ตอนที่ 136 ดูดเลือด

แม่สาวเข็มเงิน

ซุนต้าตงได้ยินเช่นนี้เขาก็ร้อนรนทันที แต่จากนั้นเขาก็ยืนบ่นอยู่ที่เดิม “พี่หู ข้าเรียกพี่ว่าพี่ แต่เหตุใดพี่ถึงได้ขี้งกเช่นนี้เล่า ? นี่เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของน้องชายพี่ ตอนนี้พี่กลับมาบอกว่าไม่มีเงิน ก็เท่ากับว่าเป็นการทำร้ายคน” พูดเสร็จ ลูกตาของซุนต้าตงก็หมุนไปมาเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เหมือนนึกอะไรได้ทำนองนั้น “หรือว่าที่ป๋ายเหล่าซานบอกไว้จะเป็นเรื่องจริง เขาบอกว่าพี่กับป๋ายรุ่ยฮัวมีอะไรที่ไม่ชัดเจนต่อกัน มิน่าล่ะ พี่ถึงไม่ยอมให้ข้ายืมเงิน”

ซุนต้าหูร้อนใจจนคอแดงไปหมดแล้ว “ต้าตง เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล ?! ข้ากับสะใภ้ตระกูลป๋ายเราบริสุทธ์ใจต่อกัน เจ้านี่… เจ้านี่มัน… ข้าไม่มีเงินเหลือแล้วจริง ๆ”

ทว่าซุนต้าตงกลับไม่ยอมฟัง สายตาของเขาไปหยุดที่รถล่อที่อยู่ข้างกายซุนต้าหู จากนั้นเขาก็ตาเป็นประกายทันที “ไอ้โย! พี่หู ข้าเกือบลืมไปแล้วว่าพี่ยังมีรถล่อนี่อีกไม่ใช่รึ ? ถึงแม้ว่าล่อนี่จะเป็นล่อแก่ แต่พี่เลี้ยงมันจนเงาวาวและอวบอ้วนแบบนี้ จะต้องขายได้ราคาดีอย่างแน่นอน หากว่าขายล่อตัวนี้ อย่าว่าแต่เงินห้าตำลึงเลย ต่อให้เป็นเงินสิบตำลึงก็ไม่ใช่ปัญหา แล้วยังสามารถช่วยสร้างบ้านใหม่ให้ข้าได้อีกด้วย”

ซุนต้าหูเผยความลำบากใจออกมาให้เห็นทางสีหน้า เขามองล่ออย่างลังเลสักครู่ “นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ข้าส่งต่อมาเพื่อไว้เลี้ยงชีวิต…”

ซุนต้าตงเห็นซุนต้าหูยังคงลังเล เขาก็ร้อนใจทันที “พี่หู พี่ยังเป็นพี่ชายข้าอยู่หรือไม่ ? ท่านอากับท่านน้าเสียไปเร็ว พี่ลืมแล้วหรือว่าใครกันที่ป้อนข้าวป้อนน้ำให้พี่ทีละคำ ? ก็แม่ข้าอย่างไรล่ะ! พี่อย่าทำตัวเป็นหมาป่าตาขาวเชียว”

ซุนต้าหูก้มหน้าอย่างละอายใจ เขามองล่อข้างกายอย่างลังเลด้วยสีหน้าต่อสู้ดิ้นรน “ต้องขายรถล่อจริง ๆ รึ…?”

ซุนต้าตงเห็นว่าตนเองสามารถพูดกล่อมซุนต้าหูได้  ดวงตาสีถั่วเหลืองของเขาก็ฉายแววความตื่นเต้นขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็ทำการปลุกปั่นซุนต้าหูต่อไป “พี่หู นี่เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตน้องชายพี่เลยนะ พี่ลองคิดดูสิว่าล่อมันสามารถซื้อได้อีก แต่ถ้าน้องชายพี่แต่งเมียไม่ได้ก็อาจจะเป็นโสดไปตลอดชีวิต พี่หู ข้าเรียกพี่ว่าพี่ พี่ก็ควรเป็นแบบอย่างของพี่ชายที่ดีสิ  อ๊ะ!”

