บทที่ 67 เจ้านี่ปิดบังฝีมือที่แท้จริงมาตลอด

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 67 เจ้านี่ปิดบังฝีมือที่แท้จริงมาตลอด

หลินเป่ยเฉินรู้สึกเลือดขึ้นหน้าทันที

ประโยคนี้มัน…

ไม่ใช่ประโยคปฏิเสธ แต่เป็นประโยคดูถูกกันชัดๆ

“เซินเฟย” เขาตัดสินใจยกกระบี่ขึ้นชี้หน้าฝ่ายตรงข้าม “ข้าขอแนะนำ จงแสดงฝีมือของเจ้าผ่านกระบี่ ดีกว่าอวดลวดลายผ่านลมปาก ถ้าเจ้าคิดว่าข้าไม่คู่ควรต่อสู้กับเจ้า อย่างนั้นก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นหน่อยเป็นไร”

เซินเฟยตอบกลับด้วยการยิ้มเยาะ

หลี่เทาแทรกขึ้นว่า” พี่เฟย ให้ข้าจัดการมันผู้นี้เอง”

เซินเฟยกลับปฏิเสธทันที “ไม่ต้อง”

หลังเตรียมการมานานแสนนาน นี่คือวันที่เขาจะเรืองอำนาจเขย่าเมืองหยุนเมิ่ง

ดังนั้น เซินเฟยคิดว่าเขาควรเอาชนะหลินเป่ยเฉินด้วยตัวเอง

“ในเมื่อเจ้าอยากทำให้ตัวเองอับอายขายหน้านัก ข้าก็จะทำให้สมหวัง”

เซินเฟยเดินออกมาอย่างเชื่องช้า

แต่เขามาพร้อมกับพลังกดดันมหาศาล

ทุกฝีเท้าที่ก้าวเดินเข้ามา เศษทรายบนพื้นดินจะปลิวกระจาย เหมือนว่าโลกนี้ไม่มีแรงโน้มถ่วงอีกแล้ว

หลิงเฉินพูดขึ้นทันทีว่า “เจ้าสู้เขาไม่ได้หรอก ฝีมือยังห่างกันมากเกินไป”

หลินเป่ยเฉินตอบกลับโดยไม่เหลียวหน้ามองนางสักนิด “ฮึ วันนี้ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าได้รู้ คนจริงเขาอาศัยการกระทำพิสูจน์ตัวเองแทนคำพูด หากเจ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวข้าจะแสดงให้ดู”

หลังจากนั้น เด็กหนุ่มก็ตวัดกระบี่บุกโจมตีเซินเฟย

“วูบ!”

นี่คือวิชากระบี่สามท่าพื้นฐาน

คมกระบี่ลอยตัวในอากาศ

หลินเป่ยเฉินเสือกแทงกระบี่ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ร่างกายพร่าพรายเหมือนหมอกควันสายหนึ่ง หากเทียบกับการต่อสู้ก่อนหน้านี้ นับว่าเขามีความน่ากลัวมากกว่าเดิม

“ตวัด!”

“ฟัน!”

“แทง!”

หลินเป่ยเฉินโจมตีเซินเฟยด้วยสามจังหวะอันตราย

เซินเฟยยิ้มออกมาเล็กน้อย

กระบี่หมื่นดาราในมือของเขาตวัดตัวพลิ้วไหวราวนกยูงรำแพน ก่อเกิดเป็นประกายละลานตาเต็มไปหมด

ไม่มีช่องว่างให้โจมตีเลยสักนิดเดียว

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

การโจมตีทั้งสามจังหวะของหลินเป่ยเฉินถูกปัดป้องได้อย่างง่ายดาย

พลังกดดันแผ่เข้ามากระทบผิวกาย

เป็นพลังที่น่ากลัวมากกว่าดัชนีสะบั้นฟ้าของเถาว่านเฉิงหลายเท่า

แขนซ้ายของหลินเป่ยเฉินรู้สึกชาไปหมด

แต่เด็กหนุ่มยังทนไหว

เขารวบรวมสติ และใช้กระบวนท่ากระบี่ดาราคล้อยออกไปโดยไม่ลังเล

หนึ่งกระบี่มีหกเงา!

“หืม?”

เซินเฟยถึงกับตกตะลึงพอสมควร

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

เสียงเนื้อโลหะดังปะทะกันห้าครั้ง

เซินเฟยสามารถป้องกันการจู่โจมของหลินเป่ยเฉินได้ถึงห้ากระบี่

แต่เมื่อถึงเงากระบี่สุดท้าย คมกระบี่ก็แทงทะลุการป้องกันของเขาเข้ามาได้แล้ว

“เฮอะ ดูเหมือนข้าจะประมาทเจ้าเกินไป”

เซินเฟยขยับเท้าในลักษณะแปลกประหลาด พลันร่างกายของเขาพลิ้วไหวเหมือนสายหมอก สามารถหลบหลีกคมกระบี่ได้อย่างรวดเร็ว

“กระบวนท่าวิญญาณล่องนภา?”

เถาว่านเฉิงอุทานด้วยสีหน้าประหลาดใจ “พี่เฟยสามารถใช้วิชาตัวเบาระดับ 2 ดาวได้แล้วหรือ?”

หลี่เทาส่งเสียงตะโกนด้วยความลิงโลดใจว่า “พี่เฟย ท่านสุดยอดที่สุดเลย”

เพียงพริบตาเดียว

เสียงระเบิดก็ดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้ง

หลินเป่ยเฉินกับเซินเฟยวิ่งตัดผ่านกัน

“วูบ!”

ในจังหวะที่เด็กหนุ่มทั้งสองคนวิ่งผ่านกัน หลินเป่ยเฉินก็ไม่สามารถลงมือโจมตีได้อีกแล้ว แต่เซินเฟยยังคงตวัดกระบี่ฟาดฟันได้ต่อไป คมกระบี่หมื่นดาราสาดประกายแวววาว บิดตัวเหมือนงูพิษสีเงินโจมตีใส่หลินเป่ยเฉินในมุมองศาที่คาดไม่ถึง

“เชี่ยเอ๊ย…”

กระบวนท่านี้ทำให้หลินเป่ยเฉินต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น

เด็กหนุ่มพยายามนึกทบทวนทฤษฎีการต่อสู้ที่ตนเองเคยผ่านตา

แต่ในจังหวะที่หลินเป่ยเฉินกำลังถอยร่นหลบหนี ร่างกายของเขาก็พลันแผ่มวลพลังงานร้อนอุ่นออกมาสายหนึ่ง

เซินเฟยเสือกแทงกระบี่ตามติดเข้ามาเร็วไว

แต่หลินเป่ยเฉินตอบสนองว่องไวไม่แพ้กัน ถึงกับสามารถหมุนตัวยกกระบี่ขึ้นต้านทานกระบี่หมื่นดาราได้ทันเวลา

และในจังหวะนั้นเอง การโจมตีได้เกิดขึ้นและจบลง

นอกจากหลิงเฉินเพียงคนเดียวแล้ว ไม่มีใครมองทันเลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ผลั่ก!”

เซินเฟยหมุนตัวใช้ด้ามกระบี่กระแทกเข้าใส่ชายโครงของหลินเป่ยเฉินเข้าเต็มแรง

“ผัวะ!”

หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกที่ชายโครง พลัน เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่ในความเป็นจริงคือตัวเขากำลังลอยกระเด็นมาไกลหลายผิง ก่อนตกกระแทกพื้นอย่างแรง

เด็กหนุ่มรีบลุกขึ้นตรวจสอบร่างกายด้วยความระมัดระวัง และพบว่าพื้นที่บริเวณใต้หน้าอกฝั่งซ้ายมือเกิดความรู้สึกชาหนึบ

แต่กระดูกไม่ได้แตกหัก ผิวหนังไม่ได้เกิดบาดแผล

เรียกว่าไม่เจ็บปวดเลยด้วยซ้ำ

แถมเขายังรู้สึกสบายตัวมากขึ้นอีกด้วย

หลินเป่ยเฉินจึงกระโดดลุกขึ้นบุกโจมตีไม่ลังเลอีกครั้ง

เขาใช้กระบวนท่ากระบี่ดาราคล้อยและสามท่าพื้นฐานต่อเนื่องกัน

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

เสียงเนื้อโลหะปะทะกันดังขึ้นหกครั้งในอากาศ

เซินเฟยสะบัดกระบี่ด้วยความเร็วไว เกิดเป็นม่านกำแพงกระบี่ ป้องกันการโจมตีจากหลินเป่ยเฉิน

แต่ขณะนี้ เด็กหนุ่มร่างผอมอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้จริงๆ

ด้ามกระบี่ที่กระแทกใส่ชายโครงหลินเป่ยเฉินเมื่อสักครู่นี้ รุนแรงมากพอที่จะโค่นต้นไม้ได้ต้นหนึ่งเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น กระดูกคู่ต่อสู้ของเขาสมควรหักเป็นหลายท่อน หลินเป่ยเฉินสมควรนอนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้ได้อีก แล้วเป็นไปได้อย่างไรกันที่เจ้าแกะดำยังลุกขึ้นมาโจมตีเขาได้ต่อเนื่องอย่างนี้ ซ้ำความเร็วและพละกำลังก็ไม่ได้ลดลงไปเลยสักนิด

ในขณะที่เซินเฟยจมอยู่ในภวังค์ กระบี่เงาที่เจ็ดพลันจู่โจมเข้ามาแล้ว

“นี่มันอะไรกัน?”

เซินเฟยสะดุ้งเฮือก

เมื่อสักครู่นี้ หลินเป่ยเฉินฟันออกมาเจ็ดกระบี่อย่างนั้นหรือ!

“ทำไมถึงได้แข็งแกร่งขึ้นอย่างนี้นะ?”

เงากระบี่ทั้งหกก่อนหน้าว่าน่าประทับใจแล้ว

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าคนไม่เอาไหนกลับมีความน่ากลัวมากกว่านั้น

จังหวะนี้มัวคิดมากไม่ได้ เซินเฟยใช้วิชาตัวเบาวิญญาณล่องนภาหลบหลีกการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ในขณะเดียวกัน ก็ตวัดกระบี่ในมือด้วยความรวดเร็วว่องไว กลายเป็นประกายแวววาวเหมือนดวงดาวนับร้อยพัน กำเนิดเป็นม่านแหกระบี่ปกคลุมทั่วใบหน้าหลินเป่ยเฉิน

นี่คือวิชากระบี่ฝนดาวตก!

เป็นหนึ่งในวิชากระบี่ระดับ 1 ดาวที่ดีที่สุด

กระบวนท่านี้มาพร้อมกับพลังสสารลึกลับ

แม้แต่สายลมของคมกระบี่ ก็สามารถทำให้เกิดอันตรายได้แล้ว

เงากระบี่แผ่ครอบคลุมเข้ามา

หลินเป่ยเฉินเบิกตาโต ล่าถอยพลางสะบัดกระบี่ปัดป้องพลาง พยายามต้านทานการโจมตีของเซินเฟยให้รัดกุมมากที่สุด

ร่างกายของเขาร้อนผ่าวไปหมด

ทันใดนั้น เกิดภาพแปลกประหลาดผุดขึ้นมาในสมองของหลินเป่ยเฉิน

การเคลื่อนไหวเหล่านี้รู้สึกเหมือนเขาเคยเจอมาแล้ว

ปรากฏว่ามันเป็นกระบวนท่าลักษณะเดียวกับที่หลินเป่ยเฉินต่อสู้กับเถาว่านเฉิง

แต่เถาว่านเฉิงไม่ได้กดดันเขามากพอที่จะสร้างภาพนิมิตขึ้นมาได้ อานุภาพที่แท้จริงของพลังจิตจึงยังไม่ถูกใช้งาน

ขณะนี้ พลังกดดันจากการโจมตีของเซินเฟยหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

คมกระบี่ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

ประกายไฟสาดกระจายในอากาศ

กระบี่คุณธรรมพลิ้วไหว มวลพลังงานกดดันไหลรินเข้าสู่ร่างกายหลินเป่ยเฉิน ทำให้กระดูกและกล้ามเนื้อของเขาสั่นสะเทือน

หลินเป่ยเฉินรู้สึกไม่ต่างไปจากตอนที่กำลังฝึกวิชากระบี่เร้นกายด้วยแอปในโทรศัพท์มือถือ

ในเวลาเดียวกันนี้ พลังจิตของเขาก็สร้างภาพนิมิตขึ้นมา เป็นภาพการโจมตีที่จะเกิดขึ้นจากเซินเฟยในอีกไม่กี่ลมหายใจข้างหน้า

นับเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดยิ่ง

หลินเป่ยเฉินรู้สึกได้ชัดเจนว่ามีบางอย่างในร่างกายของเขากำลังแตกสลาย และมีบางอย่างกำลังจะก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่ มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาเป็นเสมือนผู้ตื่นรู้

“เคล้ง เคล้ง เคล้ง!”

เซินเฟยใช้กระบวนท่ากระบี่ฝนดาวตกออกมาด้วยความรวดเร็วรุนแรงยิ่งขึ้น

ความประหลาดใจบนสีหน้าของเขายิ่งมายิ่งชัดเจน

เพียงพริบตาเดียว เด็กหนุ่มทั้งสองคนก็ใช้ออกมากว่า 20 กระบวนท่าแล้ว

ที่คิดไม่ถึงเลยก็คือ เซินเฟยยังไม่สามารถเอาชนะหลินเป่ยเฉินได้สำเร็จ นับว่าผิดคาดไม่น้อย

เจ้าคนไม่เอาไหนยืนปักหลักเหมือนต้นไม้ใหญ่ ทุกครั้งที่เซินเฟยแทงกระบี่ใส่หลินเป่ยเฉิน ซึ่งควรกระดูกชายโครงแตกหักจากการโดนด้ามกระบี่กระแทกไปก่อนหน้านี้ กลับสามารถหลบหลีกได้เหมือนรู้ทัน ซ้ำยังหาจังหวะตีโต้กลับมาได้เป็นระยะอีกต่างหาก

“อย่าบอกนะว่าเจ้านี่ปิดบังฝีมือที่แท้จริงมาตลอด?”

ยิ่งสู้กันไป เซินเฟยก็ยิ่งเกิดความรู้สึกเหลือเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