ตอนที่ 175 เสียสติไปแล้ว! / ตอนที่ 176 รถและคนขับประสานเป็นหนึ่ง

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 175 เสียสติไปแล้ว! 

 

 

สมาชิกทีมซีเอ็ชวันมองภาพนี้ด้วยความช็อกอยู่นอกสนาม 

 

 

หนึ่งในนั้นขยี้ตาอย่างไม่เชื่อสายตาขณะมองรถขับผ่านทางสามโค้งไปด้วยความเร็วโดยไม่แตะเบรก เขาตะลึงจนพูดไม่ออกขณะที่รถสีส้มยังคงพุ่งไปด้วยความเร็วที่ไม่ลดลง 

 

 

“ปะ… ปะเป็น…ไปได้ไง…” 

 

 

“เธอขับผ่านโค้งทั้งสามโค้งด้วยท่วงท่าที่ไหลลื่น…ไม่แม้แต่แตะเบรก…เธอต้อง…โกงแน่…” 

 

 

“นั่นมันเทคนิคอะไรกัน” มู่มู่อ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ 

 

 

“เป็นไปได้ไง…” ก็อดซีพูดขึ้น ความประหลาดใจฉายชัดเต็มดวงตา 

 

 

เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ ไม่แม้แต่ครั้งเดียว 

 

 

… 

 

 

ในสนาม นักแข่งทีมสปีดที่อยู่รั้งท้ายหันไปมองกระจกข้างโดยทันทีที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ส่งเสียงดังสนั่นมาทางด้านหลัง 

 

 

“เวรเอ๊ย!” 

 

 

เขาหรี่ตาและแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยว 

 

 

เขาเห็นรถคันสีส้มที่หลินเยียนขับกระจ่างชัดเต็มสองตา มันดูคล้ายอสุรกายบ้าคลั่งที่ทำลายล้างทุกสิ้นที่ขว้างหน้าขณะที่กำลังมุ่งไปข้างหน้า 

 

 

“อะไรวะเนี่ย…” เขาสบถและบังคับพวงมาลัยทันทีอย่างลนลาน พยายามเขี่ยเธอให้พ้นทาง 

 

 

ก่อนที่เขาจะทันทำอะไร รถคันสีส้มก็พุ่งผ่านเขาไปด้วยความเร็วในพริบตา วินาทีต่อมาเขาก็ไม่เห็นเธออีกแล้ว สิ่งที่หลงเหลืออยู่ในสนามตอนนี้มีเพียงกลุ่มเขม่าที่ปล่อยออกมาจากรถคันนั้น 

 

 

… 

 

 

ในเวลาอันรวดเร็ว รถคันสีส้มที่หลินเยียนกุมบังเ**ยนอยู่ก็พุ่งทะยานแซงนักแข่งอีกคนของทีมสปีด 

 

 

“แม่งเอ๊ย…” เผยอวี่ถังมองไปที่หลินเยียนอย่างประหวั่นพรั่นพรึงสุดขีดไร้ซึ่งคำพูดจา 

 

 

เกิดอะไรขึ้น 

 

 

เผยอวี่ถังไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้…เขาต้องมาเจอกับเรื่องอะไรเนี่ย 

 

 

“พ่อ พ่อทำอย่างนี้ได้ยังไง พ่อทำอะไรแบบนี้ได้ไงกัน” เผยอวี่ถังมองหลินเยียนด้วยความประหลาดใจล้นพ้น 

 

 

แน่นอน หลินเยียนไม่ตอบอะไร 

 

 

“พ่อ พูดอะไรสักอย่างสิ!” เผยอวี่ถังคะยั้นคะยอต่อ 

 

 

“เงียบน่ะ!” หลินเยียนแหวอย่างหมดความอดทน 

 

 

“ก็ได้!” เผยอวี่ถังกระแทกตัวกลับมานั่ง ผงกหัวรับคำ 

 

 

หลินเยียนเร่งทะยานแซงหน้าคันที่สามไป 

 

 

“เธอตามทันเหรอ” 

 

 

หนึ่งในสมาชิกทีมสปีดตกตะลึง แต่ถึงกระนั้นเขาไม่ได้ระวังตัวเลย เขาเพิ่มความเร็วและบังคับรถเพื่อเข้าไปขวางหลินเยียน 

 

 

