โจวเหว่ยชิงมีสีหน้าตื่นตกใจ “อาจารย์ ท่านให้ข้ามามากแล้ว ข้าจะรับสิ่งอื่นจากท่านอีกได้อย่างไร?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อหัวเราะและพูดว่า “เอาล่ะๆ เจ้าถือว่ามันเป็นข้อแลกเปลี่ยนก็แล้วกัน ในเวลา 3 วัน เจ้าจะต้องสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ทั้งหมด 392 ชนิดที่เหลือให้เสร็จครบ ข้าจะใช้ของขวัญชิ้นนี้แลกเปลี่ยนกับม้วนคัมภีร์ทั้ง 392 กล่องของเจ้า เงินออมทั้งชีวิตของอาจารย์ถูกเจ้าผลาญทิ้งไปหมดแล้ว ถ้าข้ายังไม่รีบหาม้วนคัมภีร์มาขายอีก ข้าก็คงสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว”
โจวเหว่ยชิงยิ้มและพูดว่า “ไม่เหลือม้วนคัมภีร์ไว้ให้ข้าสักหน่อยหรือ? อย่างที่ท่านรู้ ข้าก็ต้องใช้จ่ายที่เมืองเฟยหลี่เช่นกัน นอกจากนี้ข้ายังวางแผนจะไปกักเก็บทักษะใส่มณีธาตุดวงที่ 2 ของข้าก่อนออกเดินทางด้วย”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อหัวเราะและพูดว่า “เจ้าเด็กน้อย! เจ้ายังต่อราคากับข้าไม่เลิกอีกนะ เอาล่ะ ข้าจะเหลือไว้ให้เจ้าสัก 10 กล่องก็แล้วกัน นั่นน่าจะเพียงพอสำหรับเจ้าแล้ว นอกจากนี้ข้ายังขอแนะนำให้เจ้าอย่าเพิ่งไปกักเก็บทักษะธาตุที่สำนักกักเก็บทักษะเมืองภูเขาลอยฟ้าเลย เจ้าตรงเข้าไปในเมืองเฟยหลี่เลยจะดีกว่า อย่างไรเสียที่นั่นก็เป็นเมืองหลวงอาณาจักรเฟยหลี่ซึ่งมีสำนักกักเก็บทักษะที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรอยู่ด้วย อีกทั้งที่นั่นยังเป็นสำนักงานใหญ่ที่น่าจะมีอสูรสวรรค์ระดับสูงกว่าที่นี่มาก ด้วยอัตราความสำเร็จและความเร็วในการสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ของเจ้า ยังไงเสียเจ้าก็ถือว่าเป็นเครื่องผลิตเงินอยู่แล้ว ยังจะต้องกังวลอยู่อีกหรือว่าในอนาคตจะไม่มีเงินทองใช้สอย? เอาล่ะ รับไป นี่คือของขวัญของเจ้า” เมื่อเขาพูดจบ ฮูเหยียนเอ้าป๋อก็ถอดสร้อยจากคอของเขาส่งให้โจวเหว่ยชิง
สร้อยเส้นนี้เรืองรองไปด้วยแสงสีทองอ่อนๆ ดูเรียบง่ายและไม่มีการประดับตกแต่งอะไรมาก มองเพียงครั้งเดียวเขาก็รู้สึกว่ามันดูเก่าแก่และติดจะธรรมดาไปเสียหน่อย มีเพียงไพฑูรย์ตาแมวสีเขียวเหลือบทองทรงกลมที่ฝังอยู่ตรงกลางเท่านั้นที่ดูจะมีค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเรืองรองไปด้วยม่านพลังของปราณสวรรค์ธาตุมิติ โจวเหว่ยชิงจึงเดาว่ามันน่าจะเป็นวัตถุธาตุมิติบางอย่าง
ทำไมอาจารย์ถึงมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับข้า? ความคิดดังกล่าวผุดขึ้นมาในใจของโจวเหว่ยชิง ท้ายที่สุดแล้วม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์เกือบ 400 กล่องที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยความอุตสาหะก็มีราคาไม่น้อย แม้ว่าม้วนคัมภีร์จะเป็นเพียงแค่คัมภีร์ระดับพื้นฐานและใน 1,000 ใบนั้นไม่ได้รับประกันว่าสามารถหลอมรวมเข้ากับร่างผู้ใช้ได้สำเร็จแน่นอน แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาหากนำไปขายกล่องละ 30,000 เหรียญทอง ด้วยจำนวนที่มากขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะขายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญทองด้วยซ้ำ สร้อยเส้นนี้มีค่ามากขนาดนั้นเลยเหรอ?
ในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้โจวเหว่ยชิงไม่ได้พยายามจะเล่นแง่กับฮูเหยียนเอ้าป๋อ เขาแค่เพียงสงสัยเท่านั้น อย่างไรเสียฮูเหยียนเอ้าป๋อก็ลงทุนทั้งเงินทองและแรงกายไปกับเขามากมายแล้ว เพียงแค่วัตถุดิบที่โจวเหว่ยชิงใช้ไปก็มีราคามาก กว่า 6 ล้านเหรียญทอง นั่นถึงกับถลุงเงินออมทั้งชีวิตของฮูเหยียนเอ้าป๋อไปจนหมด
ดังที่ฮูเหยียนเอ้าป๋อได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การจะเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยทั่วไปแล้วแม้แต่อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานก็แทบจะไม่ได้เงินเลยเนื่องจากวัตถุดิบมีราคาแพงเกินไป มีเพียงอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับกลางหรือระดับสูงกว่านั้นที่จะพอมีรายได้ดีๆ ประทังชีวิตบ้าง แน่นอนว่าบ่อยครั้งวัตถุดิบก็มีราคาแพงตามความหายากของมัน และด้วยจำนวนอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ที่มีน้อยมาก นั่นจึงทำให้ราคาของม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานสูงขึ้นด้วย
ฮูเหยียนเอ้าป๋อมีสีหน้าโศกเศร้าขณะใส่สร้อยให้โจวเหว่ยชิงด้วยตนเอง “ของขวัญสำหรับเจ้าอยู่ในสร้อยเส้นนี้”
โจวเหว่ยชิงเริ่มตระหนักถึงความจริงบางอย่างได้ทันที; สร้อยเส้นนี้เป็นเพียงกล่องเก็บของขวัญเท่านั้น
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวว่า “เจ้าจำได้หรือไม่ส่าเหตุใดข้าถึงไม่ให้เจ้าหลอมรวมศาสตรามณียุทธ์ชนิดอื่นๆ กับมณีชุดที่ 2 ของเจ้า?”
โจวเหว่ยชิงพยักหน้าและพูดว่า “ท่านพูดว่าเป็นเพราะชุดศาสตรามณียุทธ์”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อพยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง ชุดศาสตรามณียุทธ์ และของขวัญที่ข้ามอบให้เจ้าก็คือภาพร่างสำหรับชุดศาสตรามณียุทธ์ที่มูลค่าของมันไม่อาจประเมินค่าได้ด้วยเงิน เหว่ยน้อย ข้าขอถามเจ้า เจ้ารู้ไหมว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ถูกจัดประเภทอย่างไร?”
