บทที่ 138: ชีวิตที่สูงส่ง
ในห้องรับรองสำหรับเวลาน้ำชาของคฤหาสน์ตระกูลแอสการ์ด โรเอล แอสคาร์ดกำลังจ้องมองไปยังเด็กสาวสองคนข้างหน้าเขา ด้วยดวงตาอันเต็มไปด้วยความสงสัย แค่เห็นก็บอกได้เลยว่าพวกเธอต้องทำอะไรบางอย่างลงไปแน่ ๆ
เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน? มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?
โรเอลยังคงมึนงงเล็กน้อยเนื่องจากเขาเพิ่งตื่นได้ไม่นาน กระนั้นเด็กชายก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อระลึกหวนนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
เมื่อคืนอลิเซียขอนอนกับโรเอล แต่เธอกลับไม่มาเสียอย่างนั้น ตอนแรกเขาคิดว่าเธอน่าจะผล็อยหลับไปก่อนแล้วในห้องของตัวเอง แต่เมื่อถึงช่วงเช้าตรู่อลิเซียก็มาอยู่ในห้องของเขาเสียแล้ว
อาจเป็นเพราะโรเอลอ่านหนังสือจนดึกดื่น เมื่อคืนเขาจึงหลับลึกเป็นพิเศษ จนสัมผัสไม่ได้ถึงการปรากฏตัวของอลิเซีย ยิ่งไปกว่านั้นเด็กชายยังฝันอีกด้วย แม้ว่าจะจำไม่ได้ว่าฝันถึงอะไร แต่ดูเหมือนว่ามันจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอลิเซีย และทำให้เขารู้สึกดีเมื่อตื่นขึ้นมา
ไม่ว่าจะในกรณีใด โรเอลก็หลับยาวไปจนบ่ายแก่ ๆ และตื่นขึ้นมาด้วยความตกตะลึง ที่พบว่าจู่ ๆ ก็มีนอร่ามายืนอยู่ตรงหน้า ด้วยพลังเวทมหาศาลรอบตัวเธอ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายใช้ความสามารถของพรแห่งมงกุฎ
นอกจากนี้ นอร่าไม่ได้ใช้เพียงแค่ทักษะแรกเหมือนปกติ แต่กลับใช้ทักษะที่สาม ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้ในทุก ๆ สองปีเท่านั้น หมายความว่ามีเหตุผลสำคัญบางอย่างที่ทำให้เธอต้องใช้มัน
สิ่งแรกที่เข้ามาในความคิดของโรเอลก็คือบิดาของเขา อย่างมาร์ควิสคาร์เตอร์ นอร่าเคยต้องไปทำงานใกล้ ๆ กับเขตชายแดนตะวันออกเมื่อไม่นานมานี้ การที่เธอรีบมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาเช่นนี้ ย่อมหมายความว่า…
“นอร่า อะไรทำให้เธอมาที่นี่กัน? ม…มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพ่อของฉันงั้นเหรอ?”
“หา? ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น ลุงคาร์เตอร์สบายดี ข้า… ข้าแค่คิดถึงเจ้าน่ะ”
เมื่อต้องเผชิญกับโรเอลที่กำลังตื่นตระหนก นอร่าก็ให้ความมั่นใจกับเขาอย่างรวดเร็วจนมีท่าทีพิรุธไปบ้าง โชคดีที่โรเอลยอมรับคำอธิบายของเธอและสงบลงอีกครั้ง
ทว่าในไม่ช้าความสงสัยก็เกิดขึ้นในใจของโรเอล นอร่าไม่มีทางเลือกใช้ทักษะที่สามของพรแห่งมงกุฎแทนทักษะแรกโดยไม่มีเหตุผลแน่ มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับโรเอลที่เธอเลือกจะใช้ทักษะที่มีเวลาพักถึงสองปีเพียงเพื่อมาเยี่ยมเขา
ก่อนหน้านี้ โรเอลอาจจะยังพอยอมรับคำอธิบายของนอร่าได้ แต่ไม่นานมานี้พวกเขาเพิ่งเจอกันที่เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเธอ ไม่ว่าจะคิดอย่างไร เด็กสาวก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรให้รีบร้อนขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติที่นี่
ภายใต้การจ้องมองอย่างคาดคั้นของโรเอล บรรยากาศอันสูงส่งตามปกติของนอร่าก็สะดุดเล็กน้อย ดูเหมือนเธอจะค่อนข้างลำบากใจ ทำให้มีสีหน้าอันครุ่นคิดอยู่บนใบหน้า เด็กสาวพยายามจะพูดออกมาสองสามครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็เงียบไปอย่างลังเล
อย่ามาทำให้กลัวกันแบบนั้นสิ มีอะไรกันแน่? เกิดอะไรขึ้น?
