บทที่ 166 แม่นางเถาฮวา

ดูคุณชายฉินสิ? นั่งนิ่งประหนึ่งภูเขาไท่ซาน ราวกับลานบ้านนางคือโรงเตี๊ยมอิ๋งเค่อจวี

จางซิ่วเอ๋อยกน้ำออกมา ที่จริงในบ้านยังมีชาอยู่ แต่จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าคุณชายฉินดื่มชาชั้นเลวที่บ้านของตนไม่ได้แน่ จึงยกแค่น้ำออกมาสองถ้วย

ถ้วยหนึ่งเอาไปวางบนโต๊ะถือว่าให้คุณชายฉิน

ส่วนอีกถ้วยจางซิ่วเอ๋อยกไปให้เด็กติดตามชุดเขียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

แต่เห็นได้ชัดว่าเด็กติดตามชุดเขียวเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น จึงพาลมองจางซิ่วเอ๋อรกหูรกตาไปเสียหมด จะไปดื่มน้ำที่จางซิ่วเอ๋อยกมาให้ได้อย่างไร?

จางซิ่วเอ๋อถลึงตาใส่เด็กติดตามชุดเขียวและวางน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามคุณชายฉินอย่างไม่วางท่า

เด็กติดตามชุดเขียวตาโตกับภาพตรงหน้า ผู้หญิงคนนี้นั่งลงรึ? นี่คิดว่าตัวเองมีศักดิ์เท่าคุณชายหรืออย่างไร? คุณชายเป็นใคร! แล้วจางซิ่วเอ๋อเป็นใคร!

จางซิ่วเอ๋อรู้ที่ไหนว่าแค่ตัวเองนั่งก็ทำให้เด็กติดตามชุดเขียวไม่พอใจมากขึ้นไปอีก

ต่อให้รู้ จางซิ่วเอ๋อก็นั่งอยู่ดี

ทำไมไม่นั่งล่ะ?

นางไม่ใช่คนรับใช้คุณชายฉินสักหน่อย และไม่ใช่บ่าวของคุณชายฉินด้วย อีกอย่างนี่เป็นบ้านของนางเองนะ คุณชายฉินเป็นคนหน้าด้านจะมาบ้านนางให้ได้เอง หรือว่าแขกมาแล้วได้นั่งแต่เจ้าของบ้านอย่างตัวเองต้องยืนเหรอ?

อีกอย่าง นิสัยลึก ๆ ของจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนยุคสมัยนี้ ไม่มีทัศนคติแบ่งแยกศักดิ์สูงต่ำแบบนั้น! เวลานี้จะวางตัวเองในตำแหน่งต่ำต้อยที่ไหนกัน?

คุณชายฉินมองจางซิ่วเอ๋ออย่างพิจารณา สายตาราวกับจะมองจางซิ่วเอ๋อให้ทะลุปรุโปร่ง มองจนจางซิ่วเอ๋อขนลุกเสียวสันหลังเย็นวาบไปหมด

“คือ คุณชายฉิน ท่านอย่าเอาแต่มองข้าแล้วไม่พูดจาแบบนี้สิ” สุดท้ายจางซิ่วเอ๋อก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจเป็นฝ่ายรุกก่อน

ถ้านางไม่พูดอะไรสักทีแล้วเอาแต่นั่งประจันหน้ากับคุณชายฉิน นางก็รู้สึกทรมานราวกับโดนมีดนับพันนับหมื่นเล่มเชือดเฉือน

คุณชายฉินหัวเราะเบา ๆ “แม่นางเถาฮวา”

จางซิ่วเอ๋อได้ยินการเรียกขานแบบนี้แล้วรำพึงในใจว่าแย่แล้ว คุณชายฉินมาคิดบัญชีกับตนจริง ๆ ด้วย!

