ตอนที่ 135 กินยาเซียนอย่างบ้าคลั่ง

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

หากไม่ใช่เพราะต้องช่วยปรุงยาเซียนห้าเม็ดให้อันหลิน หยินสี่คงได้ยกไม้กวาดฟาดเจ้าคนประสาทสองคนตรงหน้านี้จนกระเด็นแน่

นักพรตน้อยกลับจากการเก็บสมุนไพร

แหวนมิติส่องแสง สมุนไพรนานาชนิดกองอยู่บนพื้นราวกับเนินเขา แผ่กระจายคลื่นพลังที่ยิ่งใหญ่

หยินสี่เพียงอยากส่งคู่หูคู่นี้ไปให้ไวที่สุด จึงสะบัดเสื้อ ทำให้สมุนไพรทั้งหมดเริ่มลอยขึ้นมา

จากนั้นเมื่อเขาอ้าปากแล้วพ่น เปลวไฟสีม่วงก็ลอยอยู่กลางอากาศ แผ่ปกคลุมสมุนไพรทั้งหมดเอาไว้

ดูจากท่าทางแล้ว เขาตั้งใจจะปรุงยาเซียนห้าเม็ดพร้อมกันในอึดใจเดียว!

อันหลินมองฉากนี้ตาค้าง เมื่อไต้ซือลงมือ ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้

ได้เห็นหยินสี่ปรุงยาห้าเม็ดพร้อมกัน แถมยังเป็นยาเซียนถึงห้าเม็ด เป็นโอกาสที่หายากอย่างยิ่ง เขาไม่มีทางพลาดโอกาสที่ดีเยี่ยมเช่นนี้เด็ดขาด

หยินสี่เริ่มปรุงยาแล้ว เห็นเขายกมือยกไม้ ราวกับกำลังร่ายรำ และสมุนไพรกลางอากาศก็เริ่มเคลื่อนไหว ไฟสีม่วงดุจดั่งมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น เปลวไฟแทรกซึมเข้าไปในสมุนไพร ค่อยๆ ดึงเอาส่วนสำคัญของสมุนไพรออกมาทีละเล็กละน้อย

อันหลินพยักหน้ารัวอยู่อีกมุมหนึ่ง ซ้ำยังลอบให้คะแนนในใจด้วย

การบังคับเปลวไฟคะแนนเต็ม

การควบคุมสมุนไพรเก้าคะแนน

ท่วงท่าร่ายรำติดลบ

ผ่านไปครู่หนึ่ง

“หลอมรวม!”

หยินสี่ตะโกนลั่น

ทันใดนั้น ไฟสีม่วงแผดเผา แสงสว่างโชติช่วง

ยาเซียนสีเขียวแวววาวห้าเม็ดปรากฏให้เห็นกลางอากาศ กลิ่นอายพลังปราณอันเข้มข้นอย่างยิ่งเริ่มตลบอบอวลไปทั่ว ทำให้ทุกครั้งที่หายใจราวกับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานอันไร้ที่สิ้นสุด

“ไป!” หยินสี่สะบัดแขนเสื้อ ยาเซียนก็ลอยไปหาอันหลิน

อันหลินรับยาเซียนห้าเม็ดมาอย่างตื่นเต้น ประคองไว้อย่างหวงแหน

จากนั้นเขาก็หยิบหินวิญญาณนับสี่แสนก้อนออกมาจากแหวนมิติแล้ววางลงบนพื้น

โชคดีที่พื้นที่ปรุงยากว้างขวางมาก มิเช่นนั้นหินวิญญาณกองเป็นภูเขาคงจะอัดแน่นจนห้องนี้ระเบิดเป็นแน่

ขณะที่หยินสี่เก็บหินวิญญาณใส่แหวนมิติ ก็เห็นอันหลินส่งยาเซียนเข้าปาก

เขาพูดอย่างตกใจว่า “เจ้าจะกินตอนนี้เลยหรือ!”