โรเอลอดคิดไม่ได้ว่านอร่ากำลังทำตัวเหมือนเด็ก ๆ ที่กระสับกระส่ายต่อหน้าพ่อแม่ หลังจากถูกจับได้ว่าทำอะไรผิด เด็กชายพยายามระลึกว่านอร่าทำอะไรผิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ก็คิดไม่ออก เขาจึงทำได้เพียงแค่พยายามถามเธอเท่านั้น
“นอร่า มีอะไรรึเปล่า? อืม ช่วงนี้ฉันค่อนข้างจะว่างนิดหน่อย ดังนั้น…”
“ไม่ ไม่ใช่… ใช่แล้ว! ข้าเพิ่งเริ่มเรียนรู้ศิลปะการชงชามา อยากลองดื่มชาของข้าไหมล่ะ?”
“หืม? แน่นอน…”
เมื่อมองไปยังนอร่าที่กำลังยื่นข้อเสนอให้ชงชาให้เขาอย่างกะทันหัน โรเอลก็ตัดสินใจยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เด็กชายยังคงพยายามเค้นสมองของตนหาเหตุผลเบื้องหลังพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของเธอ แต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือไม่ได้มีแค่นอร่าเท่านั้นที่ทำตัวผิดธรรมชาติ…
“ท่านพี่ วันนี้ดิฉันได้เตรียมของหวานไว้ให้ท่านแล้ว มาชิมกันดีกว่าค่ะ”
อลิเซียยังคงน่ารักเหมือนเคย แต่ในขณะที่เธอกำลังป้อนขนมที่ทำขึ้นเองให้กับเขา โรเอลก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเธอ บางอย่างที่แตกต่างจากรูปลักษณ์ที่มีความสุขและพึงพอใจตามปกติที่เธอมักจะแสดงต่อหน้าเขา
เป็นเวลาสามปีแล้วที่โรเอลและอลิเซียอยู่ด้วยกัน
อลิเซียมั่นใจว่าเธอรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับนิสัยใจคอของโรเอล ทำให้เธอมักจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในอารมณ์ของเขาได้อย่างรวดเร็ว อันที่จริงเด็กสาวสามารถอ่านความคิดของเขาได้ในระดับหนึ่งเลยด้วยซ้ำ นี่อาจเป็นระดับสูงสุดที่พวกนิยมพี่ชายจะสามารถไปถึงได้
อย่างไรก็ตามโรเอลเองก็ทำแบบนั้นกับอลิเซียได้เช่นกัน
อลิเซียคงทำอะไรผิดลงไป และนี่คือวิธีชดเชยของเธอให้กับเขา
แม้ว่าจะรู้สถานการณ์คร่าว ๆ แล้ว แต่โรเอลก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไหร่นัก ความผิดพลาดที่ทำโดยอลิเซียแทบจะถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดพลาด
น้องสาวของเราถูกเสมอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรลงไปก็ตาม!
โรเอลนั้นเป็นผู้ป่วยโรคเสพติดน้องสาวขนานหนัก
ทว่าในไม่ช้าเด็กชายก็ตระหนักได้ว่าคนที่ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีไม่ได้จำกัดอยู่แค่นอร่าและอลิเซียเท่านั้น ทุกคนในคฤหาสน์เองก็ปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดีจนผิดปกติด้วยเช่นกัน!
เหล่าสาวใช้ต่างยิ้มให้เขา พ่อบ้านก็ใจดีมากกว่าปกติ โดยเฉพาะแอนนา สาวใช้ส่วนตัวของโรเอลที่คอยดูแลเขามากกว่าปกติ ราวกับว่าเด็กชายกลายเป็นตัวเอกของโลกในชั่วข้ามคืนและโลกกำลังหมุนรอบตัวเขา!
หากมีแค่อลิเซียที่ทำอะไรผิดพลาดและพยายามชดเชยด้วยการปฏิบัติต่อเขาให้ดีขึ้นมันก็พอจะเข้าใจได้ แต่เมื่อคนอื่นทำแบบเดียวกันด้วย มันก็น่าจะต้องมีเหตุผลที่ลึกซึ้งมากไปกว่านั้น
เป็นไปได้ไหมที่ทุกคนจะเผลอทำอะไรบางอย่างที่ไม่ดีกับเราโดยที่เราไม่รู้ ฮ่า ๆ เป็นไปไม่ได้หรอกน่า
พวกเขาคงจะเพิ่งรู้ตัวว่าเราเป็นคนที่ดีมากขนาดไหน!
หลังจากกำจัดคำตอบที่ถูกต้องทั้งหมดไปแล้ว โรเอลก็ได้บทสรุปของตนเอง เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจกับการประเมินอันยอดเยี่ยมนี้
แต่แล้วในไม่ช้า โรเอลสังเกตเห็นความผิดปกติที่สอง นั่นก็คือวันนี้นอร่าและอลิเซียไม่ได้ต่อสู้กันเองเหมือนปกติ
โรเอลหยิบถ้วยชาขึ้นมาจากโต๊ะ พลางจ้องมองสลับไปมาระหว่างเด็กสาวทั้งสองคนตรงหน้า
ถามจริง วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ทุกครั้งที่นอร่าและอลิเซียพบกัน บรรยากาศจะเต็มไปด้วยดินปืนและประกายไฟตามมาด้วยการต่อสู้ครั้งใหญ่ และเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเธอมาถึงทางตันในการต่อสู้ ทั้งสองก็จะหันมาหาโรเอลพร้อมกันและเรียกร้องให้เขาเลือก
แต่วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
เวลาก็ล่วงเลยผ่านมานานแล้วตั้งแต่ที่พวกเขามารวมตัวกันที่โต๊ะนี้ แต่กลับไม่มีความขัดแย้งใด ๆ เกิดขึ้นเลย! วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันตกรึไง? เขาถูกส่งไปยังโลกคู่ขนานโดยไม่รู้ตัวแล้วงั้นเหรอ?
โรเอลไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังท่าทีของเด็กสาวทั้งสองนั้นมีเหตุผลใหญ่ ๆ อยู่สองประการ
ประการแรก พวกเธอได้ป่นปี้ชื่อเสียงและเกียรติของโรเอลลงไปแล้ว แม้ว่าจะวางแผนปฏิบัติการอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีหลักฐานในการกล่าวหาแล้วก็ตาม แต่การกระทำทั้งหมดที่พวกเธอทำลงไปก็ทำให้เกรซเข้าใจผิด และส่งผลให้พวกคนของตระกูลโซโรฟยามีทัศนคติในเชิงลบต่อโรเอล ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร เรื่องนี้ก็ส่งผลเสียต่อโรเอลแน่ ๆ
แน่นอนว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นได้ถูกจำกัดเอาไว้แล้ว นั่นก็เพราะตระกูลโซโรฟยาไม่มีทางที่จะเอาเรื่องเหล่านี้ออกไปแพร่งพราย เพราะมันเสี่ยงที่จะเป็นประเด็นบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อตระกูลแอสคาร์ด นอกจากนี้หากพิจารณาถึงผลประโยชน์ร่วมกันที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับจากการเป็นหุ้นส่วนแล้ว มันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ความคับข้องใจส่วนตัว จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ในการทำงานของพวกเขาด้วยเช่นกัน ถึงกระนั้นพวกเธอก็ยังรู้สึกผิดที่ได้ใส่ร้ายโรเอลไปแบบนั้น
นอร่าและอลิเซียคุยกันถึงเรื่องนี้ และตัดสินใจที่จะชดเชยโรเอลด้วยวิธีการอื่น ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือการทำตัวดีกับเขา แม้ว่าสำหรับอลิเซียและนอร่าที่สนใจโรเอลมากเป็นทุนเดิมจะไม่มีอะไรให้ต้องปรับปรุงเพิ่มเป็นพิเศษแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ โรเอลก็ควรได้รับอะไรดี ๆ
นั่นทำให้โรเอลยังคงนิ่งเงียบทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างร้ายแรงกับเด็กสาวทั้งสอง
โรเอลจะบ่นไปทำไมในเมื่อเขาพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้? นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้จริง ๆ เวลาทั้งสามคนอยู่ด้วยกัน อันที่จริงหากจะให้เขาบอกว่านี่คือจุดสูงสุดในชีวิตของตัวเองเลยก็ยังได้!