คุณชายฉินรู้แล้วไม่ใช่เหรอว่านางชื่อจางซิ่วเอ๋อ เคยเรียกชื่อจางซิ่วเอ๋อต่อหน้าผู้คนด้วย คงแค่ไม่อยากคิดบัญชีกับตัวเองข้างนอกกระมัง ตอนนี้ถึงได้เรียกชื่อเถาฮวา

เจตนาของเขาชัดเจนทีเดียว

จางซิ่วเอ๋อยกถ้วยขึ้นดื่มน้ำให้ชุ่มคอ เมื่อกี้ตอนทะเลาะกับแม่หลินนางคอแห้งปากแห้งไปหมด

น้ำถ้วยนี้ข่มความคิดฟุ้งซ่านของจางซิ่วเอ๋อไปในระดับหนึ่ง

ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อใจเย็นลงแล้ว ตัวเองใช้ชื่อปลอมแล้วทำไม? ตัวเองจะใช้ชื่อไหนก็เป็นเรื่องของนาง! คุณชายฉินมีเหตุผลอะไรมาหาเรื่องกันด้วยเหตุผลนี้?

จางซิ่วเอ๋อคิดแบบนี้ในใจ แต่ปากไม่กล้าพูดแบบนี้แน่นอน

คุณชายฉินไม่เหมือนกับคนในหมู่บ้านนี้

เหล่าผู้คนในหมู่บ้านตีกันด่ากันก็เท่านั้น สุดท้ายแล้วก็มีความสามารถพอกัน

แต่กับคุณชายฉิน? จางซิ่วเอ๋อไม่อยากมีเรื่องด้วยเลยสักนิด

เพียงคุณชายฉินแค่กระดิกนิ้วสั่งคนรับใช้ไม่กี่คน นางก็ได้เจอดีแน่

ตัวนางเองอาจจะไม่กลัวเท่าไหร่ แต่นางยังมีพวกน้องสาว

ฉะนั้นตอนที่อดทนได้จางซิ่วเอ๋อจึงพยายามอดทนไว้

จางซิ่วเอ๋อมีไฟโทสะสุมอยู่ในใจ แต่ก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ “คุณชายฉิน เรื่องนั้นข้ารู้ดีว่าเป็นความผิดข้าที่หลอกท่านว่าข้าชื่อเถาฮวา……”

“แต่ท่านก็ต้องคิดหน่อยว่าข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ เจอคนแปลกหน้ามาถามแบบนี้ ข้าจะกล้าพูดความจริงเหรอเจ้าคะ?” จางซิ่วเอ๋อพูดมาถึงตรงนี้ก็ทำหน้าน้อยใจ

นางนึกในใจ คุณชายฉิน ท่านเทพฉิน ได้โปรดเห็นแก่ความดีด้วยการอย่าถือสาสาวชาวไร่น่าสงสารอย่างข้าเลย!

เด็กติดตามชุดเขียวได้ยินถึงหลุดขำดังพรืด สตรีอ่อนแอ? อย่างจางซิ่วเอ๋อน่ะเหรอ? ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนสักนิด! ก่อนหน้านี้ยังเคยทะเลาะกับเขาอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไหนจะเมื่อกี้ตอนตีกับผู้หญิงคนนั้น จางซิ่วเอ๋อก็มีท่าทางดุดันใช้ได้!

ตอนนี้ยังกล้าพูดว่าตัวเองเป็นสตรีอ่อนแอ ใครจะเชื่อ!

คุณชายฉินยิ้มอีกครั้ง แต่รอยยิ้มนี้แสดงถึงความสนอกสนใจ

ไม่รู้ทำไม จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าคุณชายมองตัวเองแบบนี้เหมือนดูละครลิง!

คิดได้แบบนั้นจางซิ่วเอ๋อก็มีสีหน้ามืดครึ้ม

จากนั้นนางก็ตั้งใจจะคุยแบบตรงไปตรงมากับคุณชายฉิน!

ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! นางไม่อยากมีเรื่องกับคุณชายฉิน! แต่คุณชายฉินจะเอาอย่างไรกันแน่? ตัวเองขอโทษก็แล้ว ทำตัวน่าสงสารก็แล้ว ยอมอ่อนข้อลงก็แล้ว ทำไมคุณชายฉินไม่บอกมาล่ะว่าจะเอาอย่างไร!