เมื่อได้ยินคำถาม โจวเหว่ยชิงก็รีบนั่งตัวตรงและพูดว่า “ประเภทของม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ถูกจัดแบ่งตามระดับของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ผู้ที่สร้างมันขึ้นมา เรียงจากต่ำไปสูงก็คือ ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐาน ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับกลาง ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับสูง ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับปรมาจารย์ ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะ และสุดท้ายก็คือม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้า หากจะกล่าวถึงชุดศาสตรามณียุทธ์ พวกมันถือว่ามีระดับสูงกว่าระดับแท้จริงของตัวมันเอง 1 ขั้น ตัวอย่างเช่น ชุดม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับปรมาจารย์ ถือได้ว่ามีระดับเทียบเท่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะ แต่ก็จะต้องมีครบทั้งชุดเสียก่อน”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “เจ้าพูดถูกต้อง ของขวัญที่ข้ามอบให้เจ้าคือภาพร่างสำหรับชุดศาสตรามณียุทธ์ 10 ชนิด ศาสตรามณียุทธ์เหล่านี้ได้รับการออกแบบโดยอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าที่มีทักษะสูงส่ง อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาออกแบบชุดศาสตรามณียุทธ์ชุดนี้เสร็จเขาก็เหนื่อยล้ามากแล้ว เขาใช้เวลาทั้งชีวิตในการสร้างมันขึ้นมาและสุดท้ายก็ต้องเสียชีวิตลง แต่ทว่าการออกแบบของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าแต่ละชิ้นนั้นก็มีค่าพอๆ กับแก่นพลังของอสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าเลยทีเดียว”
เมื่อได้ยินคำว่าอสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้า เจ้าแมวอ้วนที่กำลังแอบงีบหลับอยู่ข้างๆ โจวเหว่ยชิงก็ขยับตัวเล็กน้อย มันลืมตาและจ้องไปที่ฮูเหยียนเอ้าป๋อ ในเวลาเดียวกันโจวเหว่ยชิงก็ถามอย่างสงสัยว่า “อาจารย์ อสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าคืออะไรหรือ? มันแข็งแกร่งกว่าอสูรสวรรค์ระดับเทวะหรือไม่?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อแค่นเสียงคล้ายดูถูกเหยียดหยามก่อนที่จะตอบว่า “ต่อหน้าอสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้า อสูรสวรรค์ระดับเทวะจะนับเป็นอะไรได้? เทียบกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! อย่างที่เจ้ารู้ เมื่อจ้าวมณีสวรรค์มีมณีครบ 9 ชุด พวกเขาก็ยังสามารถเพิ่มระดับขึ้นไปได้อีก 3 ระดับ จ้าวมณีสวรรค์ที่มีมณี 10 ชุดเรียกว่าราชาสวรรค์ 11 ชุดเรียกว่ามหาราชาสวรรค์ และ 12 ชุดเรียกว่าเทพเจ้าสวรรค์ เหล่าอสูรสวรรค์เองก็มีการจัดระดับแบบเดียวกัน”
โจวเหว่ยชิงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง “ถ้าอย่างนั้น อสูรสวรรค์ระดับเทพเจ้าที่ท่านกล่าวถึงนั้นเทียบได้กับจ้าวมณีสวรรค์ที่มีมณี 12 ชุด?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อพยักหน้าช้าๆ จากนั้นก็พูดด้วยความภาคภูมิใจ “ตอนนี้เจ้ารู้หรือไม่ว่าภาพร่างทั้ง 10 แบบที่ข้า มอบให้เจ้านั้นเปรียบได้กับอะไร? ในนั้นไม่ได้มีแค่ภาพร่างเท่านั้นแต่ยังมีสูตรผสมหมึกที่จำเป็นด้วย ที่สำคัญที่สุดคือม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้านี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับจ้าวมณีสวรรค์โดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นมันคือภาพร่างแบบเต็ม ชุด”
โจวเหว่ยชิงทำได้เพียงจ้องมองอาจารย์อย่างโง่งมก่อนที่เขาจะเปล่งเสียงออกมาในที่สุด “ภาพร่าง? ระดับเทพ เจ้า? แบบเต็มชุด? ปกติชุดศาสตรามณียุทธ์ก็ถือว่ามีระดับสูงกว่าปกติอยู่หนึ่งระดับแล้ว แล้วไอ้เจ้านี่มันจะถูกจัดอยู่ไหนระดับไหนล่ะขอรับ?”
ดวงตาของฮูเหยียนเอ้าป๋อทอประกายแวววาว “ในโลกใบนี้ พวกเราเรียกว่า ระดับตำนาน มีชุดศาสตรามณียุทธ์ระดับตำนานไม่ถึง 10 ชุดที่สืบทอดกันมาหลายยุคสมัย ซึ่งข้าไม่แน่ใจว่าชุดไหนมีครบทั้งชุดบ้าง แม้ข้าจะไม่กล้าพูดว่าของที่พวกเรามีนั้นเป็นชุดเดียวบนโลก แต่มันก็ยังคงเป็นผลงานชิ้นเอกตลอดกาล อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้เป็นบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของเรา เขาเป็นผู้ก่อตั้งนิกายของพวกเรา เหตุผลที่ข้าหวังว่าวันหนึ่งเจ้าจะกลายเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะก็เพราะว่าข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการสร้างคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์จากภาพร่างเหล่านี้คือการเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะ เหว่ยน้อย ภาพร่างชุดนี้ได้รับการถ่ายทอดมาหลายชั่วอายุคน จากอาจารย์สู่ศิษย์ยุคแล้วยุคเล่า แต่พวกเราไม่เคยสร้างคัมภีร์ทั้งชุดได้สำเร็จมาก่อน ตอนนี้ข้าส่งต่อมันให้กับเจ้าด้วยหวังว่าสักวันข้าจะได้เห็นเจ้าสร้างชุดคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับตำนานนี้ขึ้นมาให้สำเร็จ”
โจวเหว่ยชิงตกตะลึงจนอ้าปากค้าง ในศีรษะของเขาคล้ายกับมีระเบิดปะทุขึ้น เขายกมือขึ้นจับสร้อยบนคอโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจเริ่มสะดุดและขาดห้วงอย่างรวดเร็ว
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ชุดคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ทั้ง 10 แผ่นนี้ถูกตรวจสอบและทดสอบโดยละเอียดแล้ว ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าพวกมันถูกออกแบบขึ้นมาตามลำดับ เพราะฉะนั้นควรสร้างแต่ละชิ้นขึ้นมาตามลำดับจากง่ายไปหายาก ภาพร่าง 3 แผ่นแรกต้องอาศัยอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะสร้างขึ้นมา แผ่นที่ 4 ก็ยังอาศัยอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะขั้นแรกสร้างขึ้นมา แผ่นที่ 5 ต้องอาศัยพลังของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะขั้นกลาง แผ่นที่ 6 ต้องอาศัยพลังของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะขั้นสูง และม้วนคัมภีร์ 4 แผ่นสุดท้ายจะต้องอาศัยพลังของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าที่เป็นทั้งจ้าวมณีสวรรค์และมีระดับพลังอย่างน้อยขั้นราชาสวรรค์ นอกจากนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่ยังไม่ใช่ส่วนที่ยากที่สุดด้วยซ้ำ”
ประโยคสุดท้ายของฮูเหยียนเอ้าป๋อเกือบทำให้โจวเหว่ยชิงกระอักเลือดออกมา เขารีบพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา “นั่นไม่ใช่ส่วนที่ยากที่สุดอีกหรือขอรับ?? แล้วส่วนไหนล่ะที่ยากที่สุด?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวด้วยรอยยิ้มขื่นขม “ส่วนที่ยากที่สุดคือการหาวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับผสมหมึก ในความเป็นจริง หลังจากอ่านข้อมูลวัตถุดิบที่จำเป็นแล้วข้าก็หมดกำลังใจจะรวบรวมพวกมันเลยทีเดียว ชุดภาพร่างศาสตรามณียุทธ์นี้ได้รับการส่งต่อมา 1,100 ปีแล้ว ผ่านมืออาจารย์ศาสตรามณียุทธ์มาถึง 21 รุ่น แต่ถึงอย่างนั้นในบรรดาพวกเขามีเพียง 4 คน ที่ไปถึงระดับเทวะ แน่นอนว่าพวกเขาพยายามจะสร้างคัมภีร์พวกนี้ขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้สำเร็จ แต่ทว่าเขาก็สร้างม้วนคัมภีร์ได้เพียง 1 ใบเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เพียงแค่นั้นเขาก็ผลาญเงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิตทิ้งไปจนหมดแล้ว แม้ว่าม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะจะมีอัตราความสำเร็จ 1 ใน 10 ส่วน (1กล่องมี10ใบ) แต่หากมีเพียงแค่แผ่นเดียว มันก็อาจจะใช้การอะไรไม่ได้มากนัก ด้วยเหตุนั้นมันจึงถูกเก็บไว้ในสร้อยคอมิติเส้นนี้มาโดยตลอด”
โจวเหว่ยชิงสูดอากาศเย็นยะเยือกเข้าปอดขณะที่เขากล่าวว่า “อาจารย์ นั่นหมายความว่าตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ทุกคนนอกจากผู้ก่อตั้งของเราแล้วยังไม่มีใครไปถึงระดับเทพเจ้าเลยหรือ?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เจ้าคิดว่าอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าเป็นดอกหญ้าที่ขึ้นอยู่ข้างถนนหรือ? เจ้าคิดว่าพวกเขาจะถือกำเนิดขึ้นมาง่ายๆ ขนาดนั้นเลย? ในประวัติศาสตร์อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ทั้ง 3,000 ปีของพวกเรามีการบันทึกว่าอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้านั้นมีแค่ประมาณ 12 คนเท่านั้น ซึ่งคนทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงสูงส่ง สำหรับนิกายของเรา มีเพียงท่านผู้ก่อตั้งที่ออกแบบชุดศาสตรามณียุทธ์ระดับตำนานชุดนี้เท่านั้นที่เป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้า หลังจากเขาก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้าได้เช่นเดียวกับเขา”
โจวเหว่ยชิงถามว่า “ใครงั้นหรืออาจารย์?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อมองไปที่เขาอย่างนิ่งๆ ก่อนจะพูดว่า “เจ้ายังไงล่ะ”
โจวเหว่ยชิงมีสีหน้าตื่นตกใจ “ข้า?”
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ใช่ เจ้านั่นแหละ แม้แต่ความสามารถโดยกำเนิดของท่านผู้ก่อตั้งที่ยิ่งใหญ่ก็ยังไม่อาจเทียบได้กับพรสวรรค์ของเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าใช้เวลาสร้างม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์พื้นฐานทั้ง 392 กล่องนี้นานแค่ไหน?”
โจวเหว่ยชิงส่ายหน้า
ฮูเหยียนเอ้าป๋อกล่าวว่า “10 ปี ข้าใช้เวลาทั้งหมด 10 ปีและยังได้รับคำชมจากอาจารย์ว่าเป็นอัจฉริยะอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าความสามารถของข้าถูกจำกัดเพราะข้าไม่ใช่จ้าวมณีสวรรค์ ข้าก็คงจะกลายเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะได้อย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ดูเจ้าสิ เจ้าใช้เวลาเพียง 4 เดือน ทำสิ่งที่ข้าใช้เวลามาเป็น 10 ปี! ม้วนคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับพื้นฐานทั้ง 392 กล่องนั้นถือว่าเป็นแบบทดสอบที่สำคัญที่สุดสำหรับนิกายของเรา พวกเราจะถือว่าสำเร็จการศึกษาก็ต่อเมื่อทำแบบทดสอบนี้สำเร็จแล้ว เพราะฉะนั้นหมายความว่าหลังจากเจ้าทำเช่นนั้นสำเร็จแล้ว เจ้าก็จะกลายเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับกลาง ใช้เวลาเพียง 4 เดือนเพื่อกลายเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับกลาง…นั่นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ เฮ้อ เจ้ามีความพิเศษในด้านนี้จริงๆ…”
“ในอดีต ภาพร่างชุดนี้จะถูกส่งต่อไปยังลูกศิษย์ก็ต่อเมื่ออาจารย์กำลังจะจากไปปรโลกเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ข้ารู้สึกว่าความสามารถของเจ้านั้นยอดเยี่ยมเกินไปและข้าเชื่ออย่างแท้จริงว่าเจ้าจะสามารถนำมันไปใช้กับพรสวรรค์ที่เจ้ามีในมือได้ ดังนั้นตอนนี้ข้าจึงจะส่งต่อมันให้กับเจ้า ข้าหวังว่าในอนาคตเจ้าจะสามารถสร้างชุดคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์นี้ให้สำเร็จและใช้เป็นศาสตรามณียุทธ์ของตัวเจ้าเอง หากในอนาคตเจ้าสามารถสร้างมันได้จริงๆ เจ้าก็จะกลายเป็นอาจารย์ศาสตรามณียุทธ์คนแรกที่ครอบครองชุดคัมภีร์ศาสตรามณียุทธ์ระดับตำนานทั้งชุด”
โจวเหว่ยชิงกล่าวว่า “อาจารย์ ไม่เคยมีใครครอบครองชุดศาสตรามณียุทธ์ระดับตำนานทั้งชุดมาก่อนเลยหรือ?”
…………………………