กลับไปที่ฝั่งของนอร่าและอลิเซีย เหตุผลประการที่สอง ก็คือพวกเธอรู้สึกผิดอย่างสุดซึ้งต่อชาร์ล็อต โซโรฟยา เหยื่อรายที่สองของเรื่องนี้
นอร่าได้พบกับชาร์ล็อตเป็นการส่วนตัว ในตอนที่เธอผ่านเมืองโรซ่าระหว่างเดินทางไปยังชายแดนด้านตะวันออก อีกฝ่ายเป็นคนสวยและเปี่ยมไปด้วยความรู้ มันเป็นการพบปะอันน่ายินดี แม้พวกเธอจะไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็มีความปรารถนาดีต่อกันในแง่ของตัวแทนของอาณาจักร
สิ่งที่นอร่าเพิ่งทำลงไปจะต้องทำให้ชาร์ล็อตทุกข์ใจเป็นแน่ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกผิดมาก
ในมุมมองของสตรีผู้สูงศักดิ์ นอร่ารู้สึกว่าการแต่งงานกับโรเอลนั้นถือเป็นเรื่องดี ไม่ใช่เพียงเพราะว่าเธอชอบโรเอล แต่เด็กสาวเชื่ออย่างจริงจังว่ามันเป็นเรื่องจริงหากมองจากมุมมองที่เป็นกลาง
อิทธิพลของตระกูลแอสคาร์ดนั้นทรงพลังมาก และโรเอลก็ถือเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูล แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือลักษณะนิสัยของโรเอล พูดตามตรงแล้วเขาเป็นคนที่ค่อนข้างแปลกในแวดวงชนชั้นสูง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโรเอลหล่อเหลามาก ทำให้นอร่าไม่กังวลทุกครั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งสองอยู่ในงานเลี้ยงร่วมกัน มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับผู้ชายที่เกิดมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ดีจะกลายเป็นคนเจ้าชู้หลังจากตระหนักได้ถึงความนิยมของตนเอง แต่เห็นได้ชัดว่าโรเอลไม่ใช่คนแบบนั้น
เด็กชายเป็นคนที่ชอบเก็บตัว ไม่สนใจการแสวงหาความสุขทางกาย นอกเหนือไปจากการเพลิดเพลินกับอาหารดี ๆ
ขณะที่ขุนนางคนอื่น ๆ ยุ่งอยู่กับการเสพสุราทุกประเภท โรเอลก็หมกมุ่นอยู่กับหนังสือของเขาตลอดเวลา พยายามปรับปรุงตนเอง แม้ในเวลาว่าง เขาก็มักจะคิดหาวิธีพัฒนาเขตการปกครอง ปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนเสมอ ๆ นโยบายหลายอย่างที่เขาคิดขึ้นและนำมาใช้นั้นไม่ธรรมดา แต่ก็มีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์
นอกจากนี้แม้ว่าจะเป็นหนอนหนังสือ แต่โรเอลก็สามารถเข้าสังคมได้ตามปกติ เขามีทักษะในการสื่อสารทำให้โรเอลถือเป็นคู่สนทนาที่น่าสนใจ เด็กชายนั้นมีทั้งความรับผิดชอบ จิตใจที่ดี อ่อนโยน มีหลักการ และฉลาด
บางครั้งที่โรเอลอาจจะโง่เขลาไปบ้าง เช่นการที่เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่าอลิเซียอ่อนแอมาจนถึงทุกวันนี้ ทว่าเขากลับมีไหวพริบอันน่าทึ่งในช่วงเวลาวิกฤต
