ตอนที่ 225 ไล่ตามตลอดทาง! + ตอนที่ 226 เหล่าไป๋ส่ายสะโพก

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า

ตอนที่ 225 ไล่ตามตลอดทาง!

เฟิ่งจิ่วหลบไปข้างๆ ม้าตัวนั้นก็ปลีกมาด้านข้าง ยื่นหน้ายื่นคอเข้าไปใกล้ ลิ้นแลบออกอยากจะเลียหน้าเธออยู่ร่ำไป ชายหนุ่มข้างกันมองเสียจนนิ่งอึ้งไป ก่อนจะเร่งรีบคุมเชือกม้าพลางตะโกน

“เหล่าไป๋ เขาเป็นผู้ชายนะ!”

จากนั้น ค่อยเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วด้วยความเสียใจ “เหล่าไป๋หื่นกามไปบ้าง เดาว่าคงเห็นคุณชายรูปโฉมงดงาม จึงเข้าใจผิดว่าท่านเป็นผู้หญิง”

เฟิ่งจิ่วกระตุกมุมปาก มองม้าอ้วนตัวนั้นที่ยังดิ้นรนจะพุ่งเข้ามา ถามว่า “นี่เป็นม้าอะไรรึ? ไยจึงมีเขาด้วยเล่า?”

“เหล่าไป๋เป็นสัตว์วิญญาณที่กลายพันธุ์ เพราะมันรูปร่างเป็นม้า และมีเขาเช่นมังกร ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกมันว่าม้ามังกร ความเร็วในการวิ่งของม้าพลังวิญญาณตัวอื่นจะเร็วยิ่งนัก แต่เหล่าไป๋กินเยอะซ้ำยังเกียจคร้าน ถึงเลี้ยงมาเสียจนอ้วนท้วมเพียงนี้”

ชายหนุ่มถึงกับมองม้ามังกรตัวนั้นแวบหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้นัก บอกว่า “เดิมทีข้าไม่คิดจะพามันออกมา แต่คนในบ้านข้าบอกจะเชือดมันทำเป็นอาหาร ในใจทนไม่ไหวจึงพามันออกมา นึกไม่ถึงเดินมาครึ่งทางก็เริ่มวุ่นวายเสียแล้ว”

“ฮี้! ฮี้ๆ!”

ม้ามังกรนามเหล่าไป๋ร้องฮี้ หางสะบัดไปมา ยังคิดพุ่งไปหาเฟิ่งจิ่ว

เธอเห็นแล้วแปลกใหม่อย่างมาก เอ่ยว่า “ม้ามังกรตัวนี้ดูจะมีพลังวิญญาณมากนะ” ระหว่างพูด ก็ยื่นมือออกไปลูบๆ หัวมัน เห็นม้าตัวนั้นร้องฮี้พลางนอนลงบนพื้น สี่ขาถีบกีบม้าขึ้นฟ้าด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ

เห็นเช่นนี้ มุมปากเฟิ่งจิ่วก็กระตุกน้อยๆ อย่างกลั้นไม่อยู่ แอบคิดว่า ‘เป็นม้าบ้ากามอย่างที่คิดเลย!’

“ข้าชื่อ ไป๋เสี่ยว ท่านล่ะ?”

เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวว่า “พบกันโดยบังเอิญไม่มีเหตุอันใด ไยต้องถามชื่อแซ่ด้วยเล่า?” พูดจบ หลังประสานมือคารวะ สาวก้าวเดินหน้าต่อไป ที่เธอใช้คือฝีเท้าตามเมฆ ด้วยเหตุนี้ ความเร็วในการเดินทางจึงไวมาก แค่ออกท่าชั่วพริบตา ก็ออกไปไกลห้าสิบเมตรแล้ว

“ฮี้!”

เหล่าไป๋ที่ล้มอยู่บนพื้นเห็นเฟิ่งจิ่วเดินไป ร้องฮี้ผุดลุกขึ้นมาจากพื้น กระทืบกีบม้าไล่ตามเธอไป

“อ๊ะ! เหล่าไป๋รอเดี๋ยวสิ ข้ายังไม่ได้ขึ้นม้าเลย!” ไป๋เสี่ยวอุทาน ถูกลากวิ่งไปทั้งที่จูงเชือกม้าอยู่

เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลังหันกลับไปชำเลืองมอง เส้นเลือดสีดำตรงขมับก็นูนขึ้น เร่งความเร็วพุ่งไปทันที แต่ว่า ที่ทำให้คาดไม่ถึง คือเหล่าไป๋ตัวนั้นดูอ้วนราวกับหมู แต่พอวิ่งขึ้นมากลับไม่ออมแรงเลยสักนิด ไม่นึกเลยว่าจะไล่ตามมาตลอดทางโดยที่เธอไม่อาจสลัดทิ้งได้

ดวงตาเห็นว่าจะถึงหมู่บ้านข้างหน้าแล้ว จึงค่อยๆ ชะลอความเร็วลงถอนหายใจเบาๆ หันกลับไปเหลือบมอง ก็หยุดลงอย่างง่ายดาย

“ฮู่! ข้าจะบ้าตาย!”

ไป๋เสี่ยวโดดลงมาจากหลังม้า ตัวลงนั่งหอบหายใจอยู่บนพื้น เมื่อเห็นเหล่าไป๋หมอบลงตรงหนุ่มน้อยชุดแดงอย่างเอาอกเอาใจ ทำได้เพียงถลึงตามองตรงๆ

เฟิ่งจิ่วตอนนี้ก็ถลึงดวงตาจ้องมองม้าบ้ากามตรงหน้าที่มองเธอน้ำลายสอ จะพูดยังไงดีล่ะ!

ม้ามังกรตัวนี้ไม่แข็งแรง กลับอ้วนท้วมไปทั้งตัว ช่างดูไม่งามเอาเสียเลยจริงๆ ถึงแม้ความเร็วในการวิ่งจะไม่ช้า แต่ เธอไม่อยากให้ม้าตัวอ้วนเช่นนี้มาคอยติดตามหรอกนะ

“เฮ้ ดูแลม้าเจ้าให้ดีๆ หน่อย อย่าให้มาตามข้าอีก” เธอพูดพลางมองไปทางชายหนุ่มบนพื้น สิ้นสุดน้ำเสียง เงาร่างสีแดงแวบไปเข้าประตูหมู่บ้านด้านหน้าอย่างรวดเร็ว เวลาเพียงแวบเดียว ก็หายลับไปท่ามกลางฝูงชน

เหล่าไป๋นิ่งงันสักพัก ร้องฮี้ลุกยืนขึ้นกระทืบกีบม้าไล่ตามไปต่ออย่างว่องไว

ไป๋เสี่ยวทำได้เพียงกัดฟัน ถลึงดวงตาตะโกนอย่างโกรธเคือง “เหล่าไป๋! ข้าจะเฉือนเจ้าเป็นพันครั้ง! หากวิ่งไปอีกข้าจะไม่เอาเจ้าแล้วจริงๆ นะ!” สิ้นสุดน้ำเสียง ก็เร่งรีบลุกขึ้นไล่ตามไป

………………………………………………….

ตอนที่ 226 เหล่าไป๋ส่ายสะโพก

อีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเข้ามาในโรงเตี๊ยม ตะโกนว่า “เสี่ยวเอ้อ! เอาอาหารดีจานเด็ดมาสักสองสามอย่าง กับเหล้าอีกหนึ่งไห!”

“ได้ขอรับ!” เสี่ยวเอ้อที่กำลังต้อนรับลูกค้ายกเสียงขึ้นขานรับ ถือกาน้ำเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ลูกค้า เชิญดื่มชาก่อน ประเดี๋ยวจะยกเหล้ากับอาหารมานะขอรับ”

เฟิ่งจิ่วเดิมนั่งอยู่ตรงตำแหน่งที่นั่งข้างหน้าต่างชั้นหนึ่ง ทว่า เมื่อสายตาชำเลืองมองออกไปโดยบังเอิญ กลับเห็นม้าอ้วนตัวนั้นมองซ้ายแลขวาตามหามาตลอดทาง จึงตกใจเสียจนรีบร้อนเคลื่อนถอยหลังไป

จนกระทั่ง หลังม้าอ้วนตัวนั้นเดินผ่านอยู่ด้านนอก เธอถึงจะถอนหายใจเบาๆ พลางพูดว่า “ช่างแปลกประหลาดจริงๆ ทำไมถึงตามไม่ปล่อยเลยนะ?”

เธอยกถ้วยขึ้นซดน้ำชาที่ยังมีไอร้อนอยู่ ขณะกำลังดื่ม ก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวลอยมาจากหน้าต่าง

“ฮี้!”

เธอหันหน้าไปมอง ร้องออกมาทันใด “หวา!” สักพักถ้วยชาในมือก็พลิกล้มลงอย่างไม่มั่นคง น้ำชาสาดไปทั่วโต๊ะ

เพียงเห็นเหล่าไป๋มาตรงหน้าต่างเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กำลังชะโงกหัวพ่นลมหายใจใส่เธอสองครั้ง ซ้ำยังฉีกยิ้มสะบัดหางส่ายสะโพกไปเรื่อย คล้ายกำลังพูดว่า ‘ดูสิ ข้าหาเจ้าเจออีกแล้ว’

“เป็นเงาตามติดเสียจริงเชียว!”

เธอถลึงตามอง เห็นม้าอ้วนตัวนั้นยกสองกีบหน้ากระโดดไปข้างหน้า หมอบลงตรงหน้าต่างไม่ไปไหน จ้องมองเธออยู่เช่นนั้น เร้ามาซึ่งเสียงหัวเราะของผู้คนบริเวณรอบๆ

“นี่เป็นม้าผู้ใดรึ? อ้วนท้วมนัก!”

“บนหัวม้าตัวนี้มีเขางอกด้วย! คล้ายจะไม่ใช่ม้าธรรมดาเลย”

“พวกเจ้าดูม้าตัวนี้สิ รู้จักหมอบตรงหน้าต่างด้วยนะ!”

ได้ยินเสียงขบขันของผู้คน เจ้าของร้านกลับวิ่งโมโหปึงปังเข้ามา “นี่เป็นม้าใครกัน? จะไม่ให้คนทำมาหากินเลยหรือไร? จูงออกไป จูงออกไปเร็วเข้า!”

จากนั้น ก็เอ่ยขอโทษกับเฟิ่งจิ่ว “ลูกค้าท่านนี้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ไม่รู้ว่าม้าใครวิ่งเข้ามารบกวนท่าน ไม่งั้นเอาเช่นนี้ไหมขอรับ! ขอเชิญท่านขึ้นไปนั่งบนชั้นสอง?”

“ไม่ต้องๆ ข้าจะนั่งตรงนี้แหละ”

เฟิ่งจิ่วพูดพลางโบกๆ มือ เห็นชายหนุ่มผู้นั้นที่วิ่งมากลางฝูงชนตะโกนหอบแฮกๆ “เป็นม้าข้า! ม้าข้าเอง!”

ชายหนุ่มหอบวิ่งมา เร่งรีบจูงเชือกม้าไว้แล้วด่าม้าอ้วนตัวนั้นด้วยความขุ่นเคือง “ข้าโกรธแทบตายแล้วนะ! เหล่าไป๋! ข้า ข้าจะขายเจ้าแน่!”

“งั้นข้าซื้อแล้วกัน!” เฟิ่งจิ่วเล่นแก้วที่อยู่บนโต๊ะ มองหนึ่งคนหนึ่งพลางพูด

“หา? อะ อะไรนะ?” ชายหนุ่มอึ้งไป ตกตะลึงนิดหน่อย

เธอยกริมฝีปาก บอกว่า “ข้าบอกข้าจะซื้อ ม้านี่เจ้าขายยังไง? จะขายไม่ใช่รึ? ขายให้ข้าก็ได้”

“นี่ นี่…”

ชายหนุ่มเกาศีรษะ พูดหน้าเหยเก “ที่จริงข้าแค่พูด แค่ด่ามัน ไม่คิดจะขายหรอก”

“เห็นชัดว่าม้าตัวนี้ชอบข้านัก เจ้าดูสิ ตามข้ามาตลอดทาง ยังไงซะมันก็ไม่เชื่องกับเจ้า ขายให้ข้าไม่ดีกว่ารึ?” เธอมองม้าอ้วนที่หมอบตรงหน้าต่าง เลิกคิ้วขึ้น ยกมุมปากขึ้นยิ้มชั่วร้าย

“เหล่าไป๋ เจ้าว่าใช่ไหมล่ะ? เจ้าก็อยากติดตามข้าใช่หรือไม่?”

“ฮี้!”

เหล่าไป๋เงยหน้าขึ้นร้องฮี้ ขาหลังยกขึ้นเตะไปทางชายหนุ่ม

เห็นเช่นนี้ ไป๋เสี่ยวถอยห่างอย่างรวดเร็ว สีหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธ ตบลงบนสะโพกม้าอย่างขุ่นข้องใจ ด่าทอว่า “เหล่าไป๋! เจ้าเด็กเห็นสาวลืมเพื่อน! เขาเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง เจ้าตื่นเต้นอะไรเนี่ย!”

เฟิ่งจิ่วที่เห็นภาพนี้หัวเราะลั่นขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ บอกว่า “เฮ้อ เดิมที่ข้าไม่ค่อยชอบเลยจริงๆ ตอนนี้ยิ่งมองยิ่งถูกใจ ทำยังไงดีล่ะ?”

เหล่าไป๋ได้ยินคำพูดนี้ สะโพกก็ส่ายสะบัดขึ้นมา ยื่นหน้าเข้ามาด้วยท่าทางดีอกดีใจ แลบลิ้นจะเลียไปทางเธอ

………………………………………………….