิดตัวเอง ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

แต่…

นิสัยของผู้พิทักษ์เหวิน ใครๆ ต่างรู้ดี แต่คนของจวนเฟิงอวิ๋นต่างมีครอบครัวต้องดูแล ถ้าพวกเขาไม่ยอมระเบิดตัวเอง ต่อไปผู้พิทักษ์เหวินต้องฆ่าคนในครอบครัวของพวกเขาจนหมดแน่

นี่คือ…สิ่งที่เหวินเฟิงเคยขู่พวกเขา!

ดังนั้น คนของจวนเฟิงอวิ๋นทุกคนต่างหยุดแล้วยืนนิ่งๆ

ตอนนี้ทางเลือกของพวกเขามีเพียงอย่างเดียว…

คือการระเบิดตัวเอง!

การระเบิดตัวเองของผู้มีฌานระดับหลิงอู่จำนวนมากขนาดนี้ จะทำให้ป่าเขานี้ต้องแหลกเป็นจุณ!

แต่พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น

ตอนที่ 280 กล้าวัดกำลังคนในถิ่นของข้าหรือ (4)

ชั่วขณะนั้นเอง พลังอันรุนแรงได้พุ่งออกจากกายของคนจากจวนเฟิงอวิ๋น ทำให้อากาศร้อนผ่าวไปหมด

บึ้ม!

“ชิงชิง!” ดวงตาของฉินเฉินค่อยๆ แดงขึ้น เขากระโจนไปหาเฟิงหรูชิงโดยไม่สนอะไร

เขาดึงตัวเฟิงหรูชิงเข้ามาในอ้อมกอด กอดนางไว้แน่น และใช้แผ่นหลังของเขากั้นพลังระเบิดเหล่านั้นไว้

หากเป็นการระเบิดของคนคนเดียวคงไม่เท่าไร คงไม่ทำอันตรายรุนแรงนัก แต่การระเบิดพร้อมกันหลายๆ คน พลังแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะต้านทานไว้ได้

แต่เวลาผ่านมาสักครู่…ความรู้สึกเจ็บปวดก็ไม่เห็นเกิดขึ้นสักที

กายของฉินเฉินดูเกร็งๆ อยู่บ้าง เขาไม่กล้าปล่อยหญิงสาวออกจากอ้อมกอด ด้วยเกรงว่านางจะได้รับบาดเจ็บ

ต่อให้เป็นแค่รอยขีดข่วน ก็ยอมไม่ได้!

“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” เฟิงหรูชิงตบบ่าของฉินเฉินเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลมชายหนุ่ม

ท้องฟ้าที่สดใส หลังจากพลังระเบิดตัวเองกระจายออกไป ก็กลายเป็นฟ้าสีเทา

บริเวณโดยรอบฝุ่นตะลบอบอวน ทำให้ทุกคนมองสิ่งต่างๆ ได้ไม่ชัดเจนนัก

ถังอิ่นตาเบิกกว้าง แววตาของนางเต็มไปด้วยความตกตะลึง ราวกับว่ายังไม่ได้สติจากเหตุการณ์น่าตกใจเมื่อสักครู่ พลังจากการระเบิดตัวเองของผู้มีฌานระดับหลิงอู่จำนวนมากขนาดนี้ ด้วยกำลังความสามารถที่นางมี

ร่างกายของนางคงแหลกเป็นผุยผงแน่ๆ!

แต่นางกลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย!