นอร่ารู้สึกว่าโรเอลไว้ใจคนใกล้ตัวมากเกินไป ทำให้พลาดในสิ่งที่ไม่ควรจะมองข้ามได้ แต่มันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของโรเอล เขาจะคิดเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับศัตรูของตนอยู่เสมอ ไม่ใช่กับผู้คนของเขาเอง ทำให้โรเอลไม่ใช่คนที่ควรตั้งตนเป็นศัตรูด้วย
สำหรับขุนนางหญิง มีโอกาสสูงที่พวกเธอจะบรรลุความสุขโดยการแต่งงานกับโรเอล แม้จะเป็นในกรณีที่แย่ที่สุด คู่สมรสของเขาก็จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและความเมตตา จากมุมมองดังกล่าว อาจกล่าวได้ว่าชาร์ล็อตโชคดีมากในการหมั้นหมายทางการเมืองครั้งนี้
ตรงกันข้ามกับความรู้สึกของชาร์ล็อต คราวนี้โชคชะตาเข้าข้างเธอแล้วจริง ๆ
แต่ด้วยความเห็นแก่ตัว นอร่าและอลิเซียจึงได้ทำลายความหวังของเธอลง พวกเธอไม่ได้คิดว่ามันจะรู้สึกแย่ขนาดนี้ในตอนที่อยู่ในขั้นตอนการวางแผน ทว่าหลังจากที่พวกเธอได้ลงมือทำมันลงไปแล้ว ทั้งสองก็รู้สึกผิดอย่างใหญ่หลวงจนเสียใจที่ทำลงไปด้วยซ้ำ
ทุกการกระทำควรจะเป็นไปอย่างยุติธรรมทั้งในเรื่องความรักและสงคราม ซึ่งนอร่าและอลิเซียก็ได้ละเมิดสิ่งนั้นไปแล้ว ด้วยเหตุนี้พวกเธอจึงรู้สึกขัดแย้งอย่างมากกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป
ด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่คอยกดดันจิตใจของพวกเธอ บรรยากาศของงานเลี้ยงน้ำชาจึงดูแปลกไปเล็กน้อย โรเอลพยายามถามเรื่องนี้หลายครั้ง แต่นอร่าก็เบี่ยงเบนการสนทนาไปทางอื่นอย่างชำนาญ โดยมีอลิเซียสนับสนุน จนในที่สุดเด็กชายก็ตัดสินใจที่จะเพลิดเพลินไปกับความสุขในปัจจุบัน
โรเอลได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม รับประทานอาหารสุดวิเศษดั่งจักรพรรดิ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นหนึ่งในวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเขา มันให้พลังงานแก่โรเอลในการเริ่มวางแผนสำหรับปัญหาต่อไปที่รอคอยเขาอยู่ในอนาคต
พรุ่งนี้เป็นวันที่ ตระกูลแอสคาร์ดและตระกูลโซโรฟยาจะมาพบกัน โรเอลจะได้พบกับนางเอกคนที่สามในเกมอาย ออฟ โครนิเคิล ชาร์ล็อต โซโรฟยา
เมื่อพิจารณาจากความจริงที่ว่าชาร์ล็อตยังไม่เคยได้พบเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว มันจึงเป็นโอกาสดีสำหรับโรเอลที่จะได้รับแต้มความสนใจจากเธอ
พรุ่งนี้เราจะทำให้หัวของเธอกลายเป็นสีเขียวเหมือนทุ่งหญ้าที่เขียวชอุ่มที่สุดในเขตการปกครองแอสคาร์ดเลย!
โรเอลตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ เอาไว้สำหรับตัวเองในอนาคต ก่อนที่จะหันความสนใจกลับมายังปัจจุบัน ที่ซึ่งสาวงามทั้งสองยังคงรอคอยเขาอย่างขยันขันแข็ง