ตอนที่ 143 เธอเป็นฝ่ายชนะมาโดยตลอด

เดิมพันเสน่หา

เรือของตระกูลหนานกงมาถึงอย่างรวดเร็ว นักดำน้ำมืออาชีพมาพร้อมกับอุปกรณ์ดำน้ำที่ครบครันกระโดดลงทะเลเพื่อตามหาเหลิ่งรั่วปิง แต่ในเวลาเดียวกันที่เรือขับมาถึง เหลิ่งรั่วปิงก็ได้ว่ายเข้าไปในเรือดำน้ำ อาเธอร์รับเธอไปแล้ว

เรือดำน้ำขับไปทางทิศตะวันตก จุดหมายของพวกเขาคือเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในทะเลกงไห่ ที่นั่น อาเธอร์ได้เตรียมเรือเพื่อส่งเหลิ่งรั่วปิงไปยังประเทศเอ้าตู

เข้าไปด้านในเรือดำน้ำ เหลิ่งรั่วปิงเปลี่ยนชุดด้วยความรวดเร็ว เธอเอาผ้าห่มมาห่อตัวเอาไว้ ใช้เวลานานก็ยังคงไม่รู้สึกอุ่นขึ้นมา

อาเธอร์ขับเรือดำน้ำด้วยตนเอง เขามองดูสถานการณ์ตรงหน้า และถามเหลิ่งรั่วปิงด้วยเสียงเคร่งขรึม “ตัดสินใจจากไปแบบนี้จริงๆ หรอ”

พูดตามตรง ความบ้าคลั่งของหนานกงเยี่ย ทำให้เขาหวั่นไหว คนอย่างหนานกงเยี่ย ไม่ขาดผู้หญิงอยู่แล้ว แต่เขากลับยอมทำขนาดนี้เพื่อรักษาผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ ยังจะบอกว่าเขาไม่ได้รักเธอด้วยใจจริงอีกหรอ น่าเสียดาย เขาเป็นผู้ชายที่ไม่รู้จักวิธีจัดการกับความรัก การตัดสินใจที่ผิดพลาดทำให้ผลลัพธ์ผิดพลาดไปหมด

นึกถึงสภาพของหนานกงเยี่ยที่เปื้อนเลือดไปทั้งตัว เหลิ่งรั่วปิงรู้สึกปวดใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายหัวใจที่สร้างภูมิขึ้นมาปกป้องตนเองก็กลบมันไปจนหมด เธอเป็นผู้หญิงที่ขาดความรู้สึกปลอดภัย สิ่งที่เขาทำเมื่อวานมันกระทบจิตใจเธอมาก ไม่ว่าเขาจะแสดงออกว่ารักเธอมากแค่ไหน เธอก็ไม่กล้ารับมันไว้แล้ว เธอลำบากมามาก พบเจอกับความทรมานมามากมาย ผ่านเรื่องเจ็บปวดมานับไม่ถ้วน ถูกเขาทำร้ายแค่ครั้งเดียว มันก็ทำให้เธอกลัวไปทั้งชีวิต

ดังนั้น เธอไม่สามารถเริ่มต้นใหม่กับเขาได้อีก แม้ว่าเขาจะรักเธอจากใจจริง

เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงเงียบ อาเธอร์พูดอีกครั้ง “เสียใจตอนนี้ยังเปลี่ยนใจทัน พวกเราสามารถกลับลำได้”

“ไม่ ฉันไม่เสียใจ” แววตาของเหลิ่งรั่วปิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

พูดว่าไม่เสียใจก็คือไม่เสียใจ การกลับไปอยู่ข้างเขาเป็นแค่การเดิมพันเท่านั้น เดิมพันว่าเขารักเธอจากใจจริง เดิมพันว่าเขาจะไม่ทำร้ายเธออีก อีกทั้งจะปกป้องเธอไม่ให้ถูกซือคงอวี้พาตัวไป แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่การเดิมพัน ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะแพ้ แต่การไปแบบนี้ เธอสามารถเข้าใจว่าเขาไม่ได้รักเธอ เธอสามารถไปจากที่นี่ด้วยความสบายใจ ไปอย่างสง่างาม อีกทั้งไม่ต้องกังวลว่าซือคงอวี้จะมาควบคุมเธออีก ถ้าทำแบบนี้เธอจะเป็นฝ่ายชนะ

ยังมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เขาไม่มีวันทิ้งอวี้หลานซี ไม่ว่าเขาจะรักหรือไม่รักอวี้หลานซี ผู้หญิงคนนี้ต้องพัวพันกับเขาตลอดชีวิต ความรักของเขาไม่สามารถให้เหลิ่งรั่วปิงทั้งหมดได้ ดังนั้น เธอจะหันกลับกลับไม่ได้เป็นอันขาด

อาเธอร์ถอนหายใจ “ได้ ในเมื่อเธอบอกว่าเธอไม่เสียใจ พวกเราก็ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล”

เรือดำน้ำขับอยู่นานหนึ่งวันหนึ่งคืน ในที่สุดก็มาถึงทะเลกงไห่ เหลิ่งรั่วปิงและอาเธอร์ขึ้นไปบนเกาะได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจมากก็คือ บนเกาะนอกจากจะมีเรือที่อาเธอร์เตรียมเอาไว้ ยังมีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง ซึ่งมีหมาป่าสีเทายืนอยู่ข้างๆ เฮลิคอปเตอร์

เมื่อเห็นเหลิ่งรั่วปิงและอาเธอร์ขึ้นมาบนเกาะ หมาป่าสีเทาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาเธอร์ นางฟ้ารัตติกาล เจ้าวิหารสั่งให้ฉันมารับพวกนาย”

เหลิ่งรั่วปิงเข้าใจทุกอย่างทันที ซือคงอวี้มีสายอยู่ในเมืองหลง เขารู้ทุกการกระทำของเธอและอาเธอร์ จากความฉลาดของเจ้าวิหาร เขารู้ว่าพวกเธอต้องขึ้นมาบนเกาะแห่งนี้ เพราะเรือดำน้ำสามารถมาถึงได้แค่ที่นี่

เธอจะหนีไม่พ้นจริงๆ หรอ

หมาป่าสีเทาเป็นองครักษ์ประจำตัวของซือคงอวี้ ทักษะการต่อสู้ของเขาอยู่เหนือเธอและอาเธอร์ ซือคงอวี้ส่งหมาป่าสีเทามา ความหมายของเขาชัดเจนมาก ก็คือไม่ให้โอกาสเธอในการหนี

หมาป่าสีเทาไม่ให้เวลาเหลิ่งรั่วปิงในการคิดแม้แต่น้อย พูดด้วยสายตาจริงจัง “ขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์กันเถอะ เจ้าวิหารรอพวกนายสองคนที่ชายหาดซีหลิงด้วยตนเองแล้ว”

เหลิ่งรั่วปิงและอาเธอร์สบตากัน ยิ้มแล้วพูดกับหมาป่าสีเทา “ได้คุณหมาป่าสีเทามารับด้วยตนเอง ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่ว่า พวกเราเพิ่งออกมาจากเรือดำน้ำ อยู่ในทะเลมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ขอพักกินอาหารสักหน่อยได้ไหมคะ”

แม้ว่าหมาป่าสีเทาจะอยากรีบกลับไปมาก แต่เขารู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงสำคัญกับซือคงอวี้ ดังนั้นเขาจึงให้เกียรติเธอ “ได้ ในเมื่อนางฟ้ารัตติกาลเหนื่อย ถ้าอย่างนั้นก็พักสักหน่อยแล้วค่อยเดินทาง บนเครื่องมีอาหาร เดี๋ยวผมไปเอามาให้”

“ผมไปเอง” อาเธอร์รีบเข้ามาขวางหมาป่าสีเทา “เรื่องแบบนี้จะรบกวนคุณหมาป่าสีเทาได้ยังไงครับ ผมไปเอง”

