บทที่ 164 คุณชายฉินหรือนี่?
หมู่บ้านชิงสือคือหมู่บ้านสุดท้ายที่ยังไม่ได้ทำการค้นหา
วันนี้คุณชายฉินเองมาถึงหมู่บ้านนี้ด้วยความหวังอันเปี่ยมล้น
ที่จริงเขาไม่ต้องมาด้วยตัวเอง แต่ตอนที่เขารู้ว่าเหลือเพียงหมู่บ้านแห่งนี้ที่ยังไม่ได้หา ไม่รู้ทำไมคุณชายฉินถึงเกิดความคิดในใจในการอยากมาดูว่าจางซิ่วเอ๋อเป็นคนอย่างไร
นี่ไงล่ะ มาวันนี้ก็ได้เห็นเรื่องราวดี ๆ แบบนี้เสียแล้ว
คุณชายฉินได้ยินคำพูดจางอวี่หมินแล้วก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย เรื่องนี้ชักสนุกขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ
จางอวี่หมินพูดอยู่นานก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากคุณชายฉิน นาทีนี้จึงเริ่มร้อนใจ แต่นางยังพยายามรักษาท่าทางสงบเสงี่ยมไว้แล้วเอ่ยขึ้น “คุณชาย…..”
นางขานเรียกคุณชายได้หวานหยาดเยิ้มสุด ๆ
คุณชายฉินไม่ได้หันมองจางอวี่หมิน สายตาเขาทอดมองจางซิ่วเอ๋ออยู่ตลอด
ขณะนั้นเด็กติดตามชุดเขียวได้ลงไปยื้อยุดกับแม่หลินอย่างไม่เกรงใจแล้ว
แม่หลินโวยวาย “โอ๊ย! โอ๊ย! เจ้าเป็นผู้ชายมากระชากลากถูกข้าทำไม? ลวนลามกันชัด ๆ!”
เด็กติดตามชุดเขียวพูดเสียงขุ่นเคือง “ต่อให้ข้าตาบอดก็ไม่ชอบยายแก่วัยกลางคนอย่างเจ้าหรอก! คิดว่าเจ้าสวยนักเหรอ!”
คนที่มุงดูอยู่พากันหัวเราะ
จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเสียงเย็น “แม่หลิน เจ้ามียางอายอยู่บ้างไหม เจ้าพูดแบบนี้ข้ายังอายแทนเลย!”
แม่หลินเอ่ยเสียงเกรี้ยวกราด “จางซิ่วเอ๋อ ข้าจะบอกให้นะ เจ้าอย่ามารังแกกันให้มาก ระวังข้าจะเปิดโปงเรื่องพวกนั้นให้หมด!”
จางซิ่วเอ๋อมองแม่หลินอย่างเย็นชา “แน่จริงเจ้าก็พูดสิ?”
แม่หลินกัดฟัน คิดจะพูดเรื่องของจางซิ่วเอ๋อกับท่านหมอเมิ่ง และจางซิ่วเอ๋อกับบัณฑิตจ้าวออกมาให้หมด
แต่เวลานี้คุณชายฉินดูจนเมื่อยแล้ว เริ่มหมดความอดทนจึงพูดขึ้น “จางซิ่วเอ๋อ”
แม่หลินถูกคุณชายฉินดึงความสนใจไปทันที ลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองจะพูดอะไร
ตายจริง ในหมู่บ้านนี้มีคุณชายที่รูปโฉมและท่าทางมีสง่าราศีขนาดนี้ด้วยหรือนี่!
เมื่อได้ยินเสียงเรียกของคุณชายฉิน จางซิ่วเอ๋อก็เสียวสันหลังวาบอย่างไร้สาเหตุ
“คือว่า….คุณ…..คุณชายฉิน” จางซิ่วเอ๋อหัวเราะเสียงแห้ง
นางรำพึงในใจ ท่านเทพองค์นี้มาทำอะไรกันนะ? หรือยังแค้นเรื่องคราวก่อนอยู่? ถ้าเป็นแบบนั้นแย่แน่ นางปกปิดชื่อจริงและที่มาของตัวเอง อาจจะโดนท่านเทพตนนี้แค้นฝังใจไปแล้วก็ได้
จางซิ่วเอ๋อมองแม่หลินด้านข้างและมองคุณชายฉินที่มาอย่างไม่หวังดีแล้วก็เข้าใจในบัดดลว่าอะไรที่คือโชคร้ายมักจะไม่มาเดี่ยว ๆ และเข้าใจแล้วว่าทำไมหลังคาต้องรั่วในคืนฝนพรำทุกที
นาทีนี้แม่หลินก็ได้สติกลับมา นางลืมที่จะแฉเรื่องของท่านหมอเมิ่งและบัณฑิตจ้าวไปแล้ว กลับได้เรื่องแฉเรื่องใหม่แทน “เจ้านี่มันสามารถเก่งกาจจริง ๆ คราวนี้ไม่ได้มีชายชู้มาหาแค่คนเดียวสินะ?”