โดยไม่รู้ตัว ถังอิ่นได้หันไปมองหญิงสาวที่ถูกฉินเฉินโอบไว้ในอ้อมกอด แววตาของนางมีความรู้สึกที่ยากอธิบาย เป็นนางใช่ไหม เมื่อครู่นี้เป็นนาง…ที่ช่วยนางไว้ใช่ไหม

“เฉินเอ๋อร์ ไม่เป็นไรแล้วจริงๆ มีข้าอยู่ ไม่มีทางเป็นอะไรได้!” เฟิงหรูชิงก้มหน้าลง นางยิ้มฝืดๆ

เจ้าหนุ่มนี่ยิ่งนับวันยิ่งคล้ายกับน้องชายเมื่อชาติก่อนของนางมาก ชาติก่อน เช่อเอ๋อร์ก็เหมือนกับเขา ไม่ว่าต้องเจอกับอันตรายอะไร ก็จะคอยปกป้องนางอย่างไม่คิดชีวิต

ฉินเฉินเชื่อที่เฟิงหรูชิงบอก เขาค่อยๆ ปล่อยนางออกจากอ้อมกอด เขาเม้มริมฝีปากแล้วหันไปมองซากศพที่แตกกระจายทางด้านหลัง

การระเบิดตัวเอง ที่แตกทำลายไม่เพียงแค่กายเนื้อเท่านั้น ยังรวมถึงจิตวิญญาณอีกด้วย!

เมื่อวิญญาณแตกทำลาย ก็ไม่มีโอกาสจะกลับไปเกิดใหม่ได้อีก มันสลายไปจากโลกใบนี้โดยสิ้นเชิง!

ดังนั้นจึงมีคนน้อยมาที่เลือกการระเบิดตัวเอง แต่คนของจวนเฟิงอวิ๋นเหล่านี้กลับ…

เมื่อฝุ่นควันค่อยๆ จางไป เฟิงหรูชิงตบไหล่ฉินเฉินเพื่อปลอบประโลม สายตาของนางมองดูไปที่ซากศพที่กระจัดกระจายเต็มพื้น

แต่ในซากศพทีเห็นนั้น กลับไม่มีผู้พิทักษ์จวนเฟิงอวิ๋นคนนั้น

นี่เขากล้าใช้ชีวิตของคนมากมายขนาดนี้ เพื่อหลบหนีอย่างนั้นหรือ!

“โฮ่กๆ”

เสื่อโคร่งใช้หัวของมันดุนขาของเฟิงหรูชิง แววตาของมันดูรู้สึกผิด

ถ้าหาก…ถ้าหากมันกัดไอ้สารเลวนั่นตายไปตั้งแต่แรกก็คงดี

แต่ไม่ว่าไอ้สารเลวนั่นจะเป็นอย่างไร มันก็เป็นถึงผู้มีฌานระดับเสวียนอู่ เสือโคร่งกัดมันขนาดนั้นแล้ว แถมคอก็โดนกัด แต่กลับไม่ตาย!

อีกอย่าง เสือโคร่งก็นึกไม่ถึงว่า มนุษย์คนนั้นจะใช้วิธีการแบบนี้ในการหลบหนี!

“ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก” เฟิงหรูชิงเอามือลูบหัวเสือโคร่ง

มันช่วยนางไว้มาก นางจะว่ามันได้ลงคอหรือ

เสือโคร่งกรอกลูกตา มันเดินเข้ามางับมือของเฟิงหรูชิงเบาๆ

“อู๊วๆ !” หมาป่าสีขาวโมโห ยายบ้านี่ กล้ากัดเจ้านายมันหรือ!

เฟิงหรูชิงยกมือขึ้นเพื่อปรามไม่ให้หมาป่าสีขาวทำอะไรหุนหันพลันแล่น นางมองไปที่เสือโคร่ง

“เจ้าอยากทำสัญญากับข้าหรือ”

เสือโคร่งผงกหัว

“เจ้าอยากอยู่ในป่าแห่งสัตว์วิเศษนี่ไม่ใช่หรือ”

เสือโคร่งผงกหัวต่อ

ตอนนี้เฟิงหรูชิงเข้าใจสิ่งที่เสือโคร่งคิด

“เจ้าจะบอกว่า เจ้าจะทำสัญญากับข้าไว้ก่อน แต่ตอนนี้ยังออกไปจากป่านี้ไม่ได้ใช่หรือไม่”

เสือโคร่งผงกหัวอย่างแรง

มันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องสะสาง ยังไปจากป่านี้ไม่ได้ แต่ว่านี่ไม่ใช่อุปสรรคของการทำสัญญา