บทที่ 165 ไปที่บ้านเจ้า

จางซิ่วเอ๋อยิ้มแห้ง “เอ่อ บ้านข้าค่อนข้างเล็กน่ะเจ้าค่ะ เกรงว่าจะเป็นการดูถูกคุณชายฉิน”

ความหมายก็คือไม่ต้อนรับ

แต่คุณชายฉินกลับมีท่าทางกระตือรือร้นเต็มเปี่ยม พร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นแขก จะรังเกียจผู้เป็นเจ้าบ้านได้อย่างไร?”

จางซิ่วเอ๋อถูกต้อนกลับอีกครั้ง “ข้าคิดว่า…นี่คงไม่สะดวกกระมังเจ้าคะ?”

จางอวี่หมินได้ยินดังนั้นก็เอ่ยขึ้นทันที “คุณชายฉิน ถ้าท่านมีความประสงค์อันใด ท่านจะมาเยือนบ้านข้าก็ได้นะเจ้าคะ”

ในตอนนี้คุณชายฉินไม่สนใจจางอวี่หมินแม้แต่น้อย เพราะในสายตาของคุณชายฉินนั้นจางอวี่หมินไม่มีคุณค่าใด ๆ ให้ใส่ใจ ที่เขาพูดกับจางอวี่หมินไม่กี่คำได้ก็เพราะนางพูดถึงจางซิ่วเอ๋อต่างหาก

พอตอนนี้จางอวี่หมินพูดจาไร้สาระเช่นนี้ คุณชายฉินจะตอบนางได้อย่างไร?

เห็นจางอวี่หมินเป็นเช่นนี้แล้ว จางซิ่วเอ๋อก็นึกอายในใจแทน

จางอวี่หมินกำลังทำอะไรเนี่ย? มองด้วยสายตาสนิทสนมแบบนี้ คนที่ไม่รู้เรื่องก็จะนึกว่าคุณชายฉินเป็นญาติกับตระกูลจางของพวกนางน่ะสิ?

อย่าว่าแต่คนอื่นเลย จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้ก็สงสัยตัวเองเหมือนกัน หรือว่าเขาเป็นญาติกับตระกูลจางจริง ๆ? เพียงแต่เจ้าของร่างไม่ได้ทิ้งความทรงจำนี้ไว้ให้นางกันนะ?

จางซิ่วเอ๋อคิดดังนี้ก็ส่ายหน้า จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ

ถ้าตระกูลจางมีญาติแบบนี้จริง แม่เฒ่าจางก็ต้องแสดงออกว่ารู้จักกับเขานานแล้วสิ

“คุณชายฉิน? ได้ยินที่ข้าพูดไหมเจ้าคะ?” จางอวี่หมินถามอีกครั้ง

คุณชายฉินหรี่ตามองจางซิ่วเอ๋อและเอ่ยขึ้น “จาง-ซิ่ว-เอ๋อ”

จางซิ่วเอ๋อรู้สึกได้ถึงอารมณ์คุกรุ่นที่แผ่ออกจากร่างของคุณชายฉิน แม้ตอนนี้เขาจะยิ้มอยู่ แต่นางก็รู้สึกได้ว่าพายุฝนห่าใหญ่กำลังตั้งเค้า

นางรู้ว่าถ้าตัวเองยังยืนกรานไม่ยอมให้คุณชายฉินไปเยี่ยมบ้านของตนอยู่อีก เขาก็สามารถที่จะเอาเรื่องกับนางได้

ถ้าสร้างปัญหาตั้งแต่ตรงนี้ นางก็คงไม่มีหน้าเหลืออยู่อีกแล้ว

ใครใช้ให้นางไร้กำลัง อำนาจ และทรัพย์สิน ขนาดงัดข้อด้วยแขนทั้งสองข้างก็ยังไม่ได้กันล่ะ!

แล้วถ้าจางอวี่หมินล่อลวงคุณชายฉินไปที่บ้านตระกูลจางได้ ก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจางอวี่หมินจะเล่นลูกไม้กับคุณชายฉินขนาดไหน ถ้าเกิดว่าจางอวี่หมินใส่ร้ายป้ายสีนางในทุกวิถีทางให้คุณชายฉินฟังจนนางตกหลุมคุณชายฉิน นางก็คงไม่มีที่ใดให้ร้องไห้แล้ว

จางซิ่วเอ๋อหวาดกลัวคุณชายฉินมากมาโดยตลอด

ดังนั้นในตอนนี้ นางจึงยอมจำนนในที่สุด

“ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อคุณชายฉินไม่รังเกียจ แม่นางน้อยผู้นี้ก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งเจ้าค่ะ คุณชายฉิน…เชิญ” จางซิ่วเอ๋อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“คุณชายฉิน อย่าเข้าไปในป่ากับจางซิ่วเอ๋อเลยเจ้าค่ะ ที่นั่นมีบ้านผีสิงเลื่องชื่อในหมู่บ้านนี้อยู่! แล้วจางซิ่วเอ๋อก็เลี้ยงผีไว้ด้วยเจ้าค่ะ!” จางอวี่หมินเอ่ยรัวเร็ว

จางซิ่วเอ๋อหันไปมองจางอวี่หมิน ในตอนนี้นางวางแผนจะเชิญคุณชายฉินไปที่บ้าน แล้วทำการสารภาพความจริงกับหาทางไกล่เกลี่ยกับคุณชายฉิน

จะให้จางอวี่หมินทำเสียเรื่องในตอนนี้ได้อย่างไร?

จางซิ่วเอ๋อจึงเอ่ยเสียงเย็นชา “ท่านอาเล็กหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ? ข้าแค่อยากจะเชิญสหายของข้าไปเป็นแขกที่บ้าน ท่านพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ขึ้นมามันหมายความว่าอย่างไร?”

จางอวี่หมินโพล่งขึ้นมาทันที “สหาย? แม่ม่ายน้อยอย่างเจ้าน่ะเหรอจะผูกมิตรกับผู้ชาย…”

“ท่านไม่เชื่อถือในตัวคุณชายฉินหรือเจ้าคะ?” จางซิ่วเอ๋อพูดขัด

คุณชายฉินเห็นว่าจางซิ่วเอ๋อใช้ตัวเขาเป็นเกราะกำบัง ใบหน้าของเขาก็ไม่ฉายแววขุ่นเคืองอีก กลับมีรอยยิ้มหนึ่งผุดขึ้นมา

เด็กติดตามชุดเขียวที่ยืนอยู่ข้างกายคุณชายฉินได้เห็นรอยยิ้มนี้ก็คาดเดาไม่ถูกกับอารมณ์ของเจ้านายตน เขากำลังคิดอะไรอยู่นะ

เขารู้มานานแล้ว ว่าถ้าคุณชายของเขายิ้มแบบนี้ นั่นหมายความว่าใครสักคนกำลังจะโชคร้าย

แต่หลังจากได้เจอจางซิ่วเอ๋อผู้นี้แล้ว คุณชายของเขาก็ดูเหมือนจะยิ้มบ่อยขึ้น ไม่เพียงจางซิ่วเอ๋อผู้นี้จะไม่โชคร้าย แต่ยังอยู่ยั้งยืนยงมาจนถึงบัดนี้ด้วย ดูจากท่าทางของคุณชายแล้ว เขาก็ไม่มีเจตนาในการทำให้จางซิ่วเอ๋อต้องประสบความโชคร้ายแต่อย่างใด

ไม่อย่างนั้นหากว่าคุณชายค้นพบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาก็คงหาคนอื่นมาจัดการจางซิ่วเอ๋อไปแล้ว

จางอวี่หมินบังเกิดความร้อนตัวขึ้นมาทันทีที่จางซิ่วเอ๋อพูดเช่นนั้น จางซิ่วเอ๋อพูดอะไรน่ะ? กำลังบอกว่าเป็นตนเองที่ทำให้คุณชายฉินรู้สึกขุ่นเคืองงั้นหรือ?

นางไม่เพียงแต่ไม่อาจทำให้คุณชายฉินมีความสุขได้แล้ว ยังลากตัวเองลงน้ำด้วย

จางอวี่หมินโมโหยิ่งกว่าเดิมเมื่อคิดดังนั้น แต่ในตอนนี้กลับไม่กล้าเอ่ยอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่จางซิ่วเอ๋อพูดจาไร้ยางอายกับบุรุษ อย่างน้อยนางก็ไม่กล้าเอ่ยออกมาต่อหน้าคุณชายฉิน

จางอวี่หมินมองคุณชายฉินด้วยสายตาทอแววเป็นห่วงแล้วจึงเอ่ยขึ้น “คุณชายฉิน เป็นเพราะข้าหวังดีหรอกเจ้าค่ะ จางซิ่วเอ๋อมีชื่อเสียงไม่ดีนัก ข้าก็เลยกังวลว่าท่านจะแปดเปื้อนไปด้วย”

จนถึงตอนนี้คุณชายฉินก็ยังไม่เห็นจางอวี่หมินในสายตา ครั้งนี้เขาคลี่ยิ้มมองจางซิ่วเอ๋อแล้วพูดว่า “จางซิ่วเอ๋อ เจ้ายังไม่นำทางไปอีก”

จางซิ่วเอ๋อในตอนนี้ก็ไม่สนใจจางอวี่หมินเช่นกัน

หากนางฉะกับจางอวี่หมินในเวลาปกติก็คงไม่เป็นไร นางไม่เสียอะไรอยู่แล้ว แล้วนางก็จะได้เห็นจางอวี่หมินเต้นเร่า ๆ ด้วยความเดือดดาลด้วย

แต่วันนี้มีคุณชายฉินอยู่ด้วย นางไม่รู้เลยว่าคุณชายฉินมาหาตนด้วยวัตถุประสงค์อะไร แต่ถ้าตั้งใจจะมาหาเรื่องล่ะก็…นางก็ยังมีพลังพอจะต่อกรกับคุณชายฉินอยู่

คิดดังนี้จางซิ่วเอ๋อก็พาคุณชายฉินไปยังบ้านผีสิง

จางอวี่หมินเห็นดังนี้ก็ทำท่าจะตามไปด้วย แต่พอมาถึงบริเวณชายป่า นางก็ระลึกถึงความทรงจำเลวร้ายเมื่อก่อนหน้านี้จนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น และไม่กล้าเดินหน้าต่อไปอีก

นางจึงได้แต่มองร่างจางซิ่วเอ๋อกับคุณชายฉินหายเข้าไปในป่า

จางอวี่หมินกระทืบเท้า สีหน้าไม่พอใจสุดขีด

แต่พอนางหันหลังกลับ ก็พบว่ามีคนจำนวนมากกำลังมองมาที่นาง นางหน้าแดงด้วยความอับอายและรีบจากไปในทันที

คุณชายฉินนั่นเมินนางและตามจางซิ่วเอ๋อเข้าไปในป่า ช่างขายหน้าจริง ๆ!

จางซิ่วเอ๋อเองก็รู้ตัวว่าตนพาคุณชายฉินกลับบ้านท่ามกลางสายตาของทุกคน บางทีใครบางคนอาจคุยอะไรกันลับหลังนางแล้วก็ได้ แต่ในเมื่อคุณชายฉินยืนกรานจะมาเอง แล้วนางจะทำอะไรได้?

จางซิ่วเอ๋อปลอบใจตัวเอง ถึงอย่างไรหลังจากเหตุการณ์ที่นางตะลุมบอนกับแม่หลิน นางก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีชื่อเสียงดี ๆ หลงเหลืออยู่แล้ว

นางไม่กลัวเห็บเหาพวกนี้หรอก แต่ครั้งนี้ตนกลับลากคุณชายฉินลงมาในน้ำด้วย เลยไม่คิดว่าจะมีอะไรต้องเสียอีก ถึงอย่างไรก็ดีกว่ากระจายเรื่องบางอย่างให้บรรดาตาสีตาสาบ้าบอพวกนั้นรู้

จางซิ่วเอ๋อลอบยินดีอยู่ในใจ โชคดีที่ตอนนี้ทั้งชุนเถาและซานหยาต่างอยู่บนภูเขา

ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากคุณชายฉินจะสร้างความหวาดกลัวให้กับน้องสาวทั้งสอง

“คุณชายฉิน นั่งลงก่อนเจ้าค่ะ!” จางซิ่วเอ๋อปัดฝุ่นบนม้านั่งใต้ต้นหวายฉู่และเชื้อเชิญให้คุณชายฉินนั่งลง

คุณชายฉินมองม้านั่งเบี้ยวบูดที่ขาง่อนแง่นใกล้จะพังแหล่มิแหล่หากว่าถ่ายเทน้ำหนักไม่สมดุลแล้วก็นั่งลง โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม

เมื่อจางซิ่วเอ๋อเห็นดังนี้ นางก็รู้สึกได้ว่าคุณชายฉินไม่ง่ายเลยที่จะรับมือด้วย

หากเป็นคุณชายผู้มั่งคั่งร่ำรวยคนอื่น ๆ พวกเขาจะต้องแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อมาเยือนบ้านของนางแล้ว

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

เห็นคนวืดหนึ่งอัตรา นกบินว่อนเต็มหัวเลยอวี่หมินเอ๊ย

ตาคุณชายนี่ทีเล่นทีจริงนะ คิดอะไรกับน้องหรือเปล่าเนี่ย

ไหหม่า(海馬)