ซุนต้าตงยังพูดไม่ทันจบคำ เขาก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าเวทนาเสียก่อน

เจียงป่าวชิงกอดกระดาษแล้วทุบลงไปบนตัวซุนต้าตงอย่างรุนแรง

“เจียงป่าวชิง ไอ้ปัญญาอ่อนเจ้าทำอะไรหา ?!” ซุนต้าตงตาแดงก่ำ เขาอยากเข้าไปฉีกเจียงป่าวชิงให้ร่างแหลกละเอียดจริง ๆ

ซุนต้าหูดึงซุนต้าตงไว้ทันที “เฮ้! ต้าตง เจ้าอย่าวู่วาม”

ซุนต้าตงสะบัดมือซุนต้าหูอย่างโหดเหี้ยม “พี่หู พี่จะมาขวางข้าทำไม ?! ข้าจะฆ่าไอ้ปัญญาอ่อนนี่”

ซุนต้าหูร้อนรนจนไม่รู้จะพูดกล่อมเขาอย่างไรดี

เจียงป่าวชิงส่งเสียงหัวเราะ “ฮ่า ๆ ๆ โย! ซุนต้าตงเจ้ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี เจ้ายังรู้หนิว่าพี่ต้าหูเป็นพี่ชายของเจ้า หากว่าไม่รู้ ข้ายังคิดว่าพี่ต้าหูเป็นพ่อเจ้าเสียอีก ไอ้คนไร้ประโยชน์ มีมือมีเท้าแต่ไม่ทำงาน เอาแต่ดูดเลือดคนอื่นเหมือนปลิงอยู่ได้ แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าคนอื่นเป็นหมาป่าตาขาวอีกนะ ?! …ตัวเองแต่งเมียแล้วมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้คนอื่นขายเครื่องทำมาหากินของเขาด้วย ทำไม ? ต่อไปเจ้าจะเลี้ยงดูพี่ต้าหูหรืออย่างไร ? ไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างเจ้าเลี้ยงตัวเองยังไม่ได้ การแต่งเมียกับมีลูกก็เป็นความหายนะของครอบครัวเจ้าเองนั่นแหละ!”

ซุนต้าหูไม่เคยเห็นเจียงป่าวชิงในด้านนี้มาก่อน เขาจึงตกตะลึงไปเล็กน้อย

ซุนต้าตงถูกไอ้ปัญญาอ่อนที่ตัวเองดูถูกอยู่ในใจมาตลอดชี้หน้าด่าว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ เขาจึงโกรธจนแทบจะระเบิดอยู่รอมร่อ

เจียงป่าวชิงก่นด่าเสียงสูง ประกอบกับเดิมทีน้ำเสียงของเด็กผู้หญิงก็ทั้งแหลมและสูงอยู่แล้ว มันจึงดึงดูดความสนใจของคนจำนวนมากในหมู่บ้าน พวกชาวบ้านจึงพากันชี้มาทางนี้ คล้ายกับกำลังหัวเราะเยาะซุนต้าตงทำนองนั้น

ซุนต้าตงอยากมุดเข้าไปใต้ดินให้รู้แล้วรู้รอด

และบังเอิญว่ามีนักเลงที่คลุกคลีอยู่กับซุนต้าตงในวันธรรมดาวิ่งมาทางนี้พอดี ไม่รู้ว่าเขาคนนั้นพูดอะไรที่ข้างหูซุนต้าตง สีหน้าของเขาถึงได้ตึงขึ้นถนัดตาเช่นนั้น จากนั้นเขาก็ไม่สนใจคำก่นด่าของเจียงป่าวชิง และเลือกที่จะมองซุนต้าหูแทน “พี่หู รีบให้ข้ายืมเงินเร็วเข้า ไม่อย่างนั้นแม่หม้ายตระกูลป๋ายจะถูกคนอื่นซื้อไปแล้วนะ!”

ซุนต้าหูในเวลานี้ราวกับตัดสินใจได้ในที่สุด เขาค่อย ๆ ส่ายหน้าไปมา “ต้าตง ป่าวชิงพูดถูก ปกติเจ้ายังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ต่อให้เป็นฝั่งเป็นฝาก็ตามที เจ้าเป็นอยู่แบบนี้เจ้าจะเลี้ยงดูครอบครัวได้หรือ ?”

สีหน้าของซุนต้าตงเปลี่ยนไปทันที สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนเป็นท่าทางเป็นโหดร้าย จากนั้นก็ถ่มน้ำลายลงบนพื้น “ซุนต้าหู ข้าดูเจ้าออกแล้ว ความสัมพันธ์พี่น้องอะไร เจ้ามันไอ้ขี้งกที่ไม่ยอมแม้แต่จะให้ข้ายืมเงิน ถุย!”

ซุนต้าตงยิ่งทำพฤติกรรมเช่นนี้ ซุนต้าหูก็ยิ่งรู้สึกผิดหวังกับซุนต้าตง

สุดท้าย ซุนต้าตงก็จากไปพร้อมกับคำก่นด่า เขาร้อนใจมากและคงจะรีบไปหาเงินต่อ

ซุนต้าหูตกตะลึงอยู่กับที่สักพัก สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างยาวเหยียด

