บทที่ 150 ภารกิจถุงนำโชค!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

คำพูดของจางจื้อซินทำให้เฉินชางเงียบไปนาน ถ้ารับสัญญาปันผลแล้วจะมีข้อจำกัดมากจริงๆ

แต่หากตนเพียงร่วมมือออกแบบและทำการผ่าตัดเป็นบางครั้ง ก็จะแตกต่างกันออกไป เป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อีกอย่าง หูฉวนจินบอกว่าจะไม่จำกัดเวลาทำงานของตนเอง แต่ว่า…คนเราต่างก็มีใจเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น

หากเฉินชางรับส่วนแบ่งของคลินิกศัลยกรรมจื้อซิน ย่อมต้องคิดส่งผู้ป่วยไปที่นั่นโดยไม่รู้ตัว ไปๆ มาๆ อยู่เช่นนี้จนกลายเป็นวงจรอย่างหนึ่ง และด้วยเรื่องของน้ำใจ ก็จะทำอะไรไม่สะดวก!

เฉินชางคิดไปมา จึงตัดสินใจกลับไปไตร่ตรองข้อเสนอของจางจื้อซินให้ดี

จู่ๆ จางจื้อซินก็หัวเราะ ตบไหล่เฉินชางพูดว่า “เอาละ กลับไปคิดให้ดีๆ เถอะครับ แต่ตอนนี้เป็นเวลาแบ่งเงิน! คุณมีความสามารถจริงๆ ติดตามคุณ แม้แต่ค่าตัวของผมก็ยังเพิ่ม!”

“การผ่าตัดหนึ่งเคสได้สามหมื่น ก่อนหน้านี้แม้แต่คิดก็ไม่กล้า ขนาดหวังเชิน ‘เจ้าแห่งดวงตา’ ก็ได้เคสละสามแสนเหมือนกัน พวกเราสองคนผ่าตัดเคสหนึ่งก็ได้สามแสนแล้ว หาเงินกับคนมีเงินนี่มันดีจริงๆ!”

“จริงสิ วันนี้มีการผ่าตัดสองเคส ทั้งหมดหกแสน คุณได้สองแสน เอาแบบนี้แล้วกัน คุณส่งเลขบัญชีมาให้ผม เดี๋ยวผมให้ฝ่ายบัญชีโอนให้คุณ”

เวลาที่เหลือ เฉินชางและจางจื้อซินผ่าตัดอีกหลายเคสด้วยกันที่คลินิกศัลยกรรม ล้วนเป็นการผ่าตัดทำตาสองชั้น เพราะคนที่ต้องการทำศัลยกรรมแบบไม่ผ่าตัดมีไม่มาก ส่วนใหญ่มากรีดตาสองชั้นหรือไม่ก็สักคิ้ว

แม้จางจื้อซินจะไม่ได้เก่งเหมือนฉินเสียง แต่คนๆ นี้มีข้อดีคือทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตาปากจมูกคิ้วล้วนทำได้ทั้งนั้น แม้แต่การผ่าตัดต่อมเหงื่อเพื่อดับกลิ่นกายก็ทำได้

การผ่าตัดวันต่อมาค่อนข้างซับซ้อน มีคนมาทำทุกอย่าง นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางได้เห็นการผ่าตัดเสริมหน้าอก!

ความจริงในฐานะที่เป็นผู้ชาย ตอนแรกเฉินชางคิดว่าตนจะมีความคิดฟุ้งซ่านเสียอีก แต่ตอนที่การผ่าตัดเริ่มต้น เฉินชางก็พบว่า…มันดูแตกต่างจากปกติอยู่บ้าง ไม่มีความคิดเชิงนั้นแม้แต่น้อย กระทั่งรู้สึกว่าเนื้อบริเวณหน้าอกไม่แตกต่างอะไรจากตรงอื่น พูดให้แย่หน่อยก็คือเหมือนกับการเชือดหมู แต่ว่า…เป็นเช่นนี้จริงๆ!

ไม่มีความแตกต่างแม้แต่น้อย! เขาคิดมากไปเอง

……

……

เมื่อเข้าแลกเวรวันจันทร์แล้ว จู่ๆ เฉินชางก็พบว่าผู้ป่วยในแผนกมีมากขึ้น! ผู้ป่วยที่มาผ่าตัดถุงน้ำดีและไส้ติ่งมีถึงยี่สิบสามคน!

ทำไมถึงมากขนาดนี้?