หมาป่าสีเทาอยู่กับซือคงอวี้มาตั้งแต่เด็ก ตำแหน่งของเขาสูงส่ง ซือคงอวี้สั่งเขามารับเหลิ่งรั่วปิง เป็นเพราะให้ความสำคัญกับเธอ

หมาป่าสีเทาพยักหน้า ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่เหลิ่งรั่วปิง เขาไม่มีทางเกรงใจแบบนี้แน่นอน ในวิหาร เขาอยู่ใต้บัญชาของเจ้าวิหารแค่คนเดียว แต่อยู่เหนือคนนับหมื่น

อาเธอร์ยิ้ม วิ่งไปยังเฮลิคอปเตอร์ แต่ตอนที่เขาอ้อมไปด้านหลังหมาป่าสีเทา จู่ๆ เขาก็หันหลังกลับมาแล้วยิงหมาป่าสีเทา เพื่อเหลิ่งรั่วปิง เขาสามารถทำได้ทุกอย่าง ฆ่าหมาป่าสีเทา ปล่อยเหลิ่งรั่วปิงไป แล้วเขาค่อยกลับไปซีหลิงเพื่อรับโทษจากซือคงอวี้

“อาเธอร์!” เหลิ่งรั่วปิงตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมเสี่ยงเพื่อเธอถึงขั้นนี้

หมาป่าสีเทาเป็นยอดฝีมือที่ผ่านการภารกิจมามากมาย การได้ยินของเขาดีมาก ตอนที่อาเธอร์ชักปืนออกมา เขาก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น หมาป่าสีเทารีบหันไปอย่างรวดเร็ว ทว่า เป็นเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าอาเธอร์จะลงมือกับเขา จึงไม่ทันได้ระวังตัว หมาป่าสีเทาหลบไม่มัน ถูกยิงเข้าที่แขนขวา

เรื่องต้องห้ามในวิหารคือการขัดแย้งภายใน อาเธอร์ทำแบบนี้เป็นเพราะอยากตายหรือไง!

หมาป่าสีเทาไม่ได้สนใจบาดแผลของตนเอง เขาชักปืนออกมาแล้วเล็งไปที่อาเธอร์ ร้องตะโกนราวกับเสียงของฑูตนรก “อาเธอร์ นายจะทำอะไรของนาย”

อาเธอร์เล็งปืนไปที่หมาป่าสีเทา “ขอโทษด้วยครับคุณหมาป่าสีเทา ผมต้องการให้คุณปล่อยเหลิ่งรั่วปิงไป”

เวลานี้ อาเธอร์มั่นใจว่าที่สู้กับหมาป่าสีเทา ถึงแม้ทักษะการต่อสู้และการยิงปืนของหมาป่าสีเทาจะเก่งกว่าเขาและเหลิ่งรั่วปิง แต่หมาป่าสีเทาได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา เวลานี้เขาใช้มือซ้ายในการถือปืน มือข้างซ้ายด้อยกว่ามือข้างขวาหลายเท่า เขามีโอกาสชนะหมาป่าสีเทา หรือไม่ขั้นที่แย่ที่สุดก็คือตายไปด้วยกัน

เหลิ่งรั่วปิงไม่อยากให้อาเธอร์เดินทางนี้ เธอรีบเข้าไปห้ามทันที “อาเธอร์ วางปืนลง”

อาเธอร์ไม่ไหวติง เขายังคงเล็งปืนไปที่หมาป่าสีเทา แล้วพูดกับเหลิ่งรั่วปิง “รั่วปิง เธอบอกว่าเธออยากมีชีวิตที่เป็นอิสระ ฉันจะช่วยเธอให้ได้”

เหลิ่งรั่วปิงน้ำตาคลอเบ้า “ถ้าชีวิตที่เป็นอิสระของฉันแลกมาด้วยชีวิตของนาย ฉันไม่ต้องการ”

อาเธอร์คลายยิ้มบางๆ “รั่วปิง ชีวิตของฉันมันไม่ค่า ฉันเป็นแค่หุ่นยนต์ของวิหาร ไม่มีจิตวิญญาณ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้เธอเป็นแรงขับเคลื่อนเดียวในชีวิตของฉัน ฉันรู้สึกคุ้มค่ามากที่จะตายเพื่อเธอ”

“ไม่ ฉันไม่ต้องการแบบนี้…” น้ำตาของเหลิ่งรั่วปิงไหลลงมาไม่หยุด มันปลิวไปตามแรงลมทะเล

หมาป่าสีเทาขมวดคิ้วเป็นปม พูดจากใจจริง “อาเธอร์ วางปืนลง ฉันจะไม่ถือสากับสิ่งที่นายทำก่อนหน้านี้ ความรักความผูกพันของนายกับนางฟ้ารัตติกาล ฉันตื้นตันใจมาก แต่นายเองก็รู้ดี เธอเป็นผู้หญิงที่เจ้าวิหารต้องการ ด้วยอำนาจของเจ้าวิหาร ไม่ว่าเธอจะหนีไปไกลสุดขอบฟ้า ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก เจ้าวิหารก็จะต้องจับตัวเธอกลับไป ทำไมนายต้องยอมตายโดยเปล่าประโยชน์แบบนี้ด้วย”

อาเธอร์ยังคงมีความมุ่งมั่น “ถ้าไม่ลองสักครั้งแล้วจะรู้ได้ยังไง”

หมาป่าสีเทาหันไปพูดกับเหลิ่งรั่วปิง “นางฟ้ารัตติกาล ผมเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเจ้าวิหาร ผมรู้ดีว่าเจ้าวิหารรู้สึกยังไงกับคุณ เขารักคุณจากใจจริง ถ้าคุณกลับไปอยู่กับเจ้าวิหาร เขาต้องรักและตามใจคุณมากแน่นอน แต่ถ้าคุณหนีแล้วถูกเขาจับกลับไป ด้วยนิสัยของเจ้าวิหาร เรื่องนี้ก็คงพูดยากแล้ว”

เหลิ่งรั่วปิงรู้ เพราะเธอยอมเสียตัวให้หนานกงเยี่ย บนเรือยอร์ชเมื่อคราวที่แล้วซือคงอวี้โมโหจนเกือบจะฆ่าเธอ เขาบอกว่าจะให้อภัยเธอแค่ครั้งเดียว ดังนั้น ถ้าเธอหักหลังเขาอีกครั้งหนึ่ง สิ่งที่จะตามมาเธอเองก็คาดเดาไม่ได้ หมาป่าสีเทาพูดถูก ไม่ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเจ้าวิหารก็สามารถจับเธอกลับไปได้ ถ้าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาเธอร์ เธอก็อยากจะเดิมพันสักครั้ง ลองสักตั้ง แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของอาเธอร์ เธอ…

“อาเธอร์ วางปืนลง ฉันไม่ไปแล้ว” เหลิ่งรั่วปิงก้มหัวให้กับโชคชะตา

หมาป่าสีเทาโล่งใจ แต่อาเธอร์กลับขมวดคิ้วเป็นปม เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเขา เขาแค่ต้องการให้เธอได้รับความสุขและอิสรภาพอย่างที่ต้องการ ไม่อยากเป็นตัวถ่วง

ดังนั้น ตอนที่หมาป่าสีเทาประมาท อาเธอร์จึงยิงเขาอีกหนึ่งนัด ยิงไปยังขาของหมาป่าสีเทา หมาป่าสีเทาคุกเข่าลงกับพื้น ยังไม่รอให้เขาคลายความเจ็บปวด อาเธอร์กระโดดแล้วชกไปที่เขาจนสลบ

เขากับหมาป่าสีเทาไม่มีความแค้นต่อกัน อีกทั้งต่างก็เป็นผู้รับใช้ของวิหาร เขาไม่ต้องการฆ่าหมาป่าสีเทา ดังนั้น หลังจากทำให้หมาป่าสีเทาสลบเหมือด เขาก็รีบทำแผลให้ทันที กระสุนที่อาเธอร์ยิงไปนั้นไม่โดนจุดสำคัญของหมาป่าสีเทา เป็นแค่แผลภายนอกเท่านั้น

“อาเธอร์” เหลิ่งรั่วปิงมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้น เสียงของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่

อาเธอร์ยิ้มเหมือนไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น “รั่วปิง รีบขึ้นไปเถอะ ฉันจะรายงานเจ้าวิหารเอง”

“ไม่ อาเธอร์ นายไปกับฉันเถอะ”

“ไม่ รั่วปิง ฉันมีชีวิตเพื่อเป็นคนของวิหาร ตายก็ขอเป็นวิญาณของวิหาร ไม่ว่ายังไงฉันก็จะต้องกลับไปที่วิหาร” ความเป็นจริงถ้าไม่มีเหลิ่งรั่วปิงอยู่ด้วย เขาไม่เคยคิดมากเกี่ยวกับเรื่องเป็นเรื่องตาย “พอได้แล้ว อย่าเสียเวลาอีกเลย รีบขึ้นไปเถอะ เก็บจี้หยกที่ฉันให้เอาไว้ให้ดี”

“ไม่ ฉันไม่ไป!” เหลิ่งรั่วปิงร้องไห้

อาเธอร์เป็นชายอกสามศอก เขาไม่มีทางร้องไห้ แต่ในใจของเขากลับรู้สึกเจ็บปวด อาเธอร์เงียบและขมวดคิ้วเป็นปม

ผ่านไปสองนาที หมาป่าสีเทาฟื้นขึ้นมาแล้ว เขาเป็นคนที่เคยผ่านการฝึกมาอย่างหนัก ทำให้สภาพร่างกายของเขาแข็งแรงเกินกว่าที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้ ดังนั้นเวลาสั้นๆ แค่สองนาทีเขาก็ตื่นขึ้นมา หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา หมาป่าสีเทาไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น เขามองดูเหลิ่งรั่วปิงเงียบๆ

สิ่งที่เหลิ่งรั่วปิงเจอมาทั้งชีวิต หมาป่าสีเทารู้ดีทุกอย่าง ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมาก เธอเงียบอย่างสง่างาม ในความสง่างามมีความหัวรั้น ในความหัวรั้นของเธอทำให้คนรู้สึกปวดใจ หลายปีที่ผ่านมานี้ เขามองดูเธอมาโดยตลอด อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสาร วันนี้เธอต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระ มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาปอะไร…

“นางฟ้ารัตติกาล ไปเถอะ”

เสียงของหมาป่าสีเทาทำให้เหลิ่งรั่วปิงและอาเธอร์ตกใจ ไม่มีใครคิดว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเร็วขนาดนี้ ทั้งสองหันไปมองคนที่นอนอยู่บนพื้นหญ้า ด้วยความตกใจ

หมาป่าสีเทานอนนิ่ง “นางฟ้ารัตติกาลไม่ยอมกลับวิหาร ฉวยโอกาสตอนที่ผมไม่ทันได้ระวังตัว ทำร้ายผมและชกจนอาเธอร์สลบ แล้วแอบหนีไป” เขาเงียบไปสองวินาที “นางฟ้ารัตติกาล ในเมื่อเธอต้องการจะไป ก็ควรที่จะรับความผิดนี้ สิ่งที่ผมพูดไปคุณรับได้ไหม”

ความหมายของหมาป่าสีเทาตรงมาก เขายอมปล่อยเหลิ่งรั่วปิงไป แต่โทษของการทำร้ายเขาและหนีไปนั้นเธอต้องเป็นคนรับผิด ห้ามทำให้เขากับอาเธอร์ต้องเดือดร้อน ถ้าวันไหนที่เธอถูกซือคงอวี้จับตัวกลับไป เธอต้องยอมรับผลของการกระทำเพียงคนเดียว

เหลิ่งรั่วปิงซึ้งใจมาก “ขอบคุณหมาป่าสีเทามากนะคะ รั่วปิงซึ้งใจไปชั่วชีวิต”

“ไม่ต้องพูดมาก รีบหายไปก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจ”