ตอนที่ 193 ไม่เลวนี่ / ตอนที่ 194 ความเห็นมหาชน

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 193 ไม่เลวนี่

 

 

เดิมที ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย

 

 

ก็ใครจะไปคิดว่าผู้ชายที่ชาติกำเนิดสูงส่ง แค่นั่งชี้นิ้วสั่งการอยู่บนเก้าอี้ก็จัดการทุกอย่างได้ตามใจหวังแบบนั้นจะแอบมุดเข้าไปในห้องน้ำแล้วหยิบชุดชั้นในของเธอมาศึกษาอยู่เป็นครึ่งค่อนวัน!

 

 

ในขณะที่กำลังเอาเสื้อผ้าแขวนบนราวตากผ้าริมระเบียง เฉินฝานซิงก็หันมามองชุดชั้นในที่อยู่ในมือของป๋อจิ่งชวน พลันยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากอย่างจนปัญญา

 

 

แบบนี้ ต่อไปจะให้เธอมองเสื้อในตัวนั้นแบบไหนได้อีก

 

 

“ไม่เลวนี่”

 

 

ในขณะที่เธอกำลังจิตตก เสียงนิ่งเรียบของป๋อจิ่งชวนก็ดังขึ้นกะทันหันจากด้านหลัง

 

 

เธอรีบหันไปดู ก็เห็นร่างสูงใหญ่ของป๋อจิ่งชวนยืนอยู่ด้านหลังของเธอ เธอถอยไปทางด้านข้างสองก้าวแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรไม่เลวคะ”

 

 

ป๋อจิ่งชวนชำเลืองสายตาขึ้นไปมองเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราวตากผ้าปราดหนึ่ง สีหน้าเรียบเฉย

 

 

เฉินฝานซิงดวงตาเบิกโพลงในทันใด เธอรีบพุ่งเข้าไปเอามือปิดปากเขาเอาไว้

 

 

“คุณไม่ต้องพูดแล้ว!”

 

 

ใบหน้างดงามได้รูปของเขานิ่งเฉยไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน

 

 

เขายื่นมือออกมาจับมือของเธอที่กำลังปิดปากเขาเอาไว้ออก

 

 

เฉินฝานซิงเขินจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง แม้กระทั่งต้นคอที่อยู่ภายใต้คอเสื้อสีฟ้าอ่อนก็พลอยแดงก่ำไปด้วย เธอเงยหน้าขึ้นถลึงตาใส่เขาด้วยความรู้สึกที่ทั้งเขินและทั้งโกรธ

 

 

“คุณยังจะพูดอีกเหรอ!”

 

 

ป๋อจิ่งชวนยังคงทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ผมแค่กำลังชมคุณ ผมชอบนะ”

 

 

“…”

 

 

เฉินฝานซิงรู้สึกราวกับมีใครเข้ามาจุดไฟในหัวของเธอ เลือดในร่างถูกความร้อนจากเปลวไฟแผดเผาจนเดือดเสียงดังปุดๆ สูบฉีดไปทั่วทั้งตัว

 

 

เธอยกมือขึ้นมาผลักป๋อจิ่งชวนออกด้วยความโกรธ แล้วรีบเดินออกไปจากบริเวณระเบียง

 

 

เฉินฝานซิงเข้าไปในห้องน้ำ พอเดินออกมาก็พบว่าป๋อจิ่งชวนกำลังยืนรอเธออยู่หน้าประตู

 

 

เธอสูดหายใจเข้าฟอดใหญ่ เกือบไปแล้วสิ อีกนิดเดียวก็จะชนเขาเข้าให้แล้ว!

 

 

“คุณจะทำอะไร”

 

 

ป๋อจิ่งชวนเห็นท่าทีป้องกันตัวเองออกจากตัวเองของเธอก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณกลัวผมงั้นเหรอ”

 

 

เฉินฝานซิงชะงักไป ก่อนจะรีบพูดออกมา “ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย”

 

 

ป๋อจิ่งชวนจ้องเธอเงียบๆ เพื่อจับโกหกเธอโดยไม่ให้รู้ตัว

 

 

เฉินฝานซิงแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ พูดพึมพำเสียงเบา

 

 

“ใครใช้ให้คุณพูดอะไรแบบนั้นอยู่บ่อยๆ ล่ะ ไม่รู้จักละอายใจบ้างเลย…”

 

 

ถึงแม้เสียงของเธอจะเบามาก แต่เขากลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

 

 

แต่ว่าเมื่อได้เห็นท่าทีใส่ใจของเธอ เขาก็ไม่ได้เค้นถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อ

 

 

เพียงแต่ยื่นเนกไทในมือออกไป

 

 

“ช่วยผมหน่อย”

 

 

เฉินฝานซิงกวาดสายตามองเนกไทสีดำที่อยู่ในมือของเขา สูดหายใจเข้าลึก ในที่สุดก็รับมันมาอยู่ดี

 

 

เพราะว่าเธอยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำซึ่งมีขั้นบันไดอยู่ขั้นหนึ่ง ทำให้ตอนนี้ระดับความสูงของเธอใกล้เคียงกับความสูงของเขาขึ้นมาบ้างแล้ว จึงไม่ต้องเขย่งเท้า ช่วยให้เบาแรงได้กว่าเดิมไม่น้อย

 

 

ป๋อจิ่งชวนก้มลงมองจมูกเรียวเล็กจิ้มลิ้มของเฉินฝานซิง

 

 

“เสร็จแล้ว”

 

 

ไม่นานนัก เธอก็จัดการเรียบร้อย จากนั้นเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยมองชายหนุ่ม “ไม่อยากจะลองผูกเนกไทเองดูบ้างจริงๆ เหรอ ถ้าวันไหนคุณอยู่คนเดียวขึ้นมา จะสะดวกเหรอ”

 

 

“มีคุณไง”

 

 

เฉินฝานซิงเลิกคิ้ว “ฉันไม่ได้อยู่กับคุณซะหน่อย หรือคุณจะถ่อมาเป็นพันๆ กิโลให้ฉันช่วยคุณผูกหรือยังไง”

 

 

ป๋อจิ่งชวนหยุดคิดตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มตัวเองลงมาอุ้มเธอขึ้นมาจากพื้นต่างระดับตรงหน้าประตูห้องน้ำพลางพูดขึ้นมาหนึ่งประโยค “ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนี่”

 

 

เห็นเขาพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยไม่รู้สึกรู้สา เฉินฝานซิงก็แทบจะกลั้นขำเอาไว้อยู่

 

 

ก่อนหน้านี้รู้สึกเพียงแค่ว่าเวลาที่เขาเต๊าะใครขึ้นมาล่ะก็ เสน่ห์เหลือร้ายจนยากจะรับมือ

 

 

คิดไม่ถึงเลยว่าเขาก็มีมุมที่เก้ๆ กังๆ แบบนี้ด้วยเหมือนกัน

 

 

“เอาล่ะ ต้องไปทำงานแล้ว”

 

 

เฉินฝานซิงพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ใส่กระเป๋า แล้วเดินไปตรงหน้าประตูเพื่อเปลี่ยนรองเท้า

 

 

“ผมไปส่งคุณ”

 

 

“ได้สิ”

 

 

ยังไงซะ ปฏิเสธไปก็ดูเหมือนจะเปล่าประโยชน์

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 194 ความเห็นมหาชน

 

 

หากตัดเรื่องชุดชั้นในออกไป การที่เฉินฝานซิงนอนหลับสนิทตลอดคืนก็ทำให้เช้านี้นับว่าเป็นเช้าที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่ที่บ้านสกุลเฉินกลับไม่ได้มีความสุขกันขนาดนั้น!

 

 

เจียงหรงหรง เฉินเต๋อฝาน และหยางลี่เวยไม่ได้นอนกันทั้งคืน

 

 

งานเลี้ยงเมื่อวานเกิดเรื่องวุ่นวายที่เป็นกลายเป็นปัญหาใหญ่ขนาดนั้น พวกเขาจะมีอารมณ์นอนลงได้อย่างไร

 

 

แต่ไรมา งานเลี้ยงประจำปี นอกจากจะเชิญผู้บริหารระดับสูงในบริษัทมาแล้ว ก็ยังเชิญบริษัทที่ร่วมลงทุนกันมายาวนาน ผู้จัดและผู้กำกับที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอีกจำนวนหนึ่งมาด้วย

 

 

ตอนนี้ ผู้ลงทุนต่างก็พากันขอถอนทุน ผู้กำกับและผู้จัดจึงไม่มีอารมณ์มาฟังพวกเขาอธิบายเพิ่มเติมไปโดยปริยาย

 

 

เวลานี้ พวกเขายุ่งกันจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอต กว่าจะเกลี้ยกล่อมฝ่ายผู้ให้ทุนสนับสนุนได้ ทางนั้นก็พยายามหาทางเจรจากับสื่อที่มาร่วมงานเมื่อวานให้ปิดข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแต่ก็ไม่เป็นผล ข่าวเพิ่งถูกปล่อยลงอินเทอร์เน็ตไปเมื่อไม่นานนี้เอง!

 

 

รูปและวิดีโอปลิวว่อนไปทั่วโลกโซเชียล โดยเฉพาะภาพที่ปรากฏขึ้นบนจอใหญ่พวกนั้น ถูกแชร์ลงไปในเว็บไซต์หมดแล้วสดๆ ร้อนๆ

 

 

ถึงแม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดทั้งหมด แต่ก็พอจะสรุปข้อมูลออกได้ว่า

 

 

เฉินเชียนโหรวทำลายงานแต่งระหว่างพี่สาวกับคู่หมั้น ให้ท่าว่าที่พี่เขย เป็นมือที่สามจนหน้าที่การงานก้าวหน้า คุณหนูใหญ่สกุลเฉินยอมกล้ำกลืนก้มหน้ารับความไม่เป็นธรรมเพื่อรักษาหน้าส่วนรวม แต่กลับถูกหักหลัง โดนคบซ้อน

 

 

ส่วนใหญ่เป็นการสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงประจำปีเมื่อคืนทั้งหมด แต่กลับไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องที่มีบอดี้การ์ดนับสิบเข้ามาในช่วงท้ายงานเลยสักคำ

 

 

คอมเม้นต์บนโซเชียลแทบจะเป็นการด่าทอเกือบทั้งหมด

 

 

[เป็นเมียน้อยแย่งผู้ยังพอว่า นี่กล้าแย่งผู้ชายของพี่สาวตัวเองเลยเหรอ หน้าหนาหน้าทนจริงๆ]

 

 

[ซูเหิงก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ทั้งๆ ที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว ยังจะไปกิ๊กกับน้องเมียอีก!]

 

 

[ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าพยายามสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ผู้สูงสง่าหรอกเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าสาวบริสุทธิ์คำนี้ความหมายเดียวกับคำว่า ‘อีตัว’ ด้วย]

 

 

[อย่าใช้คุณธรรมจริยธรรมเป็นเครื่องพันธนาการใคร ก่อนจะพูดอะไร ลองดูตัวเองก่อนว่าเป็นคนที่มีคุณธรรมแล้วรึยัง]

 

 

[รักแท้อยู่เหนือทุกสิ่ง อีกอย่าง พี่สาวของเฉินเชียนโหรวก็ร้ายจะตาย ถ้าเป็นผู้ชายฉันก็ไม่ชอบนางหรอก ประธานซูก็ไม่ได้ตาบอดนะ]

 

 

คอนเมนต์ในโซเชียลก็เป็นแบบนี้ มักจะมีทั้งฝั่งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเสมอ

 

 

แต่เห็นได้ชัดเลยว่า ความคิดเห็นของมวลมหาชนไม่ได้คล้อยตามไปในทางเดียวกับกลุ่มแฟนคลับไม่กี่คนนั้นเลย

 

 

ณ ห้องรับแขกคฤหาสน์สกุลเฉิน ไฟในบ้านสว่างมาตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังคงสว่างอยู่ ภายในห้องรับแขกคุกรุ่นไปด้วยบรรยากาศของความหมดอาลัยตายอยาก

 

 

เจียงหรงหรง เฉินเต๋อฝาน และหยางลี่เวยนั่งนิ่งอยู่ในห้องรับแขกมาทั้งคืน

 

 

จนกระทั่งเมื่อกี้นี้ที่ได้เห็นข่าวฉาวว่อนไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ใบหน้าของเจียงหรงหรงที่ซีดขาวอยู่แล้วก็ยิ่งซีดหนักไปกว่าเดิม

 

 

หลานอวิ้นที่แต่เดิมก็กำลังขาดทุน กลับมามีเรื่องฉาวโฉ่ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้เสียได้

 

 

เฉินเชียนโหรวถูกตราหน้าเป็นมือที่สามเพื่อไต่เต้า ตอนนี้มีทั้งหลักฐานภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะแก้ตัวอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด

 

 

วิธีเดียวที่จะทำได้ในเวลานี้คือให้เฉินเชียนโหรวหยุดรับงานไปก่อน

 

 

เจียงหรงหรงไม่แสดงออกถึงท่าทีใดๆ ส่วนหยางลี่เวยที่อยู่ด้านข้างกลับพูดทั้งน้ำตา

 

 

“คุณแม่คะ คุณแม่คงจะไม่ทิ้งเชียนโหรวไปง่ายๆ แบบนี้หรอกนะคะ เธอเพิ่งรับงานชิ้นใหญ่มา พวกเราจะต้องหาวิธีปกป้องเธอให้ได้ เชียนโหรวเป็นความหวังเดียวของพวกเราในตอนนี้แล้วนะคะ…”

 

 

คำพูดของหยางลี่เวยทำให้เจียงหรงหรงได้สติ

 

 

ใช่แล้ว!

 

 

เชียนโหรวเป็นความหวังเดียวของพวกเรา ไม่ใช่แค่ในตอนนี้ แต่เป็นมาโดยตลอด

 

 

เธอจะสละเชียนโหรวไปง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้