อันหลินกะพริบตาปริบๆ พูดอย่างสงสัยว่า “ไม่ได้หรือ”

ใบหน้ากลมมนของหยินสี่ชะงัก กระแอมเล็กน้อย “ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ เพียงแต่ว่าก่อนกิน เจ้าไม่ต้องหาสถานที่เงียบสงบแล้วค่อยนั่งสมาธิอะไรเทือกนั้นหรือ”

เฉกเช่นการทานอาหารอันโอชะอย่างยิ่ง ลิ้มรสท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดีงามกับลิ้มรสท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย ความรู้สึกมันแตกต่างกัน

อันหลินส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก ข้าคิดว่าที่นี่ดีเยี่ยมเลย”

ขณะที่พูด เขาก็กลืนยาเซียนลงท้องไป

กลิ่นอายพลังปราณอันบริสุทธิ์เริ่มบำรุงทั่วร่างกาย ทำให้เขารู้สึกสบายอย่างยิ่ง

ยาเซียนกำลังละลายในร่างกาย พลังงานที่แฝงอยู่ข้างในจู่โจมไปทั้งตัว ทำให้พลังปราณของเขาเต็มเปี่ยมอย่างยิ่ง เลือดเนื้อ กระดูกเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นอีกขั้น ทะเลแห่งปราณในจุดตันเถียนเดือดพล่าน พลังฟ้าดินเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่จุดตันเถียนอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ขนาดของทะเลแห่งปราณขยายมากยิ่งขึ้น

“อา…สบาย!”

อันหลินอุทานออกมาอย่างผ่อนคลาย ใบหน้ามีชีวิตชีวา

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ยาเซียนที่มีระดับต่ำที่สุดจะมีสรรพคุณที่น่าตะลึงถึงขนาดนี้

เมื่อหมดฤทธิ์ของยาเซียนแล้ว เขาก็หยิบยาเซียนเม็ดที่สองออกมาแล้วส่งเข้าปาก

หยินสี่ที่อยู่อีกมุมสะดุ้งโหยง “เจ้ายังจะกินอีกหรือ”

อันหลินมองหยินสี่อย่างสงสัย “ไม่ได้หรือ”

หยินสี่รู้สึกแน่นหน้าอก “ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ได้หรือไม่ได้ บอกไปแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือว่า การกินยาชนิดเดียวกันซ้ำๆ สรรพคุณยาจะลดลงอย่างต่อเนื่อง!”

อันหลินพยักหน้าอย่างจริงจัง “เช่นนั้นก็หมายความว่าไม่มีฤทธิ์ยาแล้วล่ะสิ”

พูดจบ เขาก็กลืนยาเซียนลงท้องไป

“อา…สบาย!”

พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่หลั่งไหลไปทั่วร่างกายอันหลิน ทำให้เขาเผลอครางออกมา

หยินสี่ “…”

เมื่อยาเซียนเม็ดที่สองหมดฤทธิ์ อันหลินก็เริ่มกินยาเซียนเม็ดที่สาม

“เจ้า…” หยินสี่เบิกตากว้าง เขาคิดไม่ถึงเลยว่า อันหลินยังจะกินอีก

อันหลินเหลือบมองหลินสี่เล็กน้อย พบว่าเขาพูดไม่ออกแล้ว จึงไม่ใส่ใจ กลืนยาเซียนลงท้องไป

“อา…สบาย!”

อันหลินพบว่า ยาเซียนชนิดนี้ไม่ว่าจะกินกี่ครั้ง ความรู้สึกที่ผ่อนคลายไปทั้งตัว พลังปราณเพิ่มขึ้นไม่หยุดก็ไม่เปลี่ยนไป แม้ระดับการเพิ่มขึ้นของทะเลปราณจะลดน้อยลง แต่มันสบายมากจริงๆ!

เมื่อเห็นสีหน้าผ่อนคลายของอันหลิน หยินสี่ก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว

เขาเคยเห็นคนกินยาเซียน แต่ไม่เคยเห็นคนที่กินมันเหมือนขนมมาก่อน!

ต่อให้มีเงิน แต่ก็ไม่ควรใช้เช่นนี้!

อันหลินส่งยาเซียนเม็ดที่สี่เข้าปากแล้วสั่นหัวดิกๆ

ใบหน้ากลมของหยินสี่กระตุก บัดซบ เจ้านี่เสพติดแล้วหรือ!