เจียงป่าวชิงยื่นมือข้างหนึ่งออกไปตบแขนซุนต้าหูเบา ๆ ก่อนจะพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไรนะเจ้าคะพี่ต้าหู แต่พี่อย่าโทษที่ข้าด่าด้วยคำพูดไม่สุภาพเมื่อสักครู่เลย ซุนต้าตงไอ้ผีดูดเลือดคนนั้นน่ะ ถ้าพี่ไม่สลัดเขาออกไปจากชีวิต เขาก็จะคอยเกาะติดและดูดเลือดพี่ไปตลอดชีวิตนะเจ้าคะ”

ซุนต้าหูพยักหน้าด้วยสีหน้าหดหู่แต่ไม่ได้พูดอะไร

เจียงป่าวชิงเห็นดังนั้น นางก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน ทำก็แต่เพียงบอกลาซุนต้าหูง่าย ๆ แล้วกลับบ้านไป

เพราะที่บ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านนางยังมีคุณชายท่านหนึ่งรอให้นางทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูขาให้เขาอยู่

……

ตอนที่เจียงป่าวชิงเห็นป๋ายรุ่ยฮัวที่ในหมู่บ้านอีกครั้ง เวลาก็ล่วงผ่านมาได้หลายวันแล้ว

ตอนนี้ป๋ายรุ่ยฮัวหวีผมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและมัดผมขึ้นสูง ซึ่งไม่ใช่ทรงผมที่คนเป็นหม้ายชอบทำกัน นางเปลี่ยนเป็นทรงผมที่ผู้หญิงในหมู่บ้านทำเพื่อความสะดวกในการทำงานประมาณนั้น

สีหน้าของนางก็ไม่ได้เจือความขลาดกลัวอย่างแต่ก่อน แลดูเป็นสีหน้าที่ค่อนข้างราบเรียบเสียมากกว่า

ทั้งสองคนสบตากันเล็กน้อย  ป๋ายรุ่ยฮัวจ้องเจียงป่าวชิงทั้งอย่างนั้น

เจียงป่าวชิงพยักหน้าให้ป๋ายรุ่ยฮัวอย่างมีมารยาทเพื่อทักทาย ด้วยความสัมพันธ์ของพวกนางในปัจจุบันนี้ นี่คงจะเป็นวิธีที่จะเข้ากันได้อย่างสันติที่สุดแล้ว

แต่ป๋ายรุ่ยฮัวกลับไม่คิดเช่นนั้น นางถือกะละมังเสื้อผ้ามาขวางอยู่ตรงหน้าเจียงป่าวชิง

เจียงป่าวชิงที่เดิมทีถือตะกร้าผักเพื่อเตรียมตัวกลับก็ต้องหยุดฝีเท้าลง

น้ำเสียงของป๋ายรุ่ยฮัวมีความแหบแห้งอยู่เล็กน้อย “ข้าแต่งงานแล้ว แต่งกับซุนต้าตงด้วยเงินห้าตำลึง”

เจียงป่าวชิงพยักหน้าก่อนจะพูดสั้น ๆ เพียงว่า “ยินดีด้วย” จากนั้นนางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

ป๋ายรุ่ยฮัวสังเกตสีหน้าของเจียงป่าวชิงอยู่ตลอด เมื่อนางเห็นเจียงป่าวชิงมีปฏิกิริยาที่ราบเรียบเช่นนี้ ก็เหมือนถูกทำให้โกรธอย่างไรอย่างนั้น นางจึงตะโกนชื่อของเจียงป่าวชิงเสียงดัง

“เจียงป่าวชิง!”

เจียงป่าวชิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ ๆ ป๋ายรุ่ยฮัวถึงได้ทำเช่นนี้ นางจึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อะไรรึ ?”

ป๋ายรุ่ยฮัวสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำให้หน้าอกที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ของตัวเองสงบลง  เรื่องของนางกับซุนต้าหู ตอนนี้เห็นทีว่าไม่ควรหยิบยกขึ้นมาพูดแล้ว

นางเกลียดเจียงป่าวชิงเข้าไส้ หากว่าไม่ใช่เพราะเจียงป่าวชิง คนที่นางจะได้แต่งงานด้วยก็คงจะเป็นซุนต้าหู ไม่ใช่ซุนต้าตงที่เหมือนหมูเหมือนหมาคนนี้…

“ข้าได้ยินว่าตอนที่ซุนต้าตงสบทบเงินเพื่อสู่ขอข้า เจ้าขวางซุนต้าหูเพื่อไม่ให้เขาให้ซุนต้าตงยืมเงิน” ป๋ายรุ่ยฮัวพูดขึ้นอย่างเงียบ ๆ “เจ้ารู้หรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ซุนต้าตงที่ไปหยิบยืมเงินไปทั่วเพื่อนำเงินห้าตำลึงมาสู่ขอข้าในตอนท้าย ตอนนี้ข้าก็คงจะถูกขายไปที่ซ่องโสเภณีแล้ว หรือว่า… เจ้าเป็นคนที่ไม่มีจิตใจที่ทุกข์ใจจากความละอายเลย ?”

.