จางซิ่วเอ๋อจึงเปลี่ยนสีหน้า จ้องตาคุณชายฉินพลางถาม “คุณชายฉิน ท่านพูดมาเลยดีกว่าเจ้าค่ะ! ว่าท่านจะเอาอย่างไรกันแน่?”

“ถ้าอยากหาเรื่องข้าก็เชิญเลย ข้าเป็นเพียงสาวชาวไร่ไม่ใช่คู่มือของท่านหรอก ท่านอยากทำอะไรก็ได้ แต่ช่วยบอกข้ามาให้จบ ๆ ได้ไหม? ท่านกั๊กข้าแบบนี้ข้าเองก็พลอยคิดฟุ้งซ่านไปเอง ขอโทษขอโพยท่านอยู่เรื่อย ๆ เพื่ออะไรกัน?” จางซิ่วเอ๋อเองก็เก็บกดมานาน

ว่ากันว่าหากทนจนถึงที่สุดแล้วก็ไม่ต้องทนอีกต่อไป

จางซิ่วเอ๋อเจอคุณชายฉินเข้าไปก็เลิกอดทนแล้ว

เรื่องที่ตัวเองคิดไว้ว่าต้องทนไว้ ต้องไม่ล่วงเกินคุณชายฉิน นางลืมไปหมดแล้ว

เห็นจางซิ่วเอ๋อตรงหน้ากลายร่างจากลูกแมวน้อยกลายเป็นพยัคฆ์จองหอง คุณชายฉินถึงได้ปริปากด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ

“นี่ ข้าแค่เรียกเจ้าว่าแม่นางเถาฮวาเพราะรู้สึกว่าดูสนิทกว่า ทำไมเจ้าต้องมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนั้นล่ะ?” คุณชายฉินพูดพลางหัวเราะ

เห็นรอยยิ้มดั่งจิ้งจอกเฒ่าบนใบหน้าคุณชายฉินแล้ว จางซิ่วเอ๋อจึงรู้ว่าตัวเองติดกับ

เมื่อครู่นี้คุณชายฉินต้องจงใจแน่ ๆ

แกล้งไม่พูดจา แกล้งให้ตัวเองกระวนกระวาย แกล้งให้ตัวเองกลายเป็นตัวตลก

สองมือจางซิ่วเอ๋อกำหมัดแน่นจนได้ยินเสียงกรอบแกรบของข้อกระดูก

คุณชายฉินเลิกคิ้ว เขาหยิบน้ำเย็นถ้วยตรงหน้าขึ้นจิบ

เด็กติดตามชุดเขียวด้านหลังคุณชายฉินเห็นแบบนั้นแล้วตื่นเต้นขึ้นมา คุณชายตัวเองเป็นอะไรไป? ทำไมถึงดื่มน้ำชาวไร่แบบนี้ล่ะ? เมื่อก่อนคุณชายตัวเองไม่เคยแตะของที่ไม่รู้ที่มาแบบนี้เลยนะ

จางซิ่วเอ๋อมองท่าทางของคุณชายฉินแล้วก็รู้ว่าคุณชายฉินหยอกตัวเองเหมือนของเล่นชิ้นหนึ่ง

จางซิ่วเอ๋อทั้งโมโหทั้งรู้สึกหมดแรง

ความรู้สึกหมดแรงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฐานะของคุณชายฉิน ไม่ใช่เพราะนางกลัวคุณชายฉินจนไม่กล้าตอบโต้ แต่เพราะจางซิ่วเอ๋อรู้สึกถึงการบดขยี้ทางปัญญาจากคุณชายฉิน!

ทุกการกระทำของคุณชายฉินดูราวกับควบคุมหัวใจของผู้อื่นได้อยู่หมัด

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

คุณชายนี่แอบชอบน้องหรือเปล่า เห็นหยอกเขาแกล้งเค้าแบบนี้ เห็นน้องเป็นลูกแมวแบบนี้แสดงว่าต้องมีใจให้น้องบ้างแล้วล่ะ

ไหหม่า(海馬)