หลังยาเม็ดที่สี่หมดฤทธิ์ อันหลินก็ส่งยาเซียนเม็ดที่ห้าเข้าปาก

เขาตกอยู่ในภวังค์มหัศจรรย์บางอย่าง ราวกับมีพลังอันเปี่ยมล้น ชีวิตที่ไม่สิ้นสุด เนื้อตัวผ่อนคลายอย่างที่สุด เสมือนว่าเนื้อตัวเบาหวิวทุกครั้งที่หายใจ

เมื่อเห็นท่าทางของอันหลิน หยินสี่ก็เริ่มสั่นคลอน

หรือการกินยาเซียนต่อเนื่อง จะผ่อนคลายสบายดุจขึ้นสวรรค์จริงๆ

เขาครุ่นคิดว่าครั้งน่าจะตั้งใจเก็บหอมรอมริบ ลองกินยาเซียนต่อเนื่องสักครั้งดีไหม

‘ติ้ง! ภารกิจสำเร็จ’

เสียงของระบบดังขึ้น

ทันใดนั้น รายละเอียดของวรยุทธ์พฤกษธาตุอมตะเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่สมองของอันหลินประหนึ่งตรัสรู้ทันใด

ร่างกายของเขาเริ่มส่องแสงสีเขียวเจิดจ้า วงแหวนสีเขียวบนศีรษะสว่างโชติช่วง แลดูศักดิ์สิทธิ์ ชวนให้รู้สึกยำเกรง

หยินสี่กับเจ้าอัปลักษณ์มองวงแหวนเหนือหัวอันหลินอึ้งๆ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ควรตะโกนว่า ‘คารวะท่านเทพหมวกเขียวหรือ’

วงแหวนสีเขียวค่อยๆ เลือนหายไป เขาได้รับวรยุทธ์พฤกษธาตุอมตะขั้นหนึ่งอย่างราบรื่น พลังชีวิตบรรลุถึงขั้นยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง

ความสามารถในการฟื้นฟูพลังปราณ ความสามารถในการสมานแผล ความแข็งแกร่งล้วนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก!

สามารถพูดได้ว่า ขอเพียงหัวใจและศีรษะของอันหลินไม่ได้รับบาดเจ็บที่อันตรายถึงชีวิต เช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะบาดเจ็บขนาดไหน เขาก็มีโอกาสมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!

หยินสี่ก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของอันหลินเช่นกัน เขาตะลึงงันไปแล้ว ถึงขั้นว่าความเชื่อเดิมถูกทำลาย

“เจ้า…เจ้าเปลี่ยนไปแล้ว!” เขาชี้อันหลิน ราวกับเห็นเรื่องที่ไม่อาจอธิบายได้

มีเพียงเจ้าอัปลักษณ์ที่ทำหน้านิ่งเฉย อันหลินกินขุมพลังสัตว์สามารถเลื่อนสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณได้ ร่างกายแปรสภาพเพราะกินยาเซียน มันเป็นเรื่องที่ปกติยิ่งแล้ว

อันหลินไม่ตอบ กลับพูดเสียงเรียบว่า “ใช่แล้ว ข้าเปลี่ยนไปแล้ว”

“เป็นเพราะกินยาเซียนติดต่อกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้หรือ” หยินสี่เบิกตาจนกลมกว้าง พูดอย่างตื่นเต้น

อันหลินตอบตามความจริงว่า “ใช่ กินยาเซียนห้าเม็ดติดต่อกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้!”

คำพูดนี้ไม่ผิด ระบบพูดแบบนี้นี่นา

แต่เขาคาดไม่ถึงว่า คำพูดนี้ทำให้เกิดตำนานปีศาจคลั่งยาที่น่ากลัวถึงปานใด

หยินสี่รู้สึกเพียงว่าประตูของโลกใบใหม่เปิดออกโดยพลัน ทัศนวิสัยเบื้องหน้าเปิดกว้าง

“ที่แท้ก็เช่นนี้นี่เอง นี่เป็นสิ่งที่น้อยคนจะย่างกรายเข้ามา”

“ข้าเข้าใจแล้ว การเปลี่ยนแปลงของปริมาณทำให้คุณภาพเปลี่ยนไป…ไม่ว่าสิ่งใดขอเพียงปริมาณเพิ่มขึ้น ก็จะมีการยกระดับของคุณภาพ!”

หยินสี่ระเบิดเสียงหัวเราะ แววตาที่มองอันหลินเปี่ยมด้วยความตื้นตัน

แรงบันดาลใจที่สหายอันหลินให้เขามันยิ่งใหญ่เหลือเกิน

บุญคุณในครั้งนี้…ดุจดั่งกำเนิดใหม่!

……………….