ตราบเท่าที่เขาสามารถขวางหลินเยียนและปล่อยให้ลูกทีมทั้งหมดที่เหลือเข้าเส้นชัยไป ทีมของเขาก็จะชนะ ตามกติกาแล้วหลินเยียนจะเป็นฝ่ายแพ้ถ้าหากมีคนใดคนหนึ่งในทีมสปีดไปถึงเส้นชัยก่อนได้ 

 

 

“เพราะฉะนั้นเขาต้องใช้แผนนี้…” 

 

 

หลินเยียนแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็นเมื่อเห็นรถที่กำลังเข้ามา โดยไม่ลังเล เธอบังคับพวงมาลัยให้พุ่งไปทางรถที่อยู่ข้างหน้า 

 

 

“อย่า! อย่าทำอย่างนั้น! พี่เยียน…พ่อคร้าบ…เรากำลังจะพุ่งไปตายกับพวกนั้นนะ!” เผยอวี่ถังกระวนกระวายและหวาดกลัว ถ้าพวกเขาพุ่งชนรถคันนั้นด้วยความเร็วตอนนี้ละก็ พวกเขาสองคนดับชีวิตไปพร้อมนักแข่งฝั่งสปีดแหงแก๋ 

 

 

… 

 

 

“เสียสติไปแล้วหรอ! เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!” นักแข่งทีมสปีดก่นด่าและสาปแช่งเมื่อเขาเห็นหลินเยียนขับรถมุ่งหน้ามาทางรถเขา 

 

 

ด้วยความเร็วขนาดนี้ของหลินเยียนที่พุ่งเข้ามา เขาไม่มีแม้แต่เวลาหลบออกไปให้พ้นทาง 

 

 

ในจังหวะที่เห็นรถคันสีส้มกำลังจะพุ่งชนรถเขา เขากระทืบคันเร่งอย่างเต็มแรงเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างรถสองคัน 

 

 

รถคันสีส้มมาเร็วเกินไป รถนั้นอยู่ในจุดที่ยากเกินจะควบคุม เขาเห็นทีจะไม่สามารถสะบัดเธอให้หลุดออกไปได้ เธอดูเหมือนกำลังขยับเข้าใกล้เขามากขึ้นทุกทีด้วยซ้ำ 

 

 

  

 

 

 ตอนที่ 176 รถและคนขับประสานเป็นหนึ่ง 

 

 

‘ฟิ้ว!’ 

 

 

ในทันทีที่รถคันสีส้มกำลังจะพุ่งชนกับรถทีมสปีดที่อยู่ข้างหน้า รถคันสีส้มก็เลื้อยแฉลบหักหลบไปทางซ้ายทันทีในระยะประชิด 

 

 

หัวรถคันสีส้มแซงหน้ารถของทีมสปีดก่อนที่จะหักกลับไปทางขวาอีกครั้งโดยไม่แม้แต่จะแตะเบรก 

 

 

รถของหลินเยียนขยับเข้าไปเคียงกับรถฝั่งตรงข้างอย่างน่าหวาดเสียวขณะที่เธอแซงหน้านำรถของอีกฝั่งไปได้สำเร็จ 

 

 

รถของทีมสปีดผ่อนความเร็วลงหลังจากที่โดนหลินเยียนแซง นักแข่งทีมสปีดนำรถจอดข้างทาง 

 

 

ประตูรถเปิดออกอย่างแรงก่อนที่เขาจะแผดเสียงออกมาอย่างโกรธแค้น “เวรเอ๊ย! จะฆ่ากันรึไงวะ” 

 

 

อย่างไรเสียก็ไร้วี่แววของรถคันสีส้มแล้ว เหลือเพียงกลุ่มควันจากท่อไอเสียที่พวยพุ่งกลุ่มใหญ่ 

 

 

ภายนอกสนาม ลูกทีมซีเอ็ชวันทั้งทีมรวมถึงก็อดซีได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติง 

 

 

บางทีนักแข่งทีมสปีดที่โดนหลินเยียนแซงไปคนนั้นอาจจะเห็นไม่ชัดว่าหลินเยียนนำหน้าเขาไปได้อย่างไร แต่ลูกทีมซีเอ็ชวันทั้งกลุ่มเห็นทุกอย่างหมดทุกขั้นตอน 

 

 

คำว่า ‘น่าทึ่ง’ และ ‘น่าใจหาย’ คงไม่เพียงพอที่จะบรรยายวิธีที่หลินเยียนแซงนำรถคันนั้นมาได้ 

 

 

 ไม่มีนักแข่งคนไหนในสนามที่จะกล้าทำอย่างนี้ 

 

 

ดูเหมือนว่าเธอกำลังเอาเรื่องความเป็นความตายมาล้อเล่น แต่ทุกการกระทำและทุกการตัดสินใจของเธอนั้นช่างแยบยลและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ไม่มีช่องว่างของความผิดพลาดใดๆ แม้แต่น้อย 

 

 

เธอไม่ได้ขับรถ…เธอเป็นหนึ่งเดียวกับรถต่างหาก! 