“ข้าว่าคุณชายท่านนี้หน้าตาก็ดูเป็นผู้เป็นคนอยู่ ทำไมถึงเกี่ยวข้องกับจางซิ่วเอ๋อได้ล่ะ? ไม่กลัวตัวเองจะติดโรครึไง!” แม่หลินพูดจาเลวทรามใส่
จางอวี่หมินได้ฟังแล้วสมน้ำหน้าในใจ ด่าเลย ด่าเลย ยิ่งด่าดังแค่ไหนด่าแรงแค่ไหนยิ่งดี
ให้คุณชายฉินได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของจางซิ่วเอ๋อ!
จางอวี่หมินรู้จากคำพูดของจางซิ่วเอ๋อเมื่อครู่แล้วว่าต้องเรียกคุณชายท่านนี้ว่าคุณชายฉิน
ไม่รอให้คุณชายฉินพูดอะไร เด็กติดตามชุดเขียวที่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเจ้านายก็ไม่ยอมขึ้นมา “นี่ยายแก่ เจ้าเป็นบ้ารึไง? เห็นใครก็กัดไปหมด! ทำไมเจ้าไม่ไปสืบดูชื่อเสียงของคุณชายข้าบ้าง! ถ้าเจ้ากล้าพูดอะไรมากกว่านี้แค่ครึ่งคำ ระวังจะอยู่ไม่ถึงวันพรุ่งนี้!”
เด็กติดตามชุดเขียวพูดพลางมีสีหน้าดุร้ายขึ้น
แม่หลินเป็นพวกกล้ากับคนอ่อนแอแต่เกรงกลัวคนแข็งแกร่ง เมื่อครู่นางตีกับจางซิ่วเอ๋อด้วยกำลังทั้งหมด สุดท้ายกลับตีไม่ชนะจางซิ่วเอ๋อ ต่อให้นางจะเป็นฝ่ายรังแกจางซิ่วเอ๋อ แต่ที่จริงแล้วในจุดบอดของนางโดนจางซิ่วเอ๋อหยิกเป็นแผลไม่รู้เท่าไหร่
เวลานี้อารมณ์ฉุนเฉียวของนางพลันมลาย นางมองจางซิ่วเอ๋อที่หน้าตาเย็นเยียบแล้วอดนึกถึงภาพที่จางซิ่วเอ๋อเอาปังตอมาอาละวาดที่บ้านตัวเองไม่ได้
นางหันไปมองคุณชายฉิน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คนยอมอะไรง่าย ๆ เช่นกัน
แถมคุณชายฉินยังพาบ่าวรับใช้มาด้วย ถ้าทำให้คุณชายฉินโมโหจริง ๆ ก็ไม่มีประโยชน์กับตัวเอง
คิดได้แบบนี้แม่หลินก็ยิ้มแห้ง สบถไปพลางกลับบ้านตัวเอง
หากตั้งใจฟังคำสบถของนาง จะพบว่านางไม่กล้าพาดพิงคุณชายฉินและเด็กติดตามชุดเขียวแม้แต่คำเดียว
หลีฮวายืนดูแม่หลินตีกับจางซิ่วเอ๋อในลานบ้านตลอดโดยไม่เคยคิดจะเข้าไปช่วย นาทีนี้สายตานางไปอยู่ที่คุณชายฉิน
ทำไมคุณชายฉินถึงช่วยจางซิ่วเอ๋อล่ะ? หรือว่ารู้จักกับจางซิ่วเอ๋อ?
สายตาหลีฮวาจับจ้องอยู่บนตัวคุณชายฉิน ไม่อาจละได้อีก
นางรำพึงในใจ คิดมาตลอดว่าพี่อวิ๋นซานคือชายหนุ่มที่ดีที่สุด แต่พอวันนี้ได้มาเห็นคุณชายฉิน ทำไมนางรู้สึกว่าพี่อวิ๋นซานด้อยลงล่ะ!
แม่หลินหงุดหงิดอยู่นิดหน่อย นางมองหลีฮวาและพูด “หลีฮวา เจ้ามองอะไร?”
หลีฮวาเรียกสติกลับมาทันที นางพยุงแม่หลินไว้แล้วกล่าว “ข้ากำลังดูอยู่ว่าคน ๆ นั้นมีความสัมพันธ์อย่างไรกับจางซิ่วเอ๋อ กลัวว่าท่านแม่จะเสียเปรียบเจ้าค่ะ”
แม่หลินถลึงตาใส่คนที่มุงดูรอบ ๆ บางส่วนในนั้นมองตามเข้ามาในบ้านด้วย นางโวยวาย “มองอะไรกัน? ทำไม ไม่เคยเห็นคนตีกันรึไง?”
พูดไปแม่หลินก็ดึงหลีฮวาเข้าไปในบ้าน ก่อนจะปิดประตูดังปัง
แม่หลินไปแล้ว แต่ฝูงชนยังไม่สลายตัว
ทุกคนทอดสายตาไปที่จางซิ่วเอ๋อและคุณชายฉิน รวมถึงจางอวี่หมิน
อย่างไรจางอวี่หมินก็อยู่ใกล้คุณชายฉิน คนเมื่อครู่ที่ท่าทางเหมือนเป็นบ่าวรับใช้ของคุณชายก็คุยกับจางอวี่หมินด้วย เวลานี้ทุกคนจึงพากันคาดเดากันในใจว่าคนผู้นี้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลจางหรือเปล่า?
มีบางคนถามอย่างอดไม่ได้ “อวี่หมิน นี่ญาติบ้านเจ้าเหรอ?”
ที่ถามจางอวี่หมินก็เพราะขณะนั้นนางยืนสงบเสงี่ยมอยู่ตรงนั้นพอดี ส่วนจางซิ่วเอ๋อมีสภาพมอมแมม ผมเผ้าและเสื้อผ้าถูกกระชากจนยุ่งเหยิงไปหมด ดูอย่างไรก็ไม่เหมาะจะเข้าไปคุยด้วย
จางอวี่หมินยิ้มหวาน ไม่ตอบอะไร
แต่รอยยิ้มนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างในสายตาคนอื่น หรือว่านี่จะเป็นญาติของตระกูลจางจริง ๆ?
สายตาที่ทุกคนมองจางอวี่หมินไม่เหมือนเดิม ตระกูลจางมีญาติร่ำรวยขนาดนี้เชียว
จางอวี่หมินรู้สึกอารมณ์ถูกเติมเต็ม อวดเบ่งอย่างพึงพอใจ
คุณชายฉินกลับมองจางซิ่วเอ๋อพลางเอ่ยขึ้น “ทำไม? ไม่เชิญข้าไปนั่งที่บ้านเจ้าหน่อยเหรอ?”
จางซิ่วเอ๋อที่ไม่รู้ว่าจะสู้หน้าคุณชายฉินอย่างไร พอได้ยินแบบนี้ก็ตกใจและถามเสียงตื่น “อะ….อะไรนะ? ท่านจะไปนั่งที่บ้านข้าเหรอ?”
คุณชายฉินคลี่ยิ้ม รอยยิ้มนี้จางซิ่วเอ๋อมองอย่างไรก็รู้สึกอึมครึมมีเลศนัย “ทำไม? ไม่ต้อนรับเหรอ?”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เอานางแม่หลินไปเก็บสักทีเถอะพี่ชุดเขียว เห็นแล้วขัดลูกตาค่ะ
หลีฮวาลืมพี่อวิ๋นซานไปแล้วเหรอ ไหนบอกรักมากรักมายไงล่ะ เจอคนหล่อรวยเข้าก็ลืมเลยนะ
อยู่ดี ๆ ตาคุณชายเกิดอยากมาบ้านซิ่วเอ๋อซะงั้น นับเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของซิ่วเอ๋อกันล่ะเนี่ย
ไหหม่า(海馬)