หวังหย่งพูดว่า “คืนวันศุกร์ จางโหย่วฝูแห่งแผนกศัลยกรรมทั่วไปโฆษณาวิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องที่แผนกเราพัฒนาขึ้นมาใหม่ในระยะนี้ทางทีวี เลยมีคนไข้หลายคนมาที่นี่ สองวันนี้งานของทุกคนคงหนักหน่อย โดยเฉพาะเฉินชาง!”

ตอนนี้เฉินชางจึงค่อยเข้าใจกระจ่างขึ้นมา!

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!

หลี่เป่าซานมองเฉินชาง รู้สึกชื่นชมมากยิ่งขึ้น “เสี่ยวเฉิน หลายวันนี้ลำบากคุณแล้ว ต้องให้คุณช่วยสอนหมอแผนกศัลยกรรมทั่วไปหน่อยนะครับ ให้ทุกคนเรียนรู้วิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบบาดเจ็บน้อยให้เร็วที่สุด จนทำได้เหมือนการผ่าตัดปกติในโรงพยาบาล”

เพิ่งพูดจบเฉินชางก็มองไปยังหลี่เป่าซาน พบว่ามีเครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือศีรษะ

[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจจาก NPC ระดับสูงหลี่เป่าซาน รายละเอียดภารกิจ: สอนบุคลากรในโรงพยาบาลให้ใช้วิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้องแบบบาดเจ็บน้อยฉบับปรับปรุง ภายในระยะเวลาสองวัน

รางวัลภารกิจ: ได้รับถุงนำโชคใบเล็ก 1 ใบ หลังจากเปิดจะสุ่มรับของ 1 อย่าง (ได้รับถุงนำโชคหนึ่งใบเมื่อสอนสำเร็จหนึ่งคน)]

หลังจากเฉินชางกดรับภารกิจ ดวงตาพลันสว่างวาบอย่างยินดี

ความจริงวิธีการผ่าตัดแบบบาดเจ็บน้อยไม่ได้เป็นวิธีที่ยากมากมายอะไร เป็นเพียงเทคนิคที่ปรับปรุงขึ้นมาใหม่เท่านั้น หวังหย่งเรียนไม่นานก็ทำได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศัลยแพทย์เหล่านั้นเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็พยักหน้ารับ “ได้ครับหัวหน้าแผนก”

หลี่เป่าซานยิ้ม “หวังหย่ง คุณก็ไปผ่าตัดกับเฉินชางด้วยนะครับ ยังไงคุณก็เรียนวิธีนี้มาแล้ว วันนี้เก้าโมงเช้ามีผ่าตัดเคสแรก พวกคุณรีบไปเตรียมตัวกันเถอะ”

ตอนเช้ามีการผ่าตัดสี่เคส หลังทำความเข้าใจสภาพผู้ป่วยแล้ว เฉินชางและหวังหย่งก็ไปที่ห้องผ่าตัด นี่เป็นการผ่าตัดธรรมดาที่ไม่ซับซ้อนอะไร ปัญหาไม่ใหญ่อะไรมาก

ตอนนี้เองมีหมอสามคนเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นเฉินชางก็ยิ้มเข้ามาทักทาย

“หมอเฉิน ดูถูกไม่ได้เลยนะครับ อายุยังน้อยแต่ฝีมือดีจริงๆ!”

“ใช่แล้ว วันนี้พวกเรามาเพราะได้ยินชื่อเสียงของคุณนะครับ”

“ใช่แล้ว!”

เฉินชางยิ้มอย่างเขินอาย คำพูดเหล่านี้ถือเป็นจริงไม่ได้เด็ดขาด อย่างไรเสียคนเหล่านี้ก็เป็นเสาหลักของศัลยแพทย์ทั่วไป แต่ละคนมีประสบการณ์การผ่าตัดและฝีมือการผ่าตัดมากจนเฉินชางไม่อาจเทียบ

การผ่าตัดกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เฉินชางทำการผ่าตัดเคสแรกเป็นตัวอย่าง ทำไปบรรยายไป ทุกคนต่างก็พากันพยักหน้า ส่วนหวังหย่งก็คอยสังเกตวิธีการผ่าตัดฉบับปรับปรุงของเฉินชางอย่างตั้งใจ

ทุกคนคอยสังเกตการณ์ ไม่กระทบกระทั่งกัน

เมื่อมาถึงการผ่าตัดเคสสอง เฉินชางก็ให้หวังหย่งเข้ามาทำ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนจะได้เห็นส่วนที่แตกต่างกัน ส่วนเฉินชางก็จะชี้แนะปัญหาเล็กๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

การผ่าตัดดำเนินไปอย่างราบรื่นเป็นขั้นเป็นตอน หวังหย่งมั่นใจในวิธีการผ่าตัดฉบับปรับปรุงแล้ว ทำได้เชี่ยวชาญขึ้นเรื่อยๆ

ภายในหนึ่งวันผ่าตัดไปสิบกว่าเคสแล้ว แม้ทั้งสองจะเหนื่อยแทบตาย แต่จะอย่างไรก็ได้รับประโยชน์มากกว่า

ผ่าตัดต่อเนื่องมาหนึ่งวัน แม้จะพูดไม่ได้ว่ามั่นใจในการผ่าตัดฉบับปรับปรุงทุกด้าน แต่ก็นับว่าหวังหย่งเก่งขึ้นมาก

กลุ่มคนที่มาดูการผ่าตัดก็เปลี่ยนไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า สลับสับเปลี่ยนกันมาแล้วสี่ห้ากลุ่ม แต่ว่า…

สิ่งที่เฉินชางรู้สึกเศร้าก็คือ ทำไมไม่มีคนกระตุ้นรางวัลอะไรได้เลย?

นี่มันแปลกจริงๆ!

หรือว่าคุณสมบัติของแต่ละคนยังสู้หวังหย่งไม่ได้เลย?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ทอดถอนใจ มีท่าทีอัดอั้นยิ่ง

วันต่อมายังคงดำเนินไปเช่นนี้ เฉินชางและหวังหย่งชินกับขั้นตอนแล้ว หวังหย่งรับมือคนเดียวได้แล้ว

หลังจากผ่าตัดเสร็จไปเคสหนึ่ง เฉินชางก็ได้รับโทรศัพท์จากหลี่เป่าซานบอกให้เขากลับไปที่วอร์ด ด้วยเหตุนี้จึงลุกเดินออกไป

เพิ่งออกไปได้ไม่นานก็มีหลายคนเดินเข้ามาที่ห้อง หวังหย่งเริ่มผ่าตัดไปอย่างเชี่ยวชาญ

หวังหย่งผ่าตัดไปบรรยายไป “สิ่งสำคัญของการผ่าตัดแบบบาดเจ็บน้อยมีหลายด้าน อย่างแรกก็คือตอนผ่าเปิด จะต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตำแหน่ง…”

ตอนนี้หวังหย่งเชี่ยวชาญในการผ่าตัดถุงน้ำดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังใช้กล้องสำหรับผ่าตัดได้อย่างคล่องแคล่วอีกด้วย

เฉินชางกลับมาที่แผนก เห็นหลี่เป่าซานยืนรออยู่จึงชะงักไปเล็กน้อย “หัวหน้าแผนกเรียบผมหรือครับ?”

หลี่เป่าซานพยักหน้ายิ้มๆ “การผ่าตัดเคสต่อไปจะมีกรรมการคุมสอบคอยดู นี่เป็นการสอบประเมินของหวังหย่ง”

เฉินชางตื่นตะลึงไปแล้ว!

“เร็วขนาดนี้เลยหรือครับ? ผมควรไปบอกเขาสักหน่อย…”

หวังหย่งส่ายหน้า “ไม่ต้องบอกหรอก ให้เขาผ่าตัดไปตามปกติก็พอ ไม่งั้นเกิดเครียดจนทำพลาดขึ้นมาคงไม่ดี ใช่แล้ว ช่วงนี้คุณค่อนข้างสนิทกับหวังหย่ง คุณคิดว่าเป็นยังไงครับ จะผ่านไหม?”

เฉินชางมีท่าทีครุ่นคิด “น่าจะผ่านนะครับ!”

หวังหย่งจะผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นระบบศิษย์อาจารย์เท่านั้น อีกอย่าง…ช่วงนี้หวังหย่งสร้างความประทับใจให้เฉินชางไม่เลวเลย เขาไม่เพียงแต่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม ที่สำคัญกว่านั้นคืออดทนอดกลั้นไม่ย่อท้อ

กล่าวตามตรง คนปกติจะทำได้เหมือนเฉินชางกับหวังหย่งที่ไหนกัน ใครจะยืนหยัดเป็นพนักงานชั่วคราวอยู่ในแผนกฉุกเฉินถึงสองปีได้หรือ?

หวังว่าหวังหย่งจะไม่มีปัญหา!