 

 

ดูจากการที่รถคันสีส้มเอาชนะฝั่งตรงข้ามมาได้ รถที่ว่ากันตามจริงแล้วคือแขนขาของหลินเยียน นอกเหนือจากคำว่า ‘สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ’ แล้ว ไม่สามารถหาคำไหนที่จะมาบรรยายทักษะและฝีมือของเธอได้ 

 

 

… 

 

 

ไม่ทันไรก็เหลือสมาชิกทีมสปีดเพียงคนเดียวเท่านั้น 

 

 

ไม่กี่อึดใจรถคันสีส้มก็ไล่ตามรถคนสุดท้ายทัน 

 

 

“อะไรกันวะเนี่ย!” นักแข่งคนสุดท้ายที่เหลือผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเขาเลยว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ก็เห็นวัตถุสีแดงเบลอๆ พุ่งผ่านไป หลินเยียนทะยานมุ่งตรงสู่เส้นชัย 

 

 

ครู่ต่อมารถคันสีส้มก็ถึงเส้นชัยและเลี้ยวจอดอย่างสวยงาม ใช้แรงเฉื่อยทั้งหมดเข้าช่วยเพื่อประคองรถให้จอดสนิท นักแข่งคนสุดท้ายของสปีดได้แต่อึ้งและทึ่ง 

 

 

“เรื่องล้อเล่นอะไรกัน…อำกันเล่นแน่!” นักแข่งคนสุดท้ายของทีมสปีดพุ่งเข้าเส้นชัยไปและหยุดรถขณะที่มองอย่างไม่เชื่อสายตาไปยังรถคันสีส้มที่จอดถัดไปจากเขา 

 

 

ล้อของรถสีส้มยังมีไอความร้อนโชยออกมา 

 

 

ถึงกระทั่งตอนนี้ สมาชิกทีมซีเอ็ชวันก็ยังยืนอึ้งกิมกี่ด้วยความตกใจ 

 

 

“นี่มันหมายความว่าอะไรกัน” ลูกทีมซีเอ็ชวันคนหนึ่งพูดออกมาด้วยเสียงสั่นๆ ขณะมองไปที่รถคันสีส้ม “เรา…ชนะ” 

 

 

“เราชนะ! เราทำได้…เราล้มสปีด!” 

 

 

“เกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง ผู้หญิงคนนั้นจริงๆ แล้วเป็นใครกัน เธอเป็นแฟนคลับธรรมดาๆ ได้ยังไง” 

 

 

“ผู้…ผู้หญิงคนนั้นมีลีลาการขับคล้ายลั่งหมั่ง…” 

 

 

“เธอมีความเกี่ยวข้องอะไรกับลั่งหมั่งหรือเปล่านะ เขามีนักแข่งฝึกหัดในสังกัดหลายคน และทุกคนล้วนแต่ลึกลับทั้งนั้น หรือเธอจะเป็นหนึ่งในนั้น” 

 

 

… 

 

 

ในสนาม หลินเยียนเปิดประตูและก้าวออกมา 

 

 

เธอมองไปยังล้อที่มีควันฉุยๆ และยิ้ม “พอใช้ได้เลยทีเดียว” 

 

 

“ให้ตายเถอะ พี่เยียน…พ่อคร้าบ พี่ทำได้ไง พี่ใช้เทคนิคอะไรกัน” เผยอวี่ถังถีบประตูออกมาและกุลีกุจอตามหลังเธอ 

 

 

หลังจากที่สังเกตเห็นเผยอวี่ถังที่ซีดเผือดไปทั้งตัว หลินเยียนก็รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายเขาตอนนี้ จริงๆ มันเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะอธิบาย ถ้าคนทั่วไปพยายามทำแบบนี้ ผลที่ออกมาอาจเป็